Your Wishlist

ทำไงดีครับ!สามีผมเป็นพี่น้องกัน(3p) (3)

Author: โดราบงบง

ความผิดพลาดแค่คืนเดียวเพราะความเมา ทำให้ชีวิตของกายนั้นต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเพราะมีมารเข้ามาในชีวิตถึง2คน! เขาจะเอาชีวิตรอดจากกรงเล็บของเสือทั้งสองตัวได้หรือไม่หรือจะต้องตกเป็นจำเลยของทั้งสองตลอดชีวิต

จำนวนตอน : 53

3

  • 25/12/2564

 บ่ายสาม

 

 

 

ก๊อกๆๆ

 

 

 

ธารเคาะประตูหลังจากที่ธารได้ทำอาหารเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ตั้งไว้ที่โต๊ะตรงกลางห้องพร้อมกับจัดวางเป็นอย่างดี ธารเองเป็นคนที่ชอบทำอาหารพอสมควรจึงไม่ได้มีปัญหากับการเข้าครัวเพื่อทำกับข้าวให้กับคนที่อยู่ในห้องเลยแม้แต่น้อยรวมถึงธีร์เองก็ทำอาหารเป็นด้วยเช่นกัน ธารใช้เวลาทำอาหารประมาณสามชั่วโมงอาหารทุกอย่างก็ถูกทำจนเสร็จและเหตุผลที่ธารทำอาหารนานขนาดนี้ก็เพราะเขาต้องการอยากให้คนที่ได้กินอาหารฝีมือเขาได้กินในสิ่งที่ดีที่สุด ธารยืนรอสักพักก็ไม่มีท่าทีว่าคนตัวเล็กในห้องจะเปิดประตูให้ ธารจึงลองบิดลูกบิดประตูดูและพบว่าประตูถูกล็อคออกมาจากทางด้านใน ธารไม่รอช้าเดินออกไปหยิบกุญแจสำรองตรงตู้เซฟของเขาทันที เมื่อได้แล้วธารก็ไขประตูเพื่อเขาไปหาคนตัวเล็กในห้อง

 

เมื่อธารเปิดเข้าไปก็พบกับความมืดภายในห้องที่มีคนตัวเล็กนอนหลับอยู่โดยมีเสื้อผ้าคอกลมมีน้ำเงินเข้มของเขาและกางเกงบ๊อกเซอร์ขาสั้นสีครีมของธีร์ ซึ่งเขาทั้งสองเองนั่นแหละที่เป็นคนจับคู่เสื้อกับกางเกงแล้วเตรียมไว้ให้อีกคนในห้องน้ำ ส่วนสาเหตุที่ห้องมืดขนาดนี้เขาเองก็พอจะเดาออกว่าคนตัวเล็กอาจจะปิดม่านจนมืดสนิทเพราะม่านของเขามันเป็นม่านสีน้ำเงินเข้มเวลาที่ม่านถูกปิดก็จะทำให้ภายในห้องนั้นดูเหมือนตอนกลางคืนทันที ธารขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเอื้อมมือไปเปิดไฟด้านข้างประตู ทำให้ทั้งห้องกลับมาสว่างอีกครั้ง

 

“ หนู หนูคะ ตื่นได้แล้วค่ะ “ ธารแตะเข้าที่แขนเล็กแล้วเขย่าเบาๆเป็นการเรียกเพื่อให้ตื่นแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าอีกคนจะตื่นขึ้นมาเลยสักนิด

 

“ น้องกายคะ “ ธารเขย่าแขนเรียกอีกครั้งแล้วนั่งลงข้างๆคนตัวเล็ก ธารใช้โอกาสนี้สำรวจใบหน้าขาวของคนตัวเล็กอีกครั้งก็พบกับความสวยที่เขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนมี ใบหน้าเล็กของกายมองได้หลายแบบมาก ถ้าจะให้มองว่าเท่ห์ก็สามารถมองได้ในบางมุมเหมือนกันแต่ส่วนมากนั้นจะออกไปทางสวยหรือน่ารักเสียมากกว่า นั่นมันจึงไม่แปลกเลยที่ทั้งเขาและน้องชายต่างก็ลงความเห็นที่อยากจะได้คนคนนี้มาครอบครองเพราะว่ากายนั้นตรงสเปคที่พวกเขาทั้งสองคนชื่นชอบโดยเฉพาะริมฝีปากที่เวลาเถียงหรือพูดมันช่างดึงดูดเขามากเสียจริง

 

“ อื้ออ “ กายขยับตัวเล็กน้อยเพราะรู้สึกเหมือนโดนใครรบกวนเวลานอนของตัวเอง

 

“ ตื่นได้แล้วค่ะ ถ้าไม่ตื่นพี่จะปล้ำแล้วนะ “ ธารกระซิบขู่ที่ใบหูเล็ก ทำให้กายลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ

 

“ นี่!!! จะทำอะไรอ่ะ “ กายลุกขึ้นแล้วรีบเขยิบหนีไปพิงที่หัวเตียงทันทีด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าของธารอยู่ห่างจากเขาไม่มากนัก

 

“ หึหึหึ จะกลัวอะไรพี่นักหนาหื้มตัวเล็กพี่ไม่ทำอะไรหนูหรอกค่ะ พี่แค่จะมาปลุกหนูไปกินข้าว ไม่หิวหรือไง “ ธารพูดยิ้มๆและมองไปที่กายด้วยสายตาที่อ่อนโยน กายเองมองคนที่ท่าทางดูอ่อนโยนด้วยความไม่เข้าใจ ถึงเขาจะไม่ได้ไว้ใจอะไรคนตรงหน้าเลยแต่ในเมื่ออีกคนไม่ได้มีท่าทางที่คุกคามเขาเขาเองก็พอที่จะนิ่งเงียบไม่โวยวายอะไร

 

“ ..... “ กายเงียบไม่ได้ตอบอะไรแต่สายตายังคงมองธารด้วยความระแวงอยู่

 

“ ไปกินข้าวเถอะ พี่ไม่ทำอะไรหนูหรอกค่ะ ถ้าหนูไม่กินข้าวระวังจะไม่มีแรงมาทะเลาะกับไอธีร์มันนะ “ ธารแกล้งพูดขู่ยิ้มๆซึ่งมันเหมือนจะใช้ได้ผลเพราะแววตาของกายดูลังเลเล็กน้อย

 

“ ไปเถอะค่ะ พี่เองก็หิวแล้วด้วย หนูจะปล่อยให้พี่แสบท้องตายเลยหรอคะ “ ธารพูดอ้อนพร้อมกับเอามือกุมไปที่ท้องเล็กน้อยเพื่อให้คนตัวเล็กใจอ่อนยอมไปข้างนอกกับเขา

 

“ จะไปก็ได้ แต่ต้องสัญญามาก่อนว่าจะไม่ทำอะไร “ กายพูดอย่างระแวง

 

“ พี่จะไม่ทำอะไรหนูแน่นอนค่ะ พี่สัญญา “ ธารชูนิ้วก้อยขึ้นมาตรงหน้าคนตัวเล็ก  กายลังเลเล็กน้อยเมื่อเห็นนิ้วก้อยที่ถูกยื่นมาข้างหน้า

 

“ อืม “ กายยื่นนิ้วก้อยเข้าไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของธาร ธารมองคนที่ทำตัวน่ารักอยู่บนเตียงด้วยความหมั่นเขี้ยว เขาพยายามข่มใจไม่ให้จับอีกคนฟัดบนเตียงเพราะพึ่งสัญญาไปเมื่อสักครู่นี้

 

“ เราไปกินกันเลยเนอะ “ ธารพูดยิ้มๆแล้วยืนขึ้นพลางส่งมือมาข้างหน้าให้กายจับ กายมองมือนั้นนิ่งๆแล้วตัดสินใจเดินลงอีกฝั่งโดยที่ไม่ได้สนใจมือที่ค้างอยู่กลางอากาศของธาร  ธารเองก็ไม่ได้รู้สึกโกธรหรือโมโหกับการกระทำของคนตัวเล็กตรงหน้า กลับกันเขายังชอบเสียงด้วยซ้ำเวลาที่อีกคนเขินหรือรู้สึกประหม่ากับสิ่งที่เขาทำ

 

“ ไปค่ะ “ ธารพยักหน้าแล้วเดินไปเปิดประตูเพื่อให้กายเดินออกไปก่อน กายชะงักหันมองหน้าคนที่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษด้วยความรู้สึกตกใจนิดๆแต่ก็เดินผ่านร่างของธารออกไปนอกห้องโดยไม่ได้เอ่ยพูดอะไร ธารเองก็สังเกตุดูท่าเดินและก้มมองช่วงล่างของกายเพื่อสังเกตุดูว่าอีกคนมีท่าเดินที่ผิดปกติหรือไม่แต่ก็เห็นว่าคนตัวเล็กเพียงแค่เดินขัดๆเท่านั้น เมื่อทั้งสองได้มานั่งที่โต๊ะกินข้าวซึ่งอยู่ใกล้กับโซฟาตรงกลางห้อง กายมองไปที่อาหารตรงหน้าด้วยความอึ้งไม่น้อยเพราะเขาเองก็เป็นคนที่ชอบทำอาหารเหมือนกัน พอมาเห็นเมนูสี่ห้าอย่างที่อยู่บนโต๊ะแบบนี้มันก็ทำให้กายอดที่จะอึ้งไม่น้อย

 

“ นี่มึงทำเองหมดเลยหรอ “ กายหันมาถามคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ

 

“ ใช่ค่ะ พี่ตั้งใจทำให้หนูเลยนะ “ ธารพูดเสียงหวานพร้อมกับส่งยิ้มไปให้กาย

 

กายเมื่อเห็นรอยยิ้มและคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกวูบวาบในความรู้สึกแปลกๆ

 

“ อืม “ กายพยักหน้านิดๆแล้วนั่งลงเพื่อกินอาหารตรงหน้า ถึงแม้ว่าเขาเองไม่ได้อยากอยู่ที่นี่ไม่ว่ากับคนพี่หรือคนน้องแต่ที่เขาต้องยอมกินข้าวเพราะเขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ๆเขาจึงต้องกินข้าวเพื่อจะได้มีแรงมาต่อกรกับเสือทั้งสองที่จ้องจะงาบเขาอยู่

 

 

 

 

 

หลังจากที่กายและธารได้ทานอาหารจนหมดแล้วนั้น ธารก็อาสาที่จะเป็นคนเก็บจานและนำไปล้างเองทุกอย่างโดยที่มีกายยืนมองอย่างอึ้งๆอยู่เพราะไม่คิดว่าท่าทางแบบธารจะมาทำอะไรแบบนี้ให้คนอย่างเขา

 

“ วันนี้ไอธีร์มันไม่กลับมาห้องนะคะ พอดีว่ามันไปหาเพื่อนที่คลับ มันอาจจะมาที่นี่พรุ่งนี้ตอนเช้า “ ธารบอกในขณะที่กำลังล้างจานอยู่ซึ่งเขาได้ยืนหันหลังให้กับคนตัวเล็ก

 

กายที่นั่งอยู่บนโซฟาเมื่อได้ยินที่อีกคนบอกก็ชะงักไปนิดแต่ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจเพราะเขาไม่อยากเผชิญหน้ากับอีกคนมากนัก กายหันไปมองคนที่ยืนหันหลังให้ตัวเองด้วยความรู้สึกที่มีคำถามอยู่เต็มหัวไปหมดแต่กายก็เลือกที่จะเก็บคำถามพวกนั้นเอาไว้ก่อนเพราะยังไม่อยากพูดคุยกับคนที่ข่มขืนเขาเมื่อคืน

 

“ พี่ล้างจานเสร็จแล้วค่ะ หนูอยากดูหนังมั้ย “ ธารเดินมานั่งอยู่ข้างๆกาย

 

“ มึงเลิกพูดคะขาหรือหนูสักทีได้มั้ย กูเป็นผู้ชายนะ ฟังแล่วจะอ้วก “ กายพูดขึ้นและขยับหนีอีกคนที่นั่งอยู่ใกล้

 

ธารยิ้มน้อยๆเพราะเข้าใจในสิ่งที่อีกคนบอกแต่มีหรือที่คนนิสัยเอาแต่ใจแบบเขาจะยอมฟัง

 

“ นี่ท้องแล้วหรอคะ!? หึหึหึ พี่เห็นว่ามันน่ารักดีไงคะแล้วอีกอย่างเวลาที่พี่มองหน้าหนูแล้วพี่พูดคำหยาบคายไม่ลงหรอกค่ะ หนูเหมาะกับคำพูดเพราะๆมากกว่า “ ธารหัวเราะและพูดเสียงหวานพลางค่อยๆยื่นใบหน้าเข้าไปหาคนตัวเล็กนิดๆ กายเองก็จ้องมองดวงตาคมแล้วค่อยๆถอยใบหน้าออกมา

 

“ แต่กูเป็นผู้ชาย “ กายเถียงแล้วถอยไปนั่งจนร่างของเขาติดเข้ากับผนักพิงโซฟาอีกด้านนึง

 

“ พี่ก็ไม่ได้บอกนี่คะว่าหนูเป็นผู้หญิง เอาเป็นว่าพี่จะพูดของพี่แบบนี้ ส่วนหนูเองพี่ก็อยากให้หนูพูดกับพวกพี่เพราะๆเหมือนกันนะคะเพราะพี่กับไอธีร์ไม่ค่อยชอบคนพูดไม่เพราะสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าคนนั้นเป็นเมียพวกพี่แบบหนู “ ธารที่ยิ้มแล้วพูดในตอนแรกแปลเปลี่ยนเป็นสีหน้าและดวงตาที่จริงจังขึ้น  กายเองก็จ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน

 

“ แล้วถ้ากูไม่พูดละ “ กายมองไปที่ธารด้วยใบหน้าที่ท้าทาย

 

“ หนูคงไม่อยากเห็นไอธีร์ในร่างเมื่อเช้าอีกหรอกนะ “ ธารกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายๆ

 

ถึงเขาจะรู้จักร่างเล็กได้ไม่นานแต่ก็พอจะเดาออกว่าคนตัวเล็กคงจะดื้อและแสบไม่ใช่น้อยเหมือนกันแต่มีหรือที่เขาและธีร์จะยอม  

 

“ มึงขู่กู? “ กายถลึงตามองอีกคนเพราะเริ่มรู้สึกโมโหที่โดนอีกคนขู่แบบนี้

 

“ หนูเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจนะคะว่าพี่ขู่หรือเปล่า “ ธารพูดแค่นั้นแล้วก็ลุกขึ้น

 

“ เอาเป็นว่าวันนี้พี่จะปล่อยให้หนูนอนที่นี่ได้อย่างสบายใจไปก่อน พรุ่งนี้พี่กับไอธีร์จะเข้ามาหาหนูอีกครั้งและพี่จะมาถามหนูว่าหนูจะยอมอยู่ที่นี่กับพวกพี่หรือเปล่า “ ธารพูดและจ้องมองคนตัวเล็กพลางส่งสายตาให้อีกคนรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเขาพูดจริง

 

“ กูไม่อยู่!! พวกมึงจะมาบังคับกูได้ยังไง! “ กายตะคอกออกมาทันทีเมื่อได้ยินข้อตกลงที่ร่างสูงตรงหน้าพูดเหมือนมัดมือชกเขาแบบนี้

 

“ หึ เชื่อพี่เถอะคะ หนูไม่อยากเสี่ยงหรอก “ คำพูดและสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นนิ่งขึ้นจนทำให้กายที่ฮึดสู้เมื่อสักครู่รู้สึกหวั่นใจทันทีด้วยความกลัว

 

“ พี่จะไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้นะคะ เอาเป็นว่าพี่ให้เวลาหนูคิดก็แล้วกัน แล้วอีกอย่างนะคะตัวเล็ก.. “ ธารเว้นช่องว่างในการพูดเล็กน้อยแล้วก้มลงไปหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่จนใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่มากนัก กายคิ้วขมวดเพราะรอฟังประโยคข่มขู่ของอีกฝ่าย

 

“ ถ้าหนูคิดจะปฎิเสธพวกพี่ หนูเตรียมตัวเดือดร้อนได้เลย หนูอาจจะยังรู้จักพวกพี่ได้ไม่ดีพอแต่เชื่อพี่เถอะว่าการหาประวัติของหนูมันไม่อยากหรอก “ ธารกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายๆแล้วหอมแก้มขาวไปหนึ่งฟอด

 

“ พี่ไปก่อนนะคะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ ตัวเล็กของพี่ “ ธารกลับมาพูดเสียงหวานอีกครั้งพลางลูบหัวเล็กของกายเบาๆและเดินออกไปทางประตูทันที ทิ้งให้กายที่โดนหอมแก้มเมื่อสักครู่รู้สึกปรับอารมณ์ไม่ถูกกับการกระทำและคำพูดที่อีกคนได้แสดงออกเมื่อสักครู่นี้

 

เมื่อประตูถูกปิดลง นั่นก็ทำให้กายถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเพราะเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้เขานั่งตัวเกร็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

 

“ มะ..เมื่อกี้ที่มันพูด เรื่องจริงหรอวะ แล้ว..แล้วกูต้องทำไงดีวะเนี้ยยย “

 

“เออใช่! โทรศัพท์ “ กายพูดกับตัวเองอย่างนึกขึ้นได้และหาโทรศัพท์ทันทีเพราะเขาต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนๆและรุ่นพี่ที่สนิท แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอจนทำให้กายเริ่มท้อใจและคิดได้ว่าคนใดคนหนึ่งต้องเก็บโทรศัพท์ของเขาไปแน่ๆ เมื่อคิดได้แบบนี้มันก็ทำให้กายต้องมานั่งที่โซฟาอีกครั้งอย่างคนคิดไม่ตกเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ในหัวของกายตอนนี้มีคำถามมากกว่าเดิมไม่รู้กี่คำถาม กายนั่งคิดไปเรื่อยๆจนในที่สุดกายก็ตัดสินใจได้ว่าจะทำยังไงกับวันพรุ่งนี้

 

“ เห้อ! “ กายถอนหายใจออกมาและเดินเข้าไปในห้องนอนทันทีเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อแล้ว

 

กายนอนเล่นนั่งเล่นสักพักก็เริ่มรู้สึกง่วงอีกครั้งจึงล้มตัวลงนอนเพื่อจะเก็บแรงเองไว้ต่อกรกับทั้งสองคนในวันพรุ่งนี้

 

 

++++++++++

#ถ้าไม่สนุกยังไงติชมกันได้นะค้าาา

 

 

 

25/12/2564
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป