Your Wishlist

ทางใครทางมัน! เราหย่ากันแล้ว! [สามบุพเพสกุลซือ] (5:เปิดใจกับพวกบ่าว)

Author: หานยวี่

#จบแล้วจ้า ข้าจะไม่คิดแค้น...ข้าจะไม่โกรธเคือง..สิ่งที่ท่านทำ ข้าจะไม่เก็บมาเป็นเพลิงสุมใจ ขอให้ระหว่างเรา 'ท่าน' กับ 'ข้า' เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันนับจากนี้...และตลอดไป...

จำนวนตอน : N/A

5:เปิดใจกับพวกบ่าว

  • 18/04/2564

5

เปิดใจกับพวกบ่าว

 

“กล่องนี้ข้าให้พวกเจ้า ส่วนอีกกล่องรบกวนแจกจ่ายไปให้บ่าวของเรือนอื่นๆ ด้วยนะ” เซียวหลินหลิงพูดพลางหยิบกล่องใส่ขนมไป๋ถางกาว[1] ทั้งสองกล่องที่ชิงปี้ถืออยู่ส่งให้บ่าวในโรงครัวที่ต่างก็มองหน้ากันด้วยความเลิ่กลั่ก

แม้ในใจจะนึกชิงชังและหวาดระแวงสตรีตรงหน้าเพียงใด อย่างไรพวกตนก็เป็นแค่บ่าวจึงไม่กล้าแสดงกิริยาออกมา

“ข... ขอบพระคุณเจ้าค่ะ... ค... คุณหนู” ทุกคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

ก่อนที่ ‘เสี่ยวอี้’ สาวใช้ที่อายุน้อยที่สุด ผู้ซึ่งถูกสายตาของทุกคนมองมาให้เป็นหน่วยกล้าตายจะค่อยๆ ยื่นมือไปรับกล่องขนมด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ซึ่งทุกคนต่างก็คิดในใจว่า

หากสตรีอำมหิตผู้นี้จากไปเมื่อไรล่ะก็… พวกเราจะเอาขนมพวกนี้ไปเททิ้งให้หมด! ถึงวันนี้จะเป็นวันสุดท้าย แต่ไม่รู้ว่าจะหาอะไรมากลั่นแกล้งพวกเราอีกหรือไม่!?

“ตลอดสามปีที่ผ่านมา อะไรที่ข้าเคยทำให้พวกเจ้าไม่พอใจ ข้าก็ต้องขอโทษด้วย ต่อไปนี้ข้าก็จะไม่อยู่ที่นี่ให้ทุกคนรำคาญใจแล้วล่ะ” เซียวหลินหลิงเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด ดวงตากลมโตฉายแววจริงใจออกมาชัดเจน

แม้ข้าจะมิรู้ว่าทำเรื่องอันใดให้พวกเจ้าไม่พอใจก็เถอะ ข้าไม่อยากรู้สึกติดค้าง

จะว่าไปนางก็รู้สึกสงสารบ่าวพวกนี้จริงๆ ที่ต้องพยายามเก็บอาการทั้งที่เกลียดนางซะขนาดนั้น...

คำพูดของนางทำให้ทุกคนในโรงครัวอึ้งไปเล็กน้อย บ้างก็คิดว่านางจะมาเสแสร้งอะไรหรือไม่ บ้างก็นึกในใจ

คุณหนูผู้นี้เอ่ยราวกับว่าสิ่งที่ทำกับพวกเรานั้น เพียงแค่พูดก็จะสามารถอภัยให้ได้ง่ายๆ หรือเพราะเห็นพวกเราเป็นแค่บ่าวที่ต่ำต้อยจะกระทำเช่นไรใส่ก็ได้กระนั้นหรือ!?

พลันเหล่าบ่าวรับใช้ในโรงครัวก็นึกย้อนไปถึงวันแรกที่ได้รับขนมจากเซียวหลินหลิง...

วันแรกที่สตรีตรงหน้าทำขนมมาให้นั้น...

พวกเขายังจำได้ดี ทุกคนต่างก็ดีใจและนึกชื่นชมนางเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีเจ้านายคนไหนเคยทำแบบนี้มาก่อน หลายคนถึงขั้นดีใจจนน้ำตาไหล

แม้ขนมเข่งในวันนั้นจะหาความอร่อยมิได้เลยแม้แต่น้อย แต่เพราะความซาบซึ้งใจก็ทำให้พวกเขาพากันกินเข้าไปจนหมด เพราะไม่อยากให้คนทำเสียน้ำใจ และต่างพากันสงสัยว่าทั้งที่คุณหนูเซียวหลินหลิงเป็นคนดีขนาดนี้ น่าจะเข้าขากันได้ดีกับคุณชายสามของพวกตน ไยทำไมกลับทำให้คุณชายซือ หยวนซาเกลียดได้...

ทว่าหลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ได้คำตอบ...

เพราะใครก็ตามที่กินขนมของเซียวหลินหลิงเข้าไป ล้วนพากันท้องเสียจนไม่เป็นอันทำงาน 

คราแรกพวกเขาก็พยายามคิดในแง่ดีว่าไม่ใช่ แต่เหตุการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นซ้ำอีกหลายต่อหลายครั้ง

จะว่าขนมบูดก็ไม่ใช่ เพราะกลิ่นทุกอย่างก็ยังดูปกติ...

และสุดท้ายพวกเขาก็ได้รู้ว่า...

คุณหนูหน้าเนื้อใจเสือผู้นี้ ฉากหน้าทำเป็นใจดีมีเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่ฉากหลังได้ใส่ยาถ่ายลงในขนมแล้วเอามาให้ เพราะอยากเห็นความทุกข์ทรมานของพวกเขา...

ถึงจะเคยโดนเหยียบย่ำอย่างไร ก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่ากับ...

การที่เบื้องหน้าคุณหนูเสแสร้งทำดีด้วย แต่เบื้องหลังกลับวางแผนร้ายต่อพวกเรา... สมควรแล้วล่ะที่คุณชายสามจะไม่รักท่าน

ไช่อี๋คิดพลางภาวนาให้เซียวหลินหลิงรีบกลับไปโดยเร็ว นางจะได้จัดการเอาขนมไปทิ้งเสียที แต่ดูเหมือนว่าเซียวหลินหลิงจะอ่านใจนางออกหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ จึงเอ่ยขึ้นมา

“เจ้าช่วยชิมแล้วบอกข้าได้หรือไม่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”

พลันก็เห็นทุกคนทำท่าทางอึกอัก ร่างบางจึงเปิดกล่องแล้วหยิบขึ้นมากินให้ดูชิ้นหนึ่ง

“ข้าขอรับประกันว่าข้าไม่ได้วางแผนทำอะไรพวกเจ้าทั้งสิ้น เพียงแต่อยากรู้ว่าฝีมือของตัวเองเป็นอย่างไร ในฐานะที่เป็นคนทำ จึงอยากได้รับคำวิจารณ์จากคนที่กิน”

ในเมื่อเซียวหลินหลิงพูดขนาดนี้ เหล่าคนรับใช้ก็มิมีทางเลือกแล้วล่ะ นอกจากเดินเข้ามาหยิบขนมเข้าปากอย่างกล้าๆ กลัวๆ

แต่แล้วพวกเขาก็ต้องประหลาดใจ...

รสชาตินี้มัน...

ใช่รสมือเดียวกับเมื่อสามปีก่อนจริงหรือ!?

ไป๋ถางกาวที่พวกเขาเคยได้รับจากอีกฝ่ายเมื่อสามปีก่อนซึ่งใส่ยาถ่ายไว้ นอกจากจะใส่น้ำตาลเยอะเกินไปจนหวานเลี่ยนแล้ว สัมผัสของแป้งก็แห้งและหยาบจนรู้สึกสากลิ้น ทั้งยังนึ่งไม่สุกอีกต่างหาก... ราวกับทำส่งๆ

ทว่า... ไป๋ถางกาวในวันนี้นั้น แม้ตัวขนมจะพรุนตามแบบของไป๋ถางกาว แต่กลับไม่สากจนบาดลิ้น มีรสหวานละมุน ทั้งให้สัมผัสหนึบหนับยามที่เคี้ยว ทำให้รู้สึกถึงความประณีตและความตั้งใจของคนทำ...

ตัวไช่อี๋เองก็ยังรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนกำลังล่องลอยอยู่กลางอากาศ หลังจากได้ลิ้มลองไป๋ถางกาวฝีมือของเซียวหลินหลิง

นี่สิ... ถึงจะเรียกว่าขนมหวานที่แท้จริง!

แต่จะว่าไป... ก็มิน่าเชื่อว่าจะมีวันที่สตรีตรงหน้ามาทำดีกับพวกตนด้วยความบริสุทธิ์ใจ  

“เป็นอย่างไรบ้าง?” ร่างบางถาม ซึ่งทุกคนก็ตอบออกมาพร้อมกันว่า

“อร่อยมากเจ้าค่ะ”

“จริงๆ นะ? พวกเจ้าอย่าได้เกรงใจ หากไม่อร่อยก็บอกมาตามตรงเถิด ข้าจะได้ปรับปรุง”

“ไม่มีจุดที่ต้องปรับปรุงจริงๆ เจ้าค่ะคุณหนู ตั้งแต่เกิดมา นอกจากขนมในงานเลี้ยงที่นายท่านและนายหญิงเมตตาปันให้แล้ว ข้าก็ยังไม่เคยกินอะไรที่อร่อยเท่านี้มาก่อน” เสี่ยวอี้เอ่ยแล้วส่งยิ้มจริงใจให้เซียวหลินหลิง

“จริงเจ้าค่ะ อย่างที่เสี่ยวอี้เอ่ย” เซียงกุ้ยกล่าวบ้าง

“ขอบพระคุณคุณหนูเซียวมากๆ นะเจ้าคะ” ทุกคนเอ่ยด้วยความนอบน้อม ร่างบางยิ้มรับพลางกล่าวว่า

“ข้าดีใจที่ทุกคนชอบนะ” จากนั้นก็หันไปบอกชิงปี้ว่า

“เจ้ากลับไปรอข้าที่เรือนก่อนเถิด ข้ามีเรื่องอยากจะพูดกับทุกคนสักเล็กน้อย”

“เจ้าค่ะ” ชิงปี้รับคำแล้วเดินจากไป ส่วนเซียวหลินหลิงก็หันมาเอ่ยกับไช่อี๋และคนอื่นๆ

“ข้าใคร่อยากถามพวกเจ้าว่า... ที่พวกเจ้าไม่ชอบข้าเป็นเพราะเหตุใดหรือ? บอกข้าตามความจริงได้หรือไม่!? ข้ารับปากว่าจะไม่โกรธหรือเอาโทษใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถึงอย่างไรข้าก็จะไปจากที่นี่อยู่แล้ว”

ทุกคนในโรงครัวนิ่งไปสักพัก ก่อนที่ไช่อี๋จะเป็นคนแรกที่กล้าเปิดปากพูด...

 -----------------------------------------------------------------------

“ในที่สุดทุกอย่างก็เสร็จเสียที” เซียวหลินหลิงพูดพลางวางจานใส่เต้าหู้ผัดเผ็ดลงบนโต๊ะไม้เหลี่ยมที่ตั้งอยู่กลางห้องโถงของเรือน ซึ่งมีของคาวที่มีฝาปิดครอบไว้วางอยู่ก่อนแล้ว 4 อย่าง

ส่วนของหวานก็เตรียมเสร็จแล้วเช่นกัน แต่เดี๋ยวค่อยยกออกมาหลังทานของคาวละกัน

“น่ากินมากเลยเจ้าค่ะคุณหนู” ชิงปี้ที่ยืนอยู่ห่างออกไปหน่อยเอ่ย เพียงแค่ได้กลิ่นก็ทำให้นางน้ำลายสอแล้ว

“แน่นอน” เซียวหลินหลิงเอ่ยพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ นางแทบรอให้อีกฝ่ายมาเห็นไม่ไหวแล้ว อยากอวดฝีมือของตนเหลือเกิน จากนั้นก็หันไปพูดกับชิงปี้ว่า

“ส่วนของเจ้าอยู่ตรงนั้น” พูดพลางปรายตามองไปยังโต๊ะตัวเล็กๆ ที่เตี้ยกว่าโต๊ะเหลี่ยมถึงครึ่งหนึ่ง มีของคาววางอยู่ 3 อย่างและเบาะรองนั่งสองเบาะ ซึ่งนางได้จัดไว้ให้ชิงปี้และบ่าวของคุณชายสาม ซือหยวนซาจะได้ไม่คิดว่านางจะหาข้ออ้างอยู่กับเขาสองต่อสอง

“ต... แต่ว่าข้าไม่อยากรบกวนคุณหนูกับคุณชาย...”

“รบกงรบกวนอันใดกัน ตัวข้าก็หาอยากอยู่กับเขาตามลำพังไม่ เจ้าก็นั่งกับบ่าวคุณชายสามไปละกัน”

“เจ้าค่ะ... ขอบพระคุณคุณหนูมาก” ชิงปี้เอ่ยพร้อมกับโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจพร้อมกับน้ำตาที่รื้นออกมา แม้จะแปลกใจว่าคุณหนูแอบจัดเตรียมไว้ให้นางตั้งแต่ตอนไหนก็ตาม

ชีวิตของนางผ่านเจ้านายมาก็หลายคน แต่มิเคยมีเจ้านายคนไหนที่ดูแลเอาใจใส่นางเท่าคุณหนูเลย

ไม่สิ...

อย่าว่าแต่ดูแลเลย พวกเขาเห็นนางเป็นมนุษย์หรือเปล่าก็ไม่รู้ ทั้งใช้งานหนัก ไม่พอใจอะไรก็มาทุบตีนางเพื่อระบายอารมณ์ ทว่าตั้งแต่วันแรกที่นางได้พบกับเซียวหลินหลิงเมื่อสิบปีก่อน เรื่องพวกนี้ก็หาได้เคยเกิดขึ้นอีกไม่

“ข้าไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเจ้าเจออะไรบ้าง แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวนะ มันจะไม่มีอีกแล้วล่ะ” เซียวหลินหลิงในวัยแปดหนาวเอ่ยกับชิงปี้ที่ตัวสั่นงันงกด้วยรอยยิ้ม และคุณหนูก็ทำอย่างที่พูดจริงๆ นอกจากจะไม่เคยดุด่านางแล้ว ยังมีน้ำใจเย็บเสื้อผ้าให้กับทำอาหารเผื่อตลอด...

ทำให้นางรู้สึกว่าได้ขึ้นสวรรค์หลังจากทนทรมานในนรกมานานนับแรมปี

นางช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้เจอเจ้านายที่ประเสริฐเช่นนี้!

ดังนั้นไม่ว่าทางจวนสกุลซือจะรังเกียจคุณหนูอย่างไร หรือหลายคนจะบอกให้นางตีตัวห่างจากคุณหนู ชิงปี้ก็ขอยืนหยัดอยู่ข้างคุณหนูจนวินาทีสุดท้าย...

ก่อนที่คุณหนูจะกลับจวนสกุลเซียว...

 

 

[1] ขนมไป๋ถางกาว = ขนมสีขาวบริสุทธิ์ที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมน้ำตาลนึ่งในถาด แล้วตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ เนื้อขนมมีลักษณะพรุน ไม่เรียบ ผิวสัมผัสไม่แห้งหรือไม่แฉะจนเกินไป เวลาเคี้ยวจะรู้สึกถึงความหนึบเล็กน้อย

 

 

Writer:เห็นมั้ยหยวนซา พวกบ่าวเขายังรู้จักเปิดใจเลย แล้วทำไมแกไม่เปิดใจให้น้องบ้าง!

ร่วมพูดคุยกันได้ที่ Han Yu หานยวี่ น้า

ปล.ระหว่างนี้ขอฝากนิยายแนวกำลังภายในไว้ให้ไปอ่านเล่นกันพลางๆ เน้อ ยุทธภพไร้ใจ แต่ตัวข้าไม่ไร้รัก (ตอนนี้พักเขียนเพื่อวางโครงใหม่และเพิ่มเติมเนื้อหาอยู่ แต่แนะนำให้ติดตามนะงับ แล้วทุกคนจะร้องอ๋อเลย ถถถ)

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป