ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
จับไดอารี่ยัดใส่ใต้รักแร้ไปอีกที พลันผินหน้ากลับมาดูภาพต่างๆ ที่แขวนไว้เต็มสองฟากผนัง ดูจากหมุดหมายและตำแหน่งการห้อย คงเป็นฝีมือของพ่ออีพีเป็นแน่แท้เพราะมันสูงเท่ากับระดับสายตาแกพอดี แล้วภาพส่วนใหญ่เกิน 90% ก็เป็นภาพของภรรยาที่ชื่อว่า “นุช”
.
“สวยจังแฮะ… นี่ไล่มาตั้งแต่สมัยคุณแม่ยังสาวเลยนะเนี่ย… โอ้โห!”
แพรวขยี้ขอบตา ด้วยเพราะอยากจะปรับโฟกัสให้มันเข้าท่า แม้จะรู้สึกว่าเมาอยู่หน่อยๆ
.
“ผมยาวเหมือนเราเลยด้วย… ถึงว่าทำไมพ่อถึงคิดว่าเป็นเรา ว่าแต่แกหายไปไหนอ่ะ? ..ไปมีผัวใหม่เหรอ? พ่อถึงได้ฟูมฟายขยันเมาหัวราน้ำขนาดนั้น?”
.
ยิ่งคิดก็ยิ่งมึน สองเท้าก็ยิ่งเดินลึกเข้ามาเรื่อยๆ จนเผลอทะลุข้ามโซนห้องทดลองไป ความสวยจากรูปถ่ายพาแพรวที่เมามายก้าวผ่านมาถึงโซนอยู่อาศัยที่เป็นดั่งสถานที่หลับนอนของคนในบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวอะไรเลย! แค่จำได้ลางๆ ว่าพ่อเคยเดินเข้ามาหยิบผ้าเช็ดตัวแถวนี้หนหนึ่ง แล้วก็กลับออกมาพร้อมกับไดอารี่และอัลบั้มรูปที่ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าผ้าเช็ตตัวสักนิด! จึงเป็นไปได้สูงว่าห้องของพีก็น่าจะอยู่แถวนี้เช่นกัน
.
“อ่าาาา….เพื่อความฟินและได้อารมณ์ของฉัน ฉันต้องหาห้องของแกให้เจออีตุ๊ดกอลิล่า”
.
“แต่ถ้าพลาดไปโผล่ที่ห้องคุณพ่อขึ้นมาล่ะก็! ก็ตัวใครตัวมัน! หวังว่าพ่อแกคงไม่ถูกฉันปล้ำล่ะกันเน๊อะ… แกก็รู้นี่ว่าถ้าฉันเมาฉันมักจะเxี่ยน..น..น”
.
“อึก…ก…ก…ก…ก โอ๊ยมึนจังโว๊ยยย!! เบียร์คนแก่แม่งโคตรแรงงง ยังไงซะก็ต้องเป็นหนึ่งในบานประตูตรงนี้นี่แหละที่เป็นห้องของมึง..อีพี?”
.
แอลกอฮอล์ออกฤทธิ์แรงขึ้นเรื่อยๆ ไดอารี่ที่หนีบอยู่ใต้วงแขนก็จวนจะหลุดมิหลุดแหล่ และด้วยความที่เป็นสาวงามผู้มีคาแรกเตอร์ยอมหักไม่ยอมงอ ต่อให้เมาแค่ไหนจิตสุดท้ายที่คิดจะเสือกไดอารี่เพื่อนให้ได้ ก็ต้องดำเนินต่อไปตามนั้น! อ่านหนังสือจำเป็นจะต้องมีบรรยากาศ ไม่งั้นนักเขียนจะชอบไปนั่งเขียนงานในร้านกาแฟทำไม แล้วทำไมตามผับบาร์ถึงไม่มีเนิร์ดไปท่องตำราสอบกันล่ะจริงไหม?!
.
เหตุผลโคตรจะดูดีแต่ที่นี่กลับมีประตูห้องตั้งตระหง่านอยู่ถึง 4 บาน พอเอา 3 ซึ่งเป็นจำนวนสมาชิกในบ้านหาร แม่งเสือกไม่ลงตัว! นั่นจึงเท่ากับว่า! ถ้าอยากได้บรรยากาศในการเสือกไดอารี่ของชาวบ้านจริงๆ แพรวคงต้องสุ่มเข้าไปดู!
.
“อึกกกก…ก…ก…ก อึก..ก..ก เอาล่ะเอาบานนี้ล่ะ”
.
“กึก!”
“แอ๊ดดดดดดด!!!!”
.
ประตูบานในสุดแง้มเปิดออกเสียงดังลากยาว ข้างในมืดสนิทแต่ก็ไม่คณามือต่อมอยากรู้อยากเห็นของเธอไปได้! แพรวก้าวเท้าเข้าไปข้างใน พลันชะงักงันให้กับกลิ่นฉุนของน้ำหอมที่คลุ้งขึ้นมาตีจมูก!!! ครั้นพอลองวาดฝ่ามือเกลี่ยไปรอบๆ ดู ก็ชนเข้ากับชุดเสื้อผ้ามากมายที่แขวนไว้ไปทั่ว!
.
“อะไรอ่ะ? ผ้าม่านหรอ? นี่ห้องเก็บของรึไง? แล้วกลิ่นมาจากไหน??? หรือเราเมา..???”
เพื่อความแน่ใจนิสิตสาวก็เลยเพ่งสมาธิกลับหลังหัน ย้อนมาทางประตูหน้าเพื่อควานหาสวิทซ์ไฟที่น่าจะอยู่บริเวณนั้น
.
แต่ทว่า!
.
“ปึง!!!”
.
“แอ๊ดดดดดด..ด…ด…ด..ด”
.
“ปึงงง!!!! , แกร๊กๆ!!!”
ประตูมันดันปิดล็อคตัวเอง!
.
แล้วจากที่มืดๆ อยู่ จู่ๆ วงกบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็เรืองแสงสีแดงสว่างโล่ออกมาเต็มกรอบประตู! พร้อมกับฉายให้เห็นหน้าจอคำสั่งขนาด 30 X 30 ซม. ที่ติดตั้งไว้ข้างๆ วงกบ มันขึ้นข้อความคำว่า “Lock On & Press password” ปรากฎขึ้นมาบนจอ ส่วนสวิทซ์ไฟที่มองหานั้นอยู่ถัดจากสิ่งนี้ขึ้นไปราว 1 ไม้บรรทัด
.
“อ่าว! ซวยแล้วไหมล่ะ!”
.
ส่างสิจ๊ะจะเหลือเหรอ! จากเมาๆ อยู่เหมือนถูกหลวงพ่อตีด้วยระฆังโบสถ์ จิตใต้สำนึกสว่างเจิดจ้าเมื่อรู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกขัง!
.
“เฮ๊ย! อะไรคะเนี่ย….ปล่อยฉันออกไปนะ!”
.
เขย่าลูกบิดโครมๆ เอาหัวไหล่กระทุ้งเป็นสิบๆ ครั้งก็ไม่ได้ผล ครั้นจะตะโกนด้วยคีย์เสียงแบบแจ๊ส ชวนชื่นก็ไม่ได้ช่วย! มีก็แต่แสงสีแดงตรงวงกบที่สว่าง วาบ…วาบ…วาบ…วาบ…ในทุกๆ ครั้งที่แพรวสัมผัสโดนประตู! นี่มันระบบบ้าบออะไรกัน? กะจะขังทุกคนที่บุกเข้ามาในนี้กันเลยรึ?
.
“ต้องเป็นขั้นตอน security ของที่นี่แน่ๆ บังเกอร์ใต้ดินที่มีประตูอัตโนมัติใส่รหัส ประสาอะไรกับห้องส่วนตัว?! ยังไงก็ต้องมีระบบกันคนเข้าออกอยู่แล้ว! โถ่เอ๊ย! เราไม่น่าโง่เลย! ห้องพวกนี้มันไม่ได้กันคนเข้า แต่มันกันคนออก! , เวรๆๆๆ เวรแท้ๆ!”
.
“ปล่อยนะโว๊ย!! ปล่อยฉันออกไป!”
.
“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม!”
.
ทุกอย่างเป็นไปตามที่แพรว Ver.ส่างเมาสันนิษฐาน! เพราะนี่คือเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่พ่อของพีคิดค้นขึ้น! มันมีไว้สำหรับดักจับขโมยที่จะเข้ามาแอบดูผลแลปหรือโจรกรรมข้อมูลสำคัญทางการทดลอง พวกเขาไม่สามารถกันคนให้ลงมาที่นี่ได้ทั้งหมด แต่สามารถกักโจรเอาไว้ในห้องได้ ตราบใดที่ไม่มีรหัสมากรอกใส่จอทัชสกรีนประตูห้องก็จะไม่เปิด!!!
.
กรรมก็เลยมาตกอยู่ที่แพรวเต็มๆ ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว นี่ถ้าไม่คิดอยากเสือกเรื่องชาวบ้านและรื้อค้นห้องคนอื่นเธอคงไม่ตกอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้ ได้กลายเป็นสตรีแห่งเงาดำที่นั่งคุกเข่าอยู่หลังประตูอย่างหมดอาลัยตายอยาก!
.
แต่ทว่าด้วยท่วงท่าการนั่งดังกล่าว ก็ได้ทำให้สมุดไดอารี่ที่เหน็บอยู่ใต้รักแร้ร่วงหลุดออกมาโดยบังเอิญ!
.
“ตุบ!”
.
“เอ๋?!”
“โอเค๊!! …ฉันไม่ยอมแพ้หรอก! ไหนๆ ก็ต้องหมกตัวอยู่ในห้องฉุนๆ นี้อยู่แล้ว สู้เอาเวลามาอ่านไดอารี่เล่มนี้เลยดีกว่า มาดูกันซิว่าพ่ออีพีเขียนอะไรเอาไว้บ้าง? บางทีอาจจะมีเบาะแสของรหัสอยู่ด้วยก็ได้!”
“แจ๋ว! …เอาแบบนี้แหละสุดยอดไปเลย!!!”
.
ตบเข่าฉาด! ประหนึ่งถูกรางวัลกาชาดเป็นชุดผ้านวมโตโต้ แพรวเหมือนมีไฟขึ้นมาอีกครั้ง! สติสตังค์เธอกลับมาครบถ้วนสมบูรณ์ ด้วยเพราะกลิ่นน้ำหอมที่ชวนเมายิ่งกว่าเหล้าที่กินเข้าไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรหรอก! ตอนนี้สาวเจ้าได้ขืนตัวเองลุกขึ้นยืนเป็นที่เรียบร้อย ในมือถือสมุดไดอารี่เอาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็ปาดข้ามหน้าจอทัชกรีนไป แล้วไปหยุดอยู่ที่สวิทซ์ไฟที่อยู่ด้านบน
.
“คลิก!”
.
กดเบาๆ ไฟก็สว่างจ้า… หลอดฟูลออเรสเซนต์ธรรมดาไม่มีนวัตกรรมล้ำโลกอะไร แต่ก็ให้ความสว่างสดใสจนเห็นทุกอย่างในห้องนี้ชัดเจน! แล้วก็จริง! ที่มันสร้างความประทับใจให้แพรวอยู่ไม่น้อย
.
“ชะ…ชุดผู้หญิงเต็มไปหมดเลย ถึงว่าล่ะทำไมถึงได้กลิ่นน้ำหอม?!”
“ที่แท้ก็มาจากกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มนี่เอง..”
.
ไฟมา! มาทั้งไฟฟ้าแล้วก็ไฟแห่งนักเสือกที่โชติช่วงขึ้นมาในกระแสจิต แพรวพบว่าห้องๆ นี้ไม่ใหญ่โตมากนัก ขนาดพอๆ กับห้องนอนทั่วไป มีตู้เสื้อผ้า , มีเตียง , แล้วก็มีโต๊ะเครื่องแป้งแบบผู้หญิง มันทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย! ว่านี่น่าจะเป็นห้องของคุณแม่ที่ชื่อว่า “นุช”
.
เธอพยายามเอียงข้างแล้วแทรกตัวผ่านบรรดาเสื้อผ้าที่แขวนไว้บนราวอยู่เต็มห้อง ก่อนจะสังเกตเห็นว่าทั้งหมดล้วนเป็นชุดของผู้หญิง พอดูจากขนาดไซต์ทรงก็เป็นแบบของคนที่มีอายุสักหน่อย
.
“ต้องเป็นของคุณแม่แน่ๆ”
แพรวคิด
.
เธอยังคงซุกซนต่อด้วยการลองเปิดตู้เสื้อผ้าดู ซึ่งก็แน่นอนว่าย่อมอัดแน่นไปด้วยของใช้ของผู้หญิง มีกล่องเครื่องประดับ , มีชุดเครื่องเพชร , กล่องทองคำที่วางซุกไว้ตรงมุมตู้ บริเวณที่เป็นราวแขวนก็เต็มไปด้วยเสื้อผ้าอีกเช่นกัน มีทั้งแบบที่เป็นเสื้อยืดธรรมดาที่พับไว้อย่างเป็นระเบียยแล้วก็แบบห้อย ทั้งหมดดูปกติมีแค่อย่างเดียวที่แพรวคิดสงสัย นั่นก็คือ.. ของพวกนี้เหมือนไม่เคยถูกใช้งานเลย!
.
ไม่มีฝุ่นซักเม็ด! ทุกซอกทุกมุมหอมฟรุ้ง! ราวกับมีการทำความสะอาดอยู่ตลอด ติดก็แค่มันดูร้างเหมือนไม่มีคนอยู่มานานแสนนาน แพรวก็เลยผละตัวออกมาจากตู้แล้วเดินมาดูที่เตียง
.
“ไม่มีผ้าปูแฮะ…? แต่มีชุดเดรสสีเบสวางอยู่ตัวหนึ่ง”
“แล้วนี่อะไร? รอยบุ๋มเหมือนมีคนมานอนทิ้งไว้เลยอ่ะ!?”
.
สาวเจ้าถึงกับเผลออุทาน! ด้วยความสัตย์จริงเพราะหลังจากเอามือไปอังดูแล้ว ก็พบว่ามันยังอุ่นๆ อยู่เลย บวกกับความลึกของรอยบุ๋มที่มากกว่า 3 ซม. นั่นทำให้เธอคิดถึงรอยบุ๋มบนโซฟาตอนที่เธอร่วมรักกับพีไม่มีผิด!
.
ภาพในหัวชักจะจินตนาการไปไกลแสนไกล จนกระทั่งตัดสินใจทิ้งร่างบางของตัวเองลงบนเตียง หล่อนมองดูร่องรอยพร้อมกับวัดขนาด มีความเป็นไปได้สูงเหลือเกินที่ร่องรอยการนอนใหม่เอี่ยมนี้จะเป็นรอยของผู้ชาย คงจะมีการพลิกคว้ำพลิกหงาย แล้วก็ใช้ชุดเดรสชุดนี้เกลียกลายเสียดสีกับตัวเอง
.
“เดี๋ยวนะ! ตรงหน้าอกของชุดมีรอยยับที่ผิดธรรมชาติด้วย!”
แพรวพูดกับตัวเอง พลางจับมันขึ้นมาแนบกับใบหน้า แล้วหันให้ตรงกับรอยยับ
“นั่นไง! .. พอดีเป๊ะเลย! แสดงว่าจะต้องมีคนใช้ชุดพวกนี้สำเร็จความใคร่! , ในห้องๆ นี้! , บนเตียงๆ นี้! , แล้วก็เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ นี่เอง!!! "
“อ๊ายยย! ….น่าเกลียดน่ากลัว!”
.
คิดได้ดังนั้นก็ถึงกับสะดุ้งโหยงดีดตัวเองลุกขึ้นยืน แต่ก็ได้แค่แป๊บเดียวสุดท้ายก็ต้องกลับมานั่งลงตามเดิมอีกครั้ง
.
“ฟุบ!!!”
เตียงเด้งดึ๋งดั๋ง
.
“อีแพรว…อีบ้า! เค้าอาจจะนอนด้วยความถวิลหาก็ได้ อาจจะเป็นพ่อที่คิดถึงแม่มากแล้วเอาชุดมาสูดดมให้หายคิดถึง หรืออาจจะเป็นพีที่คิดถึงแม่จนต้องทำแบบเดียวกัน”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจะน่าสงสารมากเลยนะ… แกนี่มันจิตใจอกุศลเหลือเกิน! ทั้งโดนเอาทั้งเมาเหล้าปะปนกันนั่นแหละถึงคิดอะไรลามกแบบนี้ออกมาได้…เฮ้อ..!”
.
แพรวตำหนิตัวเองกึ่งขำขันอยู่ในที ก่อนที่ต่อมาเธอจะหยิบไดอารี่ขึ้นมาถือไว้บนมือ จัดระเบียบแข้งขาขัดสมาธิให้เรียบร้อย พลันพลิกไปหน้าแรกแล้วก็เริ่มอ่านมันจากบนเตียงของคุณแม่นั่นเอง!
.
.
“วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1999 / กลางคืน / พีไม่สบาย”