Your Wishlist

ทางใครทางมัน! เราหย่ากันแล้ว! [สามบุพเพสกุลซือ] (1:หนังสือหย่านี่ข้าลงนามให้ท่าน! [41-100%])

Author: หานยวี่

#จบแล้วจ้า ข้าจะไม่คิดแค้น...ข้าจะไม่โกรธเคือง..สิ่งที่ท่านทำ ข้าจะไม่เก็บมาเป็นเพลิงสุมใจ ขอให้ระหว่างเรา 'ท่าน' กับ 'ข้า' เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันนับจากนี้...และตลอดไป...

จำนวนตอน : N/A

1:หนังสือหย่านี่ข้าลงนามให้ท่าน! [41-100%]

  • 13/04/2564

พลันภายในหัวของเขาก็มีคำถามผุดขึ้นมามากมาย ด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขาทั้งขอร้อง ข่มขู่ ยื่นคำขาดให้นางยอมลงนามมอบอิสรภาพคืนให้เขาเท่าใด ร่างบางก็ไม่เคยแยแส นี่นางกลับเป็นคนลงนามนำมามอบให้เขาด้วยตนเอง

ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎยิ่ง! แต่ในเมื่อเอามาให้ก็ดีแล้ว

เขาก็แค่แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางกัน! ?

ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้พูดอะไร ‘เซียวหลินหลิง’ ก็ชิงพูดขึ้นก่อน

“ขอเวลาเพียงสองราตรีเพื่อเก็บของกับสะสางธุระส่วนตัว แล้วข้าจะกลับจวนสกุลเซียวทันที” หลังกล่าวจบแววตาทระนงของนางก็เปลี่ยนมาเป็นขอความเห็นใจ จากนั้นจึงเอ่ยต่อ

“เพียงแต่... มีเรื่องสุดท้ายที่อยากขอ ก่อนที่คุณชายสามจะไม่ใช่ท่านพี่ของข้าอีกต่อไปเจ้าค่ะ”

“ว่ามา...” ซือหยวนซาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นกว่าตอนแรกหลายส่วน แต่ก็ยังให้ความรู้สึกห่างเหินราวกับเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่สนิทชิดเชื้อ

“วันนี้... ช่วยมาร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำกับข้าได้หรือไม่เจ้าคะ?”

“แค่นี้รึ?” คำขอของนางทำให้เขารู้สึกฉงนใจยิ่ง ร่างบางพยักหน้าเบาๆ ก่อนตอบว่า

“เจ้าค่ะ ก่อนที่เราจะแยกย้ายกัน ข้าเพียงอยากให้คุณชายสามได้ลิ้มรสฝีมือการทำอาหารของข้าสักครั้ง...”

ท่านจะได้รู้ว่าหากไม่มีข้าแล้ว… ท่านก็จะไม่สามารถหาของอร่อยเช่นนี้มาทานได้จากที่ไหนอีกแล้ว เซียวหลินหลิงพูดต่อในใจ ด้วยความมั่นใจในฝีมือของตน

ร่างสูงนิ่งไปสักพักพลางครุ่นคิด นั่นสิ จะว่าไปเขาก็ยังไม่เคยแตะต้องอาหารของนางเลย ไหนๆ นางก็มอบหนังสือหย่าให้เขาแล้ว ถือว่าเมตตานางหน่อยละกัน

“ได้”

“เช่นนั้นยามซวี [1] เจอกันเจ้าค่ะ” กล่าวเพียงเท่านั้นร่างบางก็สะบัดชายกระโปรงหมุนตัวกลับไปเอ่ยกับสาวใช้คนสนิทว่า

“ชิงปี้ พวกเรากลับเรือนกันเถิด”

“เจ้าค่ะคุณหนู” ชิงปี้รับคำ

แล้วเซียวหลินหลิงก็เดินออกไปด้วยท่วงท่าสง่างามดุจนางพญา โดยไม่เหลียวหลังมามองซือหยวนซาเลยแม้แต่น้อย...

กฎที่มีมาแต่โบราณกล่าวว่าภรรยาไม่มีสิทธิ์หย่าสามี…

ถ้าจะให้ถูกต้องตามระเบียบธรรมเนียมนางต้องแจ้งซือหยวนซาว่าต้องการหย่า แล้วให้อีกฝ่ายเป็นคนจัดการ ไม่ใช่หาหนังสือมาลงนามเองเช่นนี้...

แล้วอย่างไร? ในเมื่อนางต้องการตบหน้าเขาด้วยหนังสือฉบับนี้! ผู้ใดก็ห้ามนางไม่ได้!!

“ขอบใจมาก” ร่างบางเอ่ยกับบ่าวชายสองคนที่เป็นผู้เฝ้าประตูเรือน ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ถูกคุณชายสามเรียกเข้าไปหา ก่อนที่เซียวหลินหลิงจะมุ่งหน้ากลับไปยังเรือนไป๋หลานฮวาของตนซึ่งอยู่ห่างจากเรือนของซือหยวนซาพอสมควร

อย่าว่าแต่เรือนของซือหยวนซาเลย ถ้าจะพูดให้ถูกคืออยู่ท้ายจวนห่างจากเรือนของคนสกุลซือทุกคนเลยต่างหาก! คล้ายไม่ถูกนับว่าเป็นสมาชิกในครอบครัว...

...เซียวหลินหลิงเดินเชิดหน้าไปด้วยท่าทางสบายๆ

ในขณะที่ชิงปี้นั้นก้มหน้าด้วยความรู้สึกอายยิ่ง

คุณหนูของข้าจะรู้ไหมหนอ...

ว่าระหว่างทางกลับเรือน สายตาแต่ละคนที่มองมายังท่านกับข้าเป็นอย่างไร

และตอนนี้นางก็เป็นห่วงความรู้สึกคุณหนูเหลือเกิน ทว่าไม่กล้าปริปากออกไป...

--------------------------------------------------------------------------------------------

“ข้าไม่เป็นไรชิงปี้” เมื่อถึงเรือนของตน เซียวหลินหลิงก็โพล่งออกมาราวกับรู้ว่าบ่าวคนสนิทที่เปรียบดังสหายของตนกำลังคิดสิ่งใด

“โธ่... คุณหนู...” ชิงปี้เอ่ยเสียงเครือด้วยความรู้สึกเจ็บปวดแทนผู้เป็นนาย ไยนางจะไม่รู้ว่าคุณหนูของตนรักคุณชายสามมากแค่ไหน ตอนที่เห็นคุณหนูลงนามในหนังสือหย่า นางก็แทบมิอยากจะเชื่อสายตาตัวเอง...

คุณหนูต้องใจแข็งขนาดไหนกัน จึงจะบังคับมือของตนให้จับพู่กันจุ่มน้ำหมึกตวัดลงบนกระดาษแผ่นเล็กๆ แต่กลับมีอำนาจในการตัดความสัมพันธ์ของคุณหนูกับคุณชายผู้นั้นได้

“ข้าตัดสินใจดีแล้ว… จึงได้ลงมือทำ” ร่างบางกล่าวสำทับ จากนั้นก็หยิบกระดาษที่มีรายการวัตถุดิบต่างๆ เขียนไว้พร้อมถุงเงินยื่นให้ชิงปี้

“เดี๋ยวเจ้าช่วยไปซื้อของพวกนี้ที่ตลาดให้ข้าหน่อยนะ”

ใจจริงเซียวหลินหลิงก็อยากไปซื้อของด้วยตัวเองหรอก แต่ถ้านางไปเองคงไม่ได้อะไรติดมือกลับมา เพราะไม่มีใครอยากรับเงินจากนางมารร้ายกาจเช่นนาง...

“เจ้าค่ะ” ชิงปี้รับคำ ก่อนรับของในมือคุณหนูแล้วเปิดประตูเดินออกไป

เมื่อสาวใช้คนสนิทออกไปแล้ว เซียวหลินหลิงก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง ก่อนจะยิ้มเยาะให้ตนเอง

หึ… นางมารร้ายกาจงั้นหรือ!?

น่าขันยิ่งนัก!

เห็นแล้วใช่หรือไม่หลิงเอ๋อร์! ?

ผลลัพธ์ที่เจ้าได้... จากการเทใจให้คนผู้นั้นมาตลอดสิบกว่าปี

นอกจากถูกเขาและคนอื่นในจวนเกลียดแล้ว…

อ้อ! เว้นพี่ซือหยางซีกับพี่ซือหยินซูสักสองคนละกัน แต่สองคนนั้นวันๆ ชีวิตก็ผูกติดอยู่กับหน้าที่การงานข้างนอก แทบไม่ได้กลับบ้านกลับช่องเลย เช่นนี้ควรนับว่าเป็นคนในจวนหรือไม่!?

แม้แต่ผู้คนข้างนอกก็ยังพลอยรังเกียจเจ้าไปด้วย เพราะกิตติศัพท์ความร้ายกาจของเจ้าที่ลือเลื่องไปทั่วเป่ยพู

เอาเถอะ… เซียวหลินหลิงคนนี้ถือคติเลือกทำสิ่งใดไปแล้วย่อมไม่เสียใจภายหลัง

ตั้งแต่เล็กจนโตนางก็ไม่เคยเอาเวลามานั่งรำพึงรำพันถึงเรื่องราวในอดีตหรอก

เวิ่นเว้อไปก็ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ หาเรื่องทุกข์ใจใส่ตัวเปล่าๆ

กับเรื่องนี้ก็เช่นกัน นางไม่คิดหรอกว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ นางจะทำอย่างนั้น นางจะทำอย่างนี้ แม้จะมิอาจห้ามหัวใจของตนไม่ให้เจ็บปวดได้ก็ตาม

หึ! ถ้าควักหัวใจของตัวเองมาเปลี่ยนเป็นดวงใหม่ได้นางคงทำไปแล้ว จะได้สิ้นเยื่อใยต่อคนผู้นั้นทันที ไม่ต้องรอให้เวลามาเยียวยา

นี่คิดกันจริงๆ หรือว่านางลงนามยื่นหนังสือหย่าให้เขาได้โดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ถ้าเทียบกับความเจ็บที่นางต้องทนยื้อความสัมพันธ์ลมๆ แล้งๆ ไปวันๆ

และใจของนางต้องมาคอยรักเขาไปเรื่อยๆ แล้ว…

สู้ยอมตัดใจเจ็บตอนนี้มิดีกว่าหรือ...

กลับจวนสกุลเซียวไปรักษาแผลใจ เมื่อฟื้นตัวแล้วหาคนใหม่ๆ ให้ชีวิตดีกว่า!

 

 


[1] ยามซวี = เวลา 19.00 – 20.59 น. โดยประมาณ

 

 

 

 

 

Writer:คำก็เรียกนางว่านางมาร สองคำก็เรียกนางมาร โธ่..ซือหยวนซา ใช้ตาหรืออะไรคิด หลินหลิงทำดีแล้วลูก เชิดใส่เลยเชิดด

มาต่อจนครบ 100% แล้วน้า ตามที่ให้โหวตกัน ส่วนมากเลือกแบบ 2 งั้นเดี๋ยวอีก 3 อาทิตย์พบกันใหม่จ้า ><

ขอบคุณพี่เมษา พี่สาวใจดีที่คอยดูการบรรยายตัวละครตลอด เพราะทักษะการบรรยายของไรท์ไม่ค่อยจะได้เรื่อง

ตามมาพูดคุยกันได้ที่เพจ Han Yu หานยวี่ นะคะ ทักมาคุยเล่น เม้าท์มอยเนื้อเรื่องที่อัพลงไปแล้วได้หมดยกเว้นขอสปอยล์!

ปล.ขอฝากนิยายไว้เผื่ออ่านฆ่าเวลาน้าคะ >< เป็นแนวกำลังภายในที่มีความสลับซับซ้อนกว่า ถ้าใครสนใจไปส่องได้นะคะ แหะๆ ยุทธภพไร้ใจ แต่ตัวข้าไม่ไร้รัก

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป