Your Wishlist

ผูกรักด้ายแดง (ตอนที่ 15 จะทำอะไร)

Author: ้hanna hb

เมื่อคนคู่หนึ่ง ชะตาชีวิตต้องไร้คู่จนตาย แต่ดันมีรายชื่อในสมุดด้ายแดง จึงเกิดคำถามขึ้น “ทำไม” นี้คือจุดเริ่มต้น ของความรักของเขาและเธอ เมื่อเทพเจ้าจันทรา หรือ ผู้เฒ่าจันทรา นึกอยากลองฝืนชะตาฟ้า เขาผูกด้ายแดง ให้หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ไร้คู่จนตาย ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาต้องข้ามผ่านเวลาไปยังอีกโลกหนึ่งซึ่งเรียกว่าโลกขนาน อยู่ในร่างขององค์ชาย และ คุณหนู อุปสรรคและการต่อสู้การผจญภัยมากมาย ที่พวกเขาต้องเจอนั้นจะเป็นอย่างไร มาร่วมลุ้นกันความรักของพวกเขาว่าจะเป็นอย่างไร ในรักผูกด้ายแดง

จำนวนตอน :

ตอนที่ 15 จะทำอะไร

  • 08/05/2566

บทที่ 15

ตอน จะทำอะไร

เมื่อเช้าแสงแดดส่องเข้ามาภายในห้อง ลู่เหลียนยังคนนอนหลับทับไหล่กอดเขาทั้งตัวจนเขาไม่กล้าแม้แต่ขยับ เขาได้แต่นอนอยู่อย่างนั้นนิ่ง  ๆ รอให้นางตื่น เมื่อนางเริ่มรู้สึกตัวเขาก็แกล้งหลับทันที เธอมองไปรอบตัวเองก็ต้องเจอกับร่างที่เธอกอดอยู่ สีหน้าเธอบ่งบอกถึงความอายอย่างเห็นได้ชัด เธอค่อย ๆ พาตัวเองออกจากเตียงช้า ๆ แล้วเดินออกจากห้องไปทันที เขาลุกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยกแขนที่นางทับบิดไปมา

วันนี้ลู่เหลียนยุ่งอยู่กับสวนหลังห้องนอน เธอให้ทุกคนยกหินนั้นออก ขุดดินให้เป็นร่องขึ้นมา

“คุณหนูจะทำอะไรค่ะ”

“ข้าอยากปลูกดอกกุหลาบ ข้าชอบดอกกุหลาบ”

“คุณหนูไม่เคยชอบดอกไม้”

ลู่เหลียนตกใจเล็กน้อย “ก็ตอนนี้ชอบไม่ได้หรือ ผู้หญิงอะไรไม่ชอบดอกไม้”

“ได้ค่ะ แต่เราไม่มีดอกไม้”

“ก็ออกไปซื้อซิ”

“อีกแล้วหรือ ไม่เอานะคะ คุณหนูต้องขอองค์ชายก่อน เห็นหน้าองค์ชายมั้ย หน้ากลัวนะคะเวลาท่านโกรธ”

“วันนี้เขาไม่ไปไหนหรือ”

“อยู่ห้องทรงงานค่ะ”

“ก็ได้ พวกเจ้าขุดไปก่อนข้ากับหว่านเอ่อร์จะไปหาดอกไม้มาปลูก”

แล้วเธอก็เดินไปที่ห้องทรงงานขององค์ชาย ในมือถืออาหารว่างมาให้เขาด้วย เธอเดินยิ้มเข้ามาแล้ววางอาหารว่างให้เขา

“นี่อะไร”

“ขนมค่ะ เห็นแม่ครัวทำหน้าทานเลยยกมาให้องค์ชาย”

“ต้องการอะไร”

“ท่านรู้ได้ไง”

“วันนี้เจ้าวุ่นอยู่แต่จะทำสวนทั้งวัน แล้วอยู่ ๆ มาทำดีกับข้า เจ้าต้องมีจุดประสงค์แน่นอน”

เธอทำหน้าแบบเซ็งที่ ๆ เจอคนรู้ทัน “ก็ได้ องค์ชายหม่อมฉันขออนุญาตออกนอกจวนนะเพค่ะ”

“ไม่ได้”

“ทำไมไม่ได้ละเพค่ะ”

“เมื่อวานเจ้าทำเรื่องไว้จำไม่ได้หรือ”

“แต่หม่อมฉันจะไป”

ลู่เหลียนเดินหนีทันที แต่ก็เดินได้ไม่กี่ก้าวเสียงของเขาพูดขึ้น

“เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าอย่างนั้นหรือ”เขาเดินออกจากโต๊ะทำงาน ลู่เหลียนสูดลมหายใจเข้าลึกขมความโกรธของตัวเองไว้

“เจ้าจะออกไปข้างนอกทำไม”

“ท่านไม่ให้ไปจะรู้ทำไม...ไม่ไปก็ได้”

“แค่เจ้าตอบ”

“ไปซื้อดอกกุหลาบ”

“เจ้าชอบดอกกุหลาบหรือ”

เธอพยักหน้า เขาจับมือเธอแล้วพาเดินออกไป ลู่เหลียนมองหลังเขา หัวใจเธอตอนนี้เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว เธอยิ้ม องค์ชายพาลู่เหลียนออกไปซื้อดอกไม้ที่ตลาด พวกเขาขี่ม้าไปด้วยกัน ลู่เหลียนนั่งด้านหน้า เขาโอบกอดเธอไว้ เธอได้แต่ยิ้ม ส่วนหว่านเอ่อร์ก็ขี่ม้าตามมาพร้อมกับองครักษ์ เมื่อถึงตลาด พวกเขาฝากม้าไว้ที่โรงเลี้ยงม้า แล้วออกเดินเข้าตลาด หาร้านที่ขายดอกไม้ ซึ่งเป็นจุดที่มีร้านดอกไม้มากมาย

เดินไปสักพัก ก็เจอกับองค์ชายสามเข้า

“เสด็จพี่ไหนเลยเจอท่านที่นี่”องค์ชายสี่ถามด้วยความแปลกใจ

“ออ.ข้าแค่อยาก” เขามองมาทางหว่านเอ่อร์ ลู่เหลียนยิ้ม

“หว่านเอ่อร์เจ้าไปดูดอกไม้ทางนั้น ส่วนข้าจะไปดูดอกไม้ทางนี้”

“ห่า....คุณหนูค่ะ หว่านเอ่อร์เลือกดอกไม้ไม่เป็นนะคะ”

“เอาเถอะน่า เห็นว่าสวยก็พอแล้ว”

“เดี๋ยวข้าช่วยเจ้าเลือก” องค์ชายสามพูด

ลู่เหลียนยิ้มแล้วตีตัวออกไป องค์ชายสี่เขาเองก็ตามลู่เหลียนไป พร้อมกับองค์รักษ์

หว่านเอ่อร์ยิ้มแล้วเดินไปหาร้านดอกไม้

“เจ้าสนิทกับพระชายามากเลยหรือ”

“เพค่ะ”

“พูดกับเราเหมือนที่พูดกับคุณหนูเจ้าได้หรือไม่”

“ค่ะ”

“สตรีที่จับดาบอย่างเจ้ามาซื้อดอกไม้ก็ดูหน้ารักดีนะ”

“องค์ชายท่านพูดอะไรของท่านกัน”

หว่านเอ่อร์ก้มหน้า หน้าเธอแดงกล่ำ ก่อนจะเดินไปดูดอกไม้อีกร้าน องค์ชายสามยิ้มเดินตามเธอไป องครักษ์สองคนมองหน้ากัน แล้วยิ้ม

 

ทางด้านลู่เหลียนกับองค์ชายสี่

“เจ้าช่างแสบนัก”

“เรื่องอะไรหรือเพค่ะ”

“อยากเป็นแม่สื่อหรือไง”

เธอยิ้ม และดูดอกไม้ไปด้วย “แววตาของพี่ชายท่านบ่งบอกว่าสนใจนาง ไม่นั้นวันนี้เขาคงไม่มาที่นี่อีก และคงหาข้ออ้างที่จะไปหาท่านที่จวน”

เธอยังคงดูดอกไม้ไปเรื่อย ๆ “องค์ชายท่านชอบดอกไม้อะไรอื่น”

เขาคิด “ดอกโบตั๋น”

“แปลกนะ ท่านชอบดอกโบตั๋น แต่ที่จวนของท่านไม่มีต้นดอกโบตั๋นเลยสักต้น” เขาคิดก็จริงอย่างที่นางพูด

ลู่เหลียนก็คิด นายคือเฮนรี่แน่ ๆ เพราะเธอรู้ทุกอย่างที่เป็นเขา คงไม่บังเอิญแบบนี้

เมื่อทุกคนซื้อของเสร็จเวลาก็บ่ายมากแล้ว องค์ชายสามเดินมาส่งหว่านเอ่อร์ที่ม้า โดยมีลู่เหลียนและองค์ชายสี่นั่งรออยู่โรงน้ำชา

ลู่เหลียนเห็นอย่างนั้นนางจึงลุกแล้วเดินไปคำนับองค์ชายสามแล้วลากตัวหว่านเอ่อร์แยกออกมาเพื่อจะคุย องค์ชายสามยิ้มแล้วเดินมานั่งทานน้ำชากับองค์ชายสี่

“เสด็จพี่ ข้าเริ่มสงสัยแล้ว”

“สงสัยว่าอะไร”

“ท่านคิดทำอะไรอยู่”

“ข้ารู้สึกอิจฉาเจ้า ที่มีชีวิตที่อิสระ ได้อยู่กับคนที่เจ้ารัก”

“ข้ารักใครกัน”

“น้องรอง ข้ากับเจ้าอายุเราไม่ได้ห่างกันเลย ข้าโตมาพร้อมกับเจ้า เจ้าจะปิดบังอะไรข้าได้ แม้เมื่อก่อนเจ้าจะเกลียดข้า แต่ตอนนี้ข้ารับรู้ได้ว่าความรู้สึกเจ้าไม่เหมือนเมื่อก่อน บางทีความทรงจำบางอย่างของเจ้าหายไปก็ดี พวกเราดูเหมือนครอบครัวมากขึ้น”

“ข้าเองก็กลัว”

“กลัวอะไรของเจ้า”

“ความจริง ความรัก”

“ใช่ความรัก บอกตรง ๆ ข้าสนใจหว่านเอ่อร์ รู้สึกชอบนางตั้งแต่แรกเห็น”

ไม่ทันพูดจบ ได้มีลูกธนูจำนวนมากพุ่งเข้าในกลุ่มของพวกเขา หว่านเอ่อร์และองครักษ์ต่างก็รู้ทันที องค์ชายทั้งสอง ต่างหลบลูกธนูหว่านเอ่อร์ค่อยปกป้องคุณหนู

องค์ชายสี่ เข้ามาดึงตัวลู่เหลียนหลบธนู และทุกคนก็หาที่หลบได้

“น้องรองเจ้าเป็นอะไรไม่”

“พวกข้าไม่เป็นไร”

 เมื่อลูกธนูหยุดยิงก็ได้มีกลุ่มคนชุดดำปรากฏขึ้น ต่างเข้าโจมตีพวกเขา ลู่เหลียนวิ่งไปหลบอยู่หลังโต๊ะ เธอคิด ให้ตายเถอะจะมีสักวันมั้ยที่ฉันได้ออกมาเที่ยวแบบไม่มีเรื่อง เธอดูกลุ่มคนชุดดำเหล่านั้น ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่องค์ชายสี่ แต่ดูเหมือนจะมุ่งเป้ามาที่องค์ชายสามมากกว่า  การต่อสู้เป็นไปอย่าดุเดือน องค์ชายสามถูกกลุ่มคนชุดดำเข้าล้อมในจังหวะนั้นได้มีคมดาบมุ่งตรงเข้าหาเขาทางด้านหลัง องครักษ์ทั้งสี่เห็นแต่ก็ไม่สามารถเข้าช่วยได้ทันแต่ทว่าองค์ชายสี่ได้ขัดขวางคมดาบนั้นด้วยการนำกระบี่ของตนขวางไว้ได้ทันจนทำให้กระบี่นั้นหักเป็นสองทอน

องค์ชายสามหันมอง แต่พวกมันก็ไม่ยอมลดละจนไม่สามารถระวังการโจมตีได้ทัน เมื่อองค์ชายสี่ต่อสู้ด้วยมือเปล่า ย่อมที่จะป้องกันได้ยาก กระบี่เล่มหนึ่งมุ่งตรงเข้าหาเขาแต่ลู่เหลียนเห็นถ้าไม่ดี  

“เฮนรี่ระวัง”

นางนำร่างของตัวเองเข้าขวาง แต่องค์ชายสี่เห็นว่าลู่เหลียนกำลังอยู่ในอันตราย เขาผลักตัวลู่เหลียนไว้ด้านหลังของตน เขารับคมกระบี่นั้นด้วยตัวเองพวกมันแทงเขาเข้าที่อกด้านขวา ลู่เหลียนตกใจมาก หว่านเอ่อร์เข้ามาปกป้องพวกเขา องครักษ์ทุกคนต่อสู้จนจับคนร้ายได้สามคน แต่ทว่าเมื่อองค์ชายสามถามใครบ่งการ พวกมันก็ฆ่าตัวตายทันที

ลู่เหลียนพยุงร่างขององค์ชายสี่ เธอมองหน้าเขาด้วยแววตาที่เป็นห่วงเขา “เฮนรี่”เธอเรียกเขา

“ไม่เป็นไร” องค์ชายตอบ

“น้องรอง”องค์ชายสามเข้ามาพยุงเขา แล้วทั้งหมดก็กลับจวน หมอหลวงถูกเรียกตัวมาที่จวนทันที

เมื่อหมอหลวงรักษาแผลและพันผ้าไว้ เขาเขียนยาส่งให้ลู่เหลียน

“องค์ชายสี่เป็นอย่างไรบ้าง”องค์ชายสามถาม

“ไม่เป็นไงมากพ่ะย่ะคะ พักผ่อนเยอะ ๆ ทำความสะอาดแผล แรก ๆ อาจจะมีไข้บ้างแต่ข้าสั่งยาให้แล้วทานวันละสองเวลาอาการเจ็บปวดก็จะทุเลาพ่ะย่ะคะ”

ลู่เหลียนส่งใบสั่งยาให้หว่านเอ่อร์ก่อนจะเดินเข้าไปจับมือเขาที่กำลังหลับ  เมื่อหว่านเอ่อร์รับใบสั่งยามานางก็ออกไปหายาทันที เมื่อหมอหลวงกำลังจะออกไป องค์ชายสี่รู้สึกตัวพูดขึ้น

 “ท่านหมอ อย่าได้กล่าวให้เสด็จพ่อและเสด็จแม่หรือผู้ใดได้รับรู้”

“พ่ะย่ะคะ”

“เหตุใดเจ้าต้องปกปิด”องค์ชายสามถาม

“เสด็จพี่เป้าหมายของพวกมันคือท่าน ไม่ใช่ข้า ถ้าให้เสด็จพ่อรู้ข้าแกร่งว่าเสด็จพ่อจะทรงเป็นกังวลจนทำให้เสียงานใหญ่”

องค์ชายสามครุ่นคิด“ใครกันช่างกล้า......ขอบใจเจ้าที่ช่วยข้า”

“เสด็จพี่จะทำอย่างไร”

“สืบหาคนบ่งการ เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าจะกลับตำหนักก่อน เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ”

“ใกล้มืดแล้ว จะดีเหรอเพค่ะ”ลู่เหลียนพูด

“ไม่ต้องห่วง ข้าคงต้องรบกวนเจ้าดูแลน้องรองให้ด้วย”

“เพค่ะ”

แล้วเขาก็เดินจากไป

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป