หลินอียังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่เจียนอ้ายไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเขาแล้ว
“มีอะไร?”
เจียนอ้ายเป็นคนพูดก่อน ไม่มีความเสน่หาในน้ำเสียงของเธอ ราวกับว่าจดหมายรักโดยบังเอิญไม่มีผลใดๆ ต่อตัวเธอเลย
หลินอีขมวดคิ้วเบาๆ ทำตัวเองให้ดูเป็นผู้ใหญ่ เขาจ้องเจียนอ้ายเขม็งก่อนจะพูดว่า “ฉันเห็นแล้ว หลี่หยุนเหม่ยกำลังจะหาเรื่องเธออีกแล้ว ใช่ไหม?”
หลินอีถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดต่อ “ฉันไม่คิดว่าจะมีปัญหามากมายขนาดนี้ในตอนแรก ฉันรู้ว่าเธอถูกผลักลงไปในสระ และมันเป็นความผิดของฉันทั้งหมดคนเดียว เธอถึงถูกรังแกแบบนี้”
“ถ้านายรู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะนาย ถ้างั้นทำไมนายถึงไม่อยู่ให้ห่างจากฉัน? คนพวกนั้นจะได้ไม่หาเรื่องฉันไงล่ะ” น้ำเสียงของเจียนอ้ายราบเรียบ หลินอีไม่สามารถบอกได้ว่าเธอโกรธหรือไม่ได้โกรธกันแน่
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของเจียนอ้ายทำให้หลินอีประหลาดใจ เธอไม่เคยกล้าสบตาเขาตรงๆ มาก่อนหรือแม้แต่พูดเสียงดังกับเขา ทุกครั้งที่พวกเขาพบกันที่โรงเรียน เธอจะแอบมองเขาเล็กน้อยก่อนจะละสายตาไปอย่างรวดเร็ว
น้ำเสียงและท่าทางของเธอในตอนนี้ทำให้เธอดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หลินอีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและรู้สึกไม่คุ้นเคย
หลังจากตั้งสติได้ หลินอีก็พยักหน้าเบาๆ และพูดว่า “ฉันรู้แล้ว ฉันแค่อยากขอโทษ ถ้าฉันไม่พนันกับหยวนเถียน เธอก็ไม่ต้องถูกผลักลงสระน้ำ”
“แล้วนายชนะพนันรึเปล่าล่ะ?”
อยู่ๆ เจียนอ้ายก็ถามหลินอี
หลินอีนิ่งไป ใช้เวลาชั่วครู่กว่าเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาพยักหน้าเบาๆ อย่างคนโง่งม “ชนะ”
อยู่ๆ เจียนอ้ายก็รู้สึกว่ามันตลกดี เมื่อนึกถึงความสนใจของเธอที่มีต่อตัวหลินอีแล้วเปรียบเทียบกับฉากนี้แล้ว มันค่อนข้างตลก
เจียนอ้ายเม้มริมฝีปากและพูดว่า “ฉันจะให้โอกาสนายขอโทษ นายชนะเดิมพัน ดังนั้นนายต้องให้เครดิตฉันครึ่งหนึ่ง พิจารณาจากที่ฉันต้องเผชิญความโกรธแค้นจากบรรดาแฟนคลับของนายแล้ว นายต้องเลี้ยงอาหารกลางวันฉันที่โรงอาหารเป็นเวลาหนึ่งเดือน”
“ห๊ะ?” หลินอีตามความคิดของเจียนอ้ายไม่ทัน เขาดูสับสน
ไม่ใช่เธอเพิ่งบอกเขาให้อยู่ห่างจากเธอเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนไม่ใช่เหรอ?
“เธอเพิ่งบอกฉันให้อยู่ห่างจากเธอ...” หลินอีถามพลางขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
เจียนอ้ายกระพริบตา “ฉันขอกลับคำพูด ฉันตกลงไปในสระน้ำโดยไม่ได้อะไรเลยไม่ได้ ฉันถูกหลอกและยังป่วยหนัก! อีกอย่าง นายไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอโทษหรอกเหรอ? นายแค่จะขอโทษเฉยๆ แล้วจบกันไปงั้นเหรอ? นายต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อที่ฉันจะได้เห็นความจริงใจของนายสิ!”
หลินอีไม่รู้ว่าทำไมเจียนอ้ายถึงร้องขอเช่นนั้น แต่เขารู้สึกว่าคำพูดของเธอสมเหตุสมผล เขาเป็นผู้ชาย ดังนั้นเขาจึงต้องรับผิดชอบ
หลินอีพยักหน้าตกลง “ได้ อาหารกลางวันหนึ่งเดือน เธออยากกินอะไรก็ได้ที่เธออยากกิน ฉันเลี้ยงเอง”
จากนั้นเจียนอ้ายก็มองหลินอีด้วยความพึงพอใจ “เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปเถอะ คาบเรียนจะเริ่มแล้ว”
ทันทีที่เธอพูดจบ เจียนอ้ายก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปในห้องเรียนโดยหันหลังให้หลินอี
หลินอียืนอยู่บนทางเดินและจ้องมองอย่างว่างเปล่าที่ประตูของห้องสาม เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะค่อยๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและจากไป
หลินอีรู้สึกผิดตั้งแต่เขารู้ว่าหลี่หยุนเหม่ยผลักเธอลงไปในสระน้ำ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจียนอ้ายก็แล้วไป แต่เขาจะเป็นคนถูกตำหนิถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น
ตอนนี้เจียนอ้ายต้องการการชดเชย หมายความว่าเธอเต็มใจให้อภัยเขา และด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกโล่งใจ
ทุกวัน