Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 1 : ณ ปีปัจจุบัน)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 1 : ณ ปีปัจจุบัน

  • 20/09/2564

"ใครที่ติดเชื้อถือเป็นเลือดไม่บริสุทธิ์ ใช้ไม่ได้! หวังว่าทุกคนคงเข้าใจ!"

แพรวแผดเสียงดังขึงขัง เธอลดปืน 9 มม. กร็อก18 เก็บเข้าที่ซองเก็บด้านหลัง พลางผายมือบอกให้ทุกคนขึ้นรถ

.

เชื่อไหมว่าไม่มีใครกล้าหือกับเธอสักคน ทุกคนนิ่งเงียบก้มหน้าก้มตาเก็บของทำตามคำสั่ง ต้องย้ายคาราวานกันอีกครั้ง การที่มีเด็กท้ายรถคนหนึ่งติดเชื้อนั่นย่อมหมายความว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว อาจจะต้องหิวข้าวหิวน้ำกันอีกหลายวัน แต่ก็ช่วยไม่ได้! ทุกคนต่างรีบเคี้ยวแคปซูลที่ได้รับแจกมากันตุ้ยๆๆ ก้นหน้าก้มตากลับมาทำหน้าที่ของตัวเองตามเดิม

.

"มันไม่โหดเกินไปหน่อยเหรอคะ.....น้องแพรวพี่ว่า....บางที....ขวัญกำลังใจของ...."

.

"ไม่หรอกค่ะ...หนูเข้าใจว่าพี่เป็นพยาบาล พี่เคยอยู่ในที่ๆเต็มไปด้วยพลังบวก มีแต่คนใจดีอยู่รอบตัวเต็มไปหมด พี่ไม่เหมือนหนู! โลกแบบนั้นไม่มีอีกแล้วพี่ ให้ความสวยอยู่บนใบหน้าหนูก็พอ ไม่มีทางที่มันจะแผ่ลงไปสู่โลกได้อีกหรอก"

.

กดปุ่มที่หลังหูดัง "กริ๊ก" โดยฉับพลัน! หน้ากากครอบแก้วอันเดิมตวัดขึ้นมาครอบหน้า! พร้อมกับการทำงานของใบพัดฟอกอากาศ... ~~ฟู่...ฟู่..~~

.

"แต่น้องแพรวคะ...."

.

"ไม่ค่ะพี่! ใส่หน้ากากซะแล้วไปขึ้นรถซะเถอะ! ต่อไปนี้พี่จงคุมรถคันหลังสุดให้ดี ในกรงนั่นไม่ใช่เด็กๆ พวกเขาคือสินค้า!!! พลาสม่าในเลือดอันบริสุทธิ์ของพวกเขาคือยารักษาเชื้อ Covid - 19 ที่ประเมินค่าไม่ได้! ได้โปรดจำเอาไว้ด้วย! อย่าให้เลือดบริสุทธิ์ปนเปื้อนอีกเป็นอันขาด เด็กเหล่านั้นคือทางรอดเดียวของคาราวานเรา"

"ส่วนเรื่องอาหารการกิน , ที่อยู่อาศัย , การคุ้มกันและความปลอดภัย หนูกับทีมด่านหน้าจะเป็นคนรับผิดชอบเอง พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นแค่ทำหน้าที่ของพี่ให้ดีที่สุดก็พอ... โอเคนะคะ!"

.

"อะ....อืม....ค่ะ"

พยาบาลสาวตอบกลับเสียงอ่อย แม้ไม่อยู่ในชุดเครื่องแบบแต่สีหน้าท่าทางของแก ก็ยังคงเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตาธรรมอยู่ดี

.

เธอเดินอ้อมไปอีกฟากเพื่อเช็คประตูลูกกรง พลางเปิดประตูรถด้านข้างคนขับขึ้นไปนั่ง ส่วนแพรว อิสรานั้นอ้อมมาอีกฝั่ง เธอชะโงกหน้าขึ้นไปคุยกับพี่โชว์เฟอร์คนขับ ที่บัดนี้ก็คาดหน้ากากครอบแก้วไว้เช่นเดียวกับเธอ เสียงปั่นของใบพัดสองอันดังจนคุยกันไม่ได้ยิน แต่ถึงอย่างงั้นแพรวก็แค่ยื่นมือเข้ามาเคาะที่จอตรงคอนโซลหน้ารถสองสามที พลางทำมือชี้ไปข้างหน้าเท่านี้ก็เป็นอันรู้เรื่อง

.

"รับทราบครับคุณแพรว...... แผนที่กับพิกัดเป้าหมายจะส่งมาทางจอนี้ใช่ไหมครับ"

.

"(ค่ะ^^)"

เธอตอบด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนไว้ใต้หน้ากาก ก่อนจะกระโดดลงจากประตูรถออฟโรดโหลดสูง แล้ววิ่งย้อนกลับไปยังรถคนแรกเพื่อสั่งการบังคับบัญชาไปสู่ที่หมายต่อไป

.

ที่ๆ เธอเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ รู้แต่ว่าเป็นที่ๆปลอดภัยสำหรับทุกคน เพราะมีตัวเลขของการแพร่กระจายสะสมน้อยที่สุด

.

"ลำปางพี่!... ลองขึ้นเหนือกันดูเมืองหลวงอย่าง กทม. ไม่เหลืออะไรให้เราแสวงโชคอีกแล้ว!"

.

.

"บรื้นนนนน!!!!ๆๆ , บรื้นนนนนน!!!ๆๆๆ , ปี้นๆๆ!"

.

.

.

ล้อรถหมุนบดพื้นถนน สอดคล้องกับเข็มบนหน้าปัดนาฬิกาที่หมุนกลับทิศ ย้อนเล่าเหตุการณ์ถอยหลังกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ปี 2020 ! ปีที่ไวรัสโคโรน่าส่งผลรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามของคนทั้งโลก!

.

ณ หอพักนักศึกษาในย่านกลางเมืองอันแสนสงบ ขอสงวนชื่อแต่อยากจะให้รู้เอาไว้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ สถาบันแห่งนี้ผ่านมาแล้วทั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง , สงครามกลางเมือง 14 ตุลา 2516 , หรือแม้กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าถาโถมเข้าใส่ทิวรั้วการศึกษาแห่งนี้ แต่ก็ไม่มีครั้งไหนแปลกประหลาดเท่าครั้งนี้มาก่อน มหาลัยต้องปิดการเรียนการสอนทั้งหมด! หอพักนักศึกษาต้องขับไล่คนออกจากโรงนอน เพียงเพราะเชื้อไวรัสร้ายที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น!

.

โรคระบาด! แต่ก็ยังมีพวกขี้กากที่อาศัยอยู่ในหอพักต่อไปโดยไม่แคร์คำสั่งจากเบื้องบน เขาคนนั้นคือ "เปรม" ชื่อจริงคือ "เปรมนัศ" ที่ไม่ใช่ "ธรรมนัส" เพราะไม่เคยข้องเกี่ยวกับหน้ากากอนามัยใดๆ เปรมลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันหนึ่งที่เพื่อนๆคนอื่นต่างพากันขนข้าวของย้ายออกไปกันหมด ความหล่อของเขาเรียกได้ว่าทรมานกระจกทุกบาน แต่ก็สายเกินไปเสียแล้วเมื่อหอรวมแห่งนี้ไม่มีสาวๆเหลืออยู่เลยสักคน! ทุกอย่างโล่งเตียนเงียบเหงาจนหอพักที่ใหญ่ที่สุดในย่าน มีสภาพไม่ต่างจากอพาร์ทเมนต์ผีสิง

.

พอล้างหน้าล้างตาเสร็จ เปรมก็เดินออกมาจากห้องน้ำนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เขาหยิบสมาร์ทโฟนของตนเองขึ้นมาเช็ควันเวลาบนหน้าจอ แต่ทว่า! สิ่งที่เห็นกลับกลายเป็นเบอร์โทรศัพท์ของสาวเจ้านางหนึ่ง ซึ่งเป็นเบอร์ของคนที่เขาแอบรัก

.

"ฉันจะตายก่อนรึเปล่านะ.... ชิ! ไอ้เปรมเอ๊ย! แค่บอกรักผู้หญิงคนเดียวยังไม่กล้า อุตส่าห์อยู่หอนี้มานานจนได้เป็นถึงประธานหอแล้วแท้ๆ ดันไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง... เวรเอ๊ย! เกลียดตัวเองชะมัด!!!"

พูดเสร็จก็คว่ำหน้าจอสมาร์ทโฟลงบนโต๊ะตามเดิม ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกทีชำระล้างร่างกายให้สะอาดสดชื่น เสร็จแล้วจึงเดินออกมาใหม่พร้อมกับทรงผมทรงเก่งและเสื้อกราวน์สีขาวสุดเนี๊ยบ

.

ใช่แล้ว! เปรมคือนักศึกษาคณะเภสัชชั้นปีที่ 3 เขาอาจจะต้องใช้เวลาเรียนอีกหลายปีกว่าจะจบ แต่บารมีกับภาษีสังคมที่ได้รับมานั้นก็ถือว่าใช่ย่อย ความหล่อยืนหนึ่ง บุคลิกภูมิฐานสะอาดสะอ้านตามมาเป็นอันดับสอง ซึ่งแค่นั้นก็มากพอแล้วที่จะทำให้พี่น้องชาวหอทั้งหลายยกเปรมให้เป็นประธานโดยไม่ต้องเลือกตั้ง! น้ำเสียงที่สุภาพ , ท่วงท่าที่อ่อนน้อม , ดูผ่านๆบุคลิกของเขาช่างคล้ายคลึงกับคุณหมอทวีศิลป์ โฆษกสาธารณสุขที่แถลงข่าว covid- 19 ให้พวกเราฟังอยู่ทุกวันเหลือเกิน ต่างกันแค่เป็นเวอร์ชั่นย้อนยุคและยังหนุ่ม

.

เปรมเดินออกมาจากหอพักลัดเลาะไปตามขอบฟุตบาท ใช้เวลาอยู่ร่วม 5 นาทีในที่สุดก็มาถึงร้านขายยาอันเป็นเป้าหมาย ร้านแห่งนี้เป็นร้านของคุณน้าของเขา และด้วยความที่มหาลัยไม่มีการเรียนการสอนเปรมก็เลยต้องมาหาอะไรทำที่นี่ไปพลางก่อน

.

ด้วยความรู้ความสามารถที่มีถึงจะยังเรียนไม่จบ แต่ถ้าเป็นเพียงยาสามัญประจำบ้านแล้วล่ะก็ คงมิใช่ปัญหา เขาสามารถแนะนำและจัดยาให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างสบายๆ

.

ครืดดดดด! , ครืดดดดดดด!

เสียงประตูเหล็กหน้าร้านเปิดสูงขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าของคนที่อยู่ภายใน

.

"เอ้าเปรม! มาแล้วเหรอลูก! มาเร็วจัง!"

.

"ครับน้า! บอกเลยนะครับว่าวันนี้จะให้ผมทำอะไร คิดซะว่าผมเป็นเด็กฝึกงานคนหนึ่ง^^"

.

น้าสาวพยักหน้าเอ็นดูในความตั้งใจของหลาน เพราะงั้นถึงสั่งให้เปรมเอาโต๊ะพับไปกางที่หน้าร้าน "พวกเราจะทำการแจกหน้ากากอนามัยกัน" แกว่าอย่างงั้น! ไอเท็มโคตรแรล์ของที่หายากยิ่งกว่าทองคำในยุคสมัยที่พ่อค้าคนกลางพากันกักตุนและฟันกำไรมหาศาลในโลกอินเตอร์เน็ต ทว่ากับร้านขายยาแห่งนี้ญาติสนิทมิตรสหายของเปรมกำลังจะทำการแจกจ่ายมันฟรีๆ ให้แก่ใครก็ได้ที่เดินผ่านไปผ่านมา

.

"ช่วยในแบบที่เราช่วยได้.... ถ้าน้าทำกับข้าวอร่อยป่านนี้น้าทำกับข้าวแจกทุกคนไปแล้ว..."

น้าสาวยิ้มกว้างใจดีตามสไตล์ แล้วก็คงเป็นเพราะแบบนี้ละมั้งเปรมจึงมีนิสัยหล่อๆ เหมือนกับหน้าตาของเขาที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

.

ใช้เวลาตระเตรียมแบกลังหน้ากากมากองสุม ทำป้ายประชาสัมพันธ์อยู่อีกหน่อยนึงไม่นานก็แล้วเสร็จ ปรากฏว่ามีคนมาเข้าคิวรับหน้ากากแจกเป็นระยะ แล้วก็มีคุณป้าคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาขอคำแนะนำจากเปรมผู้ซึ่งแต่งตัวดูเหมือนหมอที่สุดในกลุ่ม แกถามเขาว่า..

.

"มันเหมือน "โบโลน่า" ที่ใส่แซนวิซไหมลูก ไอ้ไวรัส "โคโรน่า" อะไรเนี่ยะ???"

.

เปรมทำหน้างง แม้แต่เจ้าของร้านกับลูกน้องคนอื่นๆก็งงตามไปด้วย

.

"ไม่เหมือนหรอกครับป้า.. ป้าใส่แมสไว้ตลอดนะครับ.. ถ้าไม่อยากตาย!"

เขาตอบห้วนๆ เรียกเสียงหัวเราะเฮฮาไปทั่วบริเวณ

.

.

กว่าจะแจกของเสร็จช่วงเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ตอนเย็นซะแล้ว เปรมเลือกที่จะเข้ามาเดินเล่นในมหาลัย ที่นี่เงียบเหงามากจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าสถานการณ์มันยืดยาวไปเป็นปี ผู้คนจะมีชีวิตอยู่กันยังไง? ความดีที่ทำไปจะมีประโยชน์อะไร? เขาคิดย้อนถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำผิดพลาดไป ความพลั้งพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำกับเธอคนนั้น

.

ลมโชยโบยแก้มก่อนจะมาหยุดฝีเท้ากึก! เอาตรงหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า "Gutuso cafe" มันเคยเป็นที่ๆเขากับเธอชอบมานั่งเล่นด้วยกันเป็นประจำ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปหมดแล้ว! รูดม่านปิดบัง! , กันสาดถูกพับ! , ดอกไม้ในกระถางแห้งตาย! , ต้นไม้เหี่ยวเฉา! , ชานระเบียงที่ยื่นออกมาเต็มไปด้วยขี้ฝุ่น!

.

"เปรี๊ยะ!!!"

.

แล้วจู่ๆโสตประสาทก็รับรู้ได้ถึงเสียงฝ่ามือที่กระทบใบหน้า! ความเจ็บแปร๊บนี้แลบขึ้นมาจากห้วงแห่งความทรงจำของเปรม

.

"เธอทำแบบนี้กับเราได้ยังไง?!"

"ไม่คิดอะไร...? , แล้วใจที่มันให้ไปแล้วละวะ...? , ใครจะรับผิดชอบ!!!"

.

แพรว อิสรา ในชุดนักศึกษาตะโกนขึ้นกลางร้าน เธอปรี่เข้ามาประชิดตัวแล้วทุบตีเปรมด้วยสันกำปั้นอันแผ่วเบา ทุบๆๆๆ! ตีๆๆๆ! ยิ่งตีน้ำตาก็ยิ่งไหล... ฝั่งเปรมเองก็ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากกอดเธอไว้. เขาปล่อยให้เธอทำต่อไป ทำทุกอย่างเท่าที่เธอสบายใจตามแต่ใจต้องการ

.

"เราขอโทษ..."

เขาพูด จำนวนคนในร้านอาจจะบางตาทว่าหน้ากากที่ใส่แล้วเห็นแต่ลูกตา ก็บ่งบอกได้แหละว่าพวกเขากำลังตกเป็นเป้าสนใจ

.

จนเขาต้องดึงสติกลับออกมาสู่โลกปัจจุบัน! เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เคลื่อนตัวแช่มช้าคล้ายจะหยุดนิ่ง สีเหลืองอมส้มแดงเรื่อของมัน ถูกฉาบทับด้วยม่านควันจากฝุ่นละออง PM 3.0 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก... หายใจก็ไม่ออก... เจ้าตัวยังคิดอยู่เลยว่าตัวเองผ่านเรื่องแบบนั้นมาได้ยังไง?

.

.

เขายังคงหวนคิดถึงมันอยู่เรื่อยๆ แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ที่หน้าร้านกาแฟร้านเก่ง บรรยากาศเดิมๆครื้นเครง ต่างกันแค่หนนี้ไม่มีใครเห็นเลย... (มันมีแต่ความเงียบเหงา)

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป