เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
หญิงสาวที่ดูดกลืนเลือดจนหมดแล้วค่อยๆยืน
พร้อมกับเดินมาที่อาร์ตอย่างช้าๆ เธอยิ้มหวานให้เขาทั้งๆที่เลือดเต็มปาก
มันเป็นยิ้มที่สุดสยองที่สุดที่นายอาร์ตเคยเห็นทีเดียว
"ขอต้อนรับกลับอาณาจักรแวมไพร์ค่ะ ท่านอาลูคาร์ด"
"ว่าไง ......" เวโรนิก้าเอ่ยถามอย่างร้อนรน
การที่เธอออกมายืนสูดอากาศสงบใจข้างนอกมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
"ข้าแสกนจนละเอียดแล้วครับ"
แวมไพร์ลูกน้องของเธอเอ่ยตอบอย่างกลัวเกรง
เพราะมันรู้ดีว่าคำตอบที่มันกำลังจะตอบต่อไปนี้
มันไม่เข้าหูหัวหน้าสาวของมันแน่ๆ "มันเป็นมนุษย์ครับ"
"โธ่เว้ยยยยยย" แวมไพร์สาวตะโกนอย่างสุดกลั้น
เธอปล่อยหมัดอัดอากาศอย่างรุนแรงเพื่อระบายมันออกมา
ผลก็คือก้อนหินใหญ่น้อยบริเวณนั้นแหลกละเอียดทีเดียว
ภารกิจล้มเหลว !
นางข้ามมิติมายังโลกนี้เพื่อทำภารกิจ
ตามหาร่างกำเนิดใหม่ของอาลูคาร์ด แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว
ที่หาเจอกลับเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาๆเท่านั้น
"เจ้าแน่ใจเหรอ ตรวจดีแล้วเหรอไง !"
"ข้าตรวจดีแล้ว" หญิงสาวผมสีเงินเอ่ยตอบ "เพื่อนนายเป็นมนุษย์จริงๆ"
"เยี่ยมเลย เห็นไหมผมบอกท่านแล้วว่าไอ้อาร์ตมันไม่ใช่ผีแน่ๆ
มันเป็นเพื่อนผม ผมรู้ ....."
ไอ้ตุ๋นที่กำลังดีใจกับผลตรวจพูดจ้ออย่างลืมตัว
แต่สุดท้ายมันก็ต้องยั้งปากไว้เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวตรงหน้า
เธอก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไร
ผมยาวสลวยสีเงินเลื่อนลงมาปกหน้าไว้ทำให้เห็นหน้าเธอไม่ชัด
แต่ถ้าลองฟังดีๆจะได้ยินเสียงสะอื้นเล็กๆลอยออกมา
ตอนนี้เธอคงเสียใจอย่างหนักแน่ๆ
เพราะเมื่อครู่เธอเกือบจะฆ่าไอ้อาร์ตเพื่อนของเขาไปแล้ว
พูดถึงไอ้อาร์ต ตอนที่มันโดนวิเวียนไล่ฆ่าในตึกมันจะรู้สึกยังไงน่ะ
เขายังจำได้อยู่เลยว่าเมื่อวันที่มันไปเดทกับวิเวียน
มันกลับมาเล่าให้ฟังเหมือนเด็กๆไม่มีผิด เล่าอยู่ได้ 2-3 ชั่วโมง
เขาจะไปนอนมันก็ไม่ยอม
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเพื่อนรักออกนอกหน้าขนาดนี้
ไอ้อาร์ตคงมีใจให้วิเวียนไม่น้อย แล้ววิเวียนล่ะ ....
"อาร์ตกำลังตกอยู่ในอันตราย ...... ข้าจะไปช่วยเขา"
หญิงสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับยันกายลุกขึ้นมาช้าๆ
"แต่ท่านวิเวียนเจ็บอยู่นี่ครับ" ไอ้ตุ๋นเอ่ย สภาพเธอตอนนี้ดูก็รู้
"ตุ๋น ! ....... แค่ข้าเกือบจะฆ่าเขาก็มากพอแล้ว
นี่เจ้าจะให้ข้าปล่อยให้เขาตายเหรอ"
หญิงสาวเอ่ยขึ้นพร้อมหันจ้องมาที่ไอ้ตุ๋น
มันเลยได้เห็นหน้าเธอเต็มๆครั้งแรก คราบน้ำตาเธอไหลอาบแก้ม
เมื่อกี้เธอแอบร้องไห้เงียบๆจริงๆ
หลังจากพูดจบหญิงสาวก็ไม่รอฟังคำใดๆอีก
เธอรวบรวมพลังอย่างรวดเร็วพร้อมกับร่ายเวทย์ทันที "เท้าเหิร"
ทันใดนั้นร่างเธอก็พุ่งลอยหายลับไปบนฟ้า
'เวลาหลับก็น่ารักดีนี่นา'
แวมไพร์สาวนั่งมองดูอาร์ตที่ตอนนี้กำลังหลับ
เพราะมนต์สะกดของเธออยู่
ที่ต้องสะกดก็เพราะเจ้าหนุ่มนี่ร้องโวยวายที่เห็นเธอดื่มเลือดสดๆ
เธอรู้สึกรำคาญก็เลยจัดการสะกดให้หลับซะ
ก่อนที่จะเอะใจว่าเจ้าหนุ่มนี่ไม่ใช่แวมไพร์เหมือนเธอ
แต่จะว่าไปชายหนุ่มคนนี้หน้าตาคมเข้มในแบบที่เธอชอบจริงๆ
น่าเสียดายที่เขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น
"เอาไงดีครับท่านเวโรนิก้า ฆ่ามันเลยดีไหมครับ"
แวมไพร์ตนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา
"ยังก่อน ข้าต้องรายงานเรื่องนี้กับท่านลินคอร์นก่อน"
เวโรนิก้าตอบพร้อมกับใช้มือลูบไล้ไปมาตามร่างกายของชายหนุ่ม
ก่อนที่เธอจะพบอะไรบางอย่าง
"เจ้าดูนี่สิ"
เธอพูดพร้อมกับชี้ให้ลูกน้องดูจุดสีฟ้าเล็กๆบริเวนต้นคอของชายหนุ่ม
"มันเป็นเวทย์ติดตาม"
"เวทย์ติดตาม ?" เจ้าพวกลูกน้องพากันทำหน้าฉงน
"ตอนที่ข้าเจอเจ้าหนุ่มนี่มีพรีสตัวหนึ่งอยู่กับมันด้วย
อีกเดี๋ยวนังพรีสนั่นก็คงตามมา"
เธอพูดจบก่อนจะลุกขึ้นช้าๆพร้อมกับออกคำลังเสียงเหี้ยมเกรียม
"เอาล่ะ พวกเจ้าทั้งหมดฟังข้า ! ไปเตรียมตัวตั้งรับข้าศึกให้พร้อม
วันนี้เราจะเอานังพรีสมาเย็ดเป็นมื้อเย็น !"
เวทย์ 'เท้าเหิร' เป็นเวทย์เฉพาะของเวทย์ธาตุลมเท่านั้น
คุณสมบัติพิเศษของเวทย์นี้ก็คือช่วยให้
ผู้ใช้เหาะเหิรล่องลอยไปตามลมได้
แถมยังเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กิโลเมตร/ชั่วโมงอีกต่างหาก
แต่ถึงจะเร่งความเร็วได้ขนาดนี้ สำหรับวิเวียนแล้วมันก็ยังช้าไปอยู่ดี
ตอนนี้เธอคิดเป็นห่วงชายหนุ่มอย่างเดียว
ถ้าเจ้าพวกแวมไพร์รู้ว่าเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาจะเป็นยังไง
เขาต้องเป็นอันตรายแน่ๆ
ไม่นานเธอก็มาถึงโกดังร้าง แต่ถึงเธอจะเป็นห่วงเขาแค่ไหน
ก็ต้องรู้สถานการณ์ก่อน
เธอทิ้งระยะห่างจากตัวโกดังเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลงแล้วร่ายเวทย์ทันที
"ลมเอ๋ย" ชั่วพริบตานั้นก็มีสายลมแผ่กว้างออกจากตัวเธออย่างรวดเร็ว
ไม่นานเจ้าสายลมที่ว่านี่ก็แผ่กว้างไปจนทั่วบริเวณ
มันทำหน้าที่เหมือนกับเรดาร์ที่ตรวจจับว่ามีสิ่งชีวิตอะไรอยู่บริเวณนั้นมั่ง
'มีแวมไพร์ 11 ตัว ชั้นนักรบ 10 ชั้นแม่ทัพ 1 มีมนุษย์โดนจับไว้อีก 4
หนึ่งในนั้นเป็นอาร์ต ดีจัง อาร์ตยังไม่เป็นไร'
หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างดีใจ แต่ก็ต้องหน้าเสีย
'อาร์ตยังไม่เป็นไรก็จริงแต่ก็ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้
ไหนเรื่องที่เขากำลังบาดเจ็บอีก บาดเจ็บเพราะเรา .....'
หญิงสาวยืนขึ้นช้าๆ
ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าตามตำราก็ต้องหาจุดซุ่มตัวของพวกแวมไพร์
ก่อนจะไล่กำจัดเงียบๆทีละตัว
แต่แบบนี้มันก็ช้าเกินไป ยิ่งช้าชายหนุ่มก็จะยิ่งอันตราย ทันใดนั้น
เธอก็ตัดสินใจแหกกฎ ใช้การจู่โจมนอกตำราทันที
เธอพุ่งตรงไปที่โกดังอย่างโจ่งแจ้ง
โดยไม่สนว่าจะตกอยู่ในวงล้อมพวกแวมไพร์เลย
"ลูกไฟพิฆาต" ลูกไฟขนาดใหญ่สองลูกพุ่งเข้าใส่วิเวียนทันที
ทำให้เธอต้องชะงักกะทันหันก่อนจะเบี่ยงตัวหลบอย่างหวุดหวิด
พริบตานั้น แวมไพร์ 4 ตัวก็พุ่งจากจุดซุ่ม มายืมล้อมเธอไว้ทั้ง 4 ด้านทันที
'สองตัวหน้าเป็นธาตุไฟ ตัวหลังเป็นธาตุน้ำ 1 สายฟ้า 1'
หญิงสาวมองศัตรูพร้อมกับหาทางรับมือทันที
แต่ไม่ทันที่เธอจะคิดนานเจ้าแวมไพร์สายฟ้าก็ชิงลงมือก่อน
"เวทย์สายฟ้าเลเวล 3 สายฟ้าฟาด"
ประกายสายฟ้าที่รุนแรงพุ่งจากมือของมันเข้าใส่หญิงสาวทันที
แต่หญิงสาวก็ไม่มีทีท่าตกใจยืนร่ายเวทย์ทันที
"โล่พิทักษ์ธาตุลมเลเวล 3 ......... !"
ชั่วพริบตานั้น
โล่ทรงกลมสีขาวที่มีลวดลายสวยงามก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
มันรับการโจมตีจากเจ้าแวมไพร์เต็มๆ
เจ้าแวมไพร์สีหน้าตกใจเป็นอย่างมาก
เพราะเวทย์สายฟ้ามันแพ้ทางเวทย์ลม สายฟ้าของมันโดนดูดไว้จนหมด
ทันใดนั้นหญิงสาวก็จัดการสะท้อนพลังสายฟ้ากลับไปทันที
แต่เป้าหมายของเธอกลับไม่ใช่เจ้าแวมไพร์สายฟ้าที่พึ่งปล่อยออกมา
แต่กลับเป็นแวมไพร์ธาตุน้ำที่อยู่ด้านข้างแทน
เจ้าแวมไพร์ธาตุน้ำร้องลั่นทันที
เพราะธาตุน้ำมันแพ้ทางธาตุสายฟ้า
การโจมตีนี้ความรุนแรงจึงทวีคูนขึ้นไปอีก
พริบตาเดียวมันก็ลุกไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านทันที
"เวทย์ลมเลเวล 3 ลมปะทะ"
หญิงสาวร่ายเวทย์ต่อแล้วโจมตีใส่เจ้าแวมไพร์สายฟ้า
มันร้องลั่นอย่างไม่อาจจะป้องกันได้
เพราะสายธาตุที่แพ้ทางกันมันจึงสลายไปทันที
แค่พริบตาเดียวเธอก็จัดการแวมไพร์ไปได้สอง
ทำให้เจ้าแวมไพร์ธาตุไฟทั้งสองที่อยู่ด้านหน้าโกรธจัดทันที
มันพุ่งเข้าประเคนหมัดเท้าใส่เธอไม่นับ
แต่วิเวียนก็ยังไวพอ เธอปัดป้อง หลบหลีกได้หมด
แถมยังสวนกลับด้วยฮุคขวาตัวหนึ่ง แล้วก็แบ็คคิกใส่อีกตัว
จนมันกระเด็นลงไปกองบนพื้น ก่อนที่เธอจะยืนร่ายเวทย์เตรียมปิดฉาก
"มึงเป็นพรีสธาตุลมใช่ไหมล่ะ กูไม่กลัวมึงหรอก"
ไอ้แวมไพร์ที่นอนจุกร้องบอก ใช่มันเป็นธาตุไฟไม่ได้แพ้ทางธาตุลมนี่
"อ้อเหรอ" หญิงสาวตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะกำมือแน่น
พริบตานั้นแหวนที่ทำจากหินสีขาวก็สว่างแวบทันที
แท้จริงแล้วแหวนนี้ไม่ใช่แหวนธรรมดา แต่เป็นแหวนหินธาตุ
สรรพคุณก็คือช่วยขยายเลเวลพลังธาตุของผู้สวม
ให้สามารถใช้มนต์อีกเลเวลได้ นั่นก็คือ
"เวทย์ธาตุลมเลเวล 4 หมัดอัดอากาศ ........"
"ตูมมมมม"
หมัดพลังอัดลมที่รุนแรงยิ่งกว่าเวทย์ลมปะทะพุ่งเข้าใส่
เจ้าแวมไพร์ทั้งสองทันที จนเสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว
พริบตานั้นร่างของมันทั้งสองก็โดนอัดก๊อบปี้ลงกับพื้นคอนกรีต
จนมันยุบตัวกลายเป็นหลุมกว้างขนาดใหญ่
ร่างของมันทั้งคู่แหลกเหลวทันทีก่อนจะสลายกลายเป็นขี้เถ้า
พวกแวมไพร์ชั้นนักรบคือแวมไพร์ที่ใช้เวทย์สูงสุดได้แค่เลเวล 3
เมื่อมาเจอการจู่โจมจากเวทย์เลเวล 4 มันจึงไม่อาจจะป้องกันตัวได้เลย
ถึงมันจะไม่ได้แพ้ทางแต่ก็ตายได้เหมือนกัน