Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 36 : จุดสะกิด)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 36 : จุดสะกิด

  • 27/10/2564

“กรี๊ดดดดดดด!”

“พ่อคะ! พ่อจะกินเหล้าด้วยการฉีดเข้าเส้นไม่ได้!!!”

แพรวแทบจะสำลักเอาแอลกอฮอล์ที่กระดกลงคอไปเมื่อครู่ออกมา ดวงตาเธอถลนทมึงทึง! พลันกุลีกุจอลุกขึ้นพรวดพราดหวังจะปรี่เข้าไปห้าม! เดชะบุญที่ถูกพ่อห้ามเอาไว้ แกหงายฝ่ามือขึ้นแล้วก็อมยิ้ม ยิ้มแบบเมาๆ ตามสไตล์แกนั่นแหละ

.

“ชู่วววววววว!!!!”

“นั่งเถอะนุช… ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้… ประเทศนี้แม้แต่สุราก็ตอบสนอง Demand ของฉันไม่ได้! เก็บภาษีมากมายแต่แอลกอฮอล์ก็ไม่เคยจะแรงขึ้นเลย โคตรกระจอก… โคครไร้ค่า…”

“โอ๊กกกก…ก..ก..ก..ก , อึก..ก..กๆ”

กระอึกกระอักในลำคอ คางแทบจะแนบคาอยู่บนโต๊ะ เหลือแต่ดวงตาที่ยังคงเผยอมองมาทางแพรวแบบไม่ลดลาวาศอก

.

กลายเป็นรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านเล่นงาน จนสาวเจ้าเริ่มจะทำอะไรงกๆ เงิ่นๆ เพราะเธอเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับพ่อของพีเท่าไหร่นัก! ครั้นจะห้ามปรามหรือพูดอะไรออกไปก็โดนพ่อพูดดักทางเอาไว้หมด! แล้วก็เป็นการพูดแบบมะนาวไม่มีน้ำจับต้นชนปลายอะไรไม่ได้ เข้าขั้นถามอย่างตอบอย่างเหมือนกับคุยกับ “ดาว ขำมิน” เวอร์ชั่นอนาล็อคอย่างไงอย่างงั้น! จนสุดท้ายแพรวก็เลือกที่จะเงียบ.. เธอกระดกแก้วเบียร์กินไปพลางฟังพ่อพล่ามเรื่องของพีไปเพลินๆ

.

กลับดีซะอีก! เพราะเธอเองก็ไม่เคยรู้เรื่องของเพื่อนสนิทคนนี้นัก เจอกันครั้งแรกก็ตอนโตเป็นหนุ่มสาวมหาลัยกันแล้ว ตอนพีเป็นเด็กเขาผ่านชีวิตมายังไงแพรวแทบจะไม่รู้เลย! พีเคยเป็นเด็กผู้ชายมาก่อนรึเปล่า? เขาไปทำอีท่าไหนถึงได้เสียทรงจนกลายเป็นกระเทยคิงคองเฉกเช่นปัจจุบัน แค่เงียบแล้วก็ฟัง! บางทีวันนี้อาจจะเป็นฤกษ์งามยามดีให้เรื่องของเขาได้คลายตัวออกจากโลกแห่งความลับก็เป็นได้!

.

“ดูในอัลบั้มรูปสินุช…เปิดหน้าแรกมีรูปพีตอนป.1 ตอนขึ้นอ่านเรียงความในงานวันเด็กด้วยนะ ลูกเราฉายแววมากเลย”

.

กระดกเบียร์ลงคอไปหนึ่งแก้ว แพรวทำตามอย่างว่าง่ายจนหลังๆ คนเป็นพ่อแทบไม่ต้องพูดอะไร หญิงสาวปล่อยตัวปล่อยใจจมลงไปในความขำ ความเพลินเพลินที่ได้เห็นรูปเพื่อนในอิริยาบถต่างๆ พลิกหน้าถัดไปก็เป็นภาพของพีตออายุ 10 ขวบ ในนั้นเขาสวมกางเกงมวยขาสั้นและกำลังง้างเท้าเตะกระสอบทรายโครมๆ!!! ใบหน้าจริงจังดุดันมากชนิดที่ไม่มีเค้าลางว่าจะเป็นกระเทยเฉกเช่นปัจจุบันเลย!

.

หรือจะเป็นอีกสามหน้าถัดไป คราวนี้เป็นรูปคู่! เป็นภาพของพีกับคุณแม่โพสต์ท่าคู่กันกับถาดอบขนม มีแบล็คกราวน์เป็นห้องครัวแล้วก็ตู้อบขนาดใหญ่ บนถาดน่าจะเป็นคุ๊กกี้เนยสด และบางทีนี่ก็อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาเริ่มมีไลฟ์สไตล์เหมือนเด็กผู้หญิงในระยะแบ่งเซลล์

.

ซึ่งนั่นก็ทำให้แพรวสงสัย.. จนถึงกับต้องเปล่งเสียงถามขึ้นมา

.

“ผู้หญิงในรูปนี้คือแม่ของพีเหรอคะพ่อ?”

ถามมันทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาออกจากอัลบั้ม พลันเอื้อมมือบางไปกำน้ำแข็งมาโยนใส่แก้วเบียร์ตัวเอง แล้วก็รินเบียร์ในขวดใส่ตามลงไปสมทบ

.

“กร๊อก…ก…ก…กๆ , กร๊อกกกกๆ”

น้ำแข็งกระทบแก้วหมุนวนเกรียวกราว แพรวยังคงพลิกอัลบั้มรูปต่อไป เปิดหน้าใหม่ทีก็ยกเบียร์ขึ้นจิบทีสลับกันไปเรื่อยๆ ชิวชิบเป๋ง! ราวกับเห็นบังเกอร์ใต้ดินแห่งนี้เป็นเกสเฮาส์ส่วนตัวไปแล้ว!

.

“หืม….ว่าไงล่ะคะคุณพ่อ? ทำไมเงียบไปล่ะคะ… หลับเหรอ???”

ร่างบางเชยคางขึ้นถาม

.

ก่อนจะตกใจสะดุ้งโหยง! เพราะสิ่งที่ทักดันกลายเป็นจริง! แก้มแนบคาโต๊ะฟองฟดจากน้ำเบียร์ปลิ่มทะลักออกมาจากปากไหลหลากออกมาทางจมูก.. ส่วนลำตัวนั้นชะรูดลงไปกองพับอยู่ด้านล่างเหลือแต่คางที่ยังคงเกาะกับขอบโต๊ะเอาไว้แน่น! ช่างเป็นสารรูปที่โคตรจะดูไม่ได้! แดกเหล้าผ่านสายน้ำเกลือว่าเหี้ยแล้ว ลงไปกองแบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากตัวตะกวดเลยหากจะพูดกันตรงๆ!

 

แพรวก็เลยอยู่เฉยต่อไปไม่ได้! เธอรีบโผเข้าไปดูอาการทันที!

.

“กรี๊ดดดดดดด!!! , พ่อคะ?!!!”

.

ลุกพรวดออกมาจากโซฟา จ้วงเท้าต่ออีกสองสามทีร่างหนาของพ่อก็ถูกประคองให้นั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม จัดท่าจัดทางให้เรียบร้อยต่ออีกนิด โดยไม่ลืมใช้หลังมืออังกับโพรงจมูกเช็คลมหายใจดูว่ายังคงมีชีวิตอยู่รึเปล่า?

.

“วู่วววว…โอเคยังอุ่นๆ อยู่คงแค่หลับแหละ โถ่เอ๊ย! ทำหนูตกใจหมด!”

“แต่ก็นะ…เล่นฉีดเข้าเส้นขนาดนั้นมันระดับเฮโรอีนเลยนี่นา การดูดซึมมันคนละเรื่องกับยากินหรือยาทาอยู่แล้ว หนูรู้หนูเรียนมาค่ะพ่อ..”

สาวเจ้าอธิบายแข่งกับเสียงกรนของคนแก่ ดูทรงแล้วพ่อคงจะหมดแล้วจริงๆ แพรวจึงถือวิสาสะถอดเข็มน้ำเกลือ (น้ำเบียร์) ออกให้! พลางลากเสาค้ำทรงสูงเข้าไปเก็บไว้ตรงซอกหลังตู้เย็นตามเดิม แต่ก็มิวายเอื้อมมือขึ้นไปปลดเอาถุงใส่เบียร์ที่แขวนอยู่บนสุดกลับลงมาด้วย หวังจะเอาน้ำเมาสีอัมพันนี้ไปเทรวมกันกับแก้วของตัวเองตรงหน้าโซฟา

.

“อ่าาาา…ก็มันน่าเสียดายนี่นา น้ำแข็งก็พร้อมจะปล่อยทิ้งไว้ให้มันชืดเสียรสชาติทำไม… อิๆ”

.

สตรีไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ถ้าไม่ติดว่าเหล้ายี่ห้อแสงโสมมีพรีเซนเตอร์เป็นด็อกเตอร์อาจองไปแล้ว เบียร์ที่รินเต็มแก้วคงไม่พ้นแพรวที่กลายเป็นแบรนด์แอมบัสเดอร์แน่นอน! เธอยังคงเดินกลับมาที่โซฟาตัวเดิมอีกครั้ง! ทว่าต่างจากเดิมหน่อยตรงที่คราวนี้ไม่นั่งลงแล้ว! นักศึกษาสาวกลับเลือกที่จะหยิบสมุดไดอารี่กับแก้วเบียร์ขึ้นมาถือไว้คู่กันแทน

.

" (เอ๋..แบบนี้ก็ไม่ต้องเกรงใจคุณพ่อแล้วสิ? แกหลับก็เท่ากับว่าเราสามารถอ่านเรื่องราวในนี้ได้แบบเด็มที่ไร้สิ่งรบกวน แถมยังมีเบียร์ให้จิบฟรีเต็มตู้เย็นอีกต่างหาก… สวรรค์! …ก็ไม่เลวนะ! …ถือว่าชดเชยกับเรื่องแย่ๆ ข้างบนก็แล้วกัน! ฉันขอเสือกเรื่องแกกับครอบครัวหน่อยนะอีพี) ”

.

แพรวคิดในใจภายใต้สีหน้าที่ขี้โกงสัดๆ รอยยิ้มกลุ้มกลิ่มบวกกับความเมากลึ่มๆ ทำให้เธอดูเหมือนนางอิจฉาในละครมิมีผิด! มิหนำซ้ำยังเดินเตร็ดเตร่ย้ายมุมไปตรงโน้นทีตรงนี้ทีเป็นว่าเล่น! ประหนึ่งตั้งใจจะเดินสำรวจให้หมดทุกซอกทุกมุมว่าบังเกอร์ใต้ดินแห่งนี้ซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง

.

ซึ่งก็จริงอย่างที่วิเคราะห์ เพราะโอกาสแบบนี้ย่อมไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ไทม์มิ่งมันลงล็อคพอดีแล้วพ่อก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย แพรวจึงจัดแจงมูฟร่างกายตัวเองไปเริ่มต้นที่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งเป็นจุดแรกสุดที่เธอเดินลงมา มันมีลักษณะเป็นบานเลื่อนสองอันมาประกบติดกันแบบร้านเซเว่นอีเลฟเว่น!

.

“เอาล่ะ…พอทางสะดวกก็น่าจะเริ่มกันจากตรงนี้ล่ะ เริ่มจากลองกดเปิดประตูดูหน่อยซิ?”

.

จับไดอารี่หนีบไว้ที่ใต้รักแร้พลางใช้มือขวาถือแก้วเบียร์ส่วนมือซ้ายเอาไปทุบเข้ากับกำแพง เสียงดัง “ตุบ!” แบบเดียวกับที่เห็นพ่อทำ… ทว่ามันกลับไม่เปิด! บานประตูยังคงนิ่ง! ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงทีเดียวว่าระบบ security ของที่นี่คงไม่ได้บันทึกลายนิ้วมือของแพรวเอาไว้มันก็เลยไม่เปิด

.

“เอ๋! … งั้นฉันก็กลับขึ้นไปทางเดิมไม่ได้น่ะสิ! ไม่รู้ล่ะ! บางทีห้องใต้ดินนี่อาจจะมีทางออกอื่น… น่าสนใจแฮะ…น่าสนใจจริงๆ … เอาเป็นว่าฉันจะกวาดสายตาดูที่นี่ให้ครบทุกซอกทุกมุมเลยละกัน ชีวิตแกไม่ได้มีแค่ในไดอารี่กับอัลบั้มรูปวัยเด็กหรอกนะพี… อย่างน้อยถ้าฉันพลาดตั้งท้องกับแกขึ้นมา… ฉันจะได้บอกลูกของเราได้ว่าพ่อมันไม่ได้เป็นแค่กระเทยดาดๆ ที่เห็นตามหน้าเวทีหมอลำ”

.

กระดกเบียร์ที่เหลืออยู่ลงคอไปจนหมดแก้ว… นิสิตสาวปลดเปลื้องมวลอำพันไหลเปรอะเลอะเสื้อแม้มันจะเปียกอยู่ก่อนแล้วจากคราบน้ำฝน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ! เธอคว้ำแก้วลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี! แล้วหันมาเพ่งสมาธิเต็มที่กับสมุดไดอารี่ ที่มีตัวหนังสือยืกยืออัดแน่น มีการระบุวันและเวลาเอาไว้ตรงมุมบนด้านขวาอย่างชัดเจน บ่งบอกว่าคนที่เขียนมันนั้นมีความละเอียดถี่ถ้วนตามสไตล์ของนักวิทยาศาสตร์

.

แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้เธอเกรงใจ แพรวกำลังคิดจะเสือกมัน! มิหนำซ้ำยังเป็นเวอร์ชั่นที่ดีกรีจากแอลกอฮอลกำลังจะออกฤทธิ์อีกด้วย!

.

“เอ๋…เอาไงดีน๊าาาา…ไดอารี่ก็อยากอ่าน…ห้องใต้ดินก็อยากสำรวจ”

“อืมมมม…ม…ม…ม มึนหัวจัง…”

“เอางี้! ทำแม่มคู่กันไปเลยล่ะกัน… ห้องอีพีอยู่ตรงไหนอ่ะ! เอาหนังสือไปนั่งอ่านในห้องมันเลยดีกว่า ถือว่าเอาฟิว..ว..ว วิ้ววววว..ว…ว…ว”

.

เมาแหละดูออก! ขาแทบจะขวิดกันเป็นเลขแปดหวิดจะล้มมิล้มแหล่ ทว่าหล่อนก็ยังเอามือแปะผนังครำทางไปได้เรื่อยๆ ก่อนจะเพิ่งมารู้ตัวว่า! แท้จริงแล้วตัวเองนั้นมองข้ามรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้มาตลอด! นั่นก็คือภาพถ่ายบนกำแพง ที่แขวนรูปครอบครัวเรียงรายไว้เป็นระยะๆ ราวกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ

.

รูปพวกนี้กำลังจะบอกอะไรกันแน่? เราคงต้องรอดูในตอนต่อไป?

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป