หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
เช้าวันต่อมา ชุน 2 และนักเรียนฝึกทหาร ตื่นมาแต่เช้าตรู่ตามเวลาที่พวกครูฝึกเคยปลุกพวกเขาขึ้นมาฝึกเหมือนเดิม
ทั้งๆที่บรรดาครูฝึก มิได้มาปลุกพวกเขาในเช้านี้ พวกเขาเคยชินไปเสียแล้ว
"เอาละ.. พวกเจ้าทุกนาย จะได้รับดาบทหาร และโล่ทหาร เอาไว้ใช้ป้องกันตัว"
"พวกเจ้าจะต้องนำ ดาบและโล่ ติดตัวพวกเจ้าไปด้วยทุกที่ ตลอดเวลา เมื่อพวกเจ้าไปทำภารกิจก่อสร้างท่าเรือ ถนน และค่ายการค้า ในชายป่าจันทราดำแห่งนี้"
แล้วนรกก็มีจริง
หัวหน้าครูฝึก นำปลอกถ่วงน้ำหนัก ที่นักเรียนฝึกทหารคุ้นเคยกันดีมาให้ทุกคนสวมเอาไว้
เพิ่มน้ำหนักจาก จุดละ 2 กีลา ขยับขึ้นเป็น จุดละ 10 กีลา รวมเป็น 40 กีลา ( 40 กิโลกรัม )
นั่นหมายความว่า ในช่วงนี้แม้พวกเขาไม่ต้องวิ่ง ไม่ต้องแบกหิน แต่พวกเขาก็ยังคงต้องไปเป็นแรงงานก่อสร้าง เพื่อที่จะสร้างท่าเรือถาวร ตามแผนงานก่อสร้าง ขั้นที่ 1
พร้อมปลอกถ่วงน้ำหนัก 40 กีลา ติดตัวไปด้วยทุกคน
ถึงภารกิจนี้จะเร่ง และเสี่ยงมาก หากเสร็จช้า และพวกนักเรียนฝึกทหารก็จะมีโอกาศที่จะตกตายจากพวกสัตว์ป่าดุร้าย และสัตว์อสูร สูงมากขึ้น
แต่ดูเหมือนทางครูฝึกจะมิได้สนใจเลยว่า งานก่อสร้างนี้จะแล้วเสร็จเมื่อไร
ครูฝึกสั่งให้นักเรียนฝึกทหารทุกนาย ต้องทำงานวันละ 14 ยาม
( 14 ยาม = 14 ชั่วโมง )
ตามลักษณะงานที่ทางขุนนางก่อสร้างกรมโยธากำหนดมา
ทุกคนทำงานหนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่งานที่ได้รับมอบหมาย สลับสับเปลี่ยนกันไป แต่ทุกคนต้องทำงาน 14 ยามเท่ากัน จึงจะไปนอนไดั
แล้วอีก 40 วันต่อมา ในขณะที่ท่าเรือถาวรกำลังจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ สิ่งที่ท่านขุนพลอี้คาดเอาไว้ก็เป็นจริง
ในยามวิกาล ขณะที่บรรดาบรรดานักเรียนฝึกทหารกำลังหลับสนิท ฝูงสัตว์ป่าดุร้าย และสัตว์อสูร ก็มุ่งเข้าโจมตีกำลังพลของสำนักมือปราบที่คอยเฝ้าระวังลาดตระเวนอยู่รอบนอกของค่ายพัก
ชุน 2 ตกใจ แล้วตื่นขึ้นมากลางดึก เนื่องจากเขาได้ยินเสียงการต่อสู้ และเสียงร้องโหยหวนของมนุษย์ เสียงร้องนั้นดังมาก ดังจนน่าขนลุก ก็ยังคงดังเข้ามาเสมอๆ
ไม่ต้องคิด ชุน 2 มีประสบการณ์เป็นตายมาแล้วหลายครั้ง
ชุน 2 หยิบดาบและโล่ ที่ได้รับแจกมา พร้อมบอกเพื่อนๆในกระโจมที่ 88 ว่า สัตว์อสูรมันบุกมาแล้ว
ที่ชุน 2 บอกว่าเป็นสัตว์อสูรบุกมา ก็เพราะสัตว์ป่าดุร้าย ไม่มีทางทำร้ายหรือฆ่าเจ้าหน้าที่มือปราบ ที่มาคอยทำหน้าที่ลาดตระเวณคุ้มกันได้
ชุน 2 ย่อมรู้ว่า เสียงร้องโหยหวนนั้น มิได้มาจากพวกนักเรียนฝึกทหาร
แต่เป็นเสียงร้องโหยหวนที่แผงด้วยพลังปราณของบรรดาเจ้าหน้าที่มือปราบ ก่อนที่จะตกตายลงไป
เพื่อนๆ ที่อยู่ในกระโจมที่ 88 ต่างก็ลุกขึ้น แล้วถือดาบและโล่ขึ้นมาในทันที
เสียงร้องโหยหวนนั้น มันมิได้มาจากมนุษย์เพียงคนเดียว แต่มันเป็นจากเสียงของมนุษย์หลายๆคน รวมถึงเสียงร้องของพวกสัตว์ป่าดุร้ายด้วย
หัวหน้าครูฝึก ผู้เป็นขุนศึก ทั้ง 2 นาย ออกคำสั่งให้ล้มกระโจมที่พัก แล้วให้ไปรวมตัวกันที่กลางพื้นที่กลางค่ายให้เร็วที่สุด
นักเรียนฝึกทหารทุกคนรีบทำตามคำสั่ง
พวกเขาใช้เวลาล้มกระโจมทั้งหมด 100 กระโจมเพียงแค่ 10 ช่วงลมหายใจ
หากมิล้มกระโจม ก็จะมิสามารถมองเห็นศัตรูที่จะบุกเข้ามาจากรอบทิศได้ นี่เป็นยุทธวิธีทางทหารทั่วๆไปอยู่แล้ว
นักเรียนฝึกทหารทุกนาย ต่างก็รีบมารวมกันที่กลางค่าย แต่ตอนนี้ไม่เหลือกระโจมอยู่อีกแล้ว
"จัดรูปแบบกระบวนทัพ เป็นรูปวงกลม" หัวหน้าครูฝึกผู้หนึ่งสั่งออกมา
นักเรียนฝึกทหารทุกนาย ก็จัดกระบวนทัพเป็นรูปวงกลมในทันที
นี่คือผลจากการฝึกระเบียบกระบวนทัพมาทุกวัน แม้แต่ในยามมาทำการก่อสร้างก็มิได้หยุดฝึก ถึงจะใช้เวลาฝึกเพียงแค่วันละแค่ 1 ยาม
แต่พวกนักเรียนฝึกทหาร ก็ฝึกกันมาทุกวัน จึงจัดกระบวนทัพได้อย่างรวดเร็ว
"พวกเจ้าจงช่วยกันมองออกไปให้รอบทิศ ข้าต้องการรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ท่านหัวหน้าครูฝึก กล่าวสั่งมาด้วยเสียงที่แผงด้วยพลังปราณอันดังสนั่น
ขณะนี้ เสียงการต่อสู้ และเสียงร้องโหยหวนของมนุษย์ และของสัตว์ป่าดุร้าย ยังคงดังไม่หยุด และยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
--ท่านผู้กำการมือปราบหยู มันเกิดอะไรขึ้นขอรับ-- เงียบ
หัวหน้าครูฝึก ใช้เครืองกลไกสื่อสารของทางทหาร ที่สามารถติดต่อเป็นข้อความเสียงได้
ติดต่อไปยัง ท่านผู้กำกับการมือปราบแห่งเมืองจิวไห่
แต่ผลลัพย์ก็คือ ความเงียบ
--ท่านนายกองมือปราบอ้าย มันเกิดอะไรขึ้นขอรับ--
เงียบ.. อีกเช่นเคย
"พวกเจ้ามองเห็นอะไรบ้างหรือไม่" ครูฝึกกล่าวถาม นักเรียนฝึกทหาร ทั้ง 1,000 นาย
"ไม่เห็นขอรับ มันมืดเกินไปขอรับ" นักเรียนฝึกทหาร ต่างตอบออกมาคล้ายๆกัน
"ท่านครูฝึกขอรับ มีพวกสัตว์ดุร้ายจำนวนประมาณ 1,000 ตัว และยังมีสัตว์อสูรอีกประมาณ 50 ตัว มันกำลังล้อมพวกเราเอาไว้ทั้ง 4 ทิศแล้วขอรับ"
นักเรียนฝึกทหารผู้หนึ่ง กล่าวออกมาอย่างดัง
เขาคือลูกของนายพราน เขาใช้ชีวิตเป็นพรานมาตั้งแต่เกิด เขาคือคนที่วิ่งรอบสนามฝึกได้ 96 รอบ ซึ่งมากกว่าชุน 1 ถึง 3 รอบ
ขณะนี้ทั้งเสียงการต่อสู้และเสียงร้องโหยหวนของทั้งคนและสัตว์ เงียบสนิทลงแล้ว
--พวกท่านมือปราบอยู่ที่ไหน ใครก็ได้ตอบกลับมาด่วน-- ท่านหัวหน้าครูฝึกขั้นขุนศึก เริ่มตื่นตระหนก
ยังคงเงียบเหมือนเดิม ไม่มีเสียงตอบกลับจากเครื่องกลไกสื่อสาร
นักเรียนฝึกทหาร ที่เป็นลูกชายของนายพราน รีบกล่าวออกมาอีกว่า
"ท่านครูฝึกขอรับ เสียงและลักษณะการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ทั้ง 4 ทิศนี้ หมดลงแล้วขอรับ"
"พวกเขาน่าจะตกตายไปหมดแล้วขอรับ" ลูกนายพรานกล่าวตอบ
"แล้วพวกสัตว์ป่าดุร้าย และสัตว์อสูรพวกนั้นละ มันอยู่ไกลจากพวกเรามากไหม" หัวหน้าครูฝึกกล่าวถามลูกชายนายพราน
"พวกมันก็ได้รับบาดเจ็บและล้มตาย จากการต่อสู้กับพวกท่านมือปราบขอรับ"
"ตอนนี้พวกมันถอยออกไปห่างจากพวกเราประมาณ 2 กีลาเมตา แล้ว ขอรับ" ลูกชายนายพรานกล่าว
หัวหน้าครูฝึกทั้ง 2 นาย หันมามองหน้ากัน แล้ว 1 ใน 2 คนนั้นก็ดึงเอกสารออกมาจากอกเสื้อ แล้วใช้วิชายุทธ์ท่าเท้าของเขามุ่งไปหาหลิวชุน ในทันที
ที่ขอบๆ ของกระบวนทัพวงกลมที่นักเรียนฝึกทหาร ตั้งแนวกระบวนทัพเอาไว้
กลุ่ม 10 คน ของห้องที่ 88 อยู่บริเวณขอบนอก
หัวหน้าครูฝึก ผู้เป็นขุนศึก มาหยุดยืนต่อหน้า ชุน 2 แล้วทำความเคารพแบบทหาร
"ท่านว่าที่นักกลยุทธ์ทางการทหารหลิวชุน ขอรับ"
"นี่คือเอกสารหนังสือคำสั่งลับ ของท่านขุนพลขอรับ"
ชุน 2 รับเอกสารหนังสือนั้น มาแบบ งงๆ
เมื่ออ่านจบ ชุน 2 ก็กล่าวตอบไปว่า
"ได้ ข้าจะรับตำแหน่งผู้บัญชาการในการรบ"
นั่นคือชุน 1 บอกให้รับไว้
"ไปตามนักเรียนฝึกทหาร ที่เป็นลูกนายพรานผู้นั้น มาพบกับข้าเดี๋ยวนี้"
"ส่วนกระบวนทัพวงกลมทัพนี้"
"ให้เปลี่ยนเป็นกระบวนทัพ สี่เหลี่ยมจตุรัส" ชุน 2 กล่าวสั่ง โดยทั้งหมด เป็นความคิดของชุน 1
"เจ้ารู้ได้อย่างไรว่า ผู้คุ้มกันจากสำนักมือปราบตกตายไปหมดแล้ว"
ชุน 2 กล่าวถามลูกชายนายพราน
"ข้าเป็นลูกนายพราน ข้าย่อมรู้ได้ว่ารอบๆตัวข้ายังมีเหยื่อเหลืออยู่หรือไม่ ตอนนี้รอบๆค่ายของเรา ไม่มีลักษณะการเคลื่อนไหว หรือเสียงของมนุษย์อยู่เลย"
"ในตอนนี้ ไม่มีใครเหลืออยู่แล้ว" ลูกนายพรานกล่าว
"แล้วเจ้าว่าอสูรหมาป่าเพลิงพวกนี้ มันมากันกี่ตัว" ชุน 2 ถามต่อ
"ประมาณ 50 ตัว" ลูกนายพรานกล่าวตอบ
"เจ้า.. เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นอสูรหมาป่าเพลิง"
"ขนาดข้าอยู่ในป่ามานาน ก็คาดการณ์ได้แค่พวกมันเป็นสัตว์อสูรประเภทสุนัข จากกลิ่นที่ลอยมาตามลม" ลูกนายพรานสงสัยว่าชุน 2 รู้ได้อย่างไร
คือตอนนี้ นอกจากหัวหน้าครูฝึก 2 นาย ครูฝึก 10 นาย และคนในห้อง 88 เท่านั้น ที่เห็นหัวหน้าครูฝึกมาส่งหนังสือลับทางการทหารให้หลิวชุน
คนอื่นๆรอบนอกยังไม่มีใครรู้ว่าหลิวชุน คือผู้บัญชาการในการรบครั้งนี้
รวมถึง ลูกนายพรานผู้นี้ด้วย
จากนั้นท่านหัวหน้าครูฝึก ยศขุนศึกก็ประกาศให้นักเรียนฝึกทหารทุกคนได้รับรู้ว่า หลิวชุน คือว่าที่นักกลยุทธ์ทางการทหาร เคยนำทหาร 2,000 นาย บุกเข้าทำลายพวกหุบเขาเถื่อนมาแล้ว
และหลิวชุน จะเป็นผู้บัญชาการรบในครั้งนี้
"เจ้าคิดว่าพวกฝูงอสูรหมาป่าเพลิง 50 ตัว และสัตว์ป่าดุร้ายอีกประมาณ 1,000 ตัวพวกนี้ มันจะบุกเข้ามาโจมตีพวกเราอีกเมื่อใด" ชุน 2 กล่าวถามลูกนายพราน
"ตอนนี้พวกมันบางส่วนได้รับบาดเจ็บและล้มตาย จากการต่อสู้กับเหล่าท่านมือปราบ พวกมันกำลังจัดกระบวนทัพใหม่ขอรับ" คราวนี้ลูกชายนายพรานกล่าวกับชุน 2 ด้วยความเคารพ
"แล้วท่านว่าที่นักกลยุทธ์หลิว ท่านรู้ได้อย่างไรขอรับ ว่ามันเป็นพวกอสูรหมาป่าเพลิง ถ้าหากพวกมันเป็นอสูรหมาป่าเพลิงจริงๆ เราจะลำบากกันมากขอรับ"
"เพราะอสูรหมาป่าเพลิง พวกมันมีสติปัญญาพอๆกับมนุษย์ เป็นพรสวรรค์พิเศษตามสายเลือดเผ่าพันธุ์ของพวกมันขอรับ" ลูกชายนายพรานกล่าวอธิบาย
"ข้าเคยมาที่ป่าจันทราดำนี้ นายพรานที่นำทางข้า เคยศึกษาหาข้อมูลของป่านี้มาอย่างละเอียด"
"เขาบอกกับกับข้าว่า จ้าวแห่งป่าแห่งนี้คือฝูงอสูรหมาป่าเพลิง ถ้ามันอยู่ตามลำพังตัวเดียว ก็มิได้มีพลังมากมายอะไรนัก แต่ที่ทำให้พวกมันเป็นจ้าวแห่งป่าจันทราดำได้ ก็เพราะพวกมันล่าร่วมกันเป็นฝูง"
"และที่ข้ามั่นใจว่า ต้องเป็นพวกอสูรหมาป่าเพลิงแน่ๆ ก็เพราะว่า พวกมันดึงเอาสัตว์ป่าดุร้ายอีก 1,000 ตัวมาร่วมล่าพวกเราด้วย"
"โดยปรกติสัตว์ป่าดุร้าย จะไม่รวมตัวกันล่า ดังนั้นข้าถึงมั่นใจว่าพวกฝูงอสูรหมาป่าเพลิง ต้องคอยบงการพวกสัตว์ป่าดุร้ายเหล่านั้นเป็นแน่"
"เพราะมันใช้วิธีการร่วมกันล่าเป็นฝูงเหมือนกัน" ชุน 1 กล่าวผ่านชุน 2
"เข้าใจเเล้วขอรับ เป็นเช่นที่ท่านว่าที่นักกลยุทธ์หลิวกล่าวจริงๆ ขอรับ" ลูกชายนายพรานเห็นด้วย
"แล้วเจ้าคาดว่ามันจะบุกเข้ามาโจมตีพวกเราอีกเมื่อไร" ชุน 2 ถามต่อ
"จากกลิ่นเลือดของพวกสัตว์ป่าดุร้ายคงล้มตายไปประมาณ 500 ตัว"
"ส่วนพวกฝูงอสูรหมาป่าเพลิง คงล้มตายไปประมาณ 20 ตัวขอรับ"
"ดังนั้นกว่าพวกมันจะรวบรวมกองกำลังฝูงสัตว์ป่าดุร้ายได้ใหม่อีกครั้งก็น่าจะประมาณในอีก 3 ยาม พวกมันคงจะบุกเข้ามาโจมตีเราอีกครั้งขอรับ" ลูกชายนายพรานกล่าว
( 3 ยาม = 3 ชั่วโมง )
"อืม.. ถ้าในอีก 3 ยามจริง ก็ใกล้เช้าแล้ว ถ้าเรายืนหยัดได้ถึงเช้า โอกาศรอดของพวกเราก็เพิ่มขึ้นมาก" ชุน 1 คิดในใจ
"เอาละ.. รักษารูปกระบวนทัพสี่เหลี่ยมจตุรัสเอาไว้ พร้อมทั้งก่อกองไฟรอบๆกระบวนทัพให้สว่าง"
"แล้วขอเชิญหัวหน้าครูฝึก และครูฝึก ทุกนาย มาร่วมกันประชุมวางกลยุทธ์ ยังกลางกระบวนทัพนี้ด้วยขอรับ" ชุน 2 กล่าวด้วยเสียงที่แฝงพลังปราณ จนดังไปทั่วทั้งบริเวณนั้น