Your Wishlist

ปล้นรักนางฟ้าร้าย (ลักพาตัว)

Author: ฐาสุมิณญ์

จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ

จำนวนตอน : 31

ลักพาตัว

  • 12/04/2564

รถหรูของอัสมานจอดสนิทอยู่ที่ลานกว้างหน้าบริษัทฮัสเบรนพริซ  ซึ่งอาทิตย์หน้าเขาก็ต้องเข้ามาบริหารงานร่วมกับพริซเซียร่านั่นเอง

 

“คุณทำงานที่นี่เหรอครับ”  อัสมานแสร้งถามออกไปอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่

 

“บริษัทคุณพ่อฉันย่ะ...อย่างฉันคงไม่เป็นแค่พนักงานกระจอก ๆ อย่างนายหรอกนายอิสลุน”  พริซเซียร่ากล่าวอย่างกระแทกแดกดัน

 

“ครับผมรู้ว่าผมมันต้อยต่ำ....จนมีคนบางคนดูถูกดูแคลนแทบตลอดเวลา”  อัสมานยักไหล่น้อยๆ บ่นพึมพำออกมา

 

“นี่แล้วนายก็อย่าลืมมารับฉันด้วยล่ะตอนเอ่อ.....บ่ายโมง....ฉันจะไปช้อปปิ้ง”  พริซเซียร่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อให้อัสมานดูเวลาในมือถือสุดหรูของเธอ

 

“คุณก็โทรมาหาผมสิครับ”  อัสมานอุบอิบพูดออกไป

 

“ฉันมีเบอร์นายที่ไหนกันล่ะ” พริซเซียร่ากระแทกเสียงใส่อย่างหัวเสีย “งั้นก็...” พริซเซียร่าพูดยังไม่ทันจบประโยค อัสมานก็ดึงโทรศัพท์มือถือจากมือของพริซเซียร่ามากดเบอร์โทรของเขาแล้วกดโทรออก

 

ติ๊ด ๆๆ ติ๊ด ๆๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของอัสมานดังขึ้นแล้วเขาจึงกดวาง พลางยื่นโทรศัพท์กลับไปให้กับพริซเซียร่าที่ยังงงอยู่นั่นเอง

 

“เบอร์โทรออกล่าสุดน่ะเบอร์ผม....ลงจากรถได้แล้วล่ะครับ..ผมจะไปแล้ว...อ้อช่วยปิดประตูให้ด้วยครับ”  อัสมานหันมาสั่งหญิงสาว  พริซเซียร่าค้อนควับให้วงใหญ่ก่อนจะปิดประตูตามคำพูดของอัสมานอย่างเสียไม่ได้  ก่อนจะหันหลังก้าวฉับ ๆ โดยไม่หันมามองทางอัสมานแต่อย่างใด  อัสมานเฝ้ามองหญิงสาวเดินหายเข้าไปในอาคารใหญ่ก่อนจะเลี้ยวรถกลับแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว

 

พริซเซียร่าเดินเข้ามาในบริษัทอย่างมาดมั่น ทุกสาวตาจับจ้องมาที่หญิงสาวนั่นทำให้พริซเซียร่าไม่ค่อยจะพอใจนักกับสายตาแปลก ๆ           ที่พนักงานในบริษัทจ้องมอง แต่กระนั้นพริซเซียร่าก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไรนัก ก้าวเข้าห้องทำงานสำหรับผู้บริหารระดับสูง

 

“สวัสดีค่ะ...คุณ....บริส จอนท์โต่เน่  ”  พริซเซียร่ายื่นส่งมือเข้าไปเพื่อทักทายบริส จอนท์โต่เน่ เพื่อนคุณพ่อเธอที่ได้ร่วมหุ้นกว่าครึ่งหนึ่งแต่บัดนี้ได้ขายหุ้นให้กับนักธุรกิจดูไบคนหนึ่งซึ่งเธอเองก็ทราบว่าคืออัสมานนั่นเอง แล้วซึ่งต่อจากนี้ไปพริซเซียร่าจะต้องศึกษางานให้รวดเร็วที่สุดเนื่องจาก  บริส จอนท์โต่เน่  จะบินกลับอเมริกาภายในอาทิตย์นี้ พริซเซียร่าต้องศึกษาเกี่ยวกับระบบงานทุกอย่างโดย บริส จอนท์โต่เน่  ได้เอาเอกสารเกี่ยวกับงานทุกอย่างให้พริซเซียร่าศึกษาคราว ๆ แล้วซึ่งเธอก็เข้าใจการทำงานดี

 

พริซเซียร่าเหลือบมองดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเที่ยงครึ่งแล้วซึ่งเธอเองก็เริ่มหิวแล้วด้วย เมื่อนึกขึ้นได้ก็ล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าหรูขึ้นมากดดูเบอร์โทรออกล่าสุดซึ่งมันเป็นเบอร์ของนายอิสลุนตัวร้ายนั่นเองหล่อนกดปุ่มโทรออกอีกครั้ง เสียงสัญญานดังขึ้นสองสามครั้งปลายสายก็กดรับทันที

 

“สวัสดีครับ....คุณพริซ”  อัสมานกรอกเสียงทุ้มนุ่มออกไป

 

“นี่....ใครให้นายเรียกชื่อเล่นฉัน” พริซเซียร่าตวาดเสียงขึ้นอย่างไม่พอใจกับการถือดีมาเรียกชื่อเล่นเธอ

 

“ก็ผมนี่ไงให้เรียกได้”  อัสมานยังคงพูดจายียวนพริซเซียร่าต่อไป

 

“แต่ฉันไม่..”  ยังไม่ทันที่พริซเซียร่าจะกล่าวจบ อัสมานก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

 

“อ่า..ๆๆๆ....ผมไม่เถียงแล้วคุณจะให้ผมไปรับใช่หรือเปล่า?”          อัสมานถามออกมา

 

“ใช่....แล้วก็รีบมาด้วยฉันหิวแล้ว”   พริซเซียร่ากดวางสายโดยไม่ได้กล่าวคำลาแม้แต่น้อย

 

“อ้าว...วางไปซะแล้ว...สั่ง ๆๆๆจริง ๆเล้ย”   อัสมานส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยใจ เขาคิดผิดหรือคิดถูกที่มาจีบพริซเซียร่าด้วยวิธีนี้กันนะ    แต่คนอย่างอัสมานอยากได้อะไรแล้วต้องได้ไม่มีคำว่าไม่ได้เด็ดขาด

 

รถหรูของอัสมานแล่นมาจอดสนิทอยู่หน้าบริษัท ฮัสเบรนพริซ      แต่ยังไม่มีวีแววของคนที่บอกว่าหิวเลยสักนิด อัสมานรออยู่เกือบ ๆ        ครึ่งชั่วโมงแต่ก็ยังไม่เห็นพริซเซียร่าออกมาจากบริษัทเสียทีจึงอดรนทนไม่ไหวต้องกดโทรหาเธอในที่สุด

 

ติ้ด ๆๆ ติ๊ด ๆๆ เสียงโทรศัพท์มมือถือของพริซเซียร่าดังขึ้นระหว่างที่เธอกำลังจะก้าวออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว เมื่อลอบมองดูเบอร์ที่ขึ้นโชว์ก็ทราบว่าเป็นใคร

 

“กล้าดียังไงมาโทรจิกฉัน”  พริซเซียร่าเป่าลมหายใจออกจากปากอย่างเหลืออดเหลือทนกับพฤติกรรมของอิสลุนคนขับรถของโรงแรมแฮนด์เบอร์ ในความเข้าใจของเธอ

 

เมื่อเดินจนมาถึงที่รถหรูที่อัสมานจอดรออยู่พริซเซียร่าก็กระชากประตูด้านหลังคนขับขึ้นไปนั่งทันที

 

“นี่....นายกล้าดียังไงมาโทรจิกฉันห่ะอิสลุน”  พริซเซียร่าตะคอก   อัสมานออกไปอย่างไม่สบอารมณ์

 

“ก็คุณมาช้านี่ครับผมเป็นห่วงคิดว่าเป็นอะไร”  อัสมานตอบตามความจริงเขารู้สึกเป็นห่วง

 

“ฉันไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอกน่า”  พริซเซียร่าเสมองไปทางอื่นหล่อนรู้สึกว่าอิสลุนพูดจากแปลก ๆ

 

“แล้วคุณก็ช่วยมานั่งข้างผมด้วยครับ”  อัสมานบอกพร้อมลอบมองพริซเซียร่าผ่านกระจกหลัง

 

“นี่....มันจะมากไปแล้วนะ.....ทำไมฉันต้องไปนั่ง...ฉันไม่ใช่....”     พริซเซียร่าหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้นเพราะกำลังจะบอกอัสมานว่า  

 

‘ฉันไม่ใช้แฟนนานสักหน่อย’

 

“แต่ว่าผมก็ไม่ใช้ขี้ข้าของคุณนะ”  อัสมานสบถออกมาพลางหันหน้ามามองหญิงสาวอีกครั้งก่อนจะหันหน้ากลับไป

 

“แต่คุณอัสมานให้อำนาจฉันเต็มที่เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันเป็นนาย”  พริซเซียร่ายิ้มเจ้าเล่ห์อย่างผู้มีชัย

 

“งั้นผมไม่ไป.....คุณลงไปได้แล้ว”  อัสมานกล่าวไล่พริซเซียร่า

 

“กรี๊ด ๆๆๆๆ แก....แกกล้าไล่ฉันเหรอไอบ้า....ไอขี้ข้า” พริซเซียร่าเต้นเร่า ๆ อย่าขัดใจชี้หน้าอัสมานอย่างคาดโทษ

 

“ผมไม่ใช้ขี้ข้าใคร....ลงไป”  อัสมานกล่าวเสียงเฉียบ

 

“ฉันไม่ลง....แกจะทำไมฉันห่ะ”  พริซเซียร่าเชิดหน้าตอบอย่างถือดี

 

“ผมไม่ทำไมหรอกก็แค่ไม่ออกรถ”  อัสมานยกมุมปากหยักสวยได้รูปขึ้นอย่างมีชัย

 

“นี่....ฉันหิวจะตายอยู่แล้วนะ...ออกรถสิ...โธ่โว้ย”  พริซเซียร่าเห็นท่าว่าอิสลุนไม่ยอมเธอเป็นแน่เธอเองก็ไม่อยากจะยอมหมอนี่เท่าไรหรอกแต่ว่าเธอหิวจนใส่จะขาดหวิ่งอยู่แล้ว จำต้องลงจากรถแล้วย้ายตัวเองให้ขึ้นไปนั่งข้างหน้ากับอิสลุนจนได้

 

“พอใจหรือยังล่ะ”  พริซเซียร่ากอดอกเสหน้าไปอีกทาง ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก

 

“ไปไหนดีครับ”  อัสมานถามออกมาอย่างอารมณ์ดีที่เอาชนะ      พริซเซียร่าได้ในที่สุด

 

“ไปไหนก็ได้.....”    พริซเซียร่าตอบเสียงห้วน

 

รถของอัสมานเลี้ยวเข้ามาจอดยังพัตคารหรูแห่งหนึ่งใดดูไบ พนักงานทุกคนล้วนใส่เครื่องแบบที่เหมือนกันคือสูทสีดำแน็คไทล์สีทองซึ้งดูเป็นทางการเอามาก ๆ

 

“เชิญครับ”  อัสมานเดินอ้อมรถมาเปิดประตูให้พริซเซียร่าพร้อม  ผายมือเชื้อเชิญ

 

“ทีต่อหน้าคนอื่นทำเป็นสุภาพบุรุษนะอิสลุน”  พริซเซียร่าเปล่งเสียงลอดไรฟันอย่างหมั่นไส้

 

อัสมานเดินตามพริซเซียร่าเข้าไปโดยเธอเดินนำลิ่ว ๆ ไปก่อนแล้ว เมื่อพนักงานต้อนรับเห็นอัสมานก็โค้งคำนับ

 

“สวัสดีครับท่านอัสมาน”  อัสมานรีบมองหญิงสาวว่าหล่อนเห็นการกระทำนี้หรือไม่โชคดีที่พริซเซียร่าไม่ได้หันกลับมามองแต่อย่างใดเขาจึงเดินตามพริซเซียร่าไปยังห้องอาหาร

 

“เอะนาย....เข้ามาทำไม”  พริซเซียร่าขะหมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยว่าอิสลุนเข้ามากับเธอทำไม

 

“ผมก็มาทานอาหารกับคุณไง...ผมก็หิวเป็นนะครับ”  อัสมานพูดลอยหน้าลอยตา

 

“มีปัญญาจ่ายเหรอ”  พริซเซียร่าพูดอย่างดูแคลน เขาเป็นแค่คนขับรถยังกล้าเสนอหน้ามากินอาหารแพงๆ

 

“ผมมีก็แล้วกัน....เลี้ยงคุณก็ได้อีกด้วย”  อัสมานตอบทำท่าเอามือตบกระเป๋ากางเกง

 

พริซเซียร่านึกแผนการที่จะแกล้งอัสมานออกจึงลอบยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

 

“ก็ได้....นายบอกเองนะว่าจะจ่ายน่ะ”  พริซเซียร่าเอียงคอถามเพื่อความแน่ใจ

 

“ครับมื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเอง” อัสมานเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้กับพริซเซียร่า

 

“เชิญครับ”  พริซเซียร่ายอมนั่งลงโดยง่าย พลางคิดในใจ

 

'ฉันจะเอาให้แกหน้าเหลืองเลยคอยดู'

 

พริซเซียร่าสั่งอาหารที่มีราคาแพง ๆ มาหลาย ๆ อย่างที่เธอคิดว่า  อิสลุนจะไม่มีปัญญาจ่ายไหวแน่นนอนเมื่อสังเกตกิริยาของฝ่ายตรงข้าม   ก็ต้องนิ่วหน้ามองอย่างสงสัยว่าทำไมเขาไม่รู้ร้อนรู้หนาวใด ๆ สักนิดเมื่ออาหารทุกอย่างมากพร้อมแล้วอัสมานก็คอยตักโน่นตักนี่ให้พริซเซียร่าตลอดซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดอะไรเมื่อนึกถึงหน้าอิสลุนตอนไม่มีเงินจ่ายก็รู้สึกสะใจขึ้นมา แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินพริซเซียร่าต้องตกใจเมื่อเขาไม่ได้รู้สึก   รู้สาถึงราคาที่ปรากฏอยู่ในบิลแม้แต่น้อย แต่กลับมีเงินสด ๆ จ่าย

 

“ไม่ต้องทอน”  อัสมานลุกขึ้นจากเก้าอี้มองพริซเซียร่ายิ้ม ๆ

 

“ไปไหนกันต่อดีครับ”  อัสมานแกล้วถามเย้ยพริซเซียร่าที่ต้องการแกล้งเขาแต่ไม่สำเร็จ

 

“........”  ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากปากของพริซเซียร่าหล่อนก้าวฉับ ๆ ไปที่รถทันที

 

อัสมานขับรถกลับมาส่งพริซเซียร่าที่โรงแรมตามเดิมแต่ยังไม่ทันที่ พริซเซียร่าจะลงไปเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

 

“ฮัลโหล.....ที่รัก...”  พริซเซียร่ากรอกเสียงหวาน ๆ เป็นภาษาอังกฤษลงไปตามสาย ซึ่งนั่นสร้างความไม่พอใจให้อัสมานเป็นอย่างมาก หญิงสาวที่เขาหมายปองเอาไว้มีคนรักแล้วอย่างนั้นหรือนี่

 

“คิดถึงมาร์คเหมือนกันค่ะ....แล้วจะมาวันไหนค่ะ...พริซจะได้ไปรับ”  พริซเซียร่ายังคงพูดโทรศัพท์ต่อไปโดยไม่ทันได้สังเกตว่าคนตรงหน้าบีบมือแน่นอย่างไม่พอใจ

 

“โอเคค่ะที่รัก....แล้วเจอกัน....บาย”  พริซเซียร่ากดวางโทรศัพท์พลางหันไปบอกอัสมาน

 

“นี่..นาย...ฉันยังไม่เข้าโรงแรมนะ...พาฉันไปช้อปปิ้งก่อน”  อัสมานออกรถอย่างรวดเร็วไม่พูดจาใด ๆ ทั้งสิ้น

 

เมื่อขับรถมาได้สักพักพริซเซียร่าเริ่มเห็นความผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อเส้นทางที่อิสลุนใช้นั้นเริ่มไม่มีผู้คนหรือตึกราบ้านช่องแต่กลับมีแต่ทะเลทรายโล่ง ๆ เท่านั้น

 

“นี่.....นายจะพาฉันไปไหนห๊ะอิสลุน”  พริซเซียร่าหันรีหันขวางมองสองข้างทางอย่างตื่นตะหนกตกใจ

 

“จอดรถเดี๋ยวนี้นะ.....ฉันบอกให้จอดไง”  พริซเซียร่าตะโกนลั่นแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าอิสลุนจะจอดรถแม้แต่น้อย

 

“นายจะทำอะไรนะ....จอดรถฉันบอกให้จอด”  เมื่อไม่ได้ดั่งใจ      พริซเซียร่าจึงสะบัดมือตบไปที่หน้าของอัสมานจนขึ้นรอยแดงเป็นปื่นตามแรงตบ

 

“เดี๋ยวคุณก็รู้พริซเซียร่า”  อัสมานหันหน้ามาบอกกับพริซเซียร่าเสียงเย็นก่อนจะเอามือเช็ดคราบเลือดที่ไหลซิบออกมาจากมุมปากที่แตกเพราะแรงตบกระทบกับฟันเข้าอย่างจัง

 

“ไอขี้ข้า....แกจอดรถเดี๋ยวนี้เลยนะ”  พริซเซียร่าด่าทอออกมาอย่างเกลียดชัง

 

“คำก็ไอขี้ข้า.....สองคำก็ไอขี้ข้า....ถ้าคุณเป็นเมียไอขี้ข้าคนนี้คุณยังจะว่าผมอยู่อีกไหม”  อัสมานหันมามองพริซเซียร่าด้วยสายตาคมกริบอย่างเสือจ้องจะกินเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น เขามีเลือดนักธุรกิจที่เมื่อเล็งผลกำไรเอาไว้แล้วว่าต้องได้เท่าไร่ยังไงเขาไม่มีทางที่จะยอมเสียเปรียบอะไรง่าย ๆ เช่นเดียวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ หากเขาต้องการจะได้ใครแล้วไม่มีคำว่าแห้ว เมื่อเข้ามาจีบดี ๆ สาวเจ้าไม่เห็นใจก็ขอใช้วิชาดิบ ๆ เถื่อน ๆ แบบซาตานร้ายเลยก็แล้วกัน

 

“หมายความว่ายังไง...ปล่อยฉันลงไปนะ...ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”  พริซเซียร่าพยายามดึงกระชากประตูรถให้เปิดออกแต่ก็ไร้ผล

 

“อย่าเสียเวลาเลย....มาถึงขั้นนี้แล้วผมไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ หรอก”  อัสมานหันมาบอกกับพริซเซียร่าพร้อมเร่งฝีเท้าเหยียบคันเร่งให้ไวกว่าเดิม

 

พริซเซียร่าเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามขัดขวางไม่ให้อัสมานทำอะไรไปมากกว่านี้ตรงเข้าแย่งพวงมาลัยกับอัสมานจนเขาต้องเบรกอย่างแรงทำให้พริซเซียร่ากระแทกเข้ากับกระจกรถอย่างจัง

 

“โอ้ย.....ไอบ้าแกทำอะไร...ดีนะคอฉันไม่หัก”  พริซเซียร่าพูดพลางเอามือกุมที่คออย่างร้าวระบม

 

“คุณนั่นแหละอยากตายนักหรือไง...ถึงทำแบบนี้”  อัสมานบริภาษด้วยสายตาอย่างดุกร้าว

 

พริซเซียร่าและอัสมานต่างก็จ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใครสักพักเสียงโทรศัพท์ของพริซเซียร่าก็ดังขึ้น พริซเซียร่ารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อที่จะบอกว่าเธออยู่ในอันตรายแต่ไม่ไวเท่าอัสมานเข้าคว้าโทรศัพท์ออกมาจากมือของพริซเซียร่าแล้วปาออกไปจากรถ  แล้วเร่งฝีเท้าเหยียบคันเร่งออกรถไปทันที

 

“นี่นาย....รู้มัยโทรศัพท์เครื่องนั้นราคาเท่าไร”  พริซเซียร่าตะคอก   อัสมานเสียงดัง

 

“ไม่รู้”  เขาตอบออกมาหน้าตาเฉย

 

“กรี๊ดๆๆๆๆ”  พริซเซียร่าเหลืออดกับพฤติกรรมสุดทุเรศของอัสมานเต็มทนหล่อนไม่รู้จะทำเช่นไรได้แต่กรี๊ดออกมาอย่างนั้น

 

“หยุด....ผมหนวกหู”  อัสมานตะคอกเสียงดังแต่มีหรือว่าคนอย่าง  พริซเซียร่าจะยอมหยุด

 

“กรี๊ดๆๆๆๆ”  อัสมานชักทนกับการกระทำของหล่อนไม่ไหว

 

“ถ้าคุณไม่หยุดผมฆ่าเธอแน่”  อัสมานชักปืนออกมาจ่อที่เอวของ พริซเซียร่าทำให้หล่อนหยุดชะงักการกระทำทุกอย่าง  นั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ

 

“ถ้าพูดกันดีดีแต่แรกก็สิ้นเรื่อง” จริง ๆ แล้วปืนที่อัสมานขู่พริซเซียร่านั้นไม่ได้ใส่ลูกกระสุนสักเม็ดเขาต้องการเอามาขู่พริซเซียร่าเท่านั้นเอง


 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป