Your Wishlist

เซียนวานรหวนคืน (บทที่ 7 มิมีคำตอบ)

Author: geesan

อสูรวานรที่กำลังจะผ่านทัณฑ์สวรรค์เพื่อจะกลายเป็นเซียนอสูร เขามิอาจผ่านทัณฑ์สวรรค์ไปได้ แต่ก็เกิดข้อผิดพลาดขึ้น ร่างกายของเขากลับกลายเป็นร่างของมนุษย์ เขาต้องการจะหวนคืนกลับเป็นอสูรวานรอีกครั้ง

จำนวนตอน :

บทที่ 7 มิมีคำตอบ

  • 05/02/2567

    เมื่อเทียนปิงกินกล้วยหยกทิพย์จนอิ่มหนำสำราญดีแล้ว เขาก็วิ่งแจ้นไปยังถ้ำของเทพอสูรพยัคฆ์เมฆา ที่ขุดสร้างขึ้นมาใหม่บนเทือกเขาจันทรา ใกล้ๆกับถ้ำของเขาในทันที

 

 

    "ท่านอาจารย์เสือขอรับ ข้ามาแล้วขอรับ"

 

    "เอาละ ก่อนอื่นเจ้าต้องเรียนรู้ทฤษฎีพื้นฐานของการฝึกพลังปราณฟ้าดิน แบบพวกมนุษย์เสียก่อน"

 

 

 

    "ขอรับ ท่านอาจารย์เสือ"

 

 

 

    "อันพลังปราณบนดาวดวงนี้นั้น ในอดีตถูกเรียกว่า"

 

 

 

     *พลังปราณต้นกำเนิด*

 

 

 

    "แต่เมื่ออสูรและมนุษย์ เริ่มเรียนรู้ที่จะนำพลังปราณต้นกำเนิดนี้ มาใช้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับเผ่าพันธุ์ของตนเอง"

 

 

 

    "จึงได้เรียกชื่อพลังปราณต้นกำเนิดนี้ ในชื่อที่แตกต่างกันไป"

 

 

 

    "ทำไมละขอรับ ท่านอาจารย์เสือ" เทียนปิงกล่าวถามด้วยความสงสัย

 

    "เรื่องนี้ข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจ อาจจะเป็นเพราะอสูรกับมนุษย์ เป็นศัตรูกันตามธรรมชาติ จึงไม่อยากจะมีชื่อเรียกพลังปราณที่เหมือนกัน เช่นนั้นหรือไม่ ข้าก็ไม่แน่ใจ"

 

 

 

    "เอาเป็นว่าอสูรเรา เรียกพลังปราณต้นกำเนิดว่า"

 

 

 

    *พลังปราณสายเลือด*

 

 

 

    "ส่วนพวกมนุษย์ เรียกพลังปราณต้นกำเนิดว่า"

 

 

 

    *พลังปราณฟ้าดิน*

 

 

 

    "ยุ่งยากจริงๆ ทั้งที่มันเป็นพลังปราณชนิดเดียวกันแท้ๆ" เทียนปิงบ่นเบาๆ

 

 

 

    "อสูรเรา ดูดซับพลังปราณสายเลือด ผ่านทางเส้นเลือด แล้วจึงนำพลังปราณนี้ไปสะสมไว้ที่แกนอสูร ตรงบริเวณฐานใต้สมอง"

 

 

 

    "ส่วนพวกมนุษย์ ดูดซับพลังปราณฟ้าดิน ผ่านทางเส้นลมปราณ แล้วจึงนำพลังปราณไปสะสมไว้ที่จุดตันเถียน ตรงบริเวณท้องน้อย"

 

 

 

    "อธิบายช้าๆหน่อยขอรับ ท่านอาจารย์เสือ เริ่มเข้าใจยากแระ" เทียนปิงท้วง

 

 

 

    "อสูรเรานั้นได้ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์อันเป็นที่รักของสวรรค์"

 

    "คือถ้าไม่ถูกอสูรตนอื่นกินเป็นอาหาร หรือถูกพวกมนุษย์ไล่ฆ่าเพื่อจะเอาแกนอสูรและร่างอสูรไปใช้ประโยชน์"

 

 

 

    "หากมีอายุครบ 1,000 ปี อสูรตนนั้นก็จะได้รับการทดสอบจากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ เพื่อที่จะกลายเป็นเซียนอสูร หากไม่ผ่านการทดสอบก็ต้องตกตายไป"

 

 

 

     "สรุปคือ อสูรมิต้องดิ้นรนใดๆ แค่มีอายุยืนพอ ก็จะมีโอกาศกลายเป็นเซียนอสูรได้โดยไม่ต้องฝึกฝนอันใด"

 

 

 

    "เรื่องนี้ข้ารู้ดีขอรับท่านอาจารย์เสือ ข้าถึงได้เกาะท่านบิดากับท่านมารดากินมาถึง 1,000 ปี อย่างไรล่ะขอรับ"

 

    "เพราะท่านบิดาและท่านมารดาของข้าก็เป็นถึงเซียนอสูรระดับ 3"

 

    "ถือว่าเป็นขาใหญ่ของอาณาเขตป่ารอบๆเทือกเขาจันทราแห่งนี้ ทำให้ไม่มีอสูรตนใด หรือมนุษย์อัปลักษณ์หน้าไหน กล้าเข้ามาทำร้ายข้า ฮ่าๆๆๆๆๆ.."

 

 

 

    อสูรลิงน้อยเทียนปิง กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจ

 

    ส่วนท่านอาจารย์เสือ เมื่อได้ยินดังนั้น ก็ถึงกับต้องเอามือมากุมขมับ

 

 

 

    "เอาเถอะ มาเข้าเรื่องการฝึกพลังปราณฟ้าดินกัน" ท่านอาจารย์เสือกล่าวตัดบท

 

 

 

    "พวกมนุษย์นั้นหากจะดูดซับพลังปราณฟ้าดินเข้าสู่ร่างกาย จะต้องอาศัยเคล็ดวิชาดูดซับพลังปราณ"

 

 

 

    "ซึ่งเเบ่งเป็น 3 ระดับขั้นคือ"

 

 

 

    "เคล็ดวิชาขั้นต่ำ ขั้นกลาง และขั้นสูง"

 

 

 

    "ที่ข้าจะถ่ายทอดให้เจ้าก็คือเคล็ดวิชาดูดซับพลังปราณฟ้าดินที่มีชื่อว่า *เคล็ดวิชากลืนนภา* อันเป็นเคล็ดวิชาระดับขั้นกลาง"

 

 

 

    "ทำไมท่านไม่ถ่ายทอดเคล็ดวิชาระดับขั้นสูงให้ข้าละขอรับ หรือท่านอาจารย์เสือกั๊กเอาไว้ใช้เองตนเดียว" เทียนปิงถามออกไป

 

 

 

    ท่านอาจารย์เสือถลึงตาใส่เทียนปิง แล้วกล่าวว่า

 

 

 

    "ยามที่ข้ากลายเป็นร่างแปลงมนุษย์จากทัณฑ์สายฟ้าสีทองนั้น ทั้งเวทย์ฤทธิ์ของอสูร และพลังกายาของอสูรของข้า ก็หายไปหมดสิ้นเช่นเดียวกับที่เจ้าเป็นในตอนนี้"

 

 

 

    "ข้าจึงต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ในตอนที่ข้าเข้าไปอาศัยอยู่กับพวกมนุษย์ ข้าก็มิได้มีเส้นลมปราณและจุดตันเถียน จึงทำให้พวกมนุษย์มองว่าข้านั้นเป็นขยะไร้ค่า มิสามารถฝึกฝนพลังปราณฟ้าดินได้"

 

 

 

      "ข้าจึงได้แต่ทำงานหาเงินมาประมูลซื้อตำราเคล็ดวิชาดูดซับพลังปราณฟ้าดิน และเคล็ดวิชาดูดซับพลังปราณที่ข้าสามารถประมูลได้ ก็มีระดับสูงสุดแค่เคล็ดวิชาระดับกลางเพียงเท่านั้น"

 

 

 

    "ส่วนเคล็ดวิชาระดับสูง จะถูกเก็บไว้ยังสำนักใหญ่ๆ ราชวงศ์ หรือตระกูลโบราณต่างๆ และไม่ยอมถ่ายทอดให้กับคนนอก"

 

 

 

    "พวกมนุษย์นี่คิดอะไรแปลกๆนะขอรับ ถ้าเอาเคล็ดวิชาระดับสูง ออกมาแจกจ่ายให้มนุษย์ทุกคนได้ฝึก"

 

    "ป่านนี้ดาวดวงนี้ก็กลายเป็นของพวกมนุษย์ไปตั้งนานแล้วนะขอรับ"

 

 

 

    ท่านอาจารย์เสืออึ้ง พูดอะไรไม่ออกตอบอะไรไม่ถูกไปสักครู่

 

 

 

    "เรื่องพวกนั้นช่างมันเถอะ การที่จะใช้เส้นเลือดแทนเส้นลมปราณ และใช้แกนอสูรแทนจุดตันเถียนนั้นยุ่งยากมาก"

 

 

 

    "ข้าใช้เวลาถึง 70 ปี หลังจากที่ได้ตำราเคล็ดวิชามา ในการลองผิดลองถูก ค้นคว้าทดลอง จนในที่สุดข้าก็สามารถฝึกเคล็ดวิชาดูดซับพลังปราณฟ้าดินได้"

 

 

 

    "แค่ 70 ปีเองหรือขอรับท่านอาจารย์เสือ เวลาแค่นั้น จิ๊บๆ"

 

 

 

    "เวลา70 ปี สำหรับพวกมนุษย์ก็ถือว่ายาวนานมากแล้ว มนุษย์คนใดที่ไม่สามารถฝึกพลังปราณฟ้าดินได้ หากมีอายุอยู่ถึง 120 ปีก็ถือว่าเก่งมากแล้ว"

 

    "เจ้าจะเอามาเทียบกับช่วงอายุของอสูรเรามิได้"

 

 

 

    "เข้าใจแล้วขอรับท่านอาจารย์เสือ เผ่าพันธุ์อสูรของเราเป็นลูกรักของสวรรค์"

 

 

 

    "ว่าแต่ไอ้ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์สีทองนั่น มันเกลียดหรือรักข้ากันแน่ขอรับ"

 

    "จึงมาผ่าใส่ข้า จนเวทย์ฤทธิ์และพลังกายาอสูรหายไปหมดสิ้นเช่นนี้"

 

 

 

    เงียบ.. คราวนี้ท่านอาจารย์เสือนิ่งเงียบไปอย่างยาวนาน แม้แต่เขาผู้เป็นถึงเทพอสูร ก็หาคำตอบให้กับเทียนปิงมิได้..

 

    

 

 

 

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป