Your Wishlist

ปล้นรักนางฟ้าร้าย (ก้าวแรกสู่ดูไบ)

Author: ฐาสุมิณญ์

จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ

จำนวนตอน : 31

ก้าวแรกสู่ดูไบ

  • 12/04/2564

ท่ามกลางผู้คนที่หอบหิ้วเคลื่อนย้ายสัมภาระในการเดินทางผ่านเข้ามายังประตูผู้โดยสารขาเข้าของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ พริซเซียร่าสาวใบหน้าสวยหวานคมคายอย่างชาวอาหรับแต่ผิวกลับขาวราวน้ำนม     ก็ไม่ปานเนื่องจากเธอมีเชื้อสายเยอรมันซึ่งเป็นชนเผ่าผิวขาวอีกทั้งดวงตา คู่งามยังเป็นสีดำขลับถูกประดับด้วยขนตาเรียวงอนยาว และคิ้วโค้งได้รูป  จมูกโด่งรั้นบ่งบอกถึงความหัวรั้นและถือดี รวมถึงริมฝีปากบอบบาง          สีกุหลาบรับกับใบหน้าเรียวรูปไข่ปอก รูปร่างสูงเพรียว ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ชั้นดีอย่างบรรจง พวงผมดัดลอนใหญ่ทิ้งตัวล้อมกรอบหน้าสวย ชุดเกาะอกสีแดงเพลิงรัดรูปสั้นเหนือเข่าเผยให้เห็นเรียวขายาวสวยซึ่งตัดกับสีผิวอย่างชัดเจนโชว์ช่วงไหล่นวลเนียลน่าสัมผัส       พริซเซียร่าลากกระเป๋าเดินทางใบโตอย่างทุลักทุเล สายตายังสาดส่องหาบุคคลที่ทางเจ้าของโรงแรงหรูหรือรียกอีกอย่างว่าหุ้นส่วนคนใหม่ของบริษัทพ่อเธอส่งมารอรับ พริซเซียร่าหันรีหันขวางชะเง้อมองและเห็นป้าย   ที่เขียนชื่อตนเองอยู่จึงเร่งฝีเท้าเดินเข้าไป

 

“คุณพริซเซียร่าหรือเปล่าครับ”  ชายรางใหญ่ผิวคล้ำเข้มอย่างชาวอาหรับสวมชุดสูทสีดำชูป้ายชื่อที่เขียนว่าพริซเซียร่ากล่าวถามออกไปด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงดี

 

“ใช่...คนของโรงแรมแฮนด์เบอร์หรือเปล่าคะ”  พริซเซียร่าลอบมองอย่างไม่ไว้วางใจเท่าไรนัก

 

“โอ้...ใช่ครับนี่ครับบัตรประจำตัวของผม”  พนักงานขับรถรีบกุรีกุจอยื่นบัตรประจำตัวพนักงานให้กับพริซเซียร่าเพื่อยืนยันว่าเขาคือคนที่ทางโรงแรมส่งตัวให้มารับเธอ

 

“อ้อ....งั้นก็ลากกระเป๋าไปได้แล้วฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว” ว่าแล้ว พริซเซียร่าก็เดินก้าวฉับ ๆ ตามพนักงานคนดังกล่าวออกไปยังรถหรูของทางโรงแรมที่ได้จัดเตรียมไว้สำหรับลูกค้าวีไอพี

 

“เชิญครับคุณผู้หญิง”  พนักงานขับรถกล่าวเสียงนุ่มพร้อมผ่ายแขนเป็นการเชื้อเชิญหญิงสาวให้ก้าวลงจากรถอย่างสุภาพจากนั้นพนักงานสาวเป็นผู้รับช่วงต่อ เธอพาพริซเซียร่ามายังห้องพักในชั้นบนสุดของโรงแรมแฮนด์เบอร์ นั่นคือห้องที่ดีที่สุด! แพงที่สุด!  สวยที่สุด!

 

“คุณพริซเซียร่านี่คีย์การ์ดห้องคุณค่ะ....มีอะไรขาดเหลือก็แจ้งทางเราได้เลยนะคะ”  พนักงานสาวกล่าวจบก็โค้งตัวให้กับพริซเซียร่าเล็กน้อยก่อนจะก้าวเดินออกไป

 

พริซเซียร่า พิจารณาห้องที่เธอมายืนอยู่นี้ว่ามันช่างหรูหราสมราคาคุยเสียจริงๆ  ประตูบุลายนูนต่ำด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงสดพริซเซียร่าจัดการรูดคีย์การ์ดเข้าไปภายในห้องก็พบว่าการตกแต่งเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบโรมันและอีหยิบโบราณเข้าไว้ด้วยกันนั่นเอง โดยที่พื้นปูด้วยกระเบื้องแก้วมันวาวสีขุ่นซึ่งเธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนหัวเตียงนอนแกะสลักรูปม้าอีหยิบโบราณลงทองอย่างสวยงามผ้าปูที่นอนเป็นสีทองลายลูกแก้วสีดำเข้ากันได้อย่างลงตัว ใจกลางเพดานมีโคมไฟแก้วเจียระไนเนื้อดีขนาดใหญ่ที่ร้อยเรียงกันไปมาให้แสงประกายแวววับดุจดั่งเพชรเมื่อต้องแสงอย่างไรอย่างนั้นผนังด้านข้างและด้านบนเป็นภาพวาดจิตรกรรมโรมันแน่แท้เกี่ยวกับวิถีการดำเนินชีวิตของชาวโรมันสมัยโบราณ  ก้าวอี้โซฟาเป็นสีฟ้าหม่นลายกุจชี่ซึ่งเข้ากันกับห้องได้อย่างไม่น่าเชื่อ  พริซเซียร่าเดินเอากระเป๋าไปเก็บยังตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน โคลเซ็ต พริซเซียร่าเดินออกมาสำรวจวิวสวยภายนอกห้องหรูของเธอสูดอนูอากาศบริสุทธิ์ของเมืองดูไบเข้าไปเต็ม ๆ ปอด  มองออกไปเป็นระเบียงกว้างขวางมากทีเดียว ข้าง ๆ มีสวยหย่อมเล็ก ๆ มีน้ำพุรูปเทพีเสรีภาพซึ่งมองถัดไปจะมีสระว่ายน้ำขนาดกลางอยู่ พริซเซียร่าเดินออกมายังจุดที่สามารถชมวิวได้ชัดเจน   ซึ่งภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือตึกราบ้านช่องของเมืองดูไบมันช่างเจริญเสียจริงเชียว  พริซเซียร่ามองดูออกไปจนสุดลูกหูลูกตาอยู่ครู่ใหญ่จึงเข้ามาภายในตัวห้องพักเช่นเคย  ภายในห้องยังมีห้องสำหรับนั่งเล่นเมื่อเก้าเข้ามาข้างในพบว่ามีจอโทรทัศน์พลาสมาขนาดใหญ่ตั้งอยู่รวมกับชุดโฮมเธียเตอร์    ครบชุด เบื้องหน้าเป็นโซฟาสุดหรูขอหลุยส์วิตตองสีน้ำตาลลายโมโนแกรมที่สั่งทำพิเศษ  เธอเดินสำรวจห้องนั้นห้องนี้จนมาถึงห้องน้ำหรู ที่ปรากฏอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ตั้งเด่นต่อหน้า  เครื่องสุขภัณฑ์ทุกอย่างทุกชิ้นล้วนแต่ดูมีราคาหรูหราเป็นอย่างมาก พริซเซียร่าสำรวจตรวจตราทุกซอกทุกมุมอย่างพึงพอใจเป็นที่สุดเธอคิดว่าชีวิตในดูไบของเธอคงไม่ได้น่าเบื่ออย่าง  ที่คิดเสียแล้วกระมัง

 

“อาบน้ำสักหน่อยดีกว่าเรา...เหนียวตัวจะแย่แล้ว” พริซเซียร่า เปลื้องผ้าออกจากกายสาวเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าที่สวยสะพรั่งเท่านั้น เธอเปิดน้ำใส่อ่างกุชชี่จนเต็มแล้วลงไปนอนแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์จนเผลอผอยหลับไปในที่สุด

 

กรี๊ง ๆๆ กรี๊งๆๆ เสียงโทรศัพท์ของพริซเซียร่าดังขึ้นทำลายความเงียบจนหมดสิ้น  ร่างบางที่ตอนนี้นอนอยู่ในอ่างขนาดยักษ์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างขัดอารมณ์หญิงสาวก้าวขึ้นจากอ่างหรูหยิบผ้าคลุมกายออกมาใส่แล้วรีบก้าวเดินตรงมารับโทรศัพท์โดยจะทันที

 

“ฮัลโหล....พริซเซียร่าพูดสายค่ะ”  พริซเซียร่ากรอกเสียงงัวเงียของคนเพิ่งตื่นมายังสายสนทนา

 

“ถึงนานแล้วหรือครับพริซ”  เสียงชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

 

“มาร์คหรือค่ะ....โอ๊ะ...พริซเพิ่งตื่นค่ะ....ขอโทษด้วยว่าจะโทรบอกคุณอยู่แต่ว่าพริซเผลอหลับไปซะก่อน”  พริซเซียร่ากล่าวอย่างรู้สึกผิดนิด ๆ ตั้งแต่มาหญิงสาวก็เอาแต่สอดส่ายสำรวจตรวจตราห้องหับจนลืมโทรบอกมาตินว่าเธอบินมาถึงแล้ว

 

“ไม่เป็นไรครับ...ผมรู้พริซเหนื่อย”  เขากล่าวอย่างเข้าอกเข้าใจว่าเธอคงต้องเหนื่อยกับการเดินทางเป็นแน่

 

“ค่ะทานอะไรหรือยังค่ะมาร์ค”  พริซเซียร่าชวนมาตินคุยเรื่องอื่นที่ไม่เครียด เธอกับเขาต่างสนทนาแลกเปลี่ยนกับอย่างเป็นกันเองร่วมๆเกือบชั่วโมงชายหนุ่มจึงขอตัววางสายไปก่อนเนื่องจากมีงานเข้ามา

 

“ค่ะที่รัก...บาย”  พริซเซียร่ายิ้มกับตัวเองถึงแม้ว่าตัวจะห่างไกลกันเพียงใดแต่มาตินก็เอาใจใส่เธอเสมอมาไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนเธอแน่ใจว่าความรักที่มีให้มาตินนั้นไม่ได้เป็นแบบคนรักแต่ทว่าเป็นแบบพี่น้องมากกว่าเช่นเดียวกับมาตินที่คิดเช่นเดียวกับพริซเซียร่า

 

“ฉันอยากมีพี่ชายแบบคุณค่ะมาร์ค” พริซเซียร่ายิ้มออกมาอย่างดีใจ

 

หญิงสาวแต่งกายในชุดลำลองสบาย ๆ เพื่อลงมารับประทานอาหารที่ทางโรงแรมมีไว้บริการแขกระดับวีไอพีเช่นเธอซึ่งอาหารที่จัดเป็นแบบ   บุฟเฟ่ต์ อาหารที่เรียงรายตรงหน้าไม่ต่ำกว่าร้อยชนิดขึ้นมีทั้งปูอลัสก้า  อบเนย หรือจะเป็นเนื่อแกะรมควันอบใส่ใบพริก  ซึ่งพริซเซียร่าดูแต่ละอย่างแล้วเป็นของที่เธอชอบทานทั้งนั้น

หญิงสาวค่อยหยิบจานใบเล็กมาตักอาหารอย่างพอประมาณแล้วไปนั่งรับประทานอยู่ที่โต๊ะ

 

“สวัสดีครับคุณผู้หญิง....ผมนั่งด้วยได้หรือไม่ครับ”  ชายหนุ่มหล่ออย่างชาวอังกฤษทักทายหญิงสาวอย่างมีความนัยบางอย่าง

 

“เชิญค่ะ”  หญิงสาวก้มศรีษะเล็กน้อยเป็นการให้รับรู้ว่าเธออนุญาต

 

“ขอโทษถ้าผมจะถามชื่อคุณนะครับ”  หนุ่มหล่อยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับหญิงสาว

 

“ฉันชื่อพริซเซียร่าค่ะ”  พริซเซียร่าตอบไม่ได้สนใจที่จะมองมาทางหนุ่มหล่อคนนั้นสักเท่าไรนัก

 

“ผมชื่อเอดเวิดร์ คอมสันด์ครับยินดีที่ได้รู้จัก”  ชายหนุ่มกล่าวพลางยื่นมือส่งมาให้หญิงสาว

 

“สวัสดีค่ะยินดีที่ได้รู้จัก”  แต่หญิงสาวกลับประนมมือขึ้นไหว้

 

“โอ้....คุณเป็นคนไทยเหรอครับ...ไม่น่าเชื่อ...หน้าตาคุณ”  เอ็ดเวิดร์ทำหน้างงงัน ‘คนเอเซียทำไมหน้าเหมือนคนยุโรปเช่นนี้’

 

“ฉันเป็นลูกครึ่งนะคะ....เอ่อขอตัวนะคะ”  พริซเซียร่าทนรำคาญเสียไม่ได้จำต้องลุกหนีออกมา

 

“น่าเบื่อชะมัดไอพวกนี่เจ้าชู้ไม่เลือกจริง ๆ” พริซเซียร่าจ้ำอ้าวบ่นไปตลอดทางเดิน

 

ห้องโถงใหญ่โอ่อ่าในทีรโหฐานชายหนุ่มสายเลือดอาหรับแท้      ร้อยเปอร์เซ็นต์นั่งงุ้นอยู่กับงานที่กองแทบจะสุ่มหัวเขาอยู่แล้ว  มือหนาหยิบกรอบแว่นตาสี่เหลี่ยมเล็กสีดำขึ้นมาใส่แล้วค่อยๆ อ่านเอกสารทีละแผ่น ๆ อย่างละเอียดรอบคอบ  ภายใต้กรอบแว่นนั้นโครงหน้าหล่อดู        ไม่ค่อยดีเอาเสียเลย  เขาหยิบแว่นสายตาที่บดบังความหล่อของเขาออกแล้วบีบเค้นไปที่ขมับนวดคลึงมันอย่างเบามือ  เผยให้เห็นใบหน้าหล่อคมแบบชาวอาหรับ  คิ้วโค้งหนาเรียวยาว   ดวงตาสีนิลคู่งามล้อมกรอบด้วยขนตาหนายาวเป็นแพ จมูกโด่งเป็นสันขึ้นเงา ริมฝีปากหยักได้รูปรับกับใบหน้าคมอย่างลงตัว ผิวสีแทนออกไปทางขาวเสียมากกว่า เรียกได้ว่าเขาหล่อ  เข้าขั้นหาตัวจับได้ยากเลยทีเดียวเขาคือ  อัสมาน จัสติน อิสลุน

 

“อ่า....ช่วงนี้งานเยอะจริง ๆ”  อัสมานสบถออกมาอย่างเหนื่อยหนาระอาใจกับงานที่กองอยู่ข้างหน้าของเขาเป็นอย่างมาก ธุรกิจหลายอย่างหลายประเภทของเขามีมากมายจนช่วงนี้เขาแทบไม่มีเวลาจะพักผ่อนเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม  หรือจะเป็นธุรกิจเหมืองแร่และก๊าซธรรมชาติ  นี่ยังไม่รวมไปถึงบังกะโลและห้างสรรพสินค้าในที่ต่าง ๆ ทั่วโลกอีกนับกว่ายี่สิบแห่ง อีกทั้งเขายังเข้าซื้อหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท ฮัสเบรนพริซ  ที่บริส จอนท์โต่เน่  ได้ขายต่อหุ้นให้กับเขาเนื่องจากว่า บริส จอนท์โต่เน่ ไม่สามารถที่จะทำงานทั้งสองแห่งได้เขาต้องบินไปมาระหว่างออสเตรเลียกับอาหรับเป็นว่าเล่นอีกทั้งครอบครัวของบริสจอน์โตเน่ก็อยู่ที่ออสเตรเลียเพื่อให้ได้มีเวลาสำหรับครอบครัวบ้างเขาจึงจำใจต้องถอนหุ้นออกไปและเพื่อไม่ให้บริษัทประสบปัญหาทางการเงินเขาจึงขายหุ้นให้กับอัสมานซึ่งอัสมานเองก็สนใจข้อเสนอของบริส จอนท์โตเน่เป็นอย่างมาก คือการให้เขาเข้าไปมีส่วนในการบริหารจัดการงานด้วยตนเองด้วยซึ่งมันทำให้เขาเชื่อมั่นและแน่ใจว่าจะสามารถนำพาผลกำไรและความเจริญรุ่งเรื่องให้กับบริษัทแห่งนี้ได้แน่นอน  ที่ผ่านมาเขาต้องดูแลจัดการบริหารงานทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียวซึ่งต้องคอยจัดสันปันส่วนงานทุกอย่างอย่างลงตัว

 

“สงสัยต้องรีบเคลียงานให้เร็ว ๆ กว่านี้” เขาว่าพลางหยิบแว่นตาขึ้นมาสวมอีกครั้ง คราวนี้เขารีบขะมักเขม้น อ่านเอกสารที่รอเซ็นต์อย่างรวดเร็ว  เวลาผ่านไปหลายต่อหลายชั่วโมงเอกสารที่กองสูงเกือบเท่าความสูงในท่านั่งของเขาก็เสร็จสิ้นลงชายหนุ่มร่างสูงบิดเอี้ยวตัวไปมาเพื่อไล่ความขบเมื่อยออกไป

 

“เฮ้ย....เสร็จสักที....จะได้พักสักอาทิตย์สองอาทิตย์”  เมื่อนึกถึงเวลาต่อจากนี้ไปเขาก็จะได้พักเสียทีเพียงเท่านี้เขาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาโดยจะทันที

 

รถหรูยี่ห้อ Ferrari รุ่น F550 Maranello  ขับเคลื่อนมายังคฤหาสน์หลังมหึมาแล้วจอดสนิทตรงลานกว้างขาแข็งแรงภายใต้กางเกง สแล๊กซ์ เนื้อดีก้าวฉับ ๆ เข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว

 

“มาราตรีขอน้ำผมหน่อยครับ”  อัสมานกล่าวเรียกพร้อมไหว้วาน สาวใช้อย่างน้อบน้อม หญิงสาวใช้รีบกระวีกระวาดหาน้ำหาท่ามาให้อัสมานโดยเร่งด่วน

 

“นี่ค่ะคุณอัสมาน”  มาราตรีสาวใช้แสนสวยส่งน้ำที่ตอนนี้มันเย็นจัดจนพบเกร็ดน้ำใส ๆ เกาะอยู่รอบ ๆ แก้วใบใสนั้นให้กับนายหนุ่ม

 

“ขอบคุณมากครับมาราตรีคุณมีอะไรก็ไปทำเถอะครับผมขอพักผ่อนสักครู่”  อัสมานบอกพร้อมกับเอนตัวลงที่โซฟาหรูหลับเปือกตาลงสนิททั้งสองข้าง ด้านสาวใช้มาราตรีจำต้องหลีกเลี่ยงออกไปจากห้องนั้นเสียไม่ได้ เสียงหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกให้รู้ว่าเขาเข้าไปสู่นิทราอย่างสุขสมอารมณ์แล้ว

 

ท้องฟ้าเริ่มครึ้มเข้มลงพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าเนื่องจากเริ่มเย็นมากแล้วจวนแจใกล้พลบค่ำ วันนี้อัสมานเองจะได้พักผ่อนยาวเสียทีหลังจากการทำงานโดยแทบไม่มีเวลาพักเลยในห้าปีที่ผ่านมา เขาเข้ามาจัดการธุรกิจทุกอย่างสืบต่อจากผู้เป็นพ่อซึ่งได้เสียชีวิตลงจากโรคของคนชราวัยเจ็ดสิบห้าปี  พ่อของเขาจากไปอย่างสงบด้วยการนอนหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกหรือเรียกง่าย ๆ คือการไหลตายนั่นเองอัสมานเปิดเปลือกตาที่แสนจะหนักอึ้งขึ้นช้า ๆ และกระพริบตาเพื่อปรับแสงที่สาดส่องมายังสายตาคู่สวยที่มันมึดแสงลงนานพอสมควร

 

“คุณอัสมานตื่นแล้วเหรอค่ะ...นี่น้ำส้มค่ะจะได้สดชื่น”  มาราตรีเห็นว่าอัสมมานตื่นแล้วจึงรีบมาเอาอกเอาใจเป็นการใหญ่

 

มาราตรีนั้นเป็นสาวสวยมากคนหนึ่งเลยทีเดียวหล่อนหลงรักอัสมานมานานแล้วและพยายามเอาอกเอาใจอัสมานเต็มที่พยายามเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมกับอัสมานแต่ทว่าเขากลับไม่มีทีท่าใด ๆ กับหล่อนเลยแม้แต่น้อย

 

“ขอบคุณครับ....มาราตรีเดี๋ยวผมจะไม่อยู่บ้านสักสองอาทิตย์ยังไงฝากคุณด้วยนะ”  อัสมานกล่าวเสียงเย็นออกไป

 

“คุณจะไปไหนค่ะ”  พาราตรีถามด้วยสีหน้าตกใจ

 

“ผมจะไปพักผ่อนสักหน่อยนะ...ไงก็ฝากบ้านกับคุณด้วยนะ”  อัสมานยกแก้วขึ้นจิบน้ำส้มเพียงเล็กน้อยแล้วพรวดพราดลุกขึ้นเดินตรงออกไปยังรถหรูแล้วก้าวขึ้นขับออกไปอย่างรวดเร็ว

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป