Translator: AKS Team
เสียงแหลมของหลิวชุนเซี่ยบาดหูคนฟัง ทุกคนขมวดคิ้วตามสัญชาตญาณ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีความประทับใจที่ดีต่อแม่ของหลี่หยุนเหม่ย ผู้หญิงคนนี้จัดฉากให้หลี่หยุนเหม่ยดูบาดเจ็บหนัก ทว่าไม่สามารถกระตุ้นความเห็นใจของใครได้
ทางด้านหลี่หยุนเหม่ยที่นั่งบนรถเข็น ทำหน้ารู้สึกผิด เธอแสดงได้ดี
“คุณหลิว ในเมื่อนักเรียนเจียนอ้ายก็อยู่ที่นี่แล้ว มันก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าโรงเรียนของเรากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด” ในขณะนั้นครูใหญ่ ‘ซุนป๋อโหยว’ เดินไปข้างหน้าและพูดกับแม่ของหลี่หยุนเหม่ย “พวกเราทุกคนรู้ว่าคุณรู้สึกแย่ แต่ในเมื่อเป็นเหตุการณ์ที่นักเรียนได้รับบาดเจ็บ ในฐานะโรงเรียน เราจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างแน่นอน หากโรงเรียนของเราละเลยต่อหน้าที่ พวกเราก็หนีไม่พ้นความผิดนี้ ส่วนนักเรียนเจียนอ้าย หากมันเป็นความผิดของเธอ ทางเราจะลงโทษเธออย่างแน่นอน และจะให้คำอธิบายที่น่าพอใจแก่คุณ”
คำพูดของครูใหญ่ซุนนั้นยุติธรรมและเป็นกลาง ในฐานะครูใหญ่ของเอ้อจง เขามีความชอบธรรมที่มองไม่เห็นซึ่งทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะดูหมิ่น
ได้ยินเช่นนั้น หลิวชุนเซี่ยก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และจ้องเจียนอ้ายด้วยสายตาดุร้าย เธอพูดว่า “ก็ได้ แต่ว่าฉันอยากฟังคำอธิบายของเธอ โรงพยาบาลพิสูจน์อาการบาดเจ็บของลูกสาวฉันแล้ว เธอจะปฏิเสธยังไง?”
เมื่อเห็นว่าในที่สุดหลิวชุนเซี่ยก็หยุดตะโกน ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ครูใหญ่ซุนมองผ่านครูหลี่ไปที่เจียนอ้าย เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “นักเรียนเจียนอ้ายใช่ไหม? บอกพวกเราว่าทีสิว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับหลี่หยุนเหม่ยหลังเลิกเรียนเมื่อวานนี้ พวกเธอตบตีกันรึเปล่า? ขาของหลี่หยุนเหม่ยได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”
“บอกครูใหญ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่ต้องกลัว” ครูหลี่ไม่ลืมให้กำลังใจเจียนอ้าย
เจียนอ้ายพยักหน้า เธอเดินออกมาจากด้านหลังครูหลี่ขึ้นมาข้างหน้า ร่างกายเล็กกะทัดรัดของเธอตั้งตร
“หลังจากเลิกเรียนเมื่อวานนี้ กวนเตากับหนูกำลังจะเดินไปขึ้นรถบัสเพื่อกลับบ้าน....”
ความทรงจำเมื่อวานยังกระจ่างชัดเจน เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว น้ำเสียงของเธอราบเรียบราวกับว่าเธอกำลังเล่าเรื่องของคนอื่น
ประโยคสุดท้าย เจียนอ้ายก็ไม่ลืมที่จะพูดเสริมว่า “อาการบาดเจ็บของหลี่หยุนเหม่ยเกิดจากการเตะของเธอเอง ถ้าเธอไม่ออกแรงมาก เธอจะได้รับบาดเจ็ดขนาดนี้ได้ยังไงคะ? ถ้าตอนนั้นหนูไม่ได้หลบตามสัญชาตญาณ คงจะเป็นหนูที่ต้องนอนในโรงพยาบาลในวันนี้”
“เหลวไหล!”
หลี่หยุนเหม่ยอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกเมื่อ เธอตะโกนใส่เจียนอ้ายด้วยใบหน้าแดงเข้ม
“เจียนอ้ายไม่พูดเหลวไหล หลี่หยุนเหม่ย เรื่องเมื่อวานนี้เป็นเธอที่เป็นคนเริ่มก่อนนะ” กวนเตาที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบเอ่ยปากเป็นพยานให้เจียนอ้าย
“อายุแค่นี้ก็อำมหิตขนาดนี้แล้วเหรอ? เธอไม่รู้สึกผิดเลยรึไงที่ทุบตีเพื่อนร่วมห้องแบบนั้น?!” หลิวชุนเซี่ยไม่เชื่อเจียนอ้าย ลูกสาวของเธอบอกว่าเจียนอ้ายเป็นคนก่อเรื่อง
“รู้สึกผิด? ทำไมหนูต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะคะ?” เจียนอ้ายไม่สนใจแม่ของหลี่หยุนเหม่ยแม้แต่น้อย เธอพูดช้าๆ ว่า “มันเหมือนกับว่าจู่ๆ หมูก็วิ่งเข้าหาหนูอย่างสุดกำลัง ในฐานะคนปกติ หนูก็ต้องหลบเลี่ยงตามสัญชาตญาณอยู่แล้ว จากนั้นหมูตัวนั้นก็ชนต้นไม้เอง หนูจะต้องถูกตำหนิงั้นเหรอคะ? หนูต้องรู้สึกผิดต่อหมูด้วยหรือเปล่า?”
ทุกวัน