อสูรวานรที่กำลังจะผ่านทัณฑ์สวรรค์เพื่อจะกลายเป็นเซียนอสูร เขามิอาจผ่านทัณฑ์สวรรค์ไปได้ แต่ก็เกิดข้อผิดพลาดขึ้น ร่างกายของเขากลับกลายเป็นร่างของมนุษย์ เขาต้องการจะหวนคืนกลับเป็นอสูรวานรอีกครั้ง
อสูรวานรที่กำลังจะผ่านทัณฑ์สวรรค์เพื่อจะกลายเป็นเซียนอสูร เขามิอาจผ่านทัณฑ์สวรรค์ไปได้ แต่ก็เกิดข้อผิดพลาดขึ้น ร่างกายของเขากลับกลายเป็นร่างของมนุษย์ เขาต้องการจะหวนคืนกลับเป็นอสูรวานรอีกครั้ง
เทียนปิงกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจแบบลิงๆ ที่เขาได้รู้ถึงวิธีที่จะกลับไปเป็นอสูรเต็มตัวอีกครั้ง
"เอาละ.. มาพูดถึงเหตุผลข้อที่ 2 กัน"
"ที่ข้ามารับเจ้าเป็นศิษย์นั้นก็เพราะ ข้ายังมีภารกิจที่ติดค้างอยู่ในใจ อยากให้เจ้าช่วยมาสานต่อ"
เทพอสูรเสือขาวกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
"เชิญท่านอาจารย์กล่าวมาเถิดขอรับ" เทียนปิงกล่าวออกมาแล้วทำท่าทางตั้งใจฟัง
"ตัวข้านั้นยามเมื่ออยู่ในร่างแปลงมนุษย์ ข้าก็ได้ศึกษาเวทย์ฤทธิ์อักขระฟ้าดินของพวกมนุษย์ เพื่อจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ข้อหนึ่ง"
"นั่นคือข้าต้องการสร้างอักขระค่ายกลฟ้าดินด้านอาณาเขต เพื่อที่จะกันพวกมนุษย์มิให้ล่วงล้ำ เข้ามาล่าเผ่าพันธุ์อสูร ในอาณาเขตของพวกเราได้อีกต่อไป"
"จึงต้องให้เจ้าสานต่อจุดประสงค์ของข้า"
"แล้วท่านอาจารย์ทำไมถึงไม่สร้างเองละขอรับ ท่านก็ได้ศึกษาอักขระค่ายกลฟ้าดิน มาจากพวกมนุษย์แล้ว จะให้ข้าสานต่อทำไมขอรับ" เทียนปิงกล่าวถาม
"ตัวข้านั้นบรรลุเป็นเซียนมนุษย์เร็วเกินไป เพราะตัวข้ามีศักยภาพที่สูงเกินไป จึงบรรลุเป็นเซียนมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย"
"เมื่อข้าถูกทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์สีทองผ่าเข้าใส่อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2 ข้าก็กลับกลายมาเป็นเซียนอสูรพยัคฆ์เมฆาเต็มตัวเช่นเดิม"
"เมื่อข้ากลับมาเป็นอสูรเต็มตัวแล้ว ข้าก็มิสามารถเพิ่มพลังปราณฟ้าดินในร่างได้อีก แม้พลังปราณฟ้าดินในร่างของข้าจะมิได้เพิ่มขึ้น แต่มันก็มิได้ลดลงเช่นกัน"
"ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถพัฒนาเวทย์ฤทธิ์อักขระค่ายกลอาณาเขต ให้ไปสู่ระดับที่สูงกว่าในตอนนี้ได้"
"หากข้ารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ข้าก็คงจะกดข่มพลังปราณฟ้าดินเอาไว้ ไม่รีบกลับมาเป็นเซียนอสูร เพิ่อที่จะได้พัฒนาระดับอักขระค่ายกลให้สูงยิ่งขึ้น"
เทียนปิงพยักหน้าหงึกๆเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ยังไม่เข้าใจ
"เอาเถิด.. เอาเป็นว่าตอนนี้ข้าสามารถสอนอักขระค่ายกลอาณาเขต ให้เจ้าได้ถึงขั้นอักขระค่ายกลระดับที่ 3 เเต่เพียงเท่านั้น"
"จากนั้นเจ้าจะต้องไปศึกษาต่อเอาเองจากพวกมนุษย์"
"โอ้โห.. สร้างอักขระค่ายกลอาณาเขต เพื่อมิให้พวกมนุษย์เข้ามาล่าเผ่าพันธุ์อสูรของพวกเรา"
"ช่างเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่มากขอรับท่านอาจารย์" เทียนปิงกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น
แล้วเทียนปิงก็นั่งยองๆลงกับพื้น แล้วยื่นมือข้างหนึ่งออกไปข้างหน้า เหมือนกับกำลังจะขออะไรบางอย่าง มันคือท่าลิงกำลังขอลูกท้อ
พร้อมกับกระพริบตาปริบๆ
"รางวัลละขอรับ รางวัล.. ข้าจะได้รางวัลอะไรจากภารกิจนี้" เทียนปิงกล่าวขอรางวัลออกมาอย่างหน้าด้านๆ
เทพอสูรเสือขาวถึงกับต้องเอามือลูบหัวล้านของเขา ด้วยความปลงอนิจา
อนึ่งเวทย์ฤทธิ์อักขระปราณฟ้าดินนั้น ต้องใช้พลังปราณฟ้าดินในการร่ำเรียน เพราะเป็นเวทย์ฤทธิ์ของมนุษย์โดยเฉพาะ ใช้พลังปราณสายเลือดของอสูรเรียนมิได้
เวทย์ฤทธิ์อักขระปราณฟ้าดินนั้นเเบ่งออกเป็น 9 ระดับ โดยระดับที่ 9 จะเป็นระดับสูงสุด
ระดับที่ 1 ถึง 3 คือนักจารึกอักขระค่ายกลขั้นต้น
ระดับที่ 4 ถึง 6 คือนักจารึกอักขระค่ายกลขั้นกลาง
ระดับที่ 7 ถึง 9 คือนักจารึกอักขระค่ายกลขั้นสูง
ท่านอาจารย์ของเทียนปิงนั้นอยู่ในระดับที่ 3 จึงถือว่าเป็นนักจารึกอักขระค่ายกลขั้นต้นเพียงเท่านั้น
ถ้าท่านอาจารย์ของเทียนปิงกดพลังไว้ไม่บรรลุเซียน ท่านก็ศึกษาอักขระปราณฟ้าดินต่อไปได้
แต่ท่านอาจารย์ของเทียนปิงคืออสูรตนแรก ที่ข้ามมาเป็น อมนุษย์ ท่านเลยไม่รู้ว่า ต้องทำอย่างไรในช่วงเวลานั้น
ลิงน้อยเทียนปิง คืออสูรตนที่ 2 ที่กลายมาเป็น อมนุษย์
คือเป็น ครึ่งอสูร ครึ่งมนุษย์