นิยายเทพเซียน(จีนโบราณ) เรื่องแรก จากผู้แต่งนามปากปา "ทอภู" นอกนอกบทที่มีความซับซ้อนแล้ว อีกหนึ่งลายเซ็นของผู้แต่งคือดราม่าเข้มข้น แต่ ก็จะมีแทรกมุขตลกบ้าง ลองอ่านดูสินะครับ แล้วคุณจะรักนิยายเรื่องนี้
นิยายเทพเซียน(จีนโบราณ) เรื่องแรก จากผู้แต่งนามปากปา "ทอภู" นอกนอกบทที่มีความซับซ้อนแล้ว อีกหนึ่งลายเซ็นของผู้แต่งคือดราม่าเข้มข้น แต่ ก็จะมีแทรกมุขตลกบ้าง ลองอ่านดูสินะครับ แล้วคุณจะรักนิยายเรื่องนี้
" ข้าปะทะกับซังเจามาหลายครา ไม่เคยเห็นเขาหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อนเลย นางมารตนนี้ มีพลังมากมายขนาดไหนกัน? "
เหว่ยเหลี่ยง วิเคราะห์สถานการณ์ ว่าเขาจะต้องทำอย่างไร ถึงจะมีโอกาสเอาชนะนางได้
" แม้พลังนางมีมาก แต่นางก็มีกายเนื้อ ยังไงก็สามารถตายได้ แต่ การที่จะเข้าไปประชิดตัวนาง เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ "
เมื่อคิดวางแผนเสร็จ เหว่ยเหลี่ยงก็ยิ้มมุมปาก ก่อนจะเริ่มพูดออกเสียงเพื่อท้าทาย
" นางมาร!! วันนี้ไม่เจ้าก็ข้า จะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ เปิดกายแท้!!!"
(ตู้ม!!!)
เสียงระเบิดใหญ่ดังขึ้น ควันและฝุ่นตลบอบอวล เมื่อฝุ่น สลายไป ปรากฏร่าง เหยี่ยวขนาดใหญ่ "มีแต่จะต้องทุ่มสุดตัวเท่านั้น ถึงจะสามารถรับมือกับนางได้"
เหยี่ยวยักษ์ กระพือปีก ก่อเกิดเป็นลูกไฟ พุ่งไปทางไป๋ลี่หยาง...
" ได้เห็นกับตาเสียที สร้างไฟจากการปล่อยควันออกจากขน แล้วพัดไป ให้ควันดังกล่าวเสียดสีกับอากาศ จนลุกเกิดเป็นไฟ แต่ว่า… "
(ตู้ม!!!)
สิ้นเสียงระเบิดใหญ่ แต่เหล่ามังกร และ ไป๋ลี๋หยาง ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นั่นก็เพราะ เหมือนพวกเขาอยู่ภายในก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่ทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกัน
พอทุกคนมองดูดีๆ ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่นั้น ดูแล้วรูปลักษณ์ รู้สึกคุ้นตามาก…
" รูปลักษณ์ของน้ำแข็งนี่ หรือว่า…ตำนักเทียนกัง (ตำนักที่กังอวี่หวินอาศัย) "
เหล่าทหารฮือฮา ว่าทำไมไป๋ลี่หยางถึงสามารถสร้างเกราะกำบังน้ำแข็ง ให้มีรูปลักษณ์เหมือนตำหนักของกังอวี่หวินได้ ทั้งๆ ที่นางไม่เคยขึ้นไปยังสวรรค์
" แค่วิชาเพลิงขั้นที่5 ไม่สามารถทำลายน้ำแข็งของข้าได้หรอก นั้นเพราะวิชาน้ำแข็งของข้า คือขั้นที่9 "
" ขั้นที่9!!! "
เหล่าทหารมังกรอุทานพร้อมกัน!!
" เหมือนว่า หากใช้วิชาธาตุคงจะไม่สามารถเอาชนะนางได้ งั้นก็..มีแต่จะต้องโจมตีทางร่างกายเท่านั้น… "
เหว่ยเหลี่ยง งัดกลยุทธ์วิธีทางการศึก ทุกอย่างที่เขารู้ออกมาใช้ทั้งหมด ถึงการศึกเหว่ยเหลี่ยงจะมีมากกว่า แต่วิชาของไป๋ลี่หยางเองก็ถือว่าจัดอยู่ในระดับสูงสูด จึงถือเป็นเรื่องยาก ที่เหว่ยเหลี่ยงจะสามารถเอาชนะนางได้ เว้นแต่…หากสามารถถ่วงเวลาจนกว่าเยว่ลู่จิวจะมาถึงได้ นั่นถึงจะมีโอกาสชนะ
" นางมารเจ้ารู้ความผิดของตนหรือไม่? "
เหว่ยเหลี่ยงใช้คำพูดเบี่ยงเบนความสนใจ เพื่อต้องการถ่วงเวลาให้เยว่ลู่จิวมาถึง
" จู่ๆ พูดพล่ามอะไรของเจ้า คิดจะยอมแพ้แล้วงั้นรึ "
" มาร!! เป็นตัวแทนของความชั่ว การเกิดเป็นมาร ถือว่ามีความผิด "
" ดี หรือ ชั่ว ใครเป็นผู้กำหนด และ เจ้าตัดสินได้อย่างไร? "
" จะ มารจิตใจ มารกำเนิดจิต หรือ มารสรรค์สร้าง เฉกเช่นเจ้า ก็ถือเป็นตัวตนบาป "
[อธิบาย :
มารจิตใจ : คือมารที่เกิดจาก มนุษย์,เทพ หรือปีศาจ ที่มีความโกรธแค้น พยาบาท ,ฝึกวิชามาร หรือ เกิดข้อผิดพลาดระหว่างบำเพ็ญวิชา จะส่งผลให้คนๆ นั้นกลายเป็นมาร ผู้ที่กลายเป็นมารจิตใจ ธาตุในร่าง จะถูกกันกินไปจนหมด คงเหลือแค่พลังมารไว้ ปล่อยไว้นานจะไม่มีแก่นธาตุเหลือ
มารกำเนิดจิต : เกิดจาก จิตแค้น อาฆาต ของทุกสรรพสิ่ง มาหลอมรวมกัน และ เกิดมีจิตใจเป็นของตนเอง ยกตัวอย่าง ตงโฉว (ที่โดน กังอวี่หวินสังหารในตอนที่1) ไม่มีแก่นธาตุ
มารสรรค์สร้าง : เกิดจาก ธรรมชาติและสภาพอากาศ ที่เวลาผ่านไปหลายหมื่น พลายแสนปี ก่อให้เกิดมีรูปลักษณ์และจิตใจ เป็นของตัวเอง มีแก่นธาตุ]
" น่าขันนัก ดีชั่ว แค่แบ่งแยกโดยเผ่าพันธุ์เท่านั้นเองรึ!!
แม้ทุกคนจะรู้ดีว่า ทุกเผ่าพันธุ์ ต่างมีชีวิตและจิตใจ ต่างมีรัก มีเกลียด เหมือนกัน แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ต่างกัน ทำให้เกิดความแบ่งแยก และเหยียดหยามเผ่าพันธุ์
เหว่ยเหลี่ยงในร่างเหยี่ยวยักษ์ ใช้ปีกบินเพื่อพาตัวเองขึ้นไปอยู่บนเนินเขาสูง (ตามแผนกลยุทธ์ยิ่งอยู่สูงยิ่งได้เปรียบ)
" นางมาร!! ในฐานะรองแม่ทัพ และ เผ่าวิหค ข้าเหว่ยเหลี่ยง ขอสาบานต่อวิญญาณเผ่าวิหคที่ล่วงลับ ต่อให้ดวงจิตและธาตุแตกดับ วันนี้!!ข้าต้องพานางมารตนนี้ลงนรกไปด้วยกันให้ได้"
ร่างเหยี่ยวของเหว่ยเหลี่ยง เกิดไฟลุกท่วมตัว แต่พอลองมองดูดีๆ แล้วเหมือนไฟนี้ จะเผาไหม้ร่างกายของเขาเช่นกัน วิชาเพลิง ขั้นที่6 ผลานชีวัน วิชานี้จะเผาผลาญร่างกายของผู้ใช้ และแปรเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงเพิ่ม ระดับความร้อนของเพลิงให้สูงขึ้น แน่นอนว่าหากเลือกใช้วิชานี้ ชีวิต ของผู้ใช้ก็จะสูญสิ้นไปด้วย…
ลูกไฟขนาดใหญ่ พุ่งไปทางไป๋ลี่หยาง และ ทหารเผ่ามังกร ไป๋ลี่หยางใช้คาถาสร้างเป็น ที่กำเเพงน้ำแข็งขึ้นมา ลูกไฟของเหว่ยเหลี่ยง ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน เนื่องจากครั้งนี้ลูกไฟที่ถูกปล่อยออกมาปะทะกำแพงน้ำแข็ง ไม่มีทีท่าว่าจะดับลง กับลุกเผาไหม้อยู่ตลอด
แม้ลำดับขั้นวิชาของไป๋ลี่หยาง จะอยู่ถึงระดับสูงสุด แต่น้ำแข็งยังไงก็ไม่เหมาะ กับการปะทะที่ยืดเยื้อหรือต่อเนื่อง เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป ความแข็งแรงทนทานจะยิ่งลดน้อยลง ซึ่งนางเองก็รับรู้และสังเกตเห็นได้ ว่าน้ำแข็งที่นางใช้สร้างเป็นกำแพงต้านเหว่ยเหลี่ยง เริ่มละลายกลายเป็นน้ำ นางสร้างกำแพงหลายๆ ชั้นซ้อนทับกัน แต่ดูเหมือน จะป้องกันได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น ตราบใดที่เหว่ยเหลี่ยงยังอยู่ ไฟนี้คงไม่สามารถดับลงได้
ไป๋ลี่หยางางวางมือข้างขวาลงช้าๆ ก่อนจะใช้พลังสร้างเป็นเข็มน้ำแข็งเล็กๆ 20กว่าเล่ม ก่อนจะขว้างเข็มน้ำแข็งทั้ง 20 เล่มออกไปทางเหว่ยเหลี่ยง เป้าหมายคือวิหคขนาดใหญ่ วิถีของเข็มจึงไม่พลาดเป้า เข็มทำ 20 เล่มพุ่งเจาะทะลุคอและหลอดลม ทะลุออกทางด้านหลังของเหว่ยเหลี่ยงทันที วิชาผลานชีวัน สลายไป เหว่ยเหลี่ยง กลับกลายเป็นร่างมนุษย์ก่อนจะล้มลง และตกลงมาจากเนินเขา…
" จบสิ้นกับเสียที " ไป๋ลี่หยางกล่าว ก่อนที่นางจะเดินกลับไปหากลุ่มทหารเผ่ามังกร
" ขออภัยด้วย ข้าคงไม่อาจไปยังสวรรค์กับพวกเจ้าได้แล้ว "
" พระชายา… เพราะเหตุใดกัน? "
" ข้าสังหารเหล่าเทพไปมากขนาดนี้พวกเจ้ายังคิดข้าจะยังขึ้นไปบนสวรรค์ได้อีกงั้นหรือ? "
แม้นางจะตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ภายในใจนางกับรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องแปลกที่มารจะมีความรู้สึกนึกคิดเรื่องแบบนี้ได้ เป็นที่แน่ชัดได้ว่า เรื่องพวกนี้นางน่าจะได้เรียนรู้จากกังอวี่หวิน
" เผ่าวิหคก่อกบฏ ท่านแค่ปกป้องตนเอง ท่านไม่ได้ทำผิดอันใด "
ซังเจากล่าวทหารนายอื่นๆ และ สาวใช้ พยักหน้าเห็นด้วย
" ขอบใจพวกเจ้า….แต่ว่า… แม้พวกเจ้าจะเข้าใจ แต่ก็ใช่ว่า เผ่าเทพคนอื่นๆ ด้านบนจะเข้าใจ "
ที่นางพูดก็มีความเป็นไปได้ นั่นก็เพราะว่า มารสังหารเทพ ไม่ว่าจะเหตุผล และความจริงคืออะไร หรือต่อให้นางเป็นฝ่ายถูกจริงๆ แต่ ก็ยากที่จะยอมรับอยู่ดี..
"เดิมที ข้าไม่คิดหวั่นอันตรายใดๆ แต่ตอนนี้ ข้าห่วงความปลอดภัยของเขามากกว่า"
นางยกแขนด้านซ้ายขึ้นมาระดับอก และ มองบริเวณชายแขนเสื้อของตน ไม่มีใครรู้ว่านางต้องการสื่ออะไร
"แม่ทัพกังอวี่หวิน บัดนี้เป็นเง็กเซียน และยังมีวิชาเพลิงขั้น9 ยากที่จะมีผู้ต่อกรได้ ท่านโปรดวางใจ"
ไป๋ลี่หยางยิ้มก่อนจะตอบกลับว่า…
" เรื่องนั้นข้ารู้!! ข้าไม่ได้หมายถึงอวี่หวิน "
"?????????? "
" เขาเคยพูดว่าเง็กเซียนคือผู้ปกครองทั้ง3โลก แต่บัดนี้ตัวเขาเป็นเง็กเซียนแล้ว เรื่องที่ข้าสังหารเผ่าวิหค ภายภาคหน้าคงมีเทพเผ่าอื่นๆ กดดันเขาเรื่องนี้แน่ ฝากบอกอวี่หวินแทนข้าด้วย….กายใจข้าล้วนเป็นของเขาหากวันใดเขาคะนึงหาข้า ให้เขารู้ไว้ข้ารอเขาอยู่ที่วั่งเหลิ่งตง "
นางหันหลัง เดินไปประมาณ5ก้าว แต่กลับเริ่มรู้สึกถึงลมพัดเบาๆ จากด้านบนก่อนจะ….
.
.
(ตู้มมม!!)
แรงกดมหาศาล กดเหล่าทหารมังกรและไป๋ลี่หยางจนนอนหมอบกับพื้นทันที!! ลักษณะของพลังนี้เป็น ลูกบาศก์สีแดงขนาดใหญ่1ลูก ที่ลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงลงมาทับทุกคนที่อยูบนพื้นไว้ ไป๋ลี่หยางไม่รอช้ารีบใช้วิชาของนางเพื่อต้านทานไว้ทันที!!
" วายุภักษ์ประพันธ์ธารา "
วิชาที่นางใช้คือ การสร้างน้ำต้านเปลวเพลิงไว้ และสร้างลมดันขึ้นจากพื้นดิน
(ตู้มมม…ซ่าาาา!!) ลูกบาศก์เพลิงขนาดใหญ่ ศูนย์นสลายกลายเป็นไอน้ำ ก่อนจะค่อยๆ จางหายไป…
นางค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น ชุดแต่งงานสีแดงมีรอยไหม้ ขาด หลุดลุ่ย นางมองดูรอบๆ ตอนนี้ทหารมังกรทุกคนหมดสติ แต่ สาวใช้เกือบทั้งหมดได้ตายไปแล้ว นางกระอักเลือดออกมา เพราะตอนนี้ตัวนางเอกก็บาดเจ็บสาหัสจากลูกบาศก์เพลิง นางไม่ทันได้ตั้งตัวจึงโดนวิชาแบบเต็มๆ
หลังจากกระอักเลือด นางรีบดูบริเวณชายแขนเสื้อข้างซ้ายของนางอย่างร้อนรน
" โดนวิชาของข้าทีเดียว จากนางมารสุดเยือกเย็น ถึงกับมีท่าทีร้อนรนกลัวตายขึ้นมาเลยรึ " เสียงบุคคลปริศนากล่าว…
" เจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไง… " ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดง มีท่าทาง เกรี้ยวโกรธอย่างรุนแรง พื้นที่โดยรอบมีคลื่นพลัง ที่น่ากลัวแพร่ออกมา…
"นามข้า เยว่ลู่จิว จำนามนี้ไว้ให้ดีล่ะ เพราะนี้…จะเป็นจุดจบของเจ้า"