พิชิตศัตรูสิ้น สยบใต้หล้า เจียงฮ่าวเริ่มต้นจากศิลปะการต่อสู้สู่วิถีเซียนด้วยพรสวรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด!
พิชิตศัตรูสิ้น สยบใต้หล้า เจียงฮ่าวเริ่มต้นจากศิลปะการต่อสู้สู่วิถีเซียนด้วยพรสวรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด!
บทที่ 16 เป้าหมายของเจียงฮ่าว!
ที่ด้านนอกสำนัก หมอคนหนึ่งกำลังนั่งยองๆด้วนท่าทีหวาดกลัวขณะที่ตรวจดูอาการบาดเจ็บของต้าหูอย่างละเอียด
ปกติหมอคนนี้จะรักษาคน แต่นี้เป็นการรักษาเสือเป็นครั้งแรกดังนั้นเขาจึงดูไม่คล่องแคล่วเท่าไหร่
"คุณหมอ ต้าหูเป็นอย่างไรบ้าง?"
เจียงฮ่าวถาม
เมื่อหมอเห็นว่าเป็นเจียงฮ่าวจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วตอบว่า "นายน้อย ท่านเสือของท่านแค่มีบาดแผลภายนอกนิดหน่อย ส่วนที่เลือดออกข้าก็ห้ามเลือดเอาไว้ให้แล้วดังนั้นจึงน่าจะไม่เป็นอะไรมากแล้วขอรับ"
"งั้นหรือ ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะ"
เจียงฮ่าวจ่ายค่ารักษาแล้วหมอก็จากไปด้วยรอยยิ้ม
ต้าหูแลบลิ้นเลียมือเล็กๆของเจียงฮ่าว ส่วนเจียงฮ่าวก็ลูบหัวต้าหูเบาๆแล้วปลอบว่า "ไม่ต้องห่วง ตอนนี้เจ้าไม่เป็นไรแล้วแค่พักผ่อนสักสองสามวันก็หายแล้วล่ะ"
เมื่อกลับถึงจวนเจียง เจียงฮ่าวก็หยิบตำราวิชาหิมะร่ายรำออกมาทันที
เจียงฮ่าวฝึกวิชาขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศอย่าง 'วิชาสายฟ้าฟาด' และ 'วิชาคลื่นพิโรธ' สำเร็จแล้ว ถึงแม้ว่าจะแตกต่างจากวิชาหิมะร่ายรำโดยสิ้นเชิง แต่เจียงฮ่าวก็เริ่มคุ้นเคยกับการฝึกวิชาพลังภายในประเภทนี้เป็นอย่างดี
เพียงแค่เห็นแวบแรกก็รู้ทันทีว่าวิชาหิมะร่ายรำนี้มีพลังมหาศาลและคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝึก
แต่แค่สามเดือนก็น่าจะเพียงพอ
เจียงฮ่าวนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้
โดยเฉพาะเรื่องที่ได้พบกับศิษย์ชั้นนอกของสำนักหวงเทียน
นอกจากนี้เขายังลงเอาชนะหลิวเฉวียนได้ในหมัดท่าเดียว
นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจียงฮ่าวได้ลงมือต่อสู้กับคนจริงๆไม่ใช่แค่ประลองฝีมือกัน
แต่เจียงฮ่าวกลับมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง
มันง่ายเกินไป…
การต่อสู้กับหลิวเฉวียนนั้นง่ายเกินไปจริงๆ
แม้ว่าทั้งสองคนต่างก็เป็นนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตพลังภายในเหมือนกันก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น หลิวเฉวียนที่สามารถเข้าเป็นศิษย์ชั้นนอกของสำนักหวงเทียนได้ก็ไม่น่าจะเป็นคนอ่อนแอ
แต่ทำไมผลลัพธ์ถึงได้กลับเป็นแบบนี้?
อย่าว่าแต่หลิวเฉวียนคนเดียวเลย ต่อให้เป็นหลิวเฉวียนสิบคนเจียงฮ่าวก็ไม่รู้สึกว่าจะแพ้ด้วยซ้ำ
นี่ไม่ใช่เพราะเจียงฮ่าวหยิ่งยโสในพลังของตัวเอง
แต่เพราะพลังของเขาได้ก้าวข้ามนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตเดียวกันไปไกลแล้ว
"ถึงแม้พลังของข้าจะเหนือกว่านักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตเดียวกันไปมาก จนแม้แต่ศิษย์ชั้นนอกของสำนักหวงเทียนหลายคนก็คงมีน้อยคนที่เป็นคู่มือของข้าได้ แต่ท่านอาจารย์กลับคิดว่าข้ายังสามารถผ่านหอคอยหวงเทียนไปได้"
"นั่นแสดงว่าบททดสอบในหอคอยหวงเทียนคงจะยากจริงๆ แต่การฝากความหวังไว้ที่วิชาขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศสามวิชาที่ท่านอาจารย์จะหามาให้ก็ยังไม่พอ ถ้าหากว่าวิชาหมัดพยัคฆ์ของข้าฝึกไปถึงขั้น 'เชี่ยวชาญขั้นสูง' ได้ โอกาสที่จะผ่านหอคอยหวงเทียนก็จะยิ่งมีมากขึ้น"
เจียงฮ่าวเริ่มวางแผนการฝึกฝนใหม่
แม้ว่าเขาจะต้องฝึกวิชาหิมะร่ายรำแต่ก็ต้องใส่ใจกับวิชาหมัดพยัคฆ์ด้วย
การไปเฝ้าดูต้าหูล่าเหยื่อที่เขาเฟยอิงครั้งนี้ ทำให้เจียงฮ่าวได้เข้าใจอะไรมากขึ้น
ถ้าหากได้ไปอีกหลายๆครั้ง เขาอาจจะพบโอกาสที่จะทำให้วิชาหมัดพยัคฆ์ไปถึงเชี่ยวชาญขั้นสูงได้
...
ณ สำนักเทียนกัง หนึ่งในเจ็ดโรงฝึกใหญ่ของเมืองชางเฉิง วันนี้มีแขกผู้มาเยือนลึกลับคนหนึ่งมาเยือนที่นี่
เจ้าสำนักเฮ่อเทียนกังเป็นผู้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง
"จ้าวเฮยถ่า ลมอะไรหอบเจ้ามาถึงที่นี่งั้นรึ?"
เฮ่อเทียนกังเอ่ยถาม
เขารู้จักจ้าวเฮยถ่าเป็นอย่างดี
จ้าวเฮยถ่าจะไม่มาหาเขาโดยไม่มีธุระแน่นอน ดังนั้นครั้งนี้จ้าวเฮยถ่าจะต้องมีเรื่องอะไรให้เขาช่วยแน่ๆ
จ้าวเฮยถ่าสนิทกับเฮ่อเทียนกังมาก ดังนั้นเขาจึงนั่งลงทันทีโดยไม่เกรงใจแล้วถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า "เฮ่อเทียนกัง ศิษย์ของเจ้า ทู่ฝูเทียนนั้นมีพลังในขอบเขตพลังหยินแล้ว แต่เจ้ายังไม่ได้มอบสิทธิ์แนะนำของสำนักหวงเทียนอีกงั้นรึ?"
เมื่อพูดถึงทู่ฝูเทียน สีหน้าของเฮ่อเทียนกังจึงหม่นลง
นี่เป็นความเจ็บปวดในใจของเขา
ก่อนหน้าเจียงฮ่าว ทู่ฝูเทียนคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองชางเฉิง
เฮ่อเทียนกังฝากความหวังเอาไว้กับทู่ฝูเทียนมาก ตั้งแต่ตอนที่ทู่ฝูเทียนมีพลังในขอบเขตพลังภายใน เขาก็อยากจะส่งทู่ฝูเทียนไปที่สำนักหวงเทียนแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้มอบสิทธิ์แนะนำจนปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้
ก่อนหน้านี้ เฮ่อเทียนกังเคยไปหาจ้าวเฮยถ่าเพื่อขอสิทธิ์แนะนำของสำนักหวงเทียนที่จ้าวเฮยถ่าครองอยู่แต่ก็ถูกปฏิเสธ
"จ้าวเฮยถ่า เจ้ามาเพื่อเยาะเย้ยข้าโดยเฉพาะเลยหรือ?"
เฮ่อเทียนกังถามกลับด้วยรอยยิ้มเย็น
"เฮ่อเทียนกัง อย่าได้มองความหวังดีของข้าเป็นอื่น ครั้งนี้ข้ามาเพื่อมอบสิทธิ์แนะนำของสำนักหวงเทียนให้เจ้า เจ้าจะรับเอาไว้ไหม?"
"อะไรนะ? สิทธิ์แนะนำของสำนักหวงเทียนรึ? จ้าวเฮยถ่า นี่เจ้ายินดีมอบสิทธิ์แนะนำของเจ้าให้กับข้าจริงๆงั้นรึ?"
เฮ่อเทียนกังตื่นเต้นขึ้นมาทันที
"สิทธิ์แนะนำของข้า แน่นอนว่าข้ามอบให้เจ้าไม่ได้"
"จ้าวเฮยถ่า ถ้าเจ้าไม่ให้สิทธิ์แนะนำแก่ข้า แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม?"
"แม้สิทธิ์แนะนำของข้าจะมอบให้เจ้าไม่ได้ แต่ข้ามีตราของตระกูลเซี่ยแห่งเมืองชิงหยาง ถ้าหากมีตรานี้ก็เทียบเท่ากับสิทธิ์แนะนำการได้เป็นศิษย์ชั้นนอกของสำนักหวงเทียนแล้ว เจ้าจะรับไว้ไหม?"
จ้าวเฮยถ่าพลิกมือพร้อมกับตราตระกูลเซี่ยที่ปรากฏขึ้นในมือของเขา
"ตราตระกูลเซี่ยแห่งเมืองชิงหยางรึ?"
เฮ่อเทียนกังเองก็เป็นคนที่มีความรู้ เขาพิจารณาตรานั้นอย่างละเอียดพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง
มันเป็นของจริง!
ตราของตระกูลเซี่ยแห่งเมืองชิงหยางเทียบเท่ากับสิทธิ์แนะนำการได้เป็นศิษย์ชั้นนอกของสำนักหวงเทียนหนึ่งที่
ทู่ฝูเทียนในตอนนี้มีความหวังที่จะได้เข้าสำนักหวงเทียนแล้ว!
"จ้าวเฮยถ่า บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการอะไร?"
เฮ่อเทียนกังค่อยๆสงบสติอารมณ์ลง เขาคิดในใจว่าจ้าวเฮยถ่าคงไม่มีทางมอบตรานี้ให้เขาโดยไม่มีเหตุผลเป็นแน่
“หึๆ เจ้าเหยี่ยวขาว เจ้าเองก็รู้เป้าหมายของข้างั้นรึ? แต่ครั้งนี้ข้าต้องการเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะเห็นแก่ที่พวกเราคบหากันมาหลายสิบปี ข้าถึงได้มอบโอกาสนี้ให้กับเจ้า”
“ว่ามาเลยว่าเจ้าต้องการอะไร?”
“ข้าต้องการเพียงวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศสามวิชาเท่านั้น!”
เฮ่อเทียนกังขมวดคิ้ว เพราะวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศสามวิชาไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย!
"ข้าไม่มีมากถึงขนาดนั้นหรอก วิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศในเมืองชางเฉิงไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ"
"แม้แต่ข้าเองก็มีแค่สองวิชาเท่านั้น..."
"ฮึๆๆ ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้เวลาเจ้าสิบวันในการหาวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศให้ครบทั้งสามวิชา ไม่เช่นนั้นข้าจะไปสำนักอื่นหรือไปที่จวนเจ้าเมือง ข้าเชื่อว่าจะต้องมีสักแห่งที่มอบวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศสามวิชาให้กับข้าได้"
เมื่อได้ยินว่าจ้าวเฮยถ่าจะไปสำนักอื่น เฮ่อเทียนกังจึงรีบร้อนขึ้นมาทันที
"เดี๋ยวก่อนๆ เจ้าอย่าพึ่งไปสำนักอื่นเลย เจ้าให้เวลาข้าสิบวันใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นภายในสิบวันนี้ข้าจะหาวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศสามวิชาให้กับเจ้าเอง!"
เฮ่อเทียนกังกัดฟันพูด
"ย่อมได้ ถ้าอย่างงั้นข้าจะรอเจ้าสิบวัน แต่ว่าวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศสามวิชานั้นต้องเป็นวิชาชั้นเลิศเท่านั้น เจ้าคงเข้าใจความหมายที่ข้าพูดใช่ไหม?"
"เข้าใจแล้ว เจ้าน่ะวางใจเถอะ"
จ้าวเฮยถ่าพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็ออกไปจากสำนักเทียนกังไป
ขณะที่มองดูแผ่นหลังของจ้าวเฮยถ่าที่ค่อยๆหายลับไป เฮ่อเทียนกังก็แทบจะเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่
"ตราของตระกูลเซี่ยรึ? จ้าวเฮยถ่าไปเอาตรานั่นมาจากที่ไหนกัน?"
"ช่างเถอะ ไม่ว่าจ้าวเฮยถ่าจะไปได้มาจากไหน แต่ตรานี้คือสิทธิ์แนะนำเพื่อได้เป็นศิษย์นอกสำนักหวงเทียน หากมีตรานี้ฝูเทียนก็จะเข้าสำนักหวงเทียนได้ ดังนั้นข้าจะต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้!"
"แต่ตอนนี้ข้ายังขาดวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศอีกหนึ่งวิชา... เอาเถอะ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรข้าก็ต้องหาวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศมาให้ครบสามวิชาให้ได้!"
เฮ่อเทียนกังรู้ดีถึงพรสวรรค์ของทู่ฝูเทียนซึ่งเทียบเท่ากับอัจฉริยะของสำนักหวงเทียน
เมื่อทู่ฝูเทียนได้เข้าสำนักหวงเทียน เขาจะเก่งกาจขึ้นอย่างก้าวกระโดด!
เขาจะพลาดไปไม่ได้โดยเด็ดขาด
ไม่กี่วันต่อมา เฮ่อเทียนกังจึงไปที่สำนักเฮยถ่า
ตอนเขาที่ออกมาจากสำนักเฮยถ่า เฮ่อเทียนกังมีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ดูมีความสุขมาก
อีกไม่กี่วันต่อมา ก็มีข่าวลือสะเทือนไปทั้งเมืองชางเฉิง
สำนักเทียนกังได้รับสิทธิ์แนะนำศิษย์ให้กับสำนักหวงเทียน ซึ่งเจ้าสำนักเฮ่อเทียนกังได้มอบสิทธิ์ให้กับทู่ฝูเทียนและพาทู่ฝูเทียนไปที่สำนักหวงเทียนด้วยตัวเอง จนทำให้ทู่ฝูเทียนได้เข้าสู่สำนักหวงเทียนและกลายเป็นศิษย์ชั้นนอกของสำนักหวงเทียนทันที
ข่าวนี้ทำให้เมืองชางเฉิงถึงกับแตกตื่น
โดยเฉพาะสำนักต่างๆต่างก็สืบถามว่าสำนักเทียนกังไปหาสิทธิ์แนะนำเข้าสำนักหวงเทียนมาได้อย่างไร?
แต่เฮ่อเทียนกังปิดปากเงียบและไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ
ส่วนเจียงฮ่าวและเหวินเซียงนั้นพอจะคาดเดาได้
เพราะทั้งสองรู้เรื่อง "ตราตระกูลเซี่ย"
เพราะการที่สำนักเทียนกังได้รับสิทธิ์แนะนำศิษย์เข้าสำนักหวงเทียนในตอนนี้มันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป
วันหนึ่ง จ้าวเฮยถ่าได้เรียกเจียงฮ่าวเข้าไปหา
"เจียงฮ่าว ตราตระกูลเซี่ยของเจ้าข้าเอาไปแลกกับวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศครบทั้งสามวิชาแล้ว ซึ่งก็คือ วิชากระเรียนขาว, วิชาหมัดหยก และ วิชาสายธารสีชาด"
จ้าวเฮยถ่าหยิบตำราวิชาชั้นเลิศทั้งสามเล่มออกมา
"สำนักเทียนกังรึ?"
เจียงฮ่าวตกใจ
เขารู้ว่าสำนักเทียนกังมีวิชาขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศหนึ่งวิชาที่ชื่อว่า “วิชากระเรียนขาว”
เมื่อนึกถึงเรื่องที่สำนักเทียนกังได้รับสิทธิ์แนะนำศิษย์เข้าสำนักหวงเทียนแล้ว เจียงฮ่าวจึงพอจะเดาเรื่องราวได้
"ท่านอาจารย์ ท่านไปแลกเปลี่ยนวิชาทั้งสามนี้กับสำนักเทียนกังหรือขอรับ?"
เจียงฮ่าวถามขึ้น
"ใช่ วิชาทั้งสามนี้ล้วนมาจากสำนักเทียนกัง"
"ข้ากับเฮ่อเทียนกังคบหากันมาหลายสิบปี ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยข้าไว้มากมาย ดังนั้นข้าจึงมอบโอกาสนี้ให้กับเฮ่อเทียนกัง"
แม้จะเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ทั้งเฮ่อเทียนกังและจ้าวเฮยถ่าต่างก็รู้ดีว่าเรื่องนี้จ้าวเฮยถ่าเป็นฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือเฮ่อเทียนกัง
ไม่เช่นนั้น จ้าวเฮยถ่าก็คงสามารถได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่านี้ได้
"เจียงฮ่าว ข้ามีเรื่องอยากขอร้องเจ้า"
"ท่านอาจารย์ มีอะไรก็สั่งศิษย์ได้เลยขอรับ"
จ้าวเฮยถ่าหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดช้าๆว่า "ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้าอยากให้เจ้าเข้าสำนักหวงเทียนให้ได้"
"ศิษย์พี่ของเจ้าบางคน อันที่จริงก็มีพรสวรรค์ที่ไม่เลว ถ้าข้าใช้สิทธิ์แนะนำพวกเขาก็เข้าสำนักหวงเทียนและได้เป็นศิษย์นอกสำนักได้ ถ้าหากพยายามอีกหน่อยก็อาจเป็นศิษย์ชั้นในได้เลยด้วยซ้ำ เพียงแต่ ข้าไม่ได้มอบสิทธิ์ให้กับพวกเขาแต่เก็บมันไว้มาตลอดจนสุดท้ายข้าได้ตัดสินใจมอบมันให้กับเจ้า"
"ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของพวกเขาจะไม่ถึงตามที่ข้าต้องการ แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าข้าติดค้างพวกเขาอยู่บ้าง"
"ถ้าในอนาคตเจ้าได้เป็นศิษย์หลักของสำนักหวงเทียนเจ้าก็จะมีสิทธิ์รับผู้ติดตาม ข้าหวังว่าเจ้าจะพิจารณาให้สิทธิ์ผู้ติดตามแก่ศิษย์พี่ของเจ้าบ้าง ซึ่งสิทธิ์ผู้ติดตามของศิษย์หลักนั้นมีสวัสดิการดีกว่าศิษย์ชั้นนอกมาก!"
เจียงฮ่าวทำเพียงแค่ฟังแต่ยังไม่ได้ตอบตกลงทันที
หนึ่งก็คือเขาไม่รู้ว่าสิทธิ์ผู้ติดตามคืออะไร และสองคือเขาไม่ค่อยสนิทกับศิษย์พี่หลายคน
คนที่เขาสนิทที่สุดก็คือเหวินเซียงศิษย์พี่หญิงรองเท่านั้น
เมื่อเห็นความกังวลของเจียงฮ่าว จ้าวเฮยถ่าจึงยิ้มแล้วพูดว่า "เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก ข้าแค่ติดค้างพวกเขาอยู่บ้างจึงอยากให้พวกเขาได้มีหนทางที่ก้าวหน้าเท่านั้น ยังไงเสีย สิทธิ์ผู้ติดตามมันก็เป็นของเจ้า เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะมอบให้ใครเจ้าก็ต้องตัดสินใจเอง"
"ข้าจะไม่พูดเรื่องนี้กับศิษย์พี่ของเจ้า และเมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็มอบสิทธิ์ผู้ติดตามแก่ศิษย์พี่ที่เจ้าสนิทก็พอ"
"ส่วนคนที่ไม่สนิทกับเจ้าหรือแม้แต่อิจฉาเจ้า คนพวกนั้นเจ้าไม่ต้องไปยุ่งหรอก"
จ้าวเฮยถ่าเข้าใจดีและไม่บังคับให้เจียงฮ่าวต้อง "ดูแล" ศิษย์พี่ทุกคน
แค่ดูแลศิษย์พี่ศิษย์ที่สนิทและมีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดเท่านั้นก็พอแล้ว
อย่างเช่น ศิษย์พี่หญิงรองเหวินเซียงนั้นก็เป็นคนดี
ถ้าหากมีโอกาส เจียงฮ่าวก็จะพาเหวินเซียงเข้าสำนักหวงเทียนตามเขาไปด้วย
"ศิษย์เข้าใจแล้วขอรับ ขอให้ท่านอาจารย์วางใจได้ เมื่อถึงตอนนั้นศิษย์จะนึกถึงเหล่าศิษย์พี่ก่อนขอรับ"
"ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปได้แล้ว การฝึกวิชานั้นเจ้าไม่ต้องรีบร้อนมากเกินไปนัก ค่อยๆฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าหากร่างกายของเจ้าไม่เข้ากับวิชาไหนก็อย่าฝืนตัวเองก็พอแล้ว"
"ขอรับท่านอาจารย์"
เจียงฮ่าวกลับไปที่ห้องฝึกอันเงียบสงบ
เขาต้องวางแผนการฝึกของเขาต่อไป
ด้วยพรสวรรค์ของเขาในตอนนี้ การฝึกวิชาในขอบเขตพลังภายในชั้นเลิศเหล่านี้ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ
แต่การจะฝึกวิชาหมัดพยัคฆ์ให้ไปถึงระดับเชี่ยวชาญขั้นสูงหรือขั้นสมบูรณ์แบบได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
เพราะความเข้าใจของเขายังไม่มากพอ
ดังนั้น หลังจากนี้เจียงฮ่าวจะฝึกฝนอย่างเต็มที่และการทำสมาธิเพ่งมองพระจันทร์สีเลือดเพื่อเพิ่มความเข้าใจ!
เจียงฮ่าวคาดว่าเวลาหนึ่งหรือสองปีก็น่าจะเพียงพอแล้ว
"ข้าจะต้องมีเป้าหมายเสียก่อน"
"ก่อนที่ข้าจะอายุสิบขวบ ข้าจะต้องได้เข้าสำนักหวงเทียนแล้วได้เป็นศิษย์ชั้นในให้ได้!"
เจียงฮ่าวมั่นใจมาก
แค่เขาพยายามให้มาก ก็น่าจะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้ได้ไม่ยาก