พิชิตศัตรูสิ้น สยบใต้หล้า เจียงฮ่าวเริ่มต้นจากศิลปะการต่อสู้สู่วิถีเซียนด้วยพรสวรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด!
พิชิตศัตรูสิ้น สยบใต้หล้า เจียงฮ่าวเริ่มต้นจากศิลปะการต่อสู้สู่วิถีเซียนด้วยพรสวรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด!
บทที่ 19 ซากปีศาจเสือปีศาจ!
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้อีกเพียงสามวันเจียงฮ่าวก็จะต้องไปที่สำนักหวงเทียนแล้ว
แต่เจียงฮ่าวได้กลับมาที่เขาเฟยอิงอีกครั้ง
ครั้งนี้เจียงฮ่าวมาคนเดียว
ก่อนหน้านี้เจียงฮ่าวอยู่ที่จวนเจียงเพื่ออยู่กับพ่อแม่
เนื่องจากเขาอายุยังไม่ถึงสิบขวบก็ต้องไปสำนักหวงเทียนแล้ว ดังนั้นพ่อแม่จึงย่อมเป็นห่วง
การที่ลูกจะต้องจากบ้านไปไกล คนเป็นพ่อแม่ย่อมเป็นห่วงเสมอ
แต่ถึงพ่อแม่จะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง
เพราะใครๆก็รู้ว่าการได้เข้าสำนักหวงเทียนนั้นเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่
พ่อแม่ของเจียงฮ่าวจึงจึงไม่ขัดขวางอนาคตของลูกชาย
เพียงแต่ก่อนที่จะไป เจียงฮ่าวอยากมาที่เขาเฟยอิงอีกครั้งเพื่อพบกับต้าหูเป็นครั้งสุดท้าย
ต้าหูในตอนนี้ถูกปล่อยกลับสู่ป่าแล้ว
ก่อนหน้านี้ ตอนที่เจียงฮ่าวยังอยู่ในเมืองชางต้าหูก็มักจะกลับมาที่จวนเจียงเพื่อพบกับเขาเป็นครั้งคราว
แต่ถ้าเจียงฮ่าวไปสำนักหวงเทียนแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกับต้าหูอีก
เจียงฮ่าวได้มาที่เขาเฟยอิงหลายครั้งแล้ว ดังนั้นจึงคุ้นเคยกับเส้นทางเป็นอย่างดี
บนเขาเฟยอิงส่วนใหญ่มีแต่สัตว์ป่า แม้บางตัวอาจมีสายเลือดปีศาจแต่ก็ไม่เป็นภัยต่อเจียงฮ่าว
"ต้าหู"
เจียงฮ่าวเรียกต้าหูโดยการตะโกนเข้าไปในป่าลึก
ที่นี่เป็นเขตแดนของต้าหู
เพียงแค่เขาเรียก ต้าหูก็จะได้ยิน
"โฮหห..."
ตามคาด เสียงคำรามของต้าหูเข้ามาในโสตประสาทของเจียงฮ่าว
หลังจากนั้นก็มีเสียง "ซู่ๆ" ดังขึ้นในป่า
ไม่นานนัก ต้าหูก็พุ่งออกมาจากป่าและใช้หัวถูไถเจียงฮ่าวอย่างออดอ้อน
"ต้าหู เจ้าตัวใหญ่ขึ้นอีกแล้วนะ..."
เจียงฮ่าวลูบหัวต้าหูด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
ต้าหูในตอนนี้น่าจะโตเต็มวัยแล้ว
แต่ทำไมขนาดตัวของมันถึงยังคงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ?
ตอนนี้ต้าหูใหญ่กว่าเสือเต็มวัยทั่วไปเกือบครึ่ง
ซึ่งถือว่าตัวใหญ่มาก
หรือบางทีอาจเป็นเพราะต้าหูมีสายเลือดปีศาจ?
ว่ากันว่าสัตว์ป่าที่มีสายเลือดปีศาจ จะมีความแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสายเลือด
หากสายเลือดปีศาจเข้มข้นมาก ก็มีโอกาสที่จะกลับคืนสู่บรรพบุรุษและมีความหวัง "ได้กลายเป็นปีศาจ" ได้
แต่แน่นอนว่าความหวังนั้นริบหรี่มาก
"โฮกก..."
ทันใดนั้น ต้าหูก็คำรามเสียงต่ำใส่เจียงฮ่าว
"หืม?"
"ต้าหู เจ้าจะพาข้าไปที่ไหน มีของดีอะไรให้ข้างั้นหรือ?"
เจียงฮ่าวสงสัยเล็กน้อย
เขาอยู่กับต้าหูมานานจึงเข้าใจความหมายของมัน
แต่ในเขาเฟยอิงจะมีของดีอะไรซ่อนอยู่?
เมื่อเห็นต้าหู "กระตือรือร้น" ขนาดนี้ เจียงฮ่าวจึงลุกขึ้นและกระโดดขึ้นหลังต้าหู
ต้าหูพาเจียงฮ่าวเดินทางผ่านป่าเขาไปอย่างราบรื่น
ไม่นานนักก็ผ่านมาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง
เจียงฮ่าวรู้สึกเหมือนได้เห็นภาพที่เปิดโล่งขึ้น
"ที่นี่คือ..."
เจียงฮ่าวรู้สึกตกตะลึงในใจ
ถึงแม้ข้างหน้าจะเป็นหุบเขา
แต่มันกลับไม่มีทางไปต่อ
หลังจากนั้น ต้าหูได้พาเจียงฮ่าผ่านหุบเขาไปและได้เห็นวิหารหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
วิหารหินนี้ดูเก่าแก่มาก
นอกจากนี้ยังมีหญ้าขึ้นรกครึ้ม
เจียงฮ่าวเดินตามวิหารไปจนถึงประตู
เขาออกแรงผลักเล็กน้อย
"หืม?"
"ผลักไม่ออกรึ?"
ถึงเจียงฮ่าวจะอายุไม่ถึงสิบขวบและยังเป็นเด็ก แต่เขามีพลังเลือดปราณที่แข็งแกร่งและเป็นถึงนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตพลังภายใน
ซึ่งพลังภายในของเขาก็เพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึงสามเท่า
เรียกได้ว่ามีพละกำลังมหาศาล
แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับผลักประตูหินนี้ไม่ออก?
เจียงฮ่าวขมวดคิ้ว
เขาก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย จากนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยหมัดออกไป
"บู้มมม!"
ประตูหินส่งเสียงดังสนั่น
ครั้งนี้เจียงฮ่าวไม่ได้ออมมือ
เขาปลดปล่อยพลังหมัดอันน่าสะพรึงกลัวออกมาทันที
แต่ถึงอย่างนั้นประตูหินก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะขยับ
เจียงฮ่าวเดินวนรอบวิหารอยู่หลายรอบ แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายวิหารได้ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าไปข้างในได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงฮ่าวเจอได้เรื่องประหลาดแบบนี้
เขาคาดเดาว่าวิหารหินแห่งนี้ต้องมีที่มาที่ไปไม่ธรรมดาเป็นแน่
ในขณะเดียวกัน ต้าหูก็ส่งเสียงคำรามต่ำออกมาอีกครั้ง
"เจ้าบอกว่ามีของดีอยู่ตรงนั้นงั้นหรือ?"
เจียงฮ่าวไม่ค่อยเชื่อมากนัก
ดังนั้น ต้าหูจึงพาเจียงฮ่าวไปยังพื้นที่โล่งด้านหลังของวิหารซึ่งอยู่ห่างออกไปพอสมควร
เจียงฮ่าวได้เห็นสัตว์ป่าสองตัว
มันเป็นสัตว์ป่าที่ตัวใหญ่มาก
ตัวหนึ่งเป็นหมี อีกตัวนั้นเป็นเสือ
พวกมันแต่ละตัว มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าต้าหูหลายเท่า
ซึ่งนี่เกินกว่าขอบเขตการเติมโตของสัตว์ป่าทั่วไปมาก
แต่สัตว์ป่าทั้งสองตัวนี้กลับไม่มีลมหายใจแล้ว
แม้แต่ร่างกายของพวกมันก็เริ่มเน่าเปื่อย
เมื่อดูจากโคร่งร่างจึงบอกได้แค่ว่าเป็นเสือกับหมีเท่านั้น
เจียงฮ่าวค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆ
ถึงแม้สัตว์ป่าทั้งสองจะตายแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นอายแห่งความน่ากลัวแผ่ออกมา
เจียงฮ่าวเห็นภาพลางๆของเสือและหมีที่กำลังแผ่พลังอำนาจน่าสะพรึงกลัว
เจียงฮ่าวจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้กว่านี้
ตอนนี้เขาพอจะเดาได้แล้วว่าเสือและหมีตัวนี้คืออะไร
มันคือปีศาจ!
ทั้งเสือและหมีคู่นี้น่าจะเป็นปีศาจทั้งคู่
หรือถ้าไม่ใช่ปีศาจ ก็ต้องเป็นสัตว์ที่มีสายเลือดปีศาจที่เข้มข้นมาก
"ทำไมถึงได้มีปีศาจสองตัวอยู่ที่นี่? แถมยังตายพร้อมกันอีก หรือว่ามันจะเกี่ยวข้องกับวิหารหินนั่นหรือเปล่า?"
เจียงฮ่าวยิ่งรู้สึกว่าวิหารหินแห่งนี้ลึกลับมากขึ้น
ต้าหูเดินวนรอบซากเสือปีศาจ ซึ่งทำให้เจียงฮ่าวเข้าใจความหมายของมันทันที
"เจ้าเคยมานอนแถวนี้บ่อยๆงั้นหรือ?"
เจียงฮ่าวมองไปที่ขนาดตัวที่ใหญ่โตของต้าหูในตอนนี้แล้วครุ่นคิด
เดิมทีต้าหูเองก็มีสายเลือดเสือปีศาจอยู่บ้าง
การที่มันอยู่ใกล้ซากเสือปีศาจเป็นเวลานาน อาจได้รับอิทธิพลจากซากเสือและทำให้สายเลือดเสือปีศาจในตัวต้าหูเกิดการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นผลดีต่อต้าหู
"ถึงเสือตัวนี้จะตายไปแล้วแต่อำนาจของมันยังคงอยู่ ยิ่งเป็นปีศาจสองตัวนี้ก็ยิ่งแล้วใหญ่"
"รอบๆตัวพวกมันมีกลิ่นอายของปีศาจแผ่ออกมา โชคดีที่จิตใจของข้าแข็งแกร่งกว่านักศิลปะการต่อสู้ทั่วไปดังนั้นจึงสามารถทนต่อแรงกดดันจากกลิ่นอายของปีศาจได้"
"ถึงแม้ซากปีศาจทั้งสองจะเน่าเปื่อยไปแล้วจนไม่สามารถกินได้ แต่ข้ายังสามารถสังเกตซากของพวกมันโดยเฉพาะซากเสือปีศาจ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อวิชาหมัดพยัคฆ์ของข้า!"
เจียงฮ่าวนึกถึงวิชาหมัดพยัคฆ์ขึ้นมา
วิชาหมัดพยัคฆ์ของเขาตอนนี้ยังอยู่ในระดับเชี่ยวชาญขั้นสูง
ซึ่งมันห่างจากขั้นสมบูรณ์แบบเพียงก้าวเดียว
แต่ก้าวเดียวนั้น แม้แต่เจียงฮ่าวก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้
เพราะเขาขาดโอกาสที่เหมาะสม
เมื่อได้เห็นซากเสือปีศาจ เจียงฮ่าวจึงเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาราวกับมีแสงสว่างวาบเข้ามาในใจ
โอกาสของเขาอาจอยู่ตรงหน้าแล้วก็เป็นได้!
"ต้าหู เฝ้าข้าอยู่แถวนี้และอย่าให้สัตว์อื่นเขามารบกวนข้าได้เป็นอันขาด!"
"โฮกก..."
ต้าหูตอบรับด้วยเสียงคำรามต่ำ
เมื่อมีต้าหูอยู่คอยคุ้มกัน เจียงฮ่าวจึงวางใจ
เขารีบเริ่มสังเกตซากเสือปีศาจและฝึกวิชาหมัดพยัคฆ์ทันที
เจียงฮ่าวฝึกวิชาหมัดพยัคฆ์จนถึงระดับเชี่ยวชาญขั้นสูงแล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้าใจถึง "รูปลักษณ์ของเสือ"
แต่ตอนนี้เมื่อเขาสังเกตซากเสือปีศาจ เขากลับพบว่า "รูปลักษณ์ของเสือ" ที่เขาเข้าใจนั้นดูเหมือนจะขาดอะไรไปบางอย่าง
มันรู้สึกไม่ถูกต้องและไม่ค่อยราบรื่นมากนัก
"รูปลักษณ์ของเสือ... เสือธรรมดาก็ย่อมมีรูปลักษณ์ของเสือ ส่วนเสือปีศาจก็ย่อมมีรูปลักษณ์ของเสือปีศาจ"
"นักศิลปะการต่อสู้ทั่วไปอาจไม่เคยเห็นเสือปีศาจ ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงการเฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด พวกเขาจึงทำได้แค่สังเกตเสือธรรมดาและเข้าใจรูปลักษณ์ของเสือธรรมดาเท่านั้น"
"แต่ตอนนี้ข้าสามารถสังเกตซากเสือปีศาจอย่างใกล้ชิด แล้วทำไมถึงไม่ลองเข้าใจรูปลักษณ์ของเสือปีศาจดูบ้างล่ะ?"
ดวงตาของเจียงฮ่าวเริ่มเป็นประกาย
การเข้าใจ "รูปลักษณ์ของเสือ" นั้นมีผลอย่างมากต่อพลังของวิชาหมัดพยัคฆ์
หากเขาเข้าใจรูปลักษณ์ของเสือปีศาจได้ บางทีผลลัพธ์คงจะเปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้น เจียงฮ่าวจึงเฝ้าสังเกตซากเสือปีศาจอย่างละเอียด
หลังจากนั้น เวลาก็ค่อยๆผ่านไปทีละน้อย
หนึ่งชั่วยาม สองชั่วยาม สามชั่วยาม สี่ชั่วยาม...
เจียงฮ่าวเฝ้าสังเกตซากเสือปีศาจอยู่สี่ชั่วยาม
ท้องฟ้าในตอนนี้ก็เริ่มมืดลง
มันใกล้จะเป็นเวลาค่ำแล้ว
"บู้มมม!"
ในที่สุด "รูปลักษณ์ของเสือ" ของเจียงฮ่าวก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
จากรูปลักษณ์ของเสือธรรมดา มันได้กลายเป็นรูปลักษณ์ของเสือปีศาจ
การเปลี่ยนแปลงนี้เจียงฮ่าวรู้สึกได้ถึงความแตกต่างทันที
เมื่อเขาปล่อยหมัดออกไป เขารู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
"พลังเพิ่มขึ้นสองส่วนงั้นรึ!"
นี่มันส่งผลกระทบต่อวิชาหมัดพยัคฆ์ได้มากจริงๆ
ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงแค่ระดับเชี่ยวชาญขั้นสูงเท่านั้น
ถ้าหากไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบล่ะ?
"ฟ้ามืดแล้วรึ? ได้เวลาที่ข้าต้องกลับแล้ว"
เจียงฮ่าวมองดูท้องฟ้า
เขาอยากจะอยู่ที่นี่อีกสักพักเพื่อเฝ้าสังเกตซากเสือปีศาจแม้จะเป็นในตอนกลางคืน
แต่ถ้าหากเขาไม่กลับบ้านตอนกลางคืน พ่อแม่คงจะเป็นห่วงมากเพราะกลัวว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขา
ดังนั้น เจียงฮ่าวจึงต้องกลับไปที่บ้านก่อน
ยังไงซะเขาก็ยังมีเวลาอีกหลายวันก่อนที่จะไปสำนักหวงเทียน
เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้
ดังนั้น เจียงฮ่าวจึงให้ต้าหูแบกเขากลับไปส่งที่จวนเจียง
หลังจากนั้น เจียงฮ่าวก็ไปที่เขาเฟยอิงทุกวัน
หลังจากที่เข้าใจรูปลักษณ์ของเสือปีศาจแล้ว เจียงฮ่าวจึงสามารถเข้าใกล้ซากเสือปีศาจได้มากขึ้นจนถึงขั้นเอามือไปสัมผัสได้
เมื่อรวมกับความเข้าใจที่สูงถึง 5.7 แล้ว ในที่สุด หนึ่งวันก่อนที่เจียงฮ่าวจะไปสำนักหวงเทียนวิชาหมัดพยัคฆ์ของเขาก็บรรลุไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบ!
เจียงฮ่าวจึงตรวจสอบพลังของตัวเองทันที
พลังยุทธ์ : ขอบเขตพลังภายใน(ขั้นต้น)
พรสวรรค์ : 7
ความเข้าใจ : 5.7
จิตวิญญาณ : 2
วิชาหมัดพยัคฆ์: สมบูรณ์แบบ (รูปลักษณ์เสือปีศาจ เพิ่มพลัง 40%)
พลังภายใน : เพิ่มพลังได้ 310%
ตามที่คาดไว้ วิชาหมัดพยัคฆ์ของเจียงฮ่าวบรรลุจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว
และมันยังเพิ่มพลังขึ้นอีกถึง 40%!
นี่เป็นการเพิ่มพลังที่น่ากลัวมาก
จ้าวเฮยถ่าเคยบอกว่า หากเข้าใจวิชาหมัดพยัคฆ์ไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบได้ก็จะเพิ่มพลังได้ประมาณ 50%
แล้วตอนนี้ล่ะ?
เจียงฮ่าวที่เข้าใจรูปลักษณ์ของเสือปีศาจจนทำให้วิชาหมัดพยัคฆ์สมบูรณ์แบบและเพิ่มพลังได้ถึง 40%
นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่า "รูปลักษณ์ของเสือปีศาจ" นั้นน่ากลัวแค่ไหน
นี่เป็นแค่ "รูปลักษณ์เสือปีศาจ" เท่านั้น ถ้าหากเข้าใจถึงจิตวิญญาณของเสือปีศาจและเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันและก้าวไปสู่ขั้นสมบูรณ์แบบสูงสุดของวิชาหมัดพยัคฆ์ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่?
"พรุ่งนี้ข้าจะต้องออกเดินทางไปที่สำนักหวงเทียนแล้ว ต่อให้มีซากเสือปีศาจอยู่ตรงนี้แต่ในระยะเวลาสั้นๆก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจถึงแก่นแท้"
เจียงฮ่าวส่ายหัว
การเข้าใจถึงแก่นแท้และทำให้วิชาหมัดพยัคฆ์สมบูรณ์แบบสูงสุดนั้นเป็นเรื่องยากมาก
นอกจากนี้เขาก็มีความรู้สึกบางอย่าง
ด้วยความเข้าใจในตอนนี้ของเขา การจะเข้าใจถึงแก่นแท้ของเสือปีศาจยังถือว่าห่างไกล
ค่าความเข้าใจของเจียงฮ่าวในตอนนี้ยังไม่มากพอ
บางทีอาจจะต้องมีความเข้าใจที่มากกว่า 10 ถึงจะเข้าใจแก่นแท้ของเสือปีศาจและทำให้วิชาหมัดพยัคฆ์สมบูรณ์แบบสูงสุดได้
"ต้าหู ข้าต้องออกจากเมืองชางไปสำนักหวงเทียนแล้ว ต่อไปนี้เจ้าก็อยู่ที่เขาเฟยอิงเพื่อเป็นจ้าวแห่งสรรพสัตว์ต่อไปนะ"
เจียงฮ่าวลูบหัวต้าหูอย่างเบามือ
เขากำลังบอกลาต้าหู
ตั้งแต่วันนี้ เจียงฮ่าวเองก็ไม่รู้จะได้กลับมาที่นี่เมื่อไหร่
อาจจะหนึ่งหรือสองปี หรือสามถึงห้าปี เขาเองไม่รู้แน่ชัด
หลังจากที่กลับมาครั้งหน้าเขาจะได้เจอต้าหูอีกหรือไม่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจเช่นกัน
ส่วนวิหารหินลึกลับนั้น เจียงฮ่าวยังเข้าไปไม่ได้ในตอนนี้ ดังนั้นเขาคงต้องรอให้แข็งแกร่งขึ้นก่อนแล้วค่อยมาลองใหม่
"โฮกก..."
ต้าหูคำรามต่ำกัดชายกางเกงของเจียงฮ่าวแน่นพร้อมกับสายตาเต็มไปด้วยความปรารถนา
เจียงฮ่าวชะงักเล็กน้อย
"ต้าหู เจ้าอยากไปสำนักหวงเทียนกับข้าหรือ?"
ต้าหูพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
เจียงฮ่าวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ต้าหูนั้นมีสายเลือดเสือปีศาจและด้วยอิทธิพลของซากเสือปีศาจ สายเลือดเสือปีศาจในตัวต้าหูอาจถูกกระตุ้นศักยภาพออกมาแล้วดังนั้นมันจึงไม่ใช่สัตว์ป่าธรรมดาอีกต่อไป
การอยู่ในป่าแบบนี้ต่อไปจึงอาจไม่เหมาะสมมากนัก
หากไปที่สำนักหวงเทียน บางทีเขาอาจจะหาวิชาฝึกฝนที่เกี่ยวกับปีศาจเสือมาให้ต้าหูได้ฝึกด้วยก็ได้
"เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปสำนักหวงเทียนกับข้าเถอะ"
ต้าหูในตอนนี้ก็เหมือนเพื่อนเล่นของเจียงฮ่าว เนื่องจากเคยอยู่ด้วยกันมาตลอดแต่ตอนนี้ต้องแยกจากกัน มันจึงทำให้เจียงฮ่าวเองก็รู้สึกใจหาย
หลังจากนั้นเจียงฮ่าวได้กระโดดขึ้นหลังต้าหูและมุ่งหน้ากลับสู่เมืองชางเฉิงไปพร้อมกัน…