Your Wishlist

ถนนไบโลนซ์ 13 (บทที่ 8 : วิ่งสิ เจน วิ่ง (7))

Author: คิมซงโร / BuaElla แปล

"บางครั้ง ความลับที่เราไม่อาจหยั่งถึงก็คืบคลานผ่านเงามืดของลอนดอน"

จำนวนตอน : 220

บทที่ 8 : วิ่งสิ เจน วิ่ง (7)

  • 17/10/2568

บทที่ 8 : วิ่งสิ เจน วิ่ง (7)

 

ในบางครั้งขณะเล่นเกมเสมือนจริง เราอาจรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกนั้นอย่างแท้จริง แต่ไม่เคยถึงขั้นนี้มาก่อนเลย

 

เกมเสมือนจริงต้องอาศัยการเคลื่อนไหวของร่างกายทั้งตัว ย่อมทำให้เหนื่อยล้าจนต้องหยุดพักบ้างเป็นธรรมดา ทว่าเวลาที่ฉันรับรู้ในตอนนี้... กลับยาวนานเกินแปดชั่วโมงแล้ว และสิ่งที่น่าประหลาดยิ่งกว่าก็คือ ฉันไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยเลยสักนิด

 

แม้จะควบคุมร่างของ “เจน” อยู่ แต่กลับไม่รู้สึกถึงความอ่อนเพลียทางกาย การตัดสินใจและการเคลื่อนไหวภายในเวลาจำกัดกลับไม่สร้างความกดดัน มีเพียงความรู้สึกสดชื่น คล้ายผู้ที่เพิ่งตื่นจากการหลับอันยาวนานและสงบสุข

 

ฉันสงสัย นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

 

แต่ก่อนที่ความคิดนั้นจะตกผลึก ราวกับมีบางสิ่งมาปิดกั้น ความสงสัยทั้งหมดก็เลือนหายไปพร้อมกับเสียงกระซิบเย้ายวนในใจ

 

เล่นต่อสิ ทำไมต้องหยุดล่ะ วันนี้อากาศดี... สนุกออกจะตายไป”

 

จำเป็นต้องหยุดด้วยหรือฉันพึมพำตอบโดยไม่รู้ตัว

 

คุณคงเข้าใจแล้วสิน ว่าฉันรู้สึกหลงใหลในเกมนี้เพียงใด ทั้งตื่นเต้น ทั้งพอใจ จนการเล่นต่อไปอีกหน่อยดูไม่น่ามีปัญหาอะไรเลย

 

ทว่า—

 

จู่ ๆ ชาร้อนที่อยู่บนโต๊ะก็หกพราดลงมาราดใส่ตักฉันอย่างจัง ความร้อนแล่นพล่านจนต้องสะดุ้งเฮือก

 

ฉันรู้สึกร้อน!

 

ทำไมถึงรู้สึกได้ล่ะ?

 

นี่มันก็แค่เกมไม่ใช่หรือ?

 

ฉันเพียงสวมแว่นและชุดควบคุม แล้วทำไมถึงสัมผัสได้ถึงความแสบไหม้แบบนี้?

 

สติกลับคืนมาในพริบตา ความสบายลวงตาเมื่อครู่สลายหาย เหลือเพียงความหวาดกลัวที่เย็นเฉียบขึ้นตามแนวกระดูกสันหลัง

 

ทำไมฉันถึงยังออกจากเกมไม่ได้?

 

นั่นต่างหากคือสิ่งน่าสะพรึงที่สุด

 

ฉันพยายามกดออกจากเกม แต่ระบบกลับไม่ตอบสนองอีกต่อไป ฉันไม่รู้สึกถึงคันบังคับในมือ ไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของอุปกรณ์บนศีรษะหรือหู และแม้แต่ความร้อนจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใกล้ตัวก็หายไป

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

ฉันเงยหน้าขึ้น ความกลัวคืบคลานราวเถาวัลย์รัดสติจนแทบขาดใจ

 

นี่มันอะไรกัน? ฉันอยู่ที่ไหน? แล้วฉันคือใครกันแน่?

 

ในแอ่งน้ำชาที่หกกระเซ็นบนพื้นมีสตรีคนหนึ่งมองตอบกลับมา เธอผิวขาวซีด มีผมสีอ่อนและใบหน้าเรียบง่ายธรรมดา เธอทำท่าทางเดียวกับฉันทุกประการ ยกมือปิดปาก หอบหายใจรัวด้วยจังหวะเดียวกัน

 

กลิ่นชาหอมกรุ่นแตะจมูก ฉันสัมผัสได้ถึงเนื้อกระดาษในมือ แข็ง แห้ง มีเสียงยับย่น ฉันรู้สึกถึงความอุ่นของเรือนกายและแรงเต้นของหัวใจในร่างที่ไม่ใช่ของตัวเอง

 

แล้วเสียงของเลียม มัวร์ก็ดังขึ้น

 

เจน”

 

ราวกับกระแสน้ำที่ถอยกลับ ทิ้งให้ตะกอนโคลนเผยให้เห็นผืนดินแท้จริงของมัน ฉันรับรู้ได้ถึงตนเองอย่างกระจ่าง

 

กำแพงแห่งความเชื่อที่ว่า นี่ก็แค่เกม” พังทลายลง ความรู้สึกทุกประการหลอมรวมเข้ากับโลกตรงหน้าอย่างสมบูรณ์

 

ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ ตั้งแต่เมื่อไรที่กลายเป็นแบบนี้?

 

เมื่อย้อนคิดดู มันก็ไม่น่าประหลาดเลย หากนี่เป็นเพียงเกมธรรมดา ฉันคงไม่มีวันจดจำรสชาติอาหารที่ปรุงจาก “ข้อมูลและพิกเซล” ได้ หรือกลิ่นคาวศพที่ยังติดอยู่ในความทรงจำก็คงไม่สมจริงถึงเพียงนี้ เบาะแสอยู่ตรงหน้ามาตลอด เพียงแต่ฉันไม่ยอมรับเท่านั้นเอง

 

ตอนนี้มีเพียงหนทางเดียวนั่นคือต้องยอมรับความจริงอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาสติไว้ หากปล่อยให้ความตระหนกกลืนกินย่อมไม่มีทางหาทางออกได้

 

โชคยังดีระบบทั้งหมดในเกมยังทำงาน ยกเว้นปุ่มออกเท่านั้น ดูเหมือนมีเพียงฉันที่ “กลายเป็นส่วนหนึ่ง” ของลอนดอนเสมือนนี้ หากไปบอกใครคงถูกหาว่าบ้าแน่

 

แผนที่ขนาดย่อที่มุมขวาบนของสายตายังคงส่องแสง รายการภารกิจใต้แผนที่ก็เช่นกัน การเปิดหน้าต่างเมนูยังคงหยุดเวลาไว้ได้ รายชื่อหลักฐาน ภาพถ่ายในเกม และช่องบันทึกข้อมูลยังอยู่ครบ และที่น่ายินดีที่สุดคือดูเหมือนฉันจะไม่ตายถาวรในที่แห่งนี้ อย่างน้อยก็เป็นความสบายใจอย่างหนึ่ง

 

แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องหาคำตอบให้ได้ ว่าทำไมฉันถึงรับรู้ทุกสิ่งในนี้ราวกับของจริง

 

ร่างของเจนขยับได้ตามใจฉันอย่างสมบูรณ์ เธอเหมือนหุ่นไร้วิญญาณที่รอให้ใครบางคนเข้ามาสิงสู่

 

ฉันเงยหน้าขึ้นสบตาเลียม มัวร์ ดวงตาสีเทาของเขาว่างเปล่าดังเช่นตัวละครในเกม เสียงพูดของเขาราบเรียบเย็นชาเหมือนถูกปรับแต่งด้วยเครื่องเสียงอัตโนมัติ ทว่าแววหน้าและท่าทีของเขากลับดูมีชีวิตชีวาจนน่าประหลาด

 

คนอื่นในสถานการณ์เช่นนี้อาจขวัญหนีดีฝ่อ แต่ฉันกลับรู้สึกโล่งใจ

 

ใช่… นี่มันยังเป็นเกมอยู่ ฉันแค่หาทางออกไม่เจอเท่านั้นเอง

 

เลียม บิ๊กเบน!” ฉันร้องเรียกพลางคว้าแขนเขาไว้แน่น

 

มีอะไรหรือ เจนเขาถามกลับด้วยความงุนงง

 

เป้าหมายของฆาตกร! ดูสิ แผนที่นี่ พวกเขาเคลื่อนไหวเป็นวงกลม เหมือนกำลังมุ่งไปยังจุดเดียว! พวกเขามาถึงย่านเบลเกรเวียกับบักกิงแฮมแล้ว มันอาจเป็นสัญญาณเตือนหรือข้อความลับให้พวกพ้องตามรอยต่อไปก็ได้”

 

ฉันคว้าปากกาที่โยนทิ้งไว้ขึ้นมา เขียนเส้นเชื่อมต่อบนแผนที่ซึ่งเต็มไปด้วยเศษหนังสือพิมพ์ เชือก และหมึกสี เส้นเหล่านั้นค่อย ๆ ประกอบกันเป็นรูปดาวห้าแฉกมีบิ๊กเบนอยู่ตรงกลางพอดี

 

เห็นไหม ถ้าเชื่อมต่อแบบนี้จุดศูนย์กลางคือบิ๊กเบน หมายความว่าที่นั่นคือปลายทาง ฉันเชื่อว่ายังมีศพอีกหลายรายที่เรายังไม่พบ โดยเฉพาะในย่านสลัมทางตะวันออกของลอนดอนที่ความตายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว... วงจรการฆ่ากำลังเร่งขึ้น เราต้องส่งตำรวจไปตรึงเส้นทางนี้ภายในคืนนี้ให้ได้”

 

เลียม มัวร์มองฉันพูดพล่ามด้วยแววตากังวล ก่อนจะจับแขนฉันให้ลุกขึ้นแล้วพาไปนั่งยังเก้าอี้นวมข้างเตาผิง

 

เจน… คุณกำลังตื่นเต้นเกินไปแล้ว” เสียงเขาสงบนุ่มนวลจนทำให้หัวใจฉันค่อยคลายความตึงเครียด

 

เมื่อฉันนั่งนิ่ง เขาแตะหน้าผากเบา ๆ ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้า กลิ่นชาอุ่นลอยอ้อยอิ่งขณะความแสบร้อนที่หัวเข่ากลับมาทำให้ฉันสะดุ้งอีกครั้ง

 

เลียมเลิกกระโปรงฉันขึ้นเพื่อตรวจดูรอยไหม้อย่างไม่เกรงกลัว เขาสรุปว่าแผลไม่ร้ายแรงนักก่อนจะกลับไปนั่งบนโซฟาอีกฝั่ง

 

ที่จริง... ผมก็ได้ยินเรื่องคล้ายกัน”

 

เกี่ยวกับบิ๊กเบนหรือคะ

 

ไม่ใช่ แต่เราตามรอยพวกมันได้แล้ว คุณอาจยังไม่รู้ว่าในลอนดอนมีศาสนามากมายไม่ใช่แค่ของคริสตจักรอังกฤษหรือกรีกออร์โธดอกซ์ บางกลุ่มไม่ได้รับการยอมรับจากวาติกันหรืออาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บิวรี… หากคุณกล้าพอ เราอาจไปดูด้วยกันได้”

 

เขาแค่นยิ้มบาง “แต่ผมต้องขอเตือนก่อน มันอาจไม่ใช่ที่ที่สุภาพสตรีอย่างคุณควรไปเหยียบ”

 

ฉันอดขำไม่ได้ที่เขาบอกว่าได้ข้อมูลจาก ชมรมสังคม ของเหล่าผู้ดี

 

พวกที่หมกตัวในโลกของตนเอง สนใจแต่เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติมากกว่าความจริง ฟังดูเหลวไหลแต่หากคำตอบอยู่ที่นั่น ฉันก็พร้อมจะไป

 

งั้นเราออกไปเดี๋ยวนี้กันเถอะค่ะ”

 

เลียมยกนิ้วขึ้นห้ามก่อนอื่นคุณต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อน”

 

อ้อ…”

 

ควรสวมชุดที่เคลื่อนไหวได้คล่อง ผมชอบเวลาคุณสวมชุดสุภาพสตรี แต่คืนนี้เราอาจต้องวิ่งอีกหลายไมล์”

 

ฉันเลิกคิ้วแล้วเตะเขาเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ เขาหัวเราะพลางหลบ

 

ไม่นานฉันก็กลับมาในชุดเรียบง่าย ใช้เทคนิคปลอมตัวบางส่วนที่เขาเคยสอน เขาปรบมืออย่างพอใจ

 

เยี่ยม… ผมคงนึกว่าคุณเป็นเด็กชายแล้วหากไม่สังเกตดี ๆ ปลายทางของเราคืนนี้คือ... วิทมอร์ การ์เดนส์

 

ที่นั่นมีอะไรนอกจากสวนควีนส์ปาร์กหรือคะฉันถาม

 

เลียม มัวร์ คลี่ยิ้มลึกลับ ในนัยน์ตาแฝงแสงเยียบเย็น

 

บางครั้ ความลับของลอนดอนก็ไม่ได้ซ่อนอยู่ในแสงไฟ แต่คืบคลานอยู่ในเงามืดที่ผู้คนมองไม่เห็น... ว่ามั้ย คุณหนูเจน ออสเมอนด์”

ทุกวัน
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า