ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน!!! เพราะการแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก ღ
ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน!!! เพราะการแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก ღ
ตั้งแต่ฉันเกิดมาลืมตาดูโลก สิ่งหนึ่งที่สามารถพบเห็นได้เป็นประจำก็คือมักมีผู้ชายมากหน้าหลายตาวนเวียนเข้าออกบ้านแบบหัวกระไดไม่แห้ง
“แล้ววันหลังมาใหม่นะคะ ผัวขา….”
นั่นคือวลีฮิตติดปากของแม่ฉันที่มักกล่าวทิ้งท้ายกับผู้ชายทุกคนยามเสร็จกิจ…
หากมีใครสักคนมาถามว่าพ่อของฉันคือใคร ฉันเองคงตอบไม่ได้เพราะขนาดแม่ของฉันเองก็ยังจำไม่ได้เลยว่าเคยร่วมหลับนอนกับใครมาบ้าง ความจริงแม่ไม่ได้ตั้งใจให้ฉันลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้เสียด้วยซ้ำ! แต่บังเอิญฉันดันหัวแข็งขนาดแม่กินยาขับเลือดแล้วก็ยังไม่ยอมออก แม่จึงต้องจำใจยอมให้ฉันเกิดมาอย่างเสียไม่ได้!
พอฉันเริ่มโตเป็นสาว… บรรดาคู่ขาของแม่ที่แวะเวียนมาใช้บริการต่างก็พากันจ้องมองฉันตาเป็นมัน กว่าจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรแม่ก็พาฉันไปให้ผู้ชายคนหนึ่งเปิดซิงในราคาห้าหมื่นบาทโดยที่เงินทุกบาททุกสตางค์ล้วนเข้าสู่กระเป๋าของแม่บังเกิดเกล้าและถูกละลายหายไปในวงไพ่อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่นั้นมาบรรดาลูกค้าประจำของแม่เลยเปลี่ยนสถานะกลายมาเป็นลูกค้าของฉันแทนแถมยังมีลูกค้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน
“แม่เป็นกะหรี่! ลูกก็เลยเป็นกะหรี่! เหมือนกับแม่ของมันนั่นแหล่ะ!” ภรรยาหลวงของลูกค้าคนหนึ่งที่มาซื้อบริการชี้หน้าปรามาสด้วยความโมโหเพราะสามีของนางดันดอดมาแอบแซ่บกับฉัน
“เพราะเมียหลวงอย่างมึงลีลาบนเตียงมันไม่ร้อนแรงไม่ถึงใจไง ผัวมึงถึงต้องดอดมาหากะหรี่อย่างพวกกู มึงสนใจมาเป็นกะหรี่รุ่นน้องกูไหมล่ะ ? เดี๋ยวรุ่นพี่อย่างกูจะสอนงานให้… ว่าต้องเอาท่าไหนถึงจะเด็ด อมอย่างไรให้แมร่งเสร็จคาปาก ดีกว่าเป็นเมียหลวงนอนหอยแห้งเหี่ยวเกี่ยวเบ็ดเดียวดายนะมึง!” แม่ของฉันยืนเท้าสะเอวยื่นหน้ายื่นตาโต้กลับด้วยวาจาอย่างเผ็ดร้อน
“อีฉิบหาย! อีดอกทอง! ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนจะอยากเป็นกะหรี่เชิญพวกมึงเป็นกะหรี่ไปยันชั่วลูกชั่วหลานเหลนลื่อเถอะ! กับอีแค่ท่อนเอ็นเหี่ยว ๆ ถ้าพวกมึงอยากได้ก็เอาไปเลย กูยกให้! กูรวย! เดี๋ยวกูจะหาดุ้นใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมมาใช้งานแก้เงี่ยน! ไอ้แก่มึงตามกูกลับบ้านไปหย่าให้กูเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นมึงเจอดีแน่!” ภรรยาหลวงคนเดิมที่เพิ่มเติมคือกำลังจะหาสามีใหม่ตะคอกบอกว่าที่อดีตสามีอย่างไม่ไยดี ก่อนเดินเชิดหน้าชูคอสะบัดบ็อบออกจากบ้านของฉันไป ในขณะว่าที่อดีตสามีเดินตามหลังไปอย่างห่อเหี่ยวหน้าเศร้าคอตกอย่างเห็นได้ชัดเพราะรู้แน่ว่าภรรยาพูดจริงทำจริง!
ชีวิตกะหรี่ของฉันมันก็วนเวียนอยู่แค่นี้ นอนกับผู้ชายมากหน้าหลายตา ใช้มารยาสาไถยหว่านล้อมปะเหลาะเอาเงินทอง โดนเมียหลวงด่าทอตบตีไล่บี้ตามล้างตามเช็ด ทำให้ครอบครัวของคนอื่นทะเลาะเบาะแว้งหย่าร้างกันจนเป็นเรื่องปกติ
จนกระทั่งแม่ของฉันเป็นเอดส์ตาย ตัวฉันในวัย 20 ปี ที่รอดพ้นจากเอดส์มาได้ราวกับปาฏิหาริย์จึงได้แต่ยืนงงอยู่ในงานศพว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตของตนเองต่อไปดี ความรู้รึก็มีแค่หางอึ่งจบเพียงชั้น ป.6 พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น
“อีจารีย์… ไหน ๆ แม่ของมึงก็ตายไปแล้ว ตัวมึงก็ยังสาวยังสวย กูว่ามึงไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่กรุงเทพฯเหอะ! เลิกเป็นกะหรี่กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีซะ! เผื่อมึงจะได้เจอใครที่เขามารักมาชอบอยากสร้างครอบครัวกับมึงอย่างจริงใจบ้าง…” ป้ารัญจวนพี่สาวคนเดียวของแม่และญาติคนเดียวของฉันเอ่ยปากเตือนสติ ความจริงพี่สาวของแม่คนนี้ก็นับว่าเป็นคนดีอยู่บ้างเพราะแกไม่เคยสนับสนุนให้ฉันขายตัวเลย แต่เพราะตีฝีปากสู้แม่ไม่ได้ ทุกครั้งที่ทะเลาะกับแม่ด้วยเรื่องของฉัน ป้าเลยต้องเป็นฝ่ายล่าถอยม้วนเสื่อกลับบ้านไปทุกที
‘ครอบครัวเหรอ? ถ้าเป็นไปได้ฉันเองก็อยากมีในสิ่งที่ชีวิตนี้ฉันไม่เคยมีกับเขาเหมือนกันนะ…’
ในที่สุด… ฉันจึงตัดสินใจเข้าไปเรียนเสริมสวยในกรุงเทพฯพร้อมกับเงินก้อนสุดท้ายที่ได้จากซองทำบุญงานศพแม่ โชคดีที่หลังจากเรียนจบแล้ว ฉันก็มีงานทำเรื่อย ๆ ไม่เคยตกงาน พยายามเก็บหอมรอมริบจนมีร้านเสริมสวยเล็ก ๆ เป็นของตนเองเมื่อตอนอายุ 25 ปี พร้อมกับมีสามีเป็นตัวเป็นตนของตัวเองเป็นคนแรก และมีลูกชายเป็นพยานรักด้วยกันหนึ่งคน
คำว่า ‘ครอบครัว’ ของฉันดำรงอยู่ได้แค่เพียง 5 ปี ก็ถึงคราวล่มสลาย ฉันเลยเอาลูกชายไปให้ป้ารัญจวนเลี้ยงและยกบ้านกับที่ดินมรดกตกทอดจากแม่ในต่างจังหวัดให้ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าฉันเลี้ยงลูกไม่เป็น ตั้งแต่โตมาจนนมตั้งเต้าก็โดนกระเด้าหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนเองมาโดยตลอด ที่ผ่านมาลูกก็จ้างเขาเลี้ยง เมื่อไม่มีผัวไม่มีลูกแล้ว ฉันจึงกลับมาใช้ชีวิตสาวโสดผู้รักอิสระเสรีอีกครั้ง อยากนอนกับใครก็นอน บางทีกินเหล้าเมาเกิดอารมณ์เปลี่ยวก็ไปซั่มกับคนในวงเหล้าต่อ….
แม้นจะผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน แต่ความขาวสวยอึ๋มลีลาเด็ดเผ็ดร้อนระดับพริกสิบเม็ดก็ยังคงสามารถดึงดูดให้หว่างขาของฉันได้อ้าไม่เคยว่างเว้น อาชีพเสริมสวยจึงกลายเป็นอาชีพหลักโดยมีอาชีพค้าน้ำกามและอื่น ๆ เป็นรายได้เสริม จวบจนอายุย่างเข้าเลข 3 ฉันก็ได้สามีเป็นตัวเป็นตนอีกครั้ง พร้อมกับมีลูกคนที่สองเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักน่าชัง
คำว่า ‘ครอบครัว’ ที่เคยเป็นเพียงความฝันในใจลึก ๆ จึงวนเวียนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง…
ครั้งนี้ฉันพยายามเริ่มต้นใหม่…พยายามเรียนรู้ที่จะเป็นแม่ที่ดีคอยดูแลเลี้ยงดูลูกด้วยตนเองมาตั้งแต่เกิด ฉันเฝ้าประคบประหงมด้วยความรักแบบลิ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ลูกสาวของฉันเป็นเด็กน้อยแสนน่ารักว่านอนสอนง่ายไม่ดื้อไม่ซนไปไหนก็มีแต่ผู้คนเมตตาเอ็นดูทำให้ฉันรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก ส่วนสามีคนปัจจุบันก็ดีแสนดีหาเงินหาทองมาได้เท่าไหร่ก็ยกให้ฉันเป็นคนเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขกับชีวิตคู่ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก