ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
"เป็นธรรมดาที่เธอโดดเดี่ยว... ทำอะไรเหมือนเธอเดินอยู่คนเดียว...เหน็ดเหนื่อยกับปัญหาไม่มีใครม๊าาาา! เข้าจัยยยย! ♫!" เปิดหัวมาด้วยเพลงเก่าของวงโปเตโต้ที่โคตรจะเข้ากับสถานการณ์ แพรวในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสถานะโดดเดี่ยวอย่างที่ใครคิด เธออาจจะผิดหวังจากการให้ใจผู้ชาย แต่นั่นก็ใช่ว่าทุกสิ่งจะต้องพังทลายลงซะหน่อย แพรวยังมีเพื่อน! ยังเหลือ "พี" กับ "มิวท์" สองเพื่อนซี้ที่คบกันมาตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง พวกเขามีพื้นเพเป็นคนกรุงโดยกำเนิด ก็เลยไม่มีความจำเป็นต้องขนย้ายข้าวของกลับภูมิลำเนาเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
.
เคยได้ยินถ้อยคำจากโฆษณาเหล้าเบียร์ตัวหนึ่งที่บอกว่า "มิตรภาพ... เหล้าสร้างไม่ได้" ไหม? เห็นทีจะไม่จริงแล้วล่ะ! ก็ในเมื่อกลุ่ม 3 สาว ยังควงแขนกันไปนั่งดื่มที่ร้านประจำละแวกมหาลัยอยู่เลย
.
.
"ใครบอกว่าแกเป็นสาวย่ะ...แกมันกระเทยอีพี!"
แพรวที่เมาเฮลลูบอยมาตั้งแต่บ่ายสำลอกออกมาเป็นคำพูด เธอเดินโซเซตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างกายออกมาจากหอ แถมยังคล้องแขนเพื่อนตัวโตเอาไว้แน่น
.
"เดี๋ยวแม่ทิ้งให้นอนข้างถนน! ปากหรือโถส้วมยะหล่อน! ถึงฉันไม่ใช่ชะนี ฉันก็ไม่เคยโดนผู้ชายทิ้งเหมือนแกย่ะ! "
.
"อีตุ๊ด!"
.
"ตุ๊ดแม่แกสิ!"
"มึงต่อยกับกูไหมแพรว! ตุ๊ดอะไร! ...หรือมึงจะเอา!"
.
"เอาดี๊...จะเอาก็ได้!"
.
โดนพูดแทงใจดำหน่อยเดียวพีเพื่อนซี้ก็ถึงกับน็อตหลุด! ร่างหนาของเขาสะบัดแขนแพรวออกโดยพลัน! คีย์เสียงนี่เปลี่ยนเป็นทุ้มต่ำราวกับอมฮอลล์ผสมโอเล่ ว่ากันว่าชายต่อยหญิงถือเป็นสิ่งผิดแต่ถ้าเป็นตุ๊ดต่อยหญิงล่ะก็ ตามประเพณีอาจจะได้รับการยกเว้น
.
ร่างบางกราวรูดลงกับพื้นในทันใด แพรวนั่งพับเพียบอยู่กลางลานจอดรถเคราะห์ดีที่มิวท์เพื่อนสนิทอีกคนตรงเข้ามาขวางเอาไว้ได้ เหมือนเธอจะแวะออกไปรับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง พอหันมาอีกที! เพื่อนซี้ก็ทะเลาะกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือซะแล้ว
.
"กรี๊ดดดดด! อะไรกันเนี่ยะทั้งสองคน! หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ห่างสายตาแค่แป๊บเดียวจะตีกันอีกแล้ว เธออ่ะผิดพี! ก็รู้อยู่ว่าเพื่อนอกหัก! แพรวกำลังต้องการที่พึ่งทำแบบนี้กับเพื่อนได้ยังไง... ขอโทษแพรวเดี๋ยวนี้นะ!"
.
"แต่ฉัน...."
.
"ไม่ต้องเลย! มิวท์โกรธจริงๆด้วยนะถ้าพีไม่ขอโทษ"
.
แล้วก็นี่แหละคือคาแรกเตอร์ส่วนตัวของมิวท์ เธอเป็นสาวตัวเล็กตาโตกลมสวย ตัดผมหน้าม้าปล่อยตีนผมจรดแผ่นหลัง ว่ากันว่าสระผมทีมิวท์ต้องใช้ช่างจากร้านประจำถึง 3 คน เธอเป็นลูกคุณหนูซึ่งที่บ้านทำกิจการอะไรสักอย่าง แต่ละวันที่ผ่านพ้นเธอเห็นเพียงคุณพ่อคุณแม่แต่งชุดสวยๆ ถือแฟ้มเอกสารเดินไปเดินมาอยู่ในบริษัท แล้วสิ้นเดือนก็มีเงินลอยเข้าบัญชีมาเอง
.
สาวร่างเล็กรายนี้เป็นคนที่รักความยุติธรรมมาก แถมยังรักเพื่อนเป็นที่สุด เธอคือหญิงสาวที่สวยที่สุดในสาขา ใครๆต่างพากันชอบเธอ แต่สุดท้ายมิวท์ก็เลือกที่จะอยู่กลุ่มเดียวกับ "พี" แล้วก็ "แพรว" ผองเพื่อนตัวร้ายที่อยู่ด้วยกันทีไรมีอันต้องหาเรื่องต่อยตีกันได้ตลอด กับหนนี้ก็ด้วย! เธอตวาดดุพีขึ้นอีกครั้ง!
.
"ว่าไงล่ะพี.... พยุงแพรวขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!"
.
แก้มป่องบวมตุ่ย...ท่าทางน่ะคือโกรธ แต่ดูแล้วออกแนวน่ารักเหมือนปลาทองในตู้กระจกมากกว่า
.
"เออๆ....ฉันช่วยก็ได้ ฉันขอโทษแพรว.... ส่งมือมาสิ! "
.
แต่ทว่า!
.
"เอ้าอีดอก! , อีเวรนี่! , ทำไมมึงไปไม่รอเพื่อนรอฝูง!!!"
.
เห็นจะจริงอย่างที่พีบอก เพราะทันทีที่หลุบสายตาลงมาแพรวก็วิ่งแจ้นเข้าไปในผับซะแล้ว
.
"ตุ๊บๆๆๆๆ , ตุ๊บๆๆๆๆ"
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นรัวรัน หน้าอกมิวท์กระเพื่อมเด้งดึ๋งดั๋งตัวไม่ใหญ่แต่ไฟหน้ามาเต็ม หล่อนจ้วงเท้าตามแพรวไปอย่างไม่ลดละ พลันปล่อยให้พียืนงงในดงอากาศ
.
รอบตัวเขาไม่มีใครเลย! ลานจอดรถของผับแห่งนี้ว่างจนเอาสเก็ตบอร์ดมาไถเล่นได้ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเบะปากส่ายหน้า บางทีแพรวอาจจะรู้ตัวว่าเวลามีจำกัด เพราะงั้นเธอถึงได้รีบวิ่งเข้าไปในผับโดยไม่รอให้ใครสังเกตเห็น
.
"เฮ่ย!!! อีแพรว! มึงโกรธเขาหรือมึงหิวเหล้ากันแน่... อีดอก!!!"
พีตะโกนส่งท้าย
.
.
ครึ่งนาทีผ่านไปทุกคนก็มาหยุดอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า ต่างคนต่างอึ้ง! โดยเฉพาะแพรวที่ถึงกับตาตื่น เธอส่างไปกับป้ายประกาศขนาดใหญ่ที่ติดไว้หน้าร้าน ซึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า "ตามอำนาจของพรก.ฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด covid-19 ที่ทวีความรุนแรง ทางร้านขอปิดให้บริการในทุกพื้นที่ ตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2563 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ขออภัยในความไม่สะดวก"
.
"เชี่ย!!!....ได้ไงวะ? เมื่อวานยังเปิดอยู่เลยนี่นา"
เฮลลูบอยจางหายไปกับกระแสเลือด น้ำตาลในนั้นไม่อาจทำให้แพรวเสียการควบคุมได้อีกต่อไป ตาเธอตื่นเต็มร้อยยกมือขึ้นสางผมสีแดงแล้วกยีๆๆๆ ขยี้ๆๆๆๆ จนเละเทะยุ่งเหยิงหงุดหงิด!
.
"ถุย!... ให้มันได้แบบนี้สิฟะ!"
มวลน้ำลายปลิวโค้งเป็นกราฟพาราโบล่า ก่อนจะหล่นแหมะเฉียดหลังตีนพีไปแค่ไม่กี่มิล!
.
"อีแพรว!!!"
.
"อะไร๊!!!"
.
"อีสกปรก! เป็นผู้หญิงยิงเรือไม่รู้จักมีมารยาท! กูบอกมึงแล้วว่า covid มันระบาดเชื้อโรคเยอะแยะมึงก็ลากกูมา เดือดร้อนกูกับมิวท์ที่ต้องขับรถออกมาปรนเปรออารมณ์มึงเนี่ยะเห็นไหม? แล้วจะบอกอะไรมึงอย่างนะ! มึงเองก็เรียนแลปเทคนนิคการแพทย์มาเหมือนกู มึงไม่รู้รึไงว่านำลายมันเป็นแหล่ง...ง....ง...ง"
.
"อุ๊บ!!!!!"
.
"หมับ!!!"
.
ตัดจบด้วยอิทธิฤทธิ์ของมือบางที่มองไม่เห็น! เมื่อจู่ๆ มิวท์ก็โผเข้ามาจากทางด้านหลัง! เธออ้อมมาในจังหวะที่พีกระเทยร่างโย่งกำลังพ่นฝอยน้ำลายด่าแพรวฉอดๆๆ
.
"ชู่วววววว....เงียบได้แล้วจ่ะพี^^"
.
"หมับ!!!!"
.
"เธอเองก็ด้วยนะแพรว...ใจเย็นๆ กันก่อน... สถานการณ์แบบนี้ต้องใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเอาไว้ พวกเราจะได้ไม่ติดเชื้อฉันเองก็จะใส่ด้วย...นี่ไง ^^"
.
มือเรียวของมิวท์ล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายข้างแบบผู้หญิง ว่ากันว่าในนี้มีของสารพัดสิ่งที่ถ้าค้นกันจริงๆ อาจจะมีโดเรม่อนตัวเป็นๆนอนขดอยู่ภายใน เธอใส่หน้ากากผ้าสีชมพูที่โคตรคูลและน่ารัก หนำซ้ำยังควักเอาเสปรย์ฆ่าเชื้อแบบพกพาออกมาพ่นฟู่ๆๆ~~ ฟู่ๆๆ!~~~ ขึ้นไปกลางอากาศเอาให้สะอาดไปทั้งบริเวณ
.
"นะ...นี่มัน....!"
เพื่อนผู้อกหักผายมือออกสองข้าง ก้มหน้ามองละอองฝอยที่เกาะอยู่ตามตัว และถึงแม้ว่าจะซ่อนอยู่ใต้หน้ากากแต่มิวท์์ก็พอเดาออกอยู่ดีว่าปากของแพรวคงจะเหวออยู่ภายใน
.
"พวกเราจะได้ปลอดภัยไงจ๊ะ... มิวท์เป็นห่วงแพรวนะ^^ , แล้วก็ห่วงพีด้วย ^^"
.
"ชิ! , ฉันตกใจแทบตายนึกว่าโดนการ์ดร้านล็อคตัว! แล้วนี่เราจะเอาไงต่อ.... กลับไหม?!... เขาเคอร์ฟิวตอนสี่ทุ่มด้วยนะอย่าลืม! พวกเราไม่มีเวลา! ถ้าแกอยากระบายนักก็ซื้อเบียร์เซเว่นกลับไปนั่งดื่มที่หอฉันก็ได้ฉันยกห้องให้เลย"
พีออกความเห็น
.
ฝั่งแพรวเองก็ดูเป็นกังวลเป็นอย่างมาก เธอรู้อยู่แกใจว่าห้องพีมันเป็นห้องของผู้ชาย ซึ่งไม่ได้มีแค่พีเพียงคนเดียว! ตลอดระยะเวลา 3 ปีมานี้ไม่รู้พีเอาผู้ชายมาฟัดเป็นจำนวนเท่าไหร่ พระนครร้อยกว่าคนฝั่งธนยังไม่ได้นับ กลิ่นน้ำกามคงจะเหม็นหึ่ง นึกถึงภาพกางเกงในที่ผึ่งอยู่ตรงระเบียงแล้วอื้อหืออออ... โคตรขยะแขยง!
.
"ไม่ได้ๆๆๆ จะไปห้องพีไม่ได้! ฟิวมันไม่ใช่มิวท์จะไม่ปลอดภัย เกิดพีเมาแล้วหน้ามืดทำอะไรมิวท์ขึ้นมาล่ะ... ไม่ได้ๆๆ!"
แพรวคิดในใจ หล่อนเดินง่วนกอดอกหันรีหันขวาง
.
.
เดชะบุญที่มิวท์คิดอะไรดีๆออก! ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เพื่อนซี้รายนี้ได้ทำตัวเป็นฮีโร่! เธอบอกว่าเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เธอรู้จักกับคนในผับ เจ้าของร้านน่าจะเป็นหุ้นส่วนกับคุณพ่อซึ่งถ้าหากเราเคาะประตูแล้วลองขอร้องเขาดีๆ บางทีเขาอาจจะเปิดให้เข้าไป
.
"ก๊อกๆๆ , ก๊อกๆๆๆ"
.
เศษเสี้ยวหนึ่งของประตูแง้มออกมา ข้างในเป็นเศษเสี้ยวสายตาของเด็กหนุ่มหน้าสิวคนหนึ่งที่ส่องออกมาโต้ตอบเช่นกัน เขาคงจะเป็นหนึ่งในพนักงานที่ไม่ได้รับผลกระทบ จึงถูกเจ้าของร้านมอบหมายงานให้เฝ้าที่นี่เอาไว้
.
"ผับปิดนะครับ....วันนี้ไม่เปิด"
เขาพูด
.
"จ๊ะ....เค้ารู้แล้ว แต่ตัวเองแบบ...ช่วยให้เค้าเข้าไปหน่อยได้ไหมอ่ะ..."
มิวท์พยายามอ้อน เธอตะปบมืออันเรียวสวยทาบเข้ากับขอบประตูเหล็ก พลางยื่นใบหน้าที่บางใสแต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่เข้าไปใกล้ๆ แม้จะอยู่ใต้หน้ากากแต่ก็ทำเอาพนักงานบาร์ออกลูกประหม่าอยู่หน่อยๆ มารยาหญิงเริ่มก่อตัว เธอยั่วเขา ขยับริมฝีปากเผยอขึ้นลงจนจ่อจะจูบกันอยู่รำไร
.
"ให้เค้าเข้าไปใกล้ๆอีกนิดสิ... ประตูนี้มันขวางเราสองคนอยู่นะเผื่อเค้าจะได้..... แบบว่า..."
มิวท์ก้มศรีษะลงต่ำคอเสื้อกว้างออกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ลุคของเธอดูคล้ายกับน้องมันแกวนมคุณธรรมซะเหลือเกิน สายตาเล็กหยีออดอ้อนราวกับจะขย้อนการมีเพศสัมพันธ์ออกมากองไว้ตรงหน้า
.
"ผมให้เข้าไม่ได้จริงๆครับคุณลูกค้า.... เฮียเอาผมตายแน่... กรุณาด้วยเถอะครับ... กลับไปซะเถอะ"
.
"ไม่สิ.. ไม่พูดแบบนั้นนะ"
คราวนี้มิวท์ถึงกับลงทุนถอดหน้ากากอนามัยออก เธอดึงมันลงตวัดไว้ที่ใต้คางพลางจ้องหน้าเขาลึกลงไปถึงเรติน่าม่านตา
.
"(น่ารักจัง)"
"ตึกๆ , ตึกๆ , ตึกๆ , ตึกๆ"
เด็กหนุ่มคิดในใจ หัวใจสูบฉีดเลือดในอัตราเร็วแสง!
.
"(นมก็ใหญ่... ต้องเป็นนิสิตมหาลัยแน่ๆ)"
ใจเต้นเป็นกลองเอ็นอุ่นกลางลำตัวชักจะเริ่มคุมไม่ไหว แต่ก็ยังดีที่มีจิตสุดท้ายยั้งใจเอาไว้ได้
.
เห็นเขาออกอาการขนาดนั้น มิวท์ก็เลยขยี้ต่อ!
.
"เค้าฝากเหล้าเอาไว้ที่นี่ด้วยแหละ.... พวกเรามาที่นี่กันออกจะบ่อย.... ตัวเองแค่หาน้ำแข็งกับโต๊ะอีกสักตัวสองตัวเอง....น๊าาาน๊าาาา... ถ้าไม่ถือสาเค้าจะแถมค่าขนมให้ด้วยก็ได้"
ปาดมือผ่านร่องเต้าทรงหยดน้ำ ลูบไล้ลงไปถึงสะโพก วนเนื้อผ้าให้แนบชิดจนหน้าอกหน้าใจมันบวมเป่งอัดลูกตา มิวท์เป็นคนตัวเล็กเพียงแค่หมอนี่เขย่งหน่อยเดียวก็เห็นไปถึงไหนต่อไหน
.
จนสุดท้ายก็ไม่ไหว! เขาเองก็ไม่ใช่เกย์ก็เลยเตรียมจะไขกุญแจให้โดยมีเงื่อนไขว่าแค่แป๊บเดียวเท่านั้น! ถึงกำหนดเคอร์ฟิวส์เมื่อไหร่ วงเหล้านี้ต้องยุติกลับออกจากผับทันที
.
"อืม....ได้จ่ะ^^ ตัวเอง "น่ารัก" จัง"
.
"อ่าาาา..อืม....คะ...ครับ (ไม่เป็นไร)"
.
เสียก็แต่!
.
"กรุ๊งกริ๊งๆ , กรุ๊งกริ๊งๆๆ"
.
"เอิ่ม....กุญแจมันไขไม่ได้อ่ะครับ! พอดีผมลืมไปว่าประตูหน้ามันต้องใช้ลายนิ้วมือแสกน แล้วก็มีแต่เฮียกับพนักงานระดับสูงเท่านั้นถึงจะเปิดได้ เสียใจด้วยนะครับไว้โอกาสหน้าดีกว่า... เหอะๆ"
.
ส่งผลให้พีที่ทนดูอยู่นานต้องออกโรง เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วก็เลยเหวี่ยงร่างบางของมิวท์ออกจากหน้าประตูก่อนจะตรงเข้ามาแทนที่แล้วชี้หน้าต่อว่า...
.
"ได้ไงยะ! เพื่อนฉันอุตส่าห์เปลืองตัวขนาดนี้! แกคิดว่าเขาเป็นใครกัน! เนี่ยะน่ะลูกสาวท่านประธานบริษัท AP เชียวนะ! ตึกนี้ , อาคารนี้ , ที่ดินตรงนี้ล้วนแต่เช่าที่ของบริษัท AP มาทั้งนั้น! ให้พวกเราเข้าไปเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากมีเรื่อง!!"
.
"อย่านะ!!!"
"ไม่เอาน่ะพี... น้องเขายังเด็กอยู่เลยอย่าไปดุเขาแบบนั้นสิ"
.
มิวท์พยายามปรามแต่ด้วยความที่เป็นเกย์ตัวใหญ่อย่างกับคิงคอง มีหรือจะต้านทานไหว! พีเขย่าลูกกรงหน้าร้านโครมๆๆ ยกระดับมาตรการกดดันสูงสุด!
.
ซึ่งคนที่น่าสงสารที่สุดดูเหมือนจะกลายเป็นมิวท์ สาวน้อยผู้อ่อนแอที่ทำทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ดังหวัง หนำซ้ำยังต้องมาหยุดการคุ้มคลั่งของสัตว์ประหลาดตนนี้อีก เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างในก็เลยรู้สึกผิดขึ้นมาความหื่นก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนก็อยากจะช่วยเธอเพื่อให้เรื่องนี้มันจบลง! เขาก็เลยแทรกขึ้น!
.
"โอเคครับ! โอเคผมยอมก็ได้! หยุดทำลายข้าวของก่อนเถอะคุณ! เอาอย่างงี้ผมมีทางเข้าอีกทางอยู่ตรงรั้วด้านข้าง มันเป็นช่องเล็กๆ พอให้ลอดตัวเข้ามาได้ทีละคน อาจจะสกปรกไปสักหน่อย แต่ถ้าพวกคุณไม่รังเกียจก็สุดแต่ใจจะไขว่คว้า รีบกินรีบไปผมจะเตรียมโต๊ะกับน้ำแข็งไว้ให้ เหล้าที่คุณฝากไว้ก็จะวางอยู่ข้างๆ ห้ามสั่งเพิ่มตกลงไหมครับ?! "
.
"จ๊ะ^^ ขอบใจนะ ดีใจจังเลย"
มิวท์รีบโค้งหัวขอบคุณเช่นกันกับพีที่พยายามทำบ้าง ทว่ามันกลับไม่คาวาอี้มันเหมือนสัตว์นรกจากอเวจี ที่พยายามก๊อปแต่ไม่เนียนมากกว่า ยืนยันได้จากท่วงท่าของน้องคนเฝ้าร้านที่เดินกลับไปด้วยความหัวเสีย
.
"ชิ!...หล่อตายล่ะมึงอ่ะ!"
พีสบถ
.
"เอาน่า...อย่างน้อยเขาก็ยอมให้เราเข้าไปนั่งดื่มแล้ว อย่าลืมสิว่าเรากำลังทำเพื่อแพรวอยู่นะ"
.
กระเทยควายสะบัดหน้าไปมาปลดปลง มิวท์ก็เป็นแบบนี้มาตลอด! เธอเหมือนแม่ชีที่นมใหญ่! ชอบทำบุญแต่ก็ถลุงเงินกับการกินเหล้าเป็นว่าเล่น! แล้วก็รักเพื่อนๆซะเหลือเกิน ช่างต่างกันกับเพื่อนอีกคนที่ไม่รู้ป่านนี้หายหัวไปไหน แพรวไม่มีบทพูดมานานแล้วจนกระทั่งพีเริ่มผิดสังเกต
.
"แพรวล่ะ?"
เขาถาม
.
"นั่นสิ....ลืมไปเลย... แพรวจ๊ะ....แพรว...แพรวอยู่ไหนอ่ะ!!"
มิวท์ป้องปากตะโกนพลางออกเดินหาไปด้วย
.
จนทั้งคู่ได้มาพบกับ...! เปล่าหรอก! แพรวไม่ได้เป็นศพ! แต่สกปรกโคตรๆ! เพราะสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าก็คือบั้นท้ายของแพรวที่กำลังมุดประตูเล็กๆ ด้านข้างรั้วเข้าไป!
.
"เธอคิดอย่างที่ฉันคิดไหมมิวท์"
พีถามปากสั่น...
.
"อึ...อืม....อย่าบอกนะว่าประตูที่เด็กในร้านพูดถึงก็คือ "ช่องทิ้งขยะ".... อี๋.....!!!"
.
.
ไม่มีข้อพิสูจน์ใดการันตีได้ว่าการอกหัก สามารถทำดัมเมจต่อสภาพจิตใจคนได้แค่ไหน แต่เท่าที่เห็นมันได้เปลี่ยนร่างกายแพรวให้กลายเป็นคนบ้า! ใจเธอโหยหาแต่ "เหล้า" เพื่อที่เธอจะได้ "เล่า" เรื่องของเปรมได้อย่างเต็มปากเต็มคำ