จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
ก๊อก ๆๆ ก๊อก ๆๆ มือเรียวเคาะกระจกรถเบา ๆ เพื่อให้คนที่กำลังหลับคาพวงมาลัยระหว่างรอเธอนั้นตื่นจากนิทราเสียที
“เปิดประตู” พริซเซียร่าพูดเสียงสะบัด อัสมานสะดุ้งตัวเล็กน้อยเอื้อมมือไปกดปุ่มปลดล๊อครถออก
“นี่.....ออกมาเปิดประตูให้ฉันด้วยสิย่ะ” พริซเซียร่าแหว๋วใส่อัสมานทันที
อันมานยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นเดิม
“ฉันบอกว่าให้มาเปิดประตูให้ฉัน...หูแตกหรือไงห๊ะ” พริซเซียร่า ที่ตอนนี้เต้นเป็นเจ้าเข้าอยูข้างนอกรถ
“คุณก็เปิดเข้ามาเองสิผมก็ปลดล๊อคแล้วนี่...หรือว่าแขนด้วน” อัสมานปรับกระจกลงแล้วตวาดพริซเซียร่าเบา ๆ
“นี่แก....แก....” พริซเซียร่าอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดัง ๆ แต่ต้องอดกลั้นเอาไว้เนื่องจากแขกเหรื่อภายในงานเริ่มทยอยกันออกมาบ้างแล้ว
“ฉันเปิดเองก็ได้....ฝากไว้ก่อนเถอะไอกระจอกเอ้ย” พริซเซียร่ากระชากประตูออกก้าวขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งหลังคนขับแล้วปิดประตูอย่างแรงจนเสียงดังกึกก้องไปทั้งคันรถ
“คุณ....ทีหลังปิดให้มันเบา ๆ กว่านี้หน่อยนะครับ....มันรถของโรงแรมเป็นอะไรไปผมซวยนะครับ” อัสมานทำทีเป็นพูดกวนอารมณ์ พริซเซียร่า
“เรื่องของแกสิย่ะ” พริซเซียร่าจีบปากจีบคอพูดอย่างหมั่นไส้
“คุณเป็นผู้หญิงแถมเป็นผู้ดี...ทำไมคำพูดคำจาถึงไม่สมกับเป็นผู้ดีเลยล่ะครับ...หรือว่าเป็นพวกผู้ดีจอมปลอม” อัสมานยังรุกหนักกว่าเก่า พริซเซียร่าที่ตอนนี้โกรธจนหน้าแดงก่ำไปหมด
“ฉันจะให้คุณอัสมานไล่แกออก” พริซเซียร่าชี้หน้าอัสมานอย่างเอาเรื่องสายตาแค้นเคืองเป็นอย่างมาก
“เชิญครับ....” อัสมานยักไหล่ให้รู้ว่าเขาไม่ได้กลัวเกรงคำขู่ของ พริซเซียร่าสักนิด ก็แล้วเรื่องอะไรเขาจะไล่ตัวเองออกล่ะ
“แกนี่มัน....มัน.....กรี๊ดๆๆๆๆๆ” พริซเซียร่ากรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงตั้งแต่เธอเกิดมาไม่เคยมีใครกล้าโต้เถียงกับเธออย่างนี้มาก่อน
“โอ้ยคุณหยุดร้องสักทีได้มัยครับ.....หนวกหู” อัสมานเอานิ้วมือหนาของเขามาอุดหูเอาไว้เพราะทนฤทธิ์เสียงของพริซเซียร่าไม่ไหว
“กรี๊ด ๆๆๆๆ” พริซเซียร่ายังไม่ยอมหยุดกรี๊ดเสียง่ายๆ เธอควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
“เฮ้ยเป็นบ้าไปแล้วหรือไง....บอกให้หยุดไง” อัสมานตะคอกเสียงดัง ทำให้พริซเซียร่าหยุดกรี๊ดในทันที
“คุณหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ.....ผมไม่ใช่ขี้ข้าคุณที่จะต้องมาคอยรับใช้ตามใจคุณรู้ไว้ซะด้วย” อันมานาหันหน้ามองสายตาดุใส่พริซเซียร่าซึ่งทำให้พริซเซียร่าสงบปากสงบคำลงไป
รถหรูจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าโรงแรมแฮนด์เบอร์ อัสมานอ้อมเดินไปเปิดประตูให้กับพริซเซียร่าที่นั่งกระฟึดกระฟัดไม่พอใจมาตลอดทาง
“เชิญครับ...คุณพริซเซียร่า” อัสมานผายมือเชิญหญิงสาวให้ออกมาจากตัวรถอย่างล้อเลียน
“นายรู้จักชื่อฉันได้ไง” พริซเซียร่าค้อนขวับเสียวงใหญ่
“เอ่อ....รู้สิครับ...ก็คุณเป็นลูกค้าของโรงแรมเรานี่ครับ” อัสมานอึกอักตอบออกไป
“นายจำไว้นะ....ฉันจะเล่นงานนายทุกวิธีเอาให้อยู่ไม่ได้กันไปข้างเลยทีเดียว” พริซเซียร่าบริภาษด้วยสายตาอย่างอาฆาตแค้น
“แล้วผมจะรอดูนะครับ....อ้อ...ผมลืมบอกไป....ผมชื่อ...อิสลุนนะครับเดี๋ยวคุณจะเล่นงานผิดตัว” อัสมานว่าพลางรีบวิ่งขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยทันที
พริซเซียร่าสั่นสะท้านไปทั้งตัว อยากจะแผดเสียงร้องออกมาแต่ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้เนื่องด้วยผู้คนที่เข้าพักอาศัยโรงแรมแห่งนี้ล้วนมีแต่นักธุรกิจมีระดับด้วยกันทั้งสิ้นหากเธอกระทำการใด ๆ เกรงว่าจะเป็นการไม่เหมาะสมและบริษัทเธออาจจะเสียความน่าเชื่อถือไปได้ พริซเซียร่า ทั้งโกรธทั้งอับอายไม่เคยมีใครกระทำเยี่ยงนี้ต่อหล่อนมาก่อน ผู้ชายคนนี้เป็นคนแรกที่กล้าหมิ่นเหยียดหยันเธออย่างไม่กลัวเกรง
‘ฉันจะต้องให้นายได้สำนึกแน่นอน นายอิสลุน’
ขาเรียวก้าวฉับ ๆ เข้าสู่ห้องพักระดับวีไอพี พริซเซียร่าทิ้งตัวลงบนโซฟากุชชี่หรูอย่าเหนื่อยหนาระอาใจเธอพยายามคิดหาวิธีที่จะมาสนองตอบบุคคลที่กล้าอวดเก่งกับเธอ แต่ทว่าคิดอย่างไรก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดี ถึงแม้ว่า พริซเซียร่าจะร่ำรวยมหาศาลเพียงใดแต่หากในประเทศที่ พริซเซียร่าอยู่ในตอนนี้เธอไม่ได้มีอำนาจพอที่จะทำอะไร นายผู้ชายปากเสียคนนั้นได้พริซเซียร่ายิ่งคิดก็ยิ่งน่าเจ็บใจ
“ไอทุเรศ....ฉันเกลียดแก....ไออิสลุนบ้า” พริซเซียร่าเม้นปากแน่นจนเป็นเส้นตรงอย่างแค้นเคือง กรอกสายตาไปมาอย่งใช้ความคิด
“ใช่สิ....นามบัตรคุณอัสมาน” พริซเซียร่าปรี่ตัวออกมาจากห้องน้ำโดยเร็ว ยกกระเป๋าสะพายเทพรวดออกมาจนทุกอย่างกระจัดกระจายเต็มที่นอนไปหมด สุดท้ายก็พบสิ่งที่เธอต้องการนั่นคือนามบัตรของอัสมานที่ได้มอบไว้ให้เธอก่อนที่เขาจะขอตัวกลับออกไป
มือเรียวจดหมายเลขที่ปรากฏไว้ในนามบัตรหรูนั้นอย่างรวดเร็ว สักพักเสียงสัญญาณก็ดังขึ้นแต่ไม่ยักกะมีคนรับสาย สงสัยว่าเขาคงจะขับรถอยู่กระมังพริซเซียร่าคิดในใจพลางทำใจเย็นกดหมายเลขโทรศัพท์ของอัสมานใหม่อีกครั้ง
ติ๊ดๆ ๆ ติ๊ดๆๆ เสียงโทรศัพท์ของอัสมานดังขึ้นอีกครั้งจนเขาต้องตัดสินใจจอดรถเข้าข้างทางเพื่อที่จะได้รีบโทรศัพท์ได้สะดวก อัสมานเป็นพวกไม่ชอบขับรถไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วยเขาเห็นว่ามีคนโทรมาหลายสายแล้วจึงตัดสินใจจอดรถจะดีกว่า
“ฮัลโหลครับ....ผมอัสมานพูดสายครับ” อัสมานกรอกเสียงทุ้มนุ่มอย่างไพเราะไปยังสายคู่สนทนา
“เอ่อ...สวัสดีค่ะคุณอัสมานดิฉันพริซเซียร่านะคะจำได้หรือเปล่าคะ” พริซเซียร่าเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจว่าเขาเองจะจำหล่อนได้หรือไม่ในเมื่อเจอกันเพียงแค่ไม่นานเท่านั้น
“อ๋อ...คุณพริซเซียร่ามีอะไรหรือครับ” อัสมานยิ้มกริ่มขึ้นมาในทันทีแต่ก็พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
“เอ่อ...เรื่อง....ที่ฉันบอกคุณว่าคนขับรถของโรงแรมคุณทำกิริยาไม่สุภาพกับดิฉันน่ะค่ะ” พริซเซียร่ากระแอมเสียงตอบ
“ครับ...แล้วเขาทำกิริยาไม่สุภาพอย่างไรกับคุณล่ะครับ” อัสมานแกล้งถามยั่วอารมณ์ของหญิงสาว
“ก็เขา....เขาพูดไม่สุภาพน่ะค่ะยังไงคุณช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ดิฉันด้วยนะคะ” พริซเซียร่าทำทีเป็นฟ้องอัสมาน ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเห็นคนขับรถดีกว่าหล่อนซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับเขา
“แล้วคุณต้องการจะให้ผมจัดการยังไงล่ะครับ” อัสมานทำทีเป็นถามความเห็นของหญิงสาว
“คุณช่วยไล่เขาออกจะได้หรือไม่คะ” พริซเซียร่าบอกความประสงค์ของเธอให้กับอัสมานทราบ
“ถึงขั้นจะให้ไล่ออกเลยหรือครับ....ไม่รุนแรงไปหน่อยหรือครับคุณ” อัสมานเสียงเข้มขึ้นมาทันที
“แต่พนักงานของโรงแรมไม่ควรกล่าวคำไม่สุภาพกับลูกค้านะคะ” พริซเซียร่าพยายามหวาดล้อมอัสมานไปในที
“เขาชื่ออะไรหรือครับคุณพอจะทราบหรือเปล่าครับ” อัสมานเน้นเสียงเข้มถามพริซเซียร่าออกไปแต่กับยิ้มกริ่มอย่างพอใจที่ผลออกมาเช่นนี้
“อิสลุนค่ะเขาชื่ออิสลุน” พริซเซียร่าตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“อืม......เอาไว้ผมจะเรียกเขามาตักเตือนนะครับ...” อัสมานกล่าวออกมาอย่างจงใจ
“ตักเตือน....นี่คุณแค่ตักเตือนเองหรือคะ” พริซเซียร่าโต้กลับอย่างหัวเสีย
“ถ้าจะให้ผมไล่เขาออก.....ผมคงต้องถามสาเหตุข้อเท็จจริงก่อนนะครับ” อัสมานบอกเหตุผลที่น่าฟังออกมา
“ยังไงเขาก็ต้องปฏิเสธค่ะ...ไม่มีใครยอมรับผิดได้ง่าย ๆ หรอกค่ะ” พริซเซียร่าบ่นเสียงกระออดกระแอดออกมาทำเอาคนฟังถึงกับอมยิ้มกริ่ม
“เท่าที่ผมฟัง....เขาคงจะทำให้คุณไม่พอใจมากสินะครับ...ถ้างั้นผมจะให้เขาไปขอโทษคุณแล้วกันนะครับ” อัสมานพยายามพูดเพื่อหาโอกาสเข้าหาพริซเซียร่าอีกครั้ง
“ก็ได้ค่ะ....แต่ว่าคุณต้องให้ฉันสั่งการใด ๆ กับเขาก็ได้นะคะ ระหว่างที่ฉันยังอยู่ที่นี่” พริซเซียร่าถามอัสมานอย่างหยั่งเชิง
“ก็ได้ครับ...ถ้าคุณอยากไปไหนหรือทำอะไรก็สามารถสั่งการเขาแทนผมได้เลยครับ” อัสมานเอามือปิดโทรศัพท์แล้วดึงออกห่างตัว แล้วหัวเราะออกมาอย่างเหลืออด
“คุณอัสมานคะ....เอ่อทำไมเงียบไป” พริซเซียร่าถามออกมาอย่างสงสัยที่ปลายสายเงียบเสียงไป
“เปล่านะครับผมฟังอยู่...งั้นตกลงตามนั้นนะครับ” อัสมานพยายามปรับเสียงให้กลับมาปกติเช่นเดิม
“ค่ะตกลงตามนั้นค่ะ” พริซเซียร่าเหยียดริมฝีปากขึ้นอย่างเย้ยหยันเมื่อนึกถึงหน้าอิสลุนตอนที่ทราบว่าต้องมาคอยรับใช้หล่อนจะเป็นเช่นไร
“เอ่อ......คุณพริซเซียร่าครับ....ผมอาจจะไม่อยู่สักอาทิตย์นะครับคุณคงติดต่อผมไม่ได้” อัสมานรีบกล่าวดักทางพริซเซียร่าไว้เพื่อไม่ให้หล่อนโทรมาหาเขาระหว่างที่เขายังแสดงเป็นอิสลุนหนุ่มคนขับรถนั่นเอง
“อ้าว....เหรอคะ....แล้วถ้าหากคนของคุณไม่ยอมเชื่อฟังฉันละคะ..ใจะทำอย่างไร” พริซเซียร่านึกถึงการไกล
“ผมจะให้อำนาจคุณเต็มที่นะครับ...โอ้แค่นี้ก่อนนะครับโทรศัพท์ผมแบ็ตกำลังจะหมด” พูดจบเสียงสัญญานโทรศัพท์ของอัสมานก็ถูกตัดไป พริซเซียร่ายกโทรศัทพ์ขึ้นมองอย่างแปลกใจ
“อ้าว...วางไปซะแล้ว” แต่ถึงกระนั้นพริซเซียร่าก็ยังพอใจในความรับผิดชอบของอัสมาน หล่อนเริ่มคิดแผนการที่จะล้างแค้นกับอิสลุนซึ่งนั่นได้ทำให้พริซเซียร่าคลี่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
เช้านี้อัสมานสวมชุดสุทเนื้อดีสีดำช่วยขับผิวขาวของเขาให้ดูโด่ดเด่นเป็นสง่าเพิ่มมากขึ้น ก้าวลงมาจากรถหรูเขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือพบว่ามันจวนจะแปดโมงเช้าแล้วแต่ทว่ายังไม่เห็นวี่แววสาวสวยแม้แต่น้อย เขาเริ่มกดโทรศัพท์ต่อตรงไปยังห้องของพริซเซียร่าทันที
กริ๊ง ๆ ๆ กริ๊ง ๆ เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงของพริซเซียร่าดังขึ้น ปลุกคนที่กำลังนอนขุดคู้อยู่ให้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางสภาพที่ผมเผ้าหยุ่งเหยิง คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากรอกเสียงงัวเงียไปตามสาย
“ฮา....โหลลลลล....” พริซเซียร่ากล่าวเสียงยืดออกไปพร้อมกับปิดปากหาวจนน้ำหูน้ำตาเล็ดลอดผ่านมานตาออกมาปริ่ม ๆ
“นี่คุณ....ยังไม่ตื่นอีกเหรอ....สายป่านนี้แล้ว” อัสมานกรอกเสียงออกไปตามสาย
“นายเป็นใคร” พริซเซียร่าถามเสียงเข้ม
“ก็คนที่คุณจะให้ไปส่งที่ทำงานยังไงล่ะ...พูดอะไรกับใครไว้ล่ะครับ” อัสมานแสร้งทำเป็นประชดประชัน
“อ๋อ....แกนั่นเองไออิสลุนปากเสีย” พริซเซียร่าพูดน้ำเสียงเย้ยหยันเต็มที
“นี่คุณเรียกใครไอ...ไม่สุภาพเลยนะครับ...คุณพริซเซียร่าคนสวย” อัสมานกล่าวอย่างไม่ชอบใจนักที่หญิงสาวจะเรียกแบบจิกหัวเช่นนี้
“ช่างแกประไร.....แกก็แค่ขี้ข้า” พริซเซียร่ายังไม่ยอมเลิกพูดจาดูถูกดูแคล้นอัสมานง่าย ๆ
“ผมขี้เกียจต่อปากต่อคำกับคุณ....ผมให้เวลาครึ่งชั่วโมงถ้าคุณไม่มาผมจะกลับแล้ว” อัสมานเริ่มออกคำสั่งกับพริซเซียร่าบ้าง
“แกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันห่ะ....ไอกระจอก” พริซเซียร่าแผดเสียงออกไปอย่างหัวเสียที่อัสมานกล้าออกคำสั่งกับหล่อน
“ผ่านไปห้านาทีแล้วเหลืออีกยี่สิบห้านาที” อัสมานไม่ได้สนใจคำพูดต่อล้อต่อเถียงของพริซเซียร่าสักนิดเดียว
“นี่แก....แก...ฝากไว้ก่อนเถอะ” พริซเซียร่ากดกระแทกวางโทรศัพท์เสียงดัง จนอัสมานต้องยกโทรศัพท์มือถือออกให้ห่างจากหูโดยด่วน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป พริซเซียร่าเดินออกมาจากโรงแรมหน้าตาบูดบึ้งอย่างไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่พอใจอัสมานเป็นอย่างมาก
“ตรงเวลาเป๊ะเลยนะครับ” อัสมานยกนาฬิกาข้อมือสุดหรูขึ้นมองเมื่อเห็นพริซเซียร่ากระหืดหระหอบเดินมายังรถของเขาที่จอดสนิทอยู่ตรงหน้าโรงแรม
อัสมานไม่ลืมที่จะเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับให้พริซเซียร่า “เชิญครับคุณผู้หญิง” พร้อมทำท่าผายมือเชื้อเชิญอย่างสุภาพ
“ฉันจะนั่งข้างหลัง” พริซเซียร่าเดินกระแทกส้นเท้าอย่างเอาแต่ใจเดินไปเปิดประตูด้านหลังคนขับแล้วขึ้นไปนั่งโดยทันที
“ออกรถสิ” พริซเซียร่ากล่าวเสียงกร้าวเมื่อเห็นอัสมานขึ้นมานั่ง บนรถแล้วแต่ไม่ยอมออกรถสักที
“ผมไม่ออกจนกว่าคุณจะย้ายมานั่งข้างผม” อัสมานลอบมองพริซเซียร่าผ่านกระจกหลัง
“ฉันจะนั่งตรงนี้....บอกให้ออกรถ” พริซเซียร่ายังคงยืนกรานว่าจะนั่งข้างหลังคนขับเสียให้ได้
“งั้น...ผมก็ไม่ออกรถ” อัสมานพูดพลางผิวปากอย่างแช่มชื่นไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“นี่...ฉันบอกให้ออกรถไง...ไอบ้านี่” พริซเซียร่าตะคอกออกมาอย่างเหลืออดในความกวนประสาทของนายอิสลุนคนนี้
“คุณก็ย้ายมานั่งข้างผมสิ...แค่นี้ก็จบ...ไม่งั้นผมก็ไม่ออกรถเด็ดขาด....เพราะผมไม่ใช้ขี้ข้าของคุณ” อัสมานหันหน้าหล่อมามองหญิงสาวอย่างไม่กลัวเกรงเช่นกัน
“ฉันจะฟ้องคุณอัสมานคอยดู” พริซเซียร่ามองกร้าวไปยังอัสมานอย่างชิงชังเป็นอย่างมาก
“ตามใจ...แต่ตอนนี้นายไม่อยู่คุณก็ทำอะไรผมไม่ได้ทั้งนั้น” อัสมานแกล้งกล่าวยั่วพริซเซียร่าจนเธอแทบจะกัดลิ้นตัวเองตายซะให้ได้
“ฮึ....นายอิสลุนนายคิดว่านายเป็นใครมาสั่งฉันห๊ะ” พริซเซียร่ายังคงพยายามข่มอารมณ์โกรธไม่ให้พลุ่งพล่านมากไปกว่านี้
“ผมก็เป็นพนักงานขับรถของโรงแรมแห่งนี้ไงล่ะครับถามมาได้” อัสมานยังทำหน้าตายตอบออกมาเพื่อยั่วให้พริซเซียร่าโกรธ
“อ๋อรู้ตัวด้วยเหรอ....งั้นฉันเป็นใครนายรู้หรือเปล่า” พริซเซียร่าชี้นิ้วเรียวมายังตัวเองเพื่อให้อัสมานรู้คำถามของเธออย่างชัดเจน
“คุณก็เป็นแค่ลูกค้าธรรมดาคนหนึ่ง” อัสมานมองแล้วตอบออกมาเสียงนิ่ง
“ฉันนี่น่ะลูกค้าธรรมดา ฉันเป็นลูกค้าวีไอพีต่างหากล่ะ” พริซเซียร่า บอกออกพร้อมกับยืดตัวขึ้นอย่างภูมิใจ
“เอาหล่ะคุณ....มานั่งข้างหน้าเถอะครับจะได้ดูทางไปด้วย” อัสมานพยายามพูดเสียงนุ่มนวลขึ้น
“ฉันนั่งดูทางข้างหลังนี่ก็ได้” พริซเซียร่าพูดพร้อมเชิดหน้าไปอีกทางอย่างอวดดี”
“ถ้าคุณไม่มานั่งข้างหน้ากับผมก็เชิญลงไปได้เลยครับ” อัสมานกล่าวเสียงราบเรียบออกไปอย่างไม่แคร์ความรู้สึกของพริซเซียร่าแม้แต่น้อย
“ฮึ...ไอบ้านี่...ก็ได้..ก็ได้” พริซเซียร่าพูดปลายเสียงสะบัดเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าใดนัก แต่ก็ยอมก้าวลงจากรถแล้วขึ้นไปนั่งข้าง อัสมานแทน
“ออกรถสิ...ฉันสายมากแล้ว” พริซเซียร่าหันมาสั่งให้กับอัสมาน ซึ่งเขาก็ยอมออกรถโดยทันทีแต่ก็แอบลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจ