เธอไม่ได้รักเขา แต่หลังจากรู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นศัตรูคู่แค้น เธอจึงตัดสินใจเข้าหาเขา ทำให้เขาสับสน มึนงง พัวพันเขาด้วยวิธีต่างๆ นานา
เธอไม่ได้รักเขา แต่หลังจากรู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นศัตรูคู่แค้น เธอจึงตัดสินใจเข้าหาเขา ทำให้เขาสับสน มึนงง พัวพันเขาด้วยวิธีต่างๆ นานา
ค่ำคืนนี้ช่างเป็นคืนที่เงียบสงบ ทว่าท่ามกลางความเงียบสงบนั้น ในใจของเธอกำลังเฝ้ารอบางสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ในที่สุดก็เป็นจริงในคืนนี้
เธอเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ ทันเวลาได้ยินเสียงโทรศัพท์ส่งเสียงดังพอดี สายตาเหลือบมองหน้าจอและเห็นหมายเลขผู้โทรเข้า ใจเธอเต้นแรง
เธอเลื่อนนิ้วไปกดปุ่มรับสายและแสร้งทำเป็นพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “ฮัลโหล”
“คืนนี้เจอกันไหม” เขาถาม
"ตอนนี้?"
"อืม"
"ไม่ดึกไปหน่อยเหรอ”
"..."
เขาเงียบไปสองสามวินาที "แล้วแต่คุณ" ยังไม่ทันได้ตอบ ปลายสายก็วางไปแล้ว
เธอถือโทรศัพท์ค้างอยู่กับที่ รู้สึกงุนงงอยู่สองสามวินาที จากนั้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบชุดขึ้นมาสวม และออกไปข้างนอกพร้อมกับกระเป๋าในมือ
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็มาถึงประตูห้องชุดของเขา ยกมือขึ้นเคาะประตูไม่แรงไม่เบา ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก และเขาก็ปรากฏตัวขึ้ตรงหน้า
เธอได้กลิ่นเหล้าหึ่ง ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาของเขาดูสับสนและพร่ามัว ร่างกายสูงใหญ่กำยำของเขาพิงอยู่กับขอบประตู เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในสภาพมึนเมาไม่ค่อยได้สติเท่าไหร่
“อ้อ มาแล้วเหรอ” เขาพึมพำและมองตรงมาที่เธอ ต้องบอกว่าเพียงแค่เหลือบมองใบหน้าของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้หญิงหลายคนยอม 'ศิโรราบ'
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์ ทันใดนั้นเขาก็คว้าแขนเธอหมับ "เข้ามา" ประตูก็ถูกเขาเตะปิดตามหลัง
จากนั้นเขาก็กอดเธออย่างรวดเร็ว ซบหน้าลงที่ซอกคอของเธอ และกลิ่นเหล้าก็พุ่งเข้าจมูกเธออย่างไว เธอไม่คิดอะไรทั้งนั้น ถอดเสื้อผ้าออกและโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขาทันที ต่างคนต่างคุ้นเคยกับร่างกายของกันและกันมามากพอจนไม่ต้องการคำพูดใดๆ คนทั้งคู่ล้มตัวลงบนโซฟาและลูบไล้กันและกันอย่างเร่าร้อนด้วยไฟราคะ
จังหวะแบบนี้ย่อมทำให้ผู้คนจินตนาการว่าอาจมีใครบางคนในหมู่ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ พี่น้องของเธอนอนอยู่ที่โรงพยาบาลและต้องการเงินค่าผ่าตัดก้อนโตอย่างเร่งด่วน จากนั้นเธอก็บังเอิญเจอกับท่านประธานผู้ร่ำรวยล้นฟ้า นอนกับเขาเพื่อแลกกับเงินเหมือนพล็อตละครที่ได้รับความนิยมสูงสุด
เผอิญว่าไม่ใช่แบบนั้นเลย
ชื่อของเขาคือเว่ยเหลียนเหิง ส่วนเธอชื่อไป๋เซินเซิน เมื่อหนึ่งปีก่อนเธอมีโอกาสได้ไปล่องเรือสำราญเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ
หนึ่งปีก่อน ชีวิตของไป๋เซินเซินตกต่ำจนถึงขีดสุด ถูกแทงข้างหลังในที่ทำงานและถูกผู้ชายหลอก สรุปแล้วอาชีพและความรักของเธอล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพื่อผ่อนคลายสมองลดความตึงเครียด เธอจึงตัดสินใจไปล่องเรือสำราญ 6 วัน 5 คืน
คืนนั้นเธอจำไม่ได้ว่าดื่มเหล้าไปกี่แก้ว ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองอยู่ในสภาพแบบไหน ทว่าก็ยังสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชายคนหนึ่งได้ เมื่อได้ยินคนเอ่ยเรียกที่ด้านหลัง เธอหันกลับไปมองและนั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับเขา เพิ่งรู้ว่ามีผู้ชายประเภทที่ 'หล่อ' อยู่ในโลกจริงๆ เรียกว่า 'หล่อเกินกว่าจะให้ใครมาหุบขาคุณได้' ดังนั้นด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอกระทำสิ่งที่ไร้สติสัมปชัญญะ ตอบรับเขาอย่างน่าละอายโดยที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกันและกันเลยแม้แต่น้อย
ความรู้สึกในตอนนั้นช่างสวยงามและน่าตกตะลึง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเว่ยเหลียนเหิง ความสัมพันธ์ที่เร่าร้อน ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีความรัก...
เฉกเช่นเดียวกับค่ำคืนนี้ ไป๋เซินเซินหลับตาลง รู้สึกถึงความบ้าคลั่งของเขาอย่างชัดเจน รู้สึกเหมือนถูกภูเขาไท่ซานกดทับ ถูกเขาควบขึ้นเหนือล่องใต้อย่างหื่นกระหาย ถูกกระแทกกระทั้นโดยไม่มีทีท่าจะผ่อนแรง ความสุขสมผุดขึ้นมาล้นปรี่ มือใหญ่หนากอบกุมหน้าอกของเธอและบีบเค้นมันไปด้วย เธอส่งเสียงร้องอุทาน ทว่าเขาไม่ปล่อยให้เธอได้คิดนาน....ผ่านไปนานกว่าความบ้าคลั่งนี้จะค่อยๆ อ่อนกำลังลง ทว่าสติที่มีอยู่น้อยนิดของเธอกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว