หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
แล้วท่านอ๋องน้อย ก็เริ่มการประชุมเพื่อสืบหาที่หลบซ่อนตัวของพวกลัทธิมารโลหิต
มณฑลภาคเหนือ แบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาคคือ
1.มณฑลภาคเหนือตอนบน
2.มณฑลภาคเหนือตอนกลาง
3.มณฑลภาคเหนือตอนล่าง
มณฑลภาคเหนือตอนล่างอยู่ติดกับมณฑลภาคกลาง เมืองอันซุย และเมืองจิวไห่ ก็อยู่ในมณฑลภาคเหนือตอนล่างนี้
"เอาละ.. เมื่อพวกท่านมารวมกันครบแล้ว ข้าจะทำการเริ่มประชุม ณ.บัดนี้" ท่านอ๋องน้อยกล่าวออกมาอย่างเป็นทางการ
"ก่อนอื่นข้าขอแนะนำ ท่านผู้นี้คือท่านแม่ทัพฟาง ผู้ได้รับการแต่งตั้งจากท่านเป่ยอ๋องเป็นกรณีพิเศษ ให้ดำรงค์ตำแหน่งแม่ทัพในการทำภารกิจนี้"
"พวกท่านต้องเข้าใจว่า การที่พวกลัทธิมารโลหิตสามารถจับตัวผู้มีวรยุทธ์ขั้นปราณวารีขั้นต้น ไปได้นั้น แสดงว่าพวกมันต้องมีขั้นปราณวารี ขึ้นกลางขึ้นไป ที่คอยดำเนินการอยู่"
"ที่ท่านเป่ยอ๋องบิดาของข้า แต่งตั้งท่านแม่ทัพฟาง มาช่วยในการสืบหาที่หลบซ่อนของพวกมัน ก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน"
"เนื่องจากท่านแม่ทัพฟางเป็นนักยุทธ์ขั้นปราณวารีขั้นกลาง ระดับที่ 6 และมีความสามารถในการสืบสวน สอบสวน"
"ท่านแม่ทัพฟาง เคยเป็นขุนนางมือปราบมาก่อน และยังเป็นมือขวาคนสนิทของ ท่านอดีตรองเสนาบดีกรมการตุลาการ ท่านจ้าวฟูหยาง ผู้เป็นท่านอาจารย์ของข้า และศิษย์น้องผู้ตรวจราชการหลิวชุน"
"อันดับต่อไปเชิญท่านแม่ทัพฟาง กล่าวถึงข้อมูลภารกิจในครั้งนี้"
ท่านอ๋องน้อยให้แม่ทัพฟาง หรือที่หลิวชุนคุ้นเคยอย่างดีในฐานะท่านพ่อบ้านฟาง พ่อบ้านคนสนิทของท่านอาจารย์ของเขา
ท่านแม่ทัพฟางกล่าวว่า "จากข้อมูลเบื้องต้นของหน่วยข่าวกรอง ลัทธิมารโลหิตปรากฏตัวขึ้นทั่ว มณฑลภาคเหนือเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน"
"พวกมันจงใจจับนักยุทธ์ขั้นปราณวารี ไปเพื่อดูดซับพลังปราณจากจุดตันเถียน อันเป็นจุดที่ใช้ในการรวบรวมพลังปราณ"
"และเมื่อพลังปราณหมดไปจากจุดตันเถียน ก็จะทำให้นักยุทธ์ผู้นั้นตกตายลง โดยมิอาจช่วยเหลือใดๆได้"
"ส่วนวิธีที่พวกมันใช้ดูดซับพลังปราณจากจุดตันเถียนได้โดยตรงนั้น ทางหน่วยข่าวกรองยังมิอาจสืบทราบได้ว่าพวกมันใช้วิธีการใด"
"หน่วยข่าวกรองยังแจ้งมาอีกด้วยว่า มีความเป็นไปได้ถึง 7 ใน 10 ส่วน ที่พวกลัทธิมารโลหิตนี้ จะได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรต้าซิน ซึ่งเป็นอาณาจักรศัตรูคู่แค้นของเรา"
อนึ่งอาณาจักรต้าซิน มีเขตดินแดนอยู่ติดกับภูมิภาคมณฑลภาคเหนือตอนบน ของราชอาณาจักรต้าเหมิง
ทั้ง 2 ราชอาณาจักรทำการรบพุ่งกันมากว่า 50 ปีแล้ว แม้ช่วงเวลานี้จะอยู่ในช่วงสงบศึกชั่วคราว
แต่ก็มีการปะทะกันเล็กๆน้อยๆของหน่วยลาดตระเวณของทั้ง 2 ฝ่าย ตามบริเวณชายแดนอยู่เสมอ มิอาจมีผู้ใดยืนยันได้ว่า สงครามจะไม่ประทุขึ้นมาอีก ในวันใดวันหนึ่ง
"การที่พวกลัทธิมารโลหิต ทำการดูดซับพลังปราณของขั้นปราณวารีขั้นต้น ไปเสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเองและพรรคพวก จึงเป็นภัยต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรต้าเหมิงอย่างแท้จริง"
"หากว่าพวกลัทธิมารโลหิตนี้เป็นกลุ่มคนที่อาณาจักรต้าซิน ส่งเข้ามาปั่นทอนกำลัง และจำนวนของผู้มีวรยุทธ์ขั้นปราณวารีขั้นต้น ในกองกำลังอาสาของอาณาจักรต้าเหมิงเรา"
"อืม.. เรื่องลัทธิมารโลหิตนี้ดูเหมือนจะไม่ง่ายเสียแล้ว เบื้องลึกเบื้องหลังคงจะสลับซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง"
"อาจจะบานปลายจนถึงขั้นเกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างทั้ง 2 อาณาจักรขึ้นมาอีกครั้งได้เลย" ชุน 1 คิดอยู่ในใจตนเอง
ท่านอ๋องน้อยกล่าวเสริมขึ้นมาอีกว่า
"ในขณะที่พวกเราทำการสืบหาที่หลบซ่อน และเตรียมทำลายลัทธิมารโลหิตอยู่นี้"
"ทางด้านชายแดนมณฑลภาคเหนือตอนบน ท่านเป่ยอ๋องบิดาของข้าได้สั่งการให้ท่านอ๋องน้อยอีก 3 คน ผู้เป็นพี่ชายทั้ง 3 ของข้า"
"นำกำลังกองทัพของมณฑลภาคเหนือบางส่วน ไปตรึงกำลังไว้ยังชายแดนทั้ง 3 ด้าน ที่ติดกับอาณาจักรต้าซินไว้แล้ว"
"ดังนั้นท่านทั้งหลายคงทราบดีว่าภารกิจในคราวนี้ของพวกเรานั้นสำคัญมากแค่ไหน"
"เอาละ.. การที่ข้ามาตรวจงานก่อสร้างเขื่อนนั้นเป็นเพียงข้ออ้าง"
"หน่วยข่าวกรองรายงานมาว่า ในบริเวณเขตปกครองของเมืองจิวไห่ ใกล้ๆกับสถานที่ก่อสร้างเขื่อนนั้นมีพวกลัทธิมารโลหิตกลุ่มหนึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ พวกมันลงมือในเขตพื้นที่นี้มาหลายครั้งแล้ว"
"แต่ข่าวกรองก็ยังคงมิชัดเจนนัก พวกเราต้องทำการตรวจสอบข้อมูลข่าวกรองนี้ต่อไป" ท่านอ๋องน้อยกล่าวบอกออกมา
แล้วการประชุมก็ดำเนินการต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลาพอสมควร โดยชุน 2 ให้ชุน 1 เข้ามาควบคุมร่างในการประชุม
เมื่อการประชุมจบลงแล้ว ศิษย์พี่เตียก็กล่าวกับหลิวชุนว่า "ศิษย์น้องท่านอาจารย์ของพวกเรา ได้รับการแต่งตั้งจากท่านบิดาของข้าให้ดำรงค์ตำแหน่ง ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองแห่งมณฑลภาคเหนือ เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะคลี่คลายเรื่องของพวกลัทธิมารโลหิตลุล่วงไป"
"ดีแล้วขอรับ.. ดีแล้วขอรับ.. ถ้าหากได้ท่านอาจารย์คอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง พวกเราจะสามารถทำภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" ชุน 1 กล่าวบอกศิษย์พี่เตีย
"อืม.. ท่านบิดาของข้าและท่านอาจารย์ เป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นหนุ่ม ท่านอาจารย์ย่อมยินดีช่วยท่านเป่ยอ๋องบิดาของข้าแน่นอน" ท่านอ๋องน้อยกล่าวออกมาเบาๆ
หลังจากนั้นทั้ง 2 ชุน ก็อยู่คุยกับท่านอารองของพวกเขา จนแทบจะไม่หลับไม่นอนตลอดทั้งคืน
ในเมืองเป่ยจิน เมืองหลักแห่งมณฑลภาคเหนือ
ท่านเป่ยอ๋อง กับท่านจ้าวฟูหยาง กำลังประลองเดินกลหมากรุกกันอยู่
"เสี่ยวจ้าว ที่เจ้าให้เจ้าอ๋องน้อย 4 ไปรับหลิวชุนมาช่วย จะแก้ปัญหานี้ได้จริงๆหรือ"
"เสี่ยวเตีย หลิวชุน ลูกศิษย์คนที่ 3 ของข้านี้ ถึงแม้จะมิได้ร่ำเรียนศึกษามายาวนานนัก แต่เชาว์ปัญญาของเขา ก็สูงส่งมาก"
"อืม. ข้าเชื่อเจ้า เขาคงมีเชาว์ปัญญาที่สูงจริง จนเจ้ากล่าวชื่นชมเขาถึงขนาดนี้"
"นี่ไง.."
แล้วท่านจ้าวฟูหยางก็เดินตัวหมากเพียง 1 ตัว
แล้วเสี่ยวเตีย ผู้เป็น เป่ยอ๋อง หรือก็คือ ท่านอ๋องแห่งมณฑลภาคเหนือ ก็พ่ายแพ้ไปทันที
"หมากรุกที่เจ้าแพ้ข้าในคราเดียวนี้ ข้าใช้กลหมากของ ชุน 1 ที่เคยเดินกลหมากกับข้าทั้งสิ้น"
"ผลไม้ยังมิสุกงอม เจ้าจะเร่งให้มันสุกไปทำไม เสี่ยวจ้าว"
"เฮ้อ.. ลูกศิษย์คนแรกของข้า กำลังจะก่อการกบฏ"
"เจ้าว่าเยี่ยงไรนะ องค์รัชทายาท จะก่อการกบฏ"
ท่านอาจารย์จ้าวฟูหยางมิตอบ ท่านเป่ยอ๋อง ก็มิได้ถามต่อ
( เป่ย ในภาษาจีนแปลว่า ทิศเหนือ เป่ยอ๋อง ก็คือ อ๋องแห่งทิศเหนือนั่นเอง )