ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้
ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้
หลี่อวี้เหยียนเดินมาที่เรือนหมินซิ่วเพราะโดนหยิ่นเจียวบังคับแกมขอร้อง..ที่เรือนหมินซิ่วมีไฟสลัวๆ เมื่อเทียบกับเรือนอี้ฉิงแล้วที่นี่ดูรกร้างว่างเปล่า นางถึงกับตกตะลึงไป
นางไม่ได้มาที่นี่นานแค่ไหนแล้ว? ทำไมเรือนหมินซิ่วถึงได้ดูมีสภาพรกร้างแบบนี้ไปได้นะ?
"ฮูหยิน..ไปดูคุณหนูใหญ่ก่อนเถิดเจ้าค่ะ " จางมามาเตือนเมื่อเห็นหลี่อวี้เหยียนยืนนิ่งไม่ขยับกาย จางมามาเห็นใจคุณหนูใหญ่ยิ่งนัก นางถูกลักพาตัวไปตั้งแต่แบเบาะ กลับมาที่จวนก็ถูกทิ้งขว้างไม่มีใครสนใจไยดี คุณหนูใหญ่ผู้นี้มีชะตาชีวิตที่ลำบากเหลือเกิน
หลี่อวี้เหยียนพยักหน้าเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ แล้วเดินเยื้องกรายเข้าไปในเรือน
ชุยอวี้กำลังทำผมให้หยิ่นหรูจู
"ทำให้เรียบง่ายก็พอไม่ต้องซับซ้อนมากนัก!" เสียงของหยิ่นหรูจูพูดเบาๆ กับสาวใช้ สาวใช้กลับแย้งว่า
"คุณหนูใหญ่ หากเรียบง่ายเกินไปจะไม่ดึงดูดใจผู้คนนะเจ้าคะ เข้าวังสมควรแต่งกายให้งดงามเฉิดฉันจะดีกว่า!" ชุยอี้พยายามทำมวยผมตามสมัยนิยม หากมือไม้นางไม่คล่องแคล่ว ยิ่งรีบยิ่งช้า ยิ่งลนยิ่งเลอะเทอะ
"จะมีใครสนใจตัวข้าด้วยหรือ? " น้ำเสียงที่พูดขมขื่นจนปิดไม่มิด นางหลุบตานั่งเล่นปิ่นที่ถืออยู่ในมือ หัวใจของหลี่อวี้เหยียนถึงกับบีบแน่นเมื่อได้ฟังวาจาของบุตรสาวผู้นี้ ความรู้สึกผิดแล่นขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจ นางเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ คว้าหวีไม้ในมือของชุยอวี้กล่าวว่า
"ข้าทำเอง!"
"ฮูหยิน!" ชุยอวี้ตกใจเมื่อเห็นฮูหยินจวนจงหย่งโหวเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ ชุยอวี้หน้าเผือดสี
ฮูหยินจะได้ยินที่คุณหนูพูดไหม?
"ท่านแม่ …"หยิ่นหรูจูตกใจจนทำปิ่นที่ถืออยู่ในมือร่วงลงพื้นอย่างไม่รู้ตัว นางไม่ได้กังวลในสิ่งที่นางเผลอพูดออกไป เพียงแต่ประหลาดใจที่จู่ๆ ก็เห็นมารดามาที่เรือนนี้อย่างกะทันหัน หญิงสาวต้องการจะลุกขึ้นยืนเพื่อโค้งคำนับมารดา หากหลี่อวี้เหยียนจับบ่าลูกสาวกดเอาไว้ นางจึงจำต้องนั่งลงตามเดิมอย่างช่วยไม่ได้
หลี่อวี้เหยียนคลี่ผมลูกสาวให้สยาย ก่อนที่จะหวีให้ นางรู้สึกมึนงงสับสนไม่น้อยเมื่อคิดว่า นางเคยแต่หวีผมให้เจียวเจียวตั้งแต่เล็กจนโต หากแต่ไม่เคยหวีผมให้หรูจูเลยแม้แต่ครั้งเดียว ..นี่เป็นครั้งแรกที่นางหวีผมให้บุตรสาวคนนี้ ผมของนางยาวกว่าเจียวเจียวมากนัก
"ท่านแม่ ให้ชุยอวี้ทำเถอะเจ้าค่ะ " หยิ่นหรูจูรู้สึกเกรงใจมารดา นางเอ่ยออกมาเบาๆ ร่างกายของนางเกร็งขึ้นเมื่อรู้สึกถึงปลายนิ้วของมารดาที่ลูบไล้ผ่านเรือนผมของนาง
"ไม่เป็นไร ให้แม่ทำเถอะ! หรือว่าหรูจูไม่เชื่อฝีมือของแม่หรือ? " หลี่อวี้เหยียนพูดด้วยน้ำเสียงขบขันนุ่มนวล
หยิ่นหรูจูตกตะลึงไป นี่เป็นครั้งแรกที่คนผู้นี้แทนตัวนางว่า แม่ นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแบบนี้
หลี่อวี้เหยียนเคยชินกับการหวีผมให้หยิ่นเจียว แต่พอมาหวีผมให้ลูกสาวคนโตของนางแล้ว กลับรู้สึกเกล้าผมเป็นมวยได้อยู่ทรงและสวยงามกว่าหยิ่นเจียวมากทีเดียว นางเหลือบมองโต๊ะเครื่องแป้งแล้วขมวดคิ้ว
"หลิวหยุน! เจ้าไปเอาปิ่นมรกต กับปิ่นมุกดอกไม้ของข้ามาทีเถอะ "
"เจ้าค่ะ " หลิวหยุนโค้งตัวก่อนที่จะเดินออกไป
"ท่านแม่…ไม่ต้อง..ข้ามีปิ่นแล้ว.."หยิ่นหรูจูหยิบปิ่นที่นางทำตกเมื่อครู่ขึ้นมา แต่เห็นว่าขาของปิ่นหักเสียแล้ว ปิ่นชิ้นนี้เป็นปิ่นที่ดีที่สุดในกล่องเครื่องประดับของนาง ตอนนี้กลับพังไปแล้ว…
"เสื้อผ้าส่งมาหรือยัง? "
"มาแล้วเจ้าค่ะ " ชุยอวี้รีบนำเสื้อผ้าที่ไว้อย่างเรียบร้อยมาส่งให้
หลี่อวี้เหยียนแปลกใจเมื่อได้เห็น การออกแบบของเจียวเจียวนั้นโดดเด่นมาก ผ้าสีขาวลายจันทร์เสี้ยวถูกนำมาทำเป็นชุดชาววังสีขาวนวลดูหรูหราและสง่างามมาก แตกต่างจากชุดชาววังที่ดูเคร่งขรึมจริงจัง แต่ชุดนี้กลับให้ความรู้สึกที่สดใสกว่า นอกจากนี้ในส่วนของกระโปรงที่ทำจากผ้าสีขาวลายจันทร์เสี้ยวได้เพิ่มผ้าโปร่งเบาสีเหลืองนวลอยู่อีกชั้นทำให้ลดความหนาทึบของผ้าลง อีกทั้งยังมีการปักลูกท้อสีแดงเพิ่มลงไปทำให้ดูราวกับเป็นเทพเซียนที่เหินลงมา
"ชุดที่เจียวเจียว ออกแบบช่างดูงดงามจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่านางจะมีความสามารถได้ขนาดนี้ " หลี่อวี้เหยียนยิ้มอดเอ่ยปากชมเชยอีกไม่ได้ นางมองเสื้อผ้าด้วยแววตารักใคร่ หยิ่นหรูจูรู้สึกตัวชาวูบราวกับมีใครเอาอ่างน้ำเย็นๆ มาราดรดความรู้สึกตื่นเต้นดีใจเมื่อครู่หายไปจนหมดสิ้น
"หรูจูมาเถอะ! รีบใส่ให้แม่ดูหน่อย! " หลี่อวี้เหยียนหยิบชุดส่งให้อย่างกุลีกุจอ หยิ่นหรูจูมองความตื่นเต้นคาดหวังบนใบหน้าของมารดา ในใจนางถึงกับอึงอลว่าเป็นเพราะมารดาอยากเห็นผลงานของลูกสาวคนโปรดของนางใช่ไหม? คงไม่ใช่เพราะเป็นนางเป็นคนสวมใส่หรอก…
"เจ้าค่ะ "นางรับคำก่อนจะเดินเข้าหลังฉากไป หากยังฝืนยืนอยู่ต่อนางคงมีสีหน้าที่ย่ำแย่ออกมาให้มารดาได้เห็นเป็นแน่ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว หลิวหยุนก็นำเครื่องประดับเข้ามา เมื่อปักปิ่น เพิ่มไข่มุกประดับบนเรือนผม พร้อมทั้งวาดลวดลายดอกไม้ที่หว่างคิ้ว หยิ่นหรูจูก็ดูสดสวย สง่างามสมเป็นคุณหนูของจวนจงหย่งโหวจริงๆ
"ฮูหยิน ข้ารับใช้จากในวังมาถึงจวนจงหย่งโหวแล้วขอรับ " บ่าวรับใช้เดินมาป่าวประกาศ หลี่อวี้เหยียนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าจึงได้เห็นว่าท้องฟ้าสว่างมากแล้ว
"มาเถิด หรูจูไปทานอาหารเช้าก่อนเข้าวังกับแม่ก่อน " นางหันไปพยักหน้าเรียกลูกสาว หยิ่นหรูจูถึงกับอึ้งไปอีกครั้ง นางไม่เคยได้ทานอาหารร่วมกับครอบครัวมาก่อนเลย!
"เจ้าค่ะ "
"เจ้าไปเรียกเจียวเจียวมาที เด็กขี้เกียจคนนั้นป่านนี้มินอนไปอีกรอบแล้วหรือ? "หลี่อวี้เหยียนหันไปสั่งหลิวหยุน
******
หยิ่นเจียวก็เป็นอย่างที่มารดาของนางกล่าวไว้นั่นแหละ ตอนนี้นางกำลังงีบหลับอยู่บนโต๊ะ หากไม่ใช่เป็นเพราะกลัวว่าผมจะเสียทรง นางคงจะได้นอนทอดกายบนเตียงไปนานแล้ว…
หยิ่นเจียวนั้นนั่งสัปหงกก่อน ตอนแรกนางก็เท้าคางกับโต๊ะ ต่อมาศีรษะก็เอนไหลลงเรื่อยๆ จนจะฟาดกับโต๊ะหิน หงเซี่ยที่มองดูคุณหนูถึงกับต้องยื่นมือออกมารองรับให้ จนใบหน้านางตกลงไปที่ฝ่ามือของหงเซี่ย หยิ่นเจียวเม้มปากจากนั้นก็ใช้หัวถูฝ่ามือของหงเซี่ยสองสามทีราวกับลูกแมวที่หาที่นอนนุ่มๆ แบบนั้น
"คุณหนูรอง.."หลินหยุนเดินเข้ามาเห็นฉากนี้เข้าพอดี หงเซี่ยถึงกับทำตาดุใส่ จนหลิวหยุนถึงกับพูดต่อไม่ได้ …
"มีอะไรหรือ? " หงเซี่ยถามเสียงเบา
"ฮูหยินขอให้คุณหนูรองไปที่ห้องโถงเพื่อทานอาหารเช้า!" หลิวหยุนอดไม่ได้จนต้องกระซิบตอบ
"ข้ารู้แล้ว ..รออีกสักครู่เถอะ " หงเซี่ยพยักหน้า หยิ่นเจียวได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเบาๆ นางลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ก่อนจะยกหัวขึ้นมาอย่างงุนงง "มีอะไรหรือ? "
หงเซี่ยพูดตามที่หลิวหยุนบอก หยิ่นเจียวยกมือขึ้นตบหน้าตนเองสองสามทีเพื่อให้หายง่วง ก่อนที่จะตามหลิวหยุนไปที่ห้องโถง
*****
ภายในห้องโถงใหญ่ นอกจากหลี่อวี้เหยียนแล้วยังมีท่านโหว หยิ่นเจินเป่ย หยิ่นอี้เฉิน หยิ่นหรูจูรวมไปถึง ถังหยุนอี้ ที่กำลังรอนางอยู่ ถังหยุนอี้กำลังคุยจ้อกับพี่น้องของนางอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นนางเดินเข้ามาก็พูดขึ้นว่า
"ผิวของน้องรองทาแป้งแล้วดูดีจริงๆ นะ ไม่เหมือนของข้าถ้าไม่ได้ทาแป้งจะดูซีดเซียวมาก!"ถังหยุนอี้สัมผัสใบหน้าของนางพลางถอนหายใจ หยิ่นเจียวที่กำลังเดินอยู่แทบจะหน้าคว่ำลงไปกับพื้น ทำไมประโยคนี้ช่างชาเขียวเหลือเกิน?
แน่ใจหรือว่าไม่ได้ทาแป้ง….หนาซะขนาดนั้นคิดว่าโบกผนังมาเสียอีก …ช่างกล้าพูดออกมาได้!!
*******