หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
เมื่อการบุกของทหารราบเข้ายึดค่ายของพวกหุบเขาเถื่อนเริ่มต้น
ชุน 2 ห้อตะบึงม้ามาได้ถึงแค่หน้าประตูค่าย ก็ต้องลงจากหลังม้า เพราะเศษหินจากกำแพงกองระเกะระกะไปหมด ยากต่อการใช้ม้าบุกเข้าไป
ชุน 2 ชักกระบี่ มาไว้ในมือข้างขวา แล้วดึงหน้าไม้อินทรีเวหา 30 ไว้ในมือซ้าย จากนั้นเขาพุ่งเข้าสู่ ประตูค่ายไปในทันที
ท่านอารอง ถือหอกและโล่ พุ่งไปเคียงข้างชุน 2 โดยมี นายกองอารักษ์ขาอีก 5 นาย ล้อมชุน 2 ไว้
ชุน 1 สั่งผ่านชุน 2
กระบวนรบกงจักร
นายกองทั้ง 5 นาย ล้อมเป็นวงกลมรอบตัวของชุน 2 กับท่านอารอง ในทันที
หน้าประตูค่ายใหญ่ของหุบเขาเถื่อน มีกำลังพลของพวกมันประมาณ 200 คน แต่พวกมันตั้งรับ พวกมันย่อมได้เปรียบ
กระบวนรบกงจักรของชุน 2 พุ่งเข้าไปใกล้ โดยมีนายกองอารักษ์ขาต้องตกตายจากการโดนธนูเจาะเกราะยิงไป 1 นาย
ชุน 2 จึงสั่งการให้ทหารทุกนาย แปรขบวน เป็นขบวนรูปแบบหัวลูกศร
ชุน 2 ต้องการเป็นหัวลูกศร
แต่ก็ถูกท่านอารอง ผลักให้ถอยออกไป
ท่านอารองจะเป็นหัวลูกศรเอง เป็นนายกองทะลวงฟัน
ท่านอารอง นำกำลังพลทหารเข้าตีค่าย ท่านอารองใช้หอกแทง ใช้โล่กัน ไล่ล่าสังหารเพื่อต้อนให้พวกหุบเขาเถื่อนถอยร่นไปยังกำแพงด้านทิศเหนือ ซึ่งยังมิได้ถูกยิงทำลายไป
--ทุกคนบุก--
ชุน 2 ใช้กระบี่แทง ใช้โล่เกราะปลายแขนกัน
ส่วนชุน 1 ก็ยิงหน้าไม้หัวระเบิดและหัวเจาะเกราะ ไปจนนับไม่ถ้วน
ฝ่ายกองพลทหารไล่ล่าสังหารฝ่ายหุบเขาเถื่อน ไปจนถึงกำแพงด้านทิศเหนือ
ชุน 2 จึงสั่งการออกมาอีกครั้ง
--ทหารทุกนาย ทุกหน่วย ถอยออกมาจากบริเวณกำแพงทิศเหนือเดี๋ยวนี้--
เมื่อทหารถอยออกมาจากบริเวณพื้นที่สังหารแล้ว
ชุน 2 ก็สั่งการอีกว่า
--ปืนใหญ่พลังปราณ และหน้าไม้ยักษ์ บนแนวเทือกเขาทั้ง 2 ฝั่ง ยิงถล่มพวกมันได้--
ตู๊มๆๆๆๆๆๆ...!!!!! ตู๊มๆๆๆๆๆ...!!!!! เสียงระเบิดพลังปราณ ดังสนั่นจนกลบเสียงร้องโหยหวนก่อนตายของพวกหุบเขาเถื่อนไปจนหมดสิ้น
สงครามการบุกเข้าทำลายค่ายผ่านมาเป็นเวลา 3 ยามแล้ว
หมดเเรงแล้ว ชุน 2 หมดแรงแล้ว แค่ยังพอยืนอยู่ได้
การรบจบแล้ว ศัตรูตายหมดแล้ว
คนตายไปนับ 1,000 คน ทั้งฝั่งศัตรู และฝั่งทหาร เลือดนองเต็มพื้นดิน มีแต่กลิ่นคาวเลือด
ท่านอารอง พาชุน 2 ขึ้นไปนั่งบนหลังม้า ให้ทั้ง 2 ชุน ได้นั่งพัก
--ทหารหน่วยพลรบพิเศษ รายงานมา--
ชุน 1 ซึ่งเข้ามาควบคุมร่าง ถามออกมา
--จับได้ 31 คน จาก 7 อุโมงค์ขอรับ--
--มีผู้ชาย 25 คน มีผู้หญิง 6คนขอรับ--
--ระเบิดกลบปากทางออกอุโมงค์ให้หมด-- ชุน 1 สั่งการออกไป
--ขอรับ-- ทหารหน่วยพลรบพิเศษ รีบไปทำตามคำสั่งของชุน 1
--ทหารทุกนาย ให้ทำการเข้าตรวจค้นค่ายแห่งนี้ให้ละเอียด ทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะในฐานใต้ดินของพวกมัน-- ชุน 1 สั่งการออกไปอีก
--เจอใครก็ให้จับตัวมัดเอาไว้ให้หมด ทั้งผู้หญิงผู้ชาย--
แล้วเวลาก็ผ่านไป ตอนนี้เป็นเวลายามเย็นแล้ว
บริเวณลานท่าเรือของพวกหุบเขาเถื่อน มีบรรดาผู้คนที่รอดชีวิตจากการบุกของกองพลทหาร ถูกมัดรวมกันอยู่ยังลานแห่งนี้
มีผู้ชาย 56 คน และผู้หญิง 74 คน
ชุน 1 เดินดูผู้หญิงทั้ง 74 คนนี้ ทีละคนอย่างพินิจพิจารณา
เมื่อเขาเดินดูผู้หญิงจนครบหมดทุกคนแล้ว
เขาก็กล่าวขึ้นมาว่า "จับตัวนางคนนั้นเอาไว้ นางคือหัวหน้าที่คอยสั่งการ ในการรบของพวกหุบเขาเถื่อน"
บรรดานายทหาร แม้กระทั่งท่านขุนพลอี้ก็ยังแปลกใจ เพราะนางคนนั้นที่ชุน 1 กล่าวถึงเป็นเพียงสาวน้อยอายุประมาณ 20 ปี ผิวขาว หน้าตาสะสวย
มิได้เหมือนกับในรูปที่ถ่ายได้เลย ในรูปนั้นเป็นผู้หญิงผิวคล้ำ อายุประมาณ 30 ถึง 35 ปี หน้าตาธรรมดา
แล้วชุน 1 ก็ค่อยๆอธิบายให้นายทหารทุกนาย รวมถึงท่านขุนพลอี้ฟังว่า
"ที่ข้ากล้าสั่งให้ปืนใหญ่พลังปราณและหน้าไม้ยักษ์ ยิงถล่มค่ายใหญ่ของพวกมันก็เพราะข้ารู้ว่า พวกตัวประกันผู้หญิงจะมิตกตาย"
"พวกนางจะได้อยู่ในส่วนที่ปลอดภัยที่สุดในฐานใต้ดินของค่ายแห่งนี้"
"เพราะเหล่าตัวประกันผู้หญิงเหล่านี้ ก็คือทางหนีสำรองสุดท้าย หากอุโมงค์หลบหนีถูกพวกเราค้นพบ"
"เพราะหัวหน้าในการสั่งการในการรบของพวกมันเป็นผู้หญิง นางจึงแอบปะปนอยู่กับกลุ่มตัวประกันได้อย่างง่ายดาย"
บรรดานายทหาร รวมถึง ชุน 2 เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจ
"นางใช้ผงดินนิลกาฬ ทาปกปิดผิวของนางไว้ยามออกมาเจอผู้คน ตลอดจนสวมหน้ากากหนังปกปิด ใบหน้าไว้อีกเช่นเดียวกัน"
จากนั้นชุน 1 ก็ชี้ให้ดูรอยทาผงดินนิลกาฬ ที่บริเวณหลังใบหูของหญิงสาวคนนั้น ตลอดจนรอยกาวใต้คางของนาง
หญิงสาวคนนั้นถึงกับตกใจหน้าซีด
"มิใช่เจ้าคะใต้เท้า ข้าน้อยถูกพวกมันจับตัวมาเป็นทาสรับใช้ ข้าน้อยมิใช่หัวหน้าของพวกมันเจ้าคะใต้เท้า"
"เอาเถอะ.. วันนี้ข้าเหนื่อยมากแล้ว ยังมีเวลาสอบสวนเจ้าอีกนาน"
"หญิงสาวที่โดดเด่นทั้งรูปโฉมและสติปัญญาเช่นเจ้า ข้าคิดว่าคงสืบหาที่มาของเจ้าได้มิยากเย็นนัก"
แล้วชุน 1 ก็ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนบนเรือรบ ปล่อยให้ทหารคุมตัวนางไปคุมขังเอาไว้
ทั้ง 2 ชุน เหนื่อยมากจริงๆ เขาต้องการหลับยาวๆสักหนึ่งตื่น