เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
หูชื่อเหวินออกจากห้องคุมแผงโทรศัพท์หลังเลิกงานและเดินไปที่หอพัก เมื่อผ่านลานตากข้าวเธอก็เด็กสองสามคนกำลังวิ่งเล่นกันแถวทุ่ง
พอเห็นเด็กๆ แล้วก็อดนึกถึงลูกสาวในชาติก่อนของตัวเองไม่ได้ สงสัยเหลือเกินว่าหลังจากที่เธอได้เสียชีวิตแล้วสามีของเธอจะดูแลลูกได้ดีหรือเปล่า?
แต่ข้อดีของเขาก็มี เขาเป็นคนละเอียดรอบคอบกว่าเธอมากนัก
หูชื่อเหวินไม่รู้ว่าการเดินทางย้อนอดีตจะทำให้เรื่องที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตเธอจะยังคงเกิดขึ้นไหม? หรือจะเป็นเหมือนโลกคู่ขนานกันอะไรทำนองนั้น บางทีอาจจะเป็นเพียงความฝันตื่นหนึ่ง เธอไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรคือจริง อะไรคือภาพฝัน
ความไร้เดียงสาของเด็กๆ ทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจ แม้ว่าจะรู้สึกดีที่ได้กลับมาเป็นเด็กสาวอีกครั้งแต่ก็ยังรู้สึกเศร้าใจอยู่ด้วยเช่นกัน
ในขณะที่กำลังจะหันหลังกลับ มีเสียงเด็กกรีดร้องแว่วมาเข้าหูของหูชื่อเหวิน
ที่ตรงนั้นมีกองฟืนอยู่ที่ข้างลานตากข้าวเป็นเพราะมันวางไว้ไม่มั่นคงหรือเด็กๆ เล่นซนกันเองจนไปทำให้ฟืนทั้งกองถึงเริ่มพังทลายร่วงหล่นสู่พื้น
เด็กหลายคนพากันวิ่งหนี ยกเว้นเด็กสาวอายุราวๆ 6-7 ขวบ ที่ยืนไม่ยอมขยับเหมือนกับหมดหนทางอยู่ใต้กองฟืน เธอร้องไห้เอาแต่เรียกร้องหาแม่
หูชื่อเหวินเหมือนเห็นภาพหลอน เธอเห็นลูกสาวกำลังร้องไห้เรียกหาตนเอง
เธอรีบวิ่งไปอุ้มเด็กตัวเล็กๆ ออกมา แต่ความเร็วของเธอไม่สามารถวิ่งทันกับกองฟืนที่ถล่มลงมาได้ หญิงสาวหันหลังให้กองฟืนกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน
ท่อนฟืนตกลงมาหล่นทับลงบนร่างของเธอ
ทันใดนั้นหูชื่อเหวินรู้สึกว่าร่างกายตัวเองหมุนเหวี่ยง เธอถูกโอบกอดโดยท่อนแขนที่ทรงพลังพร้อมกับหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับหยินเหวินกั๋วคร่อมอยู่เหนือร่างของเธอ โดยใช้มือยันไว้กับพื้น เขามองเธอด้วยสีหน้าซับซ้อนดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล
“เธอ…”
“โฮ…” ก่อนที่หยินเหวินกั๋วจะได้ถามเธอว่าเป็นอะไรไหม เด็กน้อยที่อยู่ระหว่างทั้งสองคนก็เริ่มร้องไห้ออกมา
หูชื่อเหวินผลักหยินเหวินกั๋วออกไป ลุกขึ้นนั่งทันที เธอกอดเด็กหญิงไว้ในอ้อมแขนแน่นน้ำตาไหลพราก
“ลูกรัก… แม่ผิดไปแล้ว! แม่จะไม่ตีลูกแล้ว…” เธอประคองใบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมา ลูบไล้ใบหน้าของเล็กๆ ด้วยมือที่สั่นเทา ระหว่างนั้นน้ำตายังคงไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้
สมองของหูชื่อเหวินกำลังอยู่ในความสับสนอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้สึกว่าเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าคือลูกสาวเธอในชาติก่อน
“หูชื่อเหวิน! หูชื่อเหวิน! เธอเป็นอะไร?”
“น้า…”
หยินเหวินกั๋วและเด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกัน เสียงของคนทั้งคู่ปลุกให้หูชื่อเหวินตื่นขึ้นจากจิตสำนึกที่หลอกหลอน
เธอทำอะไรอยู่? เมื่อครู่เธอตกอยู่ในภวังค์ลึกของจิตใจจนกระทั่งไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น
หญิงสาวเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วยืนขึ้น เธอก้มลงพูดกับเด็กหญิงตัวน้อยอย่างอ่อนโยน
“เด็กน้อย ต่อไปต้องระวังให้ดีนะ รู้ไหม! อย่ามาวิ่งเล่นแถวกองฟืนสูงๆ อีก มันอันตราย”
จากนั้นจึงหันไปพูดกับหยินเหวินกั๋วว่า
“ขอบคุณสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น หัวหน้าได้โปรดพาหนูน้อยคนนี้กลับบ้านได้ไหม? ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ขอตัวกลับก่อน”
หยินเหวินกั๋วมองตามหลังหูชื่อเหวินที่เดินจากไป แต่เขายังไม่หายจากความตกใจจากวิ่งที่ได้เห็น
เมื่อครู่นี้เขาพึ่งเห็นอะไรไป? เหมือนจะได้ยินอะไรบางอย่าง
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาเห็นและตัวเขาที่วิ่งเข้าไปเอาตัวหูชื่อเหวินออกมาจากกองฟืนที่ถล่มลงมาอย่างฉิวเฉียด
หัวใจก็เต็มไปด้วยความว้าวุ่น เป็นไปได้อย่างไร? นั่นไม่ใช่เขา ต้องไม่ใช่เขาแน่ๆ
ในชีวิตก่อนเขาเกลียดหูลี่อิงมากจนไม่อยากที่จะแตะตัวเธอด้วยซ้ำ ในชีวิตนี้เขาจะทำแบบนั้นไปได้อย่างไร?
แล้วคำพูดที่เธอพูดกับเด็กหญิงคนนั้นอีก..
แม่จะไม่ตีหนูอีกแล้ว…
เมื่อนึกถึงความเปลี่ยนแปลงของหูชื่อเหวินเมื่อเร็วๆ นี้ หยินเหวินกั๋วก็มีความคิดบางอย่างอยู่ในใจ
เธอไม่ใช่หูลี่อิงแน่นอน!
ถ้าอย่างนั้นเธอเป็นใคร?
เธอกลายเป็นหูลี่อิงไปได้อย่างไร บางที… ที่เธอเปลี่ยนชื่อ อาจจะเป็นเพราะว่าหูชื่อเหวินคือชื่อจริงของเธอ
ไม่เช่นนั้นจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร ชีวิตก่อนนี้ หูลี่อิงไม่เคยเปลี่ยนชื่อ ทำไมชาตินี้ถึงได้เปลี่ยนชื่ออย่างกะทันหัน?
“ลุงค่ะ… หนูกลัวมากเลย พาหนูกลับบ้านได้ไหม?”
เสียงของเด็กหญิงตัวน้อยปลุกเขาตื่นจากภวังค์ เขาจึงระงับสิ่งที่คิดอยู่ในหัวของตัวเองชั่วคราว อุ้มเด็กตัวน้อยขึ้นมา
“บ้านหนูอยู่ที่ไหน? ลุงจะได้พาหนูกลับบ้าน!”
หยินเหวินกั๋วพยายามทำเสียงให้อ่อนโยนที่สุด
หูชื่อเหวินออกจากลานตากข้าวอย่างมึนงง หัวใจเธอสูญเสียและที่หลังรู้สึกเจ็บชาแต่ไม่ได้ทรมานมากเท่ากับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในหัวใจ
เธอเดินไปตรงพื้นที่โล่งซึ่งมียุวชนมักใช้ซ้อมการแสดง ตรงนั้นมีป่าเล็กๆอยู่ เธอหาต้นไม้ใหญ่นั่งกอดเข่าร้องไห้พิงลำต้น
หญิงสาวสะอึกสะอื้นเสียงดัง นี่เป็นการร้องไห้เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจที่มีมาในสองชาติที่แล้วของเธออย่างหนักหน่วงที่สุด
หยินเหวินกั๋วซ่อนตัวอยู่ที่ชายป่า มองหูชื่อเหวินที่กำลังร้องไห้อย่างขมขื่น
หลังจากส่งเด็กน้อยกลับบ้าน เขาก็จำได้ว่าหูชื่อเหวินต้องได้รับบาดเจ็บที่หลังเพราะตอนเธอเดินจากไปมีเลือดเปื้อนอยู่ที่ด้านหลังของเสื้อเชิ้ตสีขาว เขารู้สึกกังวล แต่ไม่รู้ว่าเธอกลับไปที่หอพักหรือห้องพยาบาลกันแน่
ตอนนั้นเองภาพนิมิตที่เขาได้เห็นตอนอุ้มหูชื่อเหวินไปโรงพยาบาลในคืนฝนตกก็แวบเข้ามาในความคิด
หูชื่อเหวินกำลังร้องไห้อย่างโศกเศร้า เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ส่วนสถานที่ก็เหมือนว่าจะเป็น…
เขาจึงสุ่มที่จะเดินมาที่ป่าแห่งนี้
ชายหนุ่มเห็นหูชื่อเหวินนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เขาไม่ได้เดินไปหาเพราะเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเธอ
หยินเหวินกั๋วรู้สึกสับสน
แต่เขาแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ใช่หูลี่อิงจากชาติที่แล้วอย่างแน่นอน เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใครเท่านั้นเอง
ตั้งแต่เธอเปลี่ยนชื่อเขาก็มองเธอเป็นคนอื่นไม่ใช่หูลี่อิงโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่เขาเคยเกลียดเธอจนเข้ากระดูกดำในชีวิตก่อนหน้า
จะว่าไปแล้วเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลครั้งแรกตั้งแต่ตอนที่ไปโรงบ่มสุราในตอนนั้นเธอก็ดูแตกต่างไปจากปกติ แต่เพราะว่าชาติที่แล้วเขาเกลียดเธอจึงไม่ให้สนใจสักเท่าไหร่
เมื่อหูชื่อเหวินร้องไห้พอแล้ว หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นมาก หน้าอกและหัวใจไม่รู้สึกแน่นอึดอัดอีกต่อไป เธอเป็นคนเปิดกว้างไม่มีอะไรยากเกินกว่าจะเอาชนะได้
ตอนนี้เธอเกิดใหม่ในร่างหูลี่อิงเพื่อป้องกันสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนของเธอไม่ใช่หรือ?
ในเมื่อพระเจ้าให้โอกาสเธอมาแล้ว เธอก็สมควรต้องรักษามันเอาไว้ ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำอีกต่อไป
เมื่อเห็นเธอเดินออกมาหยินเหวินกั๋วรีบซ่อนหลังต้นไม้เพื่อไม่ให้หญิงสาวเห็นเขา
หูชื่อเหวินร้องไห้จนไม่รู้ตัวว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
ตอนนี้ท้องฟ้าในมืดสนิท เมื่อเดินไปที่ลานโล่งที่ก่อนหน้ามียุวชนกำลังซ้อมการแสดงอยู่ พวกเขาแยกย้ายหายไปกันหมดแล้ว ไม่รู้ว่ากลับไปกันตั้งแต่เมื่อไหร่
จำได้รางๆ ว่าตอนร้องไห้เธอยังได้ยินเสียงฝึกซ้อมอยู่
ตอนนี้มียุวชนเหลืออยู่ไม่มากนัก
เธอจึงไม่กลัวว่าใครจะเห็นตาที่บวมแดงของตัวเอง
แต่จากหางตาเธอเห็นสองร่างกำลังฉุดดึงกัน
นั่นคือ…
เมื่อเห็นภาพชัดเจนขึ้น หูชื่อเหวินรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวจับมือจางหมิงเยี่ยนให้เข้าหลบที่ด้านหลังของเธอ
อารมณ์ดีไม่ทันไรก็เริ่มหดหู่อีกแล้ว ไฟในใจของเธอโหมกระพือและลุกโชนขึ้นมา