Your Wishlist

เนเน่ ธิดาพญายม (ภาคพิเศษ ของ พยัคฆ์ร้าย..สายลับ) (ตอนที่ 29 .. “ ไม่จริง ”)

Author: พัชฌา

เมื่อความถูกต้องถูกมองข้ามไป ระหว่างความจริงกับความเท็จ เมื่อมันอยู่คาบเกี่ยวกัน ก็ช่างยากเสียเหลือเกินกับการที่จะเลือกรับรู้ได้ ทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้สิ่งนั้นหายไป มันก็คือ..การสืบหาความจริงไงหละ

จำนวนตอน : 32

ตอนที่ 29 .. “ ไม่จริง ”

  • 24/01/2566

ต่างคนต่างไป - เท่ห์ อุทน พรหมมินทร์

นิยาย แนว สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

ตอนที่ 29 .. “ ไม่จริง ”

“ใช่” เนเน่ประสมโรงอีกคน จึงรีบนั่งคุกเข้าก้มหัวขอโทษชเว

“ขอให้ท่านหัวหน้าอย่าได้ถือสาผู้น้อยอย่างหนูเลยก็แล้วกัน” เนเน่ยอมรับการลงโทษ

“ที่ไม่พูดความจริงเสียแต่ทีแรก” ชเวหนักใจเหมือนกันที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา

     แต่เห็นว่าเนเน่กับเทียนหอม กล้าพูดความจริงเรื่องเผด็จ จึงไม่ว่าอะไร

“เอาหละ ข้าตกลงจะให้ตัวแม่นางคนนั้นกับท่านสองคนก็ได้” ชเวตัดปัญหา

“แต่ตอนนี้ยังคงเดินทางไม่ได้ เพราะยังไม่หายดี” ชเวขอประวิงเวลาสักหน่อย

“ข้ากลัวว่าแม่นางท่านนั้น จะได้รับอันตรายระหว่างการเดินทาง” ชเวกลัวอาการกำเริบ

“ต้องขอเวลาพักอีกสัก 2-3 วัน จึงจะให้เดินทางได้” ชเวมั่นใจแบบนั้น

“เมื่อถึงวันนั้น ร่างกายของนางคงจะแข็งแรงและดีขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน”

     เนเน่กับเทียนหอม เข้าใจที่ชเวพูด “ได้ ข้าและลูกจะทำตามที่ท่านหัวหน้าบอก” เทียนหอมคิดดีแล้ว

“ดังนั้นระหว่างที่รอให้ผู้หญิงคนนั้นทุเลา ข้ากับลูกก็ขอรบกวนท่านชเว ช่วยจัดที่พักให้เราสองคนด้วย จะเป็นพระคุณอย่างสูง” ชเวยิ้มให้ เมื่อเทียนหอมยอมลดทิฐิลงอย่างเห็นได้ชัด

“ยินดีๆ งั้นเชิญทางนี้เลย ยาดานา ปล่อยพี่เขาได้แล้ว” ชเวรีบเรียกลูกสาว

“นี่ก็มืดแล้ว พี่เขาจะได้ไปพักผ่อน” ยาดานา ส่ายหน้าไม่ไป

“ติดพี่เขายังตังเมแบบนี้ ไม่อายเขาบ้างรึไง” ชเวถามไปตรงๆ

“มามา มาหาพ่อนี่ อย่าไปรบกวนพี่เค้า” เนเน่ไม่ว่าอะไร

“ไม่เป็นไรหรอกท่านหัวหน้า ถ้าน้องเค้าอยากจะอยู่กับหนู ก็ปล่อยเขาเถอะ”

     ยาดานา ดีใจมาก เมื่อได้ยินแบบนั้น จึงจูงมือเนเน่ไม่ปล่อยเลยทีนี้ และรีบเดินตรงไปยังกระท่อมที่พักชั่วคราว ที่ชเวได้จัดหาไว้ให้

“ถ้ายาดานา อยากนอนกับพี่คืนนี้ ก็ได้นะ แต่ต้องไปขอคุณพ่อก่อนนะ ตามนี้”

     ยาดานายกนิ้ว Ok กับเนเน่ แล้วก็วิ่งไปหาพ่อ สักพักก็วิ่งกลับมา

“ข้าฝากลูกด้วยนะแม่นางน้อย” เนเน่พยักหน้ายิ้มให้ แล้วชเวก็เดินกลับออกไป และทั้งหมดก็หาที่นอน ตามที่สะดวก

     เทียนหอมดึงม่านมาปิดและเปลี่ยนชุดทันที ส่วนยาดานาก็มานอนกับเนเน่ และช่วยเนเน่เปลี่ยนชุด โดยที่ทั้งสองไม่ได้อาบน้ำในคืนนี้ อาจะเป็นเพราะอากาศที่เย็นลงและน้ำที่เย็นด้วยกระมั้ง เนเน่คงรวบยอดในตอนเช้าเลยทีเดียวแน่ๆ .. ในที่สุดทั้งสองคนจึงขออยู่ที่นี่เลย เพื่อจะนำตัวแจงกลับ หากอาการของแจงดีขึ้นกว่านี้

##### ^^^^^ #####

     ปูนสะดุ้งตื่นและดูเวลาที่โทรศัพท์ “4 ทุ่ม ตายละวา ไม่จริง เราต้องตาฝาดแน่ๆ” ปูนรีบปลุกเผด็จ หลังจากที่เห็นเวลา และ Miss Call หลายสายของแตงโม มาเต็มไปหมดในเครื่องของเธอ

“อา อา ตื่น ตื่น 4 ทุ่มแล้ว” เผด็จงัวเงียขึ้นมา

“อะไรเหรอจ๊ะเมียจ๋า”

     ปูนรีบบอกเผด็จทันที ว่าถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวแตงโมจะสงสัย แต่เผด็จกลับเฉย ลุกขึ้นมานั่งได้พักหนึ่ง แล้วก็เอนหลังลงไปนอนอีก ปูนรีบดึงตัวเผด็จขึ้นมาอย่างไวเลย

“อา ไม่เอาซิ อย่าแกล้งหนู ไป กลับได้แล้ว ผิดเวลามากแล้ว ธรรมดา 4 ทุ่ม ต้องถึงบ้าน นี่ 4 ทุ่ม ยังอยู่ที่นี่เลย ไกลก็ไกล แบบนี้ 5 ทุ่มแน่เลย ไป ลุก”

     เผด็จไม่สนใจ สงสัยเครื่องติด และอยากเริ่มยกต่อไปแล้วแน่ๆเลย ไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไหร่แล้ว เผด็จก็ไม่ได้นับ ปูนก็ไม่รู้

“วันนี้ค้างนี่เลยก็แล้วกัน เช้าค่อยกลับ วันนี้อาเหนื่อยไม่อยากจะเดินทางแล้ว” ปูนเอามือปิดปากตัวเอง

“ไม่จริง อา ไม่นะ ยังไงก็ต้องกลับ หนูค้างไม่ได้จริงๆ”

     พอปูนพูดจบ เผด็จก็จัดการโอบร่างของปูนเมียรักลงกับที่นอนทันที โดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

“อา อา ไม่ไม่ ไม่นะ” เผด็จไม่สนใจ ทั้งจูบทั้งหอมทั้งขยำไปทั่วร่างกายของปูนแบบหื่นกระหายยังไงไม่รู้ จนปูนระทวยไปหมด หมดหนทางที่จะกลับแล้วคืนนี้ สุดท้ายคืนนี้ปูนก็ต้องอยู่บำเรอกามให้กับเผด็จจนเช้า แต่ลึกๆแล้วในใจของปูนก็ชอบ เพราะอยากจะอยู่กับคนที่เธอรักอยู่แล้ว ปูนจึงไม่ได้โกรธอะไรเผด็จ

     ไม่รู้ว่าคืนนี้ เผด็จกับปูนมีความสุขกันอีกเท่าไหร่ กี่รอบ ปูนมีความสุขมากกับสิ่งที่เธอต้องการ เป็นผลแบบผิดความคาดหมาย ไม่ท้องก็ให้มันรู้ไป เธอคิดในใจเช่นนั้น ปูนนอนกอดเผด็จแบบมีความสุข พอตื่นขึ้นมาในช่วงเช้า ก่อนกลับยังไม่วายจะขอต่ออีก 1-2 ยก จนทั้งสองสำลักความสุขแบบไม่เคยพบเจอมาจริงๆ

     นับวันเผด็จยิ่งรักปูนมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว อาจจะเป็นเพราะความน่ารักและความขี้อ้อนของเมียคนนี้ก็เป็นได้ เผด็จมาส่งปูนที่ทำงานในเช้าวันต่อมา (อา.17 พ.ย.)  ทับทิมแอบเห็นเข้าโดยบังเอิญแบบไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่เดินออกไปซื้อของทานเล่นและเดินกลับเข้ามาในช่วงสายๆใกล้เที่ยง เผด็จถอดหมวกกันน๊อคออก

“นั่นอาเด็จนี่ มาทำอะไรที่นี่หละ แล้วนั่นใคร” ปูนขยับตัวลงมาจากรถ และยังใส่หมวกอยู่ หันหลังให้ด้วย

     มือทั้งสองยังคงกอดเอวเผด็จไว้ เธอดันกระจกขึ้น เพื่อที่จะพูด

“ไม่อยากจากอาไปเลย คิดถึงมากๆเลยรู้ไหม” พูดจบปูนก็ถอดหมวดกันน๊อคออก

     ทับทิมตกใจมากที่เห็นจะๆเต็มตา ก็วันนี้นี่เอง

“ไอ้ปูน” แล้วปูนก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายเผด็จ

“คิดถึงหนูบ้างนะ และอย่าให้รู้นะว่าแอบไปเจ้าชู้ที่ไหนอีก หนูเอาตายจริงๆด้วย”

“จร้า เมียดุขนาดนี้สามีอย่างอา ไม่กล้าหรอก รีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้าจะไม่ดี”

     เผด็จเอามือลูบหัวปูนอย่างเอ็นดู “ค่ะ ไปหละนะ บาย”

“บายครับ” ก่อนไป ปูนยื่นหน้าไปจูบปากเผด็จทิ้งท้ายอีกด้วย

     และยังดึงเอามือขวาของเผด็จมาวางไว้ที่หน้าอกตรงเต้าซ้ายของเธอ ขยำด้วยอีกต่างหาก

“อย่าลืมนะ จำไว้ ว่าเต้านี้มีเจ้าของแล้ว” ปูนเน้นย้ำอย่างชัดเจน เมื่อแสดงตัวอย่างเด่นชัด

“ต่อจากนี้ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ส่วนไหน อย่าลืมโทรหาเมียด้วยหละ”

     พูดจบปูนก็รีบเดินเข้าที่ทำงานไปทันที เผด็จก็ใส่หมวกกันน๊อค แล้วรีบขับรถออกไปทันที

“My God” ทับทิมยังยืนตกใจหลบอยู่พักใหญ่ เอามือกัดปากตัวเองไว้ นึกว่าตาฝาดไป

“นี่มันกล้าถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย อีปูน” ทับทิมถึงกับตะลึง

“มันก้าวหน้าขนาดนี้แล้วเหรอ กลางวันแสกๆเลยนะ” ทับทิมไม่อยากจะเชื่อ

“มันจะมากไปแล้ว ทำกันถึงขนาดนี้ กล้ามาก อีปูน โอ..ว๊าว จับนม แล้วบี้ขยี้ขนาดนั้น”

     พอหันไปอีกที ทั้งสองคนก็ไม่อยู่แล้ว ทับทิมอยากจะเดินขึ้นไปถามปูนให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็ไม่กล้า เพราะเคยลั่นวาจาไปแล้วว่า ทางใครทางมัน จึงทำให้ทับทิมอึดอัดใจมากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่กล้าที่จะทักทายปูนอีกต่อไปเลย เพราะผิดหวังกับความประพฤติของเพื่อนเป็นอย่างมาก นึกว่าที่ผ่านมาเรื่องจะจบไปแล้ว เพราะเห็นแตงโมมีความสุขดี แต่ที่ไหนได้ กลับหนักข้อขึ้นกว่าเดิมอีก ทับทิมรับไม่ได้จริงๆ

“อีปูน มึง..นี่แกโกหกและตบตาฉันมาตั้งนานเลยใช่ไหมเนี่ย มิน่าหละ วันนั้นแกถึงไปร่วมประชุมกับเขาด้วย”

%%%%% ----- %%%%%

     แต่เนื่องจากแจงไม่ไว้ใจเนเน่ เพราะรู้ทั้งรู้ว่าเป็นศัตรูคู่อริกัน จะมาทำดีกับเธอทำไม ยากมากกับประเด็นนี้

“ฉันไม่เชื่อพวกแกหรอก ฝันไปเถอะ อย่ามาสะตอใส่กันเลย” แจงบ่นออกมาคนเดียวเบาๆ

    รุ่งเช้าวันใหม่ (จ.18 พ.ย.) แจงก็ได้หายตัวไปทันทีโดยไร้ร่องรอย ซึ่งเธอได้แอบหนีไปเมื่อตอนรุ่งสางนี่เองประมาณตี 4 หอบสังขารที่ยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดออกไป เธอได้แอบว่าจ้างชายในหมู่บ้านสองคนให้นำเรือออกและไปส่งเธอที่ท่าน้ำในราคาที่สูงพอประมาณ ในราคาคนละ 5 พันบาทเลยทีเดียว

     ดีนะที่เผด็จแอบยัดเงินใส่เป้ของแจงเอาไว้ก้อนหนึ่งประมาณ 2 หมื่น เมื่อแจงค้นเจอจึงตัดสินใจหลบหนีได้ อีกอย่างสองคนนั้นก็ไม่ได้นอนเฝ้า จึงเป็นช่องทางสบโอกาสที่แจงสามารถบินหนีได้ โดยไม่คิดว่าแจงจะกล้าเสี่ยงกับชีวิตตัวเองแบบนั้น หรือว่าแจงแกล้งเจ็บเพื่อให้สองคนนั้นตายใจ จึงนอนที่กระท่อมอีกหลังมารู้อีกทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จและทานข้าวอิ่ม สายๆจึงเดินเข้ามาดู แต่สายไปแล้ว แจงได้หนีหายเข้ากลีบเมฆไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ชเวถามคนในหมู่บ้าน ก็ไม่มีใครรู้ ชายสองคนนั้นก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ได้เงินปิดปากไปแล้วนี้แสนจะแพง แล้วจะเปิดปากบอกทำไม ไม่ใช่เรื่องของมัน ทำให้เนเน่และเทียนหอมไม่พอใจมาก

“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้” เนเน่ตะโกนออกมา เทียนหอม เอามือตบไปที่แคร่ที่แจงเคยนอน เสียงดังมาก

“เจ็บเจียนตายขนาดนั้น มันยังอุตส่าห์หอบสังขารหลบหนีออกไปได้อีก” เทียนหอมไม่พอใจมาก

“ดูแลเฝ้ากันยังไง ไม่ได้เรื่อง เนเน่กลับกรุงเทพกับแม่เดี๋ยวนี้” เนเน่พยักหน้ารับทันที

     สิ้นเสียงคำรามแข็งกร้าวของเทียนหอม ทั้งสองจึงรีบเดินทางกลับ กทม.ทันทีในเช้าวันนี้ .. และทันที เมื่อกลับมาถึงที่ กทม.ในเวลาค่ำ จึงรีบตรงดิ่งไปหาวิทย์ที่คอนโดเลย เพื่อให้จับแจงให้ได้โดยเร็วที่สุด

“พี่ไม่สนว่าอีนั่นมันจะอยู่ในความดูแลของใคร ถึงจะเป็นลุงแก ฉันก็ไม่สน”

     เทียนหอมสติแตกแล้วตอนนี้ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น โมโหและโกรธแจงมากที่สุด

“แกต้องลากคออีนังนั่นมาให้พี่ให้ได้ เข้าใจไหมวิทย์”

     เนเน่รีบพูดต่อเนื่องอย่างทันทีทันใด ไม่ให้ขาดตอน ก่อนที่วิทย์จะเปลี่ยนใจ

“ใช่พี่วิทย์ อีนี่มันโกหกตอแหลเก่งสุดๆ ทำทีเป็นเจ็บเจียนตาย แต่ที่ไหนได้..”

     เนเน่หงิดหงิดไม่แพ้แม่ “พอเราเผลอ มันก็หนีหายไปไหนไม่รู้” เนเน่โมโหมาก

“ถ้าเจอมันคราวนี้ หนูจะไม่ใจอ่อนเหมือนครั้งที่แล้วเป็นอันขาด”

     เนเน่ไม่ใจอ่อนอีกแล้ว “ไม่เชื่อก็คอยดู หนูจะสับมันให้ขาดเป็นชิ้นๆ” เนเน่แค้นมาก

“แล้วเอาชิ้นส่วนของมัน โยนให้หมา ให้ไอ้เข้กินให้แบบว่า สะใจไปเลย”

     ขิงเมื่อได้ฟังยิ่งไม่สบายใจ “วิทย์ อย่านิ่งซิ” ขิงหันหน้าไปมองวิทย์

“พูดอะไรบ้าง อย่านะ อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด” ขิงขอร้องสามี

“ถ้าพ่อรู้ พ่อคงไม่ชอบและไม่พอใจแน่” ขิงเป็นห่วงจิตใจพ่อมาก

“ไอ้เน่ พี่หอม หนูขอหละ วางมือเรื่องนี้เถอะ” ขิงหันไปขอร้องคนทั้งสองแทน

“ปล่อยให้พ่อเป็นคนมาสะสางเองเถอะ จะได้ไหม นะเชื่อหนู พี่หอม”

“ไม่ได้ แค้นนี้ต้องชำระ มันหยามหน้าพี่มาก” ยังไงเทียนหอมก็ไม่ยอม

“เธอนั่นแหละไม่ต้องมายุ่ง ถึงพ่อเธอมาก็ห้ามฉันไม่ได้” เทียนหอมเอาแน่

“ถ้าแน่จริง ก็ปรากฏตัวออกมาซิ ไม่ใช่หนีหายไปอย่างนี้” เทียนหอมท้าเผด็จ

“ไม่รู้ว่า หญิงร้ายชายชั่วสองคนนั้นแอบไปหาไปเจอกันที่ไหนเนี่ย อย่าให้ตามเจอนะมึง แหลก”

     เทียนหอมไม่พอใจอย่างมาก “ไอ้เนเน่ สัญญานของอีนังนั่น ตอนนี้อยู่ไหน” เนเน่ทำหน้าจ๋อย

“ตามไม่ได้แล้วแม่ มันไม่ได้เอาไปด้วย” เนเน่มั่นใจแบบนั้น

“เครื่องยังอยู่ที่หมู่บ้านนั้นเลย สงสัยมันคงจะรู้ตัว” เนเน่ยืนยันพิกัดเดิม

“เลยจงใจทิ้งเอาไว้ที่นั่น ไม่มีประโยชน์แล้วแม่” เนเน่บอกให้ทำใจ

“คงต้องใช้วิธีอื่นแล้วหละ โทรศัพท์มันก็ตามสัญญานไม่ได้เสียด้วย” เนเน่หมดทางจริงๆ

“สงสัยพังและเสียตอนที่ตกน้ำ” เทียนหอมโมโหเป็นครั้งที่สอง จึงหันไปมองวิทย์คนเดียวในตอนนี้

     วิทย์โดนเนเน่และเทียนหอมบีบมา จึงกดดันมาก ต้องจำใจทำ คือออกคำสั่งประกาศจับและตามล่าแจง

“ได้ๆ ตกลงเอาเป็นว่าผมจะออกคำสั่งประกาศจับและตามล่าแจงทันที พอใจหรือยัง” วิทย์จำใจมาก

“ไม่ต้องจ้องหน้าผมแบบนั้นเลยพี่หอม บีบผมขนาดนี้ ผมก็จนใจ ไม่ทำให้ ก็หาว่าผมเข้าข้างลุงอีก”

“รู้แล้วก็ดี” เทียนหอมหันไปจ้องหน้าวิทย์ และชี้หน้า

“อย่าให้พี่รู้นะว่าเธอ แอบช่วยไอ้และอีสองคนนี้” เทียนหอมกัดไม่เลือกแล้วตอนนี้

“ถ้าพี่รู้เมื่อไหร่ว่าเธอช่วยไอ้อีสองคนนั่น” เทียนหอมแค้นฝังหุ่นจริงๆ

“อย่าหาว่าพี่ไม่เกรงใจก็แล้วกันนะ วิทย์”

     พูดจบ ก็ลากเนเน่กลับบ้านทันที เพราะตั้งแต่ออกจากเมืองกาญจน์มา เทียนหอมก็ให้เนเน่บึ่งรถมาที่คอนโดนี้เลยทันที สุดท้ายเทียนหอมสะใจมากที่สามารถแก้แค้นแจงทางอ้อมได้สำเร็จ ด้วยการบีบวิทย์ และเอาเกียรติ์ของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์มาขู่

“เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกะอีหอม ให้มันรู้ซะบ้างอีแจง” เทียนหอมนั่งบ่นอยู่คนเดียว

“หนีให้ตลอด หนีให้รอดนะมึง ต่อให้ผัวกูมา ก็ช่วยมึงไม่ได้” เทียนหอมลั่นวาจาออกไปแล้ว

“แล้วทีนี้หละ ดูซิว่าเมียน้อยอย่างมึง จะมาสู้เมียหลวงอย่างกูได้ไหม อีนรกแตก อึ๊ย”

     เทียนหอมหัวเราะออกมาอย่างแรง แบบสะใจ “5555+ 5555+” ทำให้เนเน่งงมากว่าแม่หอมเป็นอะไร

>>>>> ##### <<<<<

     แจงซวยแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกับเผด็จจริงๆเลย แค่คำพูดเพื่อเอาตัวรอดของเผด็จในวันนั้น จึงนำพาความบรรลัยมาให้แจงโดยไม่รู้ตัวทางอ้อมเสียแล้ว ทำไงได้ เมื่อเทียนหอมคิดอย่างนั้นไปแล้ว แจงก็ต้องหาวิธีรับมือกับเมียหลวงอย่างเทียนหอมให้ดี ก็เท่านั้นเองหละ เผด็จจะกลับมาช่วยแก้สถานการณ์ได้หรือไม่นั้น ก็ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป ว่าเนเน่และเทียนหอมจะยอมวางมือไหม

<<<<< $$$$$ >>>>>

     เพ็ญเริ่มสงสัยว่าทำไมลูกสาวถึงไม่เหมือนเดิมจากคนที่ขี้วีนอารมณ์หงุดหงิด ฟาดงวงฟาดงาไปทั่ว กลับไม่ทำอะไร เมื่อคนใช้ขัดใจและมักจะโวยวายทุกทีไป แต่นี่กลับเฉยและที่แปลกไปกว่านั้น เคยอยู่ไม่ติดบ้าน หมู่นี้หลังจากที่กลับมาจากที่ทำงานก็มักจะหมกตัวเงียบอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปไหนเลย จึงแอบดูโดยที่เข้าไปแอบอยู่ข้างตู้เสื้อผ้ามุมมืด หลังจากที่นิ่มเดินกลับเข้าไปในห้องจึงแกะหน้ากากยางออกทันทีแล้ววางไว้ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วก็เปลี่ยนชุดเข้าไปอาบน้ำทันที เพ็ญเอามือปิดปากตัวเองไว้ ตกใจมากที่เห็นแบบนั้น

“ไม่จริง” เธอถูกหลอกอีกแล้ว หลังจากโดนผัวหลอกที่เกาะ นี่มาโดนลูกหลอกที่บ้านนี้อีก เธอรับไม่ได้จริงๆ 

     พอนิ่มอาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาฮัมเพลงเบาๆแบบสบายใจ ก้มหน้าเดินซับหน้าซับแก้ม พอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องหยุดกึ๊กทันที เมื่อเห็นเพ็ญนั่งจ้องหน้าเธออยู่บนเตียง

“คุณน้า” จะหนีก็ไม่ทันแล้ว เพ็ญโมโหมาก เหวี่ยงหน้ากากยางไปที่ตัวของนิ่มทันที

“นี่มันอะไรกันนิ่ม ไหนบอกฉันมาซิ ฉันขอคำอธิบาย” เพ็ญโมโหมาก

“ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ แล้วไอ้เน่ไปไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” เพ็ญต้องการรู้ความจริง

“อย่าปดฉัน ไม่งั้นฉันส่งแกกลับไปอยู่กับยายชื่นแน่ บอกมา”

     นิ่มรีบนั่งคุกเข่าแล้วก้มลงกราบเพ็ญทันที “หนูขอโทษๆ คุณน้าอย่าส่งหนูกลับเลย”

“ถ้าไม่อยากให้ฉันทำแบบนั้น แล้วแกทำ ทำไม”

     นิ่มก้มหน้าแล้วพูดต่อ เพราะอึดอัดใจมาก จึงขอระบายซะเลย ไม่ทนแล้ว

“คุณหนูไปตามนายท่านที่เมืองกาญจน์ค่ะ” นิ่มจึงต้องยอมบอกความจริง

“แล้วบังคับให้หนูปลอมตัวเพื่อหลอกทุกคนที่อยู่ทางนี้ เพื่อไม่ให้ใครสงสัย”

“อะไรนะ ไอ้เน่หนีไปช่วยพ่อมันในป่า คนเดียวเนี่ยนะ” เพ็ญตกใจมาก

“มันจะบ้า จะห้าวเกินไปไหม โอ๊ย ฉันอยากจะบ้าตาย” เพ็ญอยากจะบ้าตาย

“แล้วทำไมแกถึงไม่บอกฉัน ห๊ะนังนิ่ม” นิ่มไม่รู้จะบอกยังไงเหมือนกัน

“แล้วแกก็ปล่อยให้มันไปคนเดียวอย่างนั้นหนะนะ” เพ็ญยังคงโทษนิ่ม

“แกเอาสมองส่วนไหนมาคิด ถ้ามันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา จะทำยังไง” นิ่มกลายเป็นคนผิดซะแล้ว

“แล้วคุณน้าจะให้หนูทำยังไงหละคะ” นิ่มทนไม่ไหวแล้ว

“หนูไม่อยากทำ ก็ไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็โดนคุณหนูว่า” นิ่มของระบาย

“ถ้าบอกคุณน้า หนูก็ถูกคุณหนูเล่นงานอีกอยู่ดี” นิ่มอึดอัดจริงๆ

“แล้วจะให้หนูทำยังไงหนูไม่รู้จะทำตัวยังไงแล้ว” นิ่มทำตัวไม่ถูกจริงๆ

“ในเมื่อยายชื่นยกหนูให้เป็นคนของนายท่านแล้ว” นิ่มเลยพูดทุกอย่างออกมา

“ก็ต้องเชื่อฟังและรับใช้นายไปตลอดชีวิต” นิ่มพูดตามประสาเด็ก

“นายสั่งอะไรมา หนูเป็นขี้ข้า ก็ต้องทำตาม” นิ่มพูดความจริง

“เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณน้าช่วยบอก ช่วยแนะนำหนูที” นิ่มหาคนช่วยแนะนำ

“ว่าจะให้หนูทำยังไง ช่วยบอกหนูที” นิ่มยืนยันแบบนั้น

“อะไรนะ ไม่จริง ไหนแกพูดใหม่อีกทีซินิ่ม” เพ็ญเริ่มเข้าใจผิดแล้ว

“พูดชัดๆอีกทีซิ ว่าแกเป็นอะไรนะ” เพ็ญได้ยินไม่ถนัด

     เพ็ญชี้ไปที่ตัวของนิ่ม แบบมือสั่นๆ นั่งไม่ติดแล้วเพ็ญเอ้ย

“คนของนายท่านค่ะ ต้องรับใช้นายท่านไปตลอดชีวิต” นิ่มพูดแค่นี้

“และซื่อสัตย์ ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เจ้าค่ะ” ต้องไปตีความกันเอาเอง

     นิ่มย้ำแบบช้าๆและเสียงดังฟังชัด เพ็ญลุกขึ้นยืนทันที และชี้หน้านิ่ม

“แกๆ เป็นคนของอาเต๋างั้นเหรอ นี่แกอย่าบอกนะว่า” เพ็ญคิดไปอีกแบบนึง

“ไม่จริง แกเป็นเมียของอาเต๋าอีกคนหนะเหรอ” เพ็ญปักใจไปแล้ว

“ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ มันต้องไม่ใช่แบบนั้น มันต้องไม่ใช่อย่างนั้น” เพ็ญสติแตกทันที

“โอ๊ย นี่มันอะไรกัน ทำไม ถึงต้องเป็นแบบนี้” เพ็ญเหมือนคนจิตหลุดไปแล้ว

“ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีกนะ เมียเด็กขนาดนี้โอ๊ย..ไม่จริง”

     ยังไม่ทันที่นิ่มจะตอบอะไร เพราะก้มหน้าอยู่ เพ็ญก็สติแตกไปแล้วเรียบร้อย รีบวิ่งออกจากห้องของเนเน่ไปทันที นิ่มเงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะอธิบายว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเผด็จแบบนั้น แค่ลูกศิษย์ แต่ก็ไม่ทันแล้ว เสียงรถของเพ็ญแล่นออกไปจากบ้านเรียบร้อยในเวลาต่อมาเพียงไม่กี่นาที นิ่มเงยหน้าขึ้นดูเวลา 18.15 น.

“ทำไมพี่เน่ยังไม่กลับมาอีกนะ” นิ่มนับนิ้วมือ

“นี่ก็ 5 วันเข้าไปแล้ว น่าจะกลับมาแล้วซิ โอ๊ย”

///// +++++ /////

     หลายวันต่อมา (ส.23 พ.ย.) เผด็จเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกไปพบและติดต่อใครเลย แม้กระทั่งเพ็ญและปูน เนื่องจากเผด็จกำลังตามหาคนที่ชื่อแจ้งคนของมังกรดำอยู่ แล้วเขาก็เจอแจ้งโดยบังเอิญ หลังจากที่เก็บซ่อนตัวมานานเพราะโดนมังกรดำไล่ฆ่าอยู่ สาเหตุมาจากทำงานพลาดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เฒ่าหยินจึงต้องปิดปาก เพราะรู้ความลับค่อนข้างเยอะ จึงตามไปปิดบัญชี ที่เผด็จยื่นมือเข้ามาช่วย เนื่องจากต้องการเอายาถอนพิษมาให้จงได้ ก็เท่านั้น และในที่สุดความพยายามก็เป็นจริง หลังจากที่เผด็จช่วยแจ้งให้รอดตายจากพวกนั้นได้

“แจ้ง หยุดนะ แกหนีไปไหนไม่รอดแล้ว ซ้ายและขวา คนของฉันทั้งนั้น ฉันไม่ทำอะไรแกหรอก ฉันมาช่วยแกต่างหากนะ ถ้าแกไม่อยากตายและหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้ไปอีกตลอดชีวิต แกมอบตัวเถอะ” เผด็จบอกแบบนั้น

“ฉันจะกันตัวแกเอาไว้เป็นพยานเอง ถ้าฉันรู้ มังกรดำมันก็ต้องรู้ และในอีกไม่ช้าก็ต้องส่งคนมาตามล่าแกอีก แกไม่สามารถหลบพวกมันไปได้ตลอดชีวิตหรอก สู้ไปกับฉันไม่ดีกว่ารึ ปลอดภัยกว่ากัน 100% ต่างกันตรงที่ว่า แกเจอฉัน แกรอด แต่ถ้าแกเจอพวกนั้น แกอาจจะตายก็ได้ ว่าไง” เผด็จพยายามหว่านล้อมด้วยความจริงใจ

“ถ้าฉันเชื่อแก แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าแกจะไม่หลอกฉัน” แจ้งกลัวจริงๆ

“เอาฉันไปฆ่าหมกที่ไหนสักแห่งหนึ่งหละ ฉันขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า”

     แจ้งไม่เชื่อใครง่ายๆอีกแล้ว เพราะถูกหลอกมาเยอะ เลยกล้าๆกลัวๆ ขอวัดใจกันไปเลยในวันนี้ เอาไงก็เอากันหละคราวนี้

“อีกอย่าง คงไม่มีใคร ยื่นมือมาช่วยโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทนหรอก” แจ้งหัวหมอเสียด้วย

“ที่แกช่วยฉัน แกต้องการอะไร บอกมา ถ้าฉันได้ยินขอเสนอแล้ว ฉันอาจจะยอมเชื่อแกดูสักครั้งก็ได้”

     แจ้งลองใจดีสู้เสือ ต่อรองกับเผด็จดูสักตั้ง ไหนๆชีวิตก็จะขาดแล้ว จึงไม่มีอะไรจะเสีย

“ยาถอนพิษบำเรอรัก” แจ้งตกใจมากที่เผด็จรู้เรื่องนี้

“อะไรนะ แกรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ” เผด็จไม่ปิดบัง

“ใช่ ฉันขอเท่านั้นจริงๆ” แจ้งอยากรู้ “ทำไม”

“นึกว่าช่วยผู้หญิงดีๆที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่คนหนึ่งไง 2 ปีที่แล้วแกจำได้ไหม ว่าแกแอบวางยาใครไว้ แล้วทำพลาด แกถึงต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่แบบนี้ คนที่แกคิดว่าจะโดนกลับรอด แต่คนที่รับเคราะห์กลับเป็นอีกคน ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกแกเลย นึกว่าช่วยคนเอาบุญเถอะนะ ฉันขอแค่นี้จริงๆ จากนั้นก็จะคุ้มครองนาย ให้รอดตายจากพวกมังกรดำ และจะกันนายไว้เป็นพยานเอาผิดพวกมัน ว่าไง ฉันไม่ได้ขอมากเลยใช่ไหม แถมนายยังได้กำไรอีกด้วยต่างหาก” แจ้งยืนคิดอยู่ไม่นาน

“ได้ ฉันเชื่อนาย” แต่แจ้งก็ยังมีข้อต่อรอง

“แต่นายต้องรับปากฉันนะว่า จะคุ้มครองชีวิตครอบครัวของฉันอีก 4 ชีวิตด้วย” นั่นว่าแล้ว

“ถ้าไม่รับปาก ฉันก็จะไม่มอบยาถอนพิษให้” แจ้งยังขอแถมข้อต่อรองอีก คุ้มสุดคุ้มเลยทีนี้

“ได้ ฉันรับปากนาย ภณ นพ จัดการเรื่องนี้ให้ด้วย” เผด็จรับปากและสั่งงานต่อหน้าแจ้ง

“ครับนาย” ภณและนพรับคำสั่งพร้อมกัน

“พรุ่งนี้ ถ้าครอบครัวของฉันอยู่ในที่ปลอดภัย ฉันจะฝากยาถอนพิษมากับลูกน้องของนายสองคนนี้” แจ้งขอต่อรองเป็นครั้งสุดท้าย

“ได้ แล้วฉันจะรอ เราสองคนมาวัดใจกันแจ้ง ดูซิว่า ใครจะมีความจริงใจมากกว่ากัน”

     เผด็จวัดใจกันเลย จากนั้นภณและนพ ก็รีบพาแจ้งไปทันที เพื่อรับครอบครัวของแจ้งไปอยู่ยังที่ปลอดภัย ..  วันต่อมาหลังจากที่แจ้งและครอบครัว อยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แจ้งก็ไม่ลืมสัญญาเช่นกัน เมื่อเผด็จเป็นคนจริง แจ้งก็ขอทำความดีบ้าง

“เอ้า นี่ยาถอนพิษ ฉันนับถือเจ้านายของพวกท่านมาก ที่เป็นคนพูดจริงทำจริง ข้านายแจ้งขอนับถือด้วยใจจริง ไป รีบไป ก่อนที่มันจะสายจนแก้ไม่ทัน”

     ภณรับของแล้วก็รีบเดินทางกลับทันที เพราะ Save House แห่งนี้ค่อนข้างไกลและมิดชิดพอสมควร ภณกับนพรีบเร่งเดินทางแบบไม่หยุดพัก ช่วงค่ำทั้งสองคนจึงกลับมาถึงที่คอนโดอย่างปลอดภัย

“นี่ครับ สิ่งที่นายต้องการ” ภณยื่นซองยาถอนพิษบำเรอรักจำนวน 3 ซอง ให้กับเผด็จ เผด็จดีใจมากที่ได้มาสักที

“ขอบใจมากนะทั้งสองคน ไป ไปพักผ่อนกัน” เผด็จตบไหล่ทั้งสองคนเบาๆ

     แล้วก็ชูซองยานั้นขึ้นมาดู “ยาถอนพิษ เธอรอดตายแล้วปูน” แล้วก็หายออกจากห้องไปเลยทันที

***** ฿฿฿฿฿ *****

     (อา.24 พ.ย.) เนเน่กลับมาถึงบ้านพร้อมกับเทียนหอม หลังจากที่ออกไปสืบหาข่าวและเบาะแสของแจงกันเองแบบเงียบๆ และเมื่อไม่ได้อะไรจึงกลับเข้าบ้านมาตั้งหลักกันใหม่ ก็ต้องสงสัยว่า ทำไมบ้านเงียบผิดปกติ เนเน่จึงตะโกนเรียกพวกสาวใช้

“บัว เรียม เอ๊ะไปไหนกันหมดเนี่ย บัว เรียม” สักครู่ก็มีเสียงดังมาจากในครัว

“ขาคุณหนู” เรียมวิ่งออกมา เพราะกำลังซักผ้าอยู่

“หายไปไหนกันหมดเนี่ย ทำไมบ้านเงียบจัง” เรียมรายงานทันที

“คุณผู้หญิงไม่อยู่กลับไปอยู่บ้านพ่อเกือบอาทิตย์แล้ว”

“ทำไมหละ” เทียนหอมอยากรู้

“ต้นสายปลายเหตุจริงๆหนูไม่รู้จริงๆค่ะคุณหอม” เรียมตอบไม่ถูก

“หนูกับนังบัวได้ยินคุณผู้หญิงทะเลาะกับคุณนิ่มเรื่องอะไรไม่รู้เสียงดังเอ็ดตะโลลั่นบ้านเลย” เรียมเล่าต่อ

“สักพัก คุณผู้หญิงก็อุ้มคุณหนูขึ้นรถขับออกไปและไม่กลับมาอีกเลย” เรียมบอกเท่าที่เห็น

“รุ่งขึ้นหนูลองโทรไปหาที่บ้านท่านเชี่ยว คุณผู้หญิงอยู่ที่นั่นจริงๆ” เรียมบอกจนหมดแล้ว

“และบอกไม่กลับ จะขออยู่กับพ่อที่นั่น บอกแค่นี้เท่านั้นจริงๆ หนูก็รู้แค่นี้หละค่ะ”

“แล้วตอนนี้ยัยนิ่มอยู่ไหน” เนเน่ถามต่อ

“หนูไม่รู้จริงๆค่ะ” เรียมจนปัญญา

“เดี่ยวหนูจะลองถามนังบัวดูนะคะ เดี๋ยวจะไปตามให้” ไม่นานบัวก็เดินออกมานั่งพับเพียบ

“คุณหนูมีอะไรกับบัวเหรอคะ” เนเน่นั่งลงถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี

“ยัยนิ่มไปไหน แกรู้ไหม เห็นนังเรียมบอกไม่รู้ท่าเดียว” นี่แหละเนเน่ตัวจริง

“คนทั้งคน ถ้าตอบว่าไม่รู้อีกคนหละก็ แม่จะไล่กลับเขมรเลยแก คอยดู”

“รู้ค่ะรู้ อย่าไล่หนูเลย” บัวพนมมือ ไม่อยากกลับไปพบกันความลำบาก

“รู้ก็รีบบอกมา อ้ำอึ้งอยู่ได้” เนเน่ยกมือเหมือนจะตบบัว

“คุณนิ่มหนีกลับอัมพวาไปตั้งแต่เย็นวันศุกร์แล้วค่ะ” บัวรีบบอก เพราะกลัวตกงาน

“หนูเห็นเข้าตอนเช้าก่อนที่คุณนิ่มจะขับรถออกไปทำงาน เพราะต้องปิดประตูให้ เธอเอากระเป๋าเดินทางติดรถไปด้วย หนูเลยถามไปตรงๆว่าจะไปไหน คุณนิ่มบอกสั้นๆว่า อัมพวา แล้วก็ขับรถออกไปเลย และตั้งแต่วันนั้น เธอก็ไม่กลับมาอีกเลย” นิ่มบอกละเอียดมาก จนเนเน่ต้องหันไปมองหน้าเทียนหอม เรื่องยาวแล้วงานนี้

“นี่ก็ 2 วันแล้ว หนูอยู่กับนังเรียมมันแค่สองคนเท่านั้น กลัวก็กลัว หนูรู้แค่นี้จริงๆค่ะ คุณหนู” เนเน่สะบัดมือไล่บัวไป

“ขอบใจ ไปไป จะไปทำอะไรก็ไป อ้อ หาอะไรเย็นๆมาให้ฉันกับแม่ด้วย ร้อน”

“ค่ะคุณหนู” บัวรับคำสั่งแล้วรีบลุกไปจัดการให้

“ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้นหนะไอ้เน่” เนเน่นั่งคิดแป๊บนึง

“หนูว่าหนูรู้นะ เอาเถอะ เรื่องนี้หนูจัดการเอง” เนเน่หันไปมองเทียนหอม

“แม่ขึ้นไปนอนพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวเย็นๆหนูจะกลับมาบอก ตอนนี้หนุมีธุระอีกเรื่องที่จะขอไปสะสางก่อน และจะพาตัวยัยนิ่มกลับมาให้จงได้ สบายใจได้”

     บัวเอาน้ำเย็นมาส่งให้กับคนทั้งสอง แล้วก็จากไป เทียนหอมจิบไปครึ่งแก้วแล้วก็วาง

“ได้ๆ งั้น แม่ขอตัวก่อนนะ ปวดหลังปวดไหล่มากเลย บัว เรียม ใครก็ได้ ขึ้นไปนวดตัวให้ฉันหน่อย” บัวตะโกนออกมา

“ค่ะคุณหอม เดี๋ยวหนูตามขึ้นไป” เทียนหอมรับรู้แล้ว

“ขอทำกับข้าวที่ค้างอยู่ก่อน” หลังจากทานน้ำหมดแก้ว เนเน่ก็รีบออกไปทำธุระต่อทันที           

>>>>> ##### <<<<<

     แจงหนีการจับกุมของวิทย์และการไล่ล่าของเนเน่ ได้หอบเอาแม่พิมพ์ของธนบัตรทั้ง 3 ชนิดไปด้วย มาดามคิดว่าแจงทรยศ จึงให้ลูกน้องไล่ล่าอีกทาง ทางมังกรดำรู้ข่าวว่าแม่พิมพ์อยู่กับใคร จึงอยากได้แม่พิมพ์นั่นไว้ครอบครองด้วยเช่นกันจึงให้ เสี่ยวปิงออกตามล่าหาแจงอีกฝ่ายหนึ่ง ตอนนี้เท่ากับว่า แจงต้องหนีหัวซุกหัวซุน ต้องหลบคนถึง 4 ฝ่ายด้วยกัน คือ วิทย์ เนเน่ กงจักรทองและมังกรดำ แจงไว้ใจพี่ชายตัวเองที่สุด

     ช่วงสายๆวันนี้ จึงแอบมาพบและขอให้พี่ชายช่วยเหลือ โจ้รักน้อง จึงรับปากช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ไอ้แจงทางนี้ นี่แกหายหัวไปไหนมา เสี่ยงมากเลยนะที่นัดฉันมาพบแบบนี้ ถ้าใครมาเห็นเข้าแกจะแย่เอานะ หมายจับแก ติดเต็มไปทั่วประเทศเต็มไปหมดทุกที่เลย แล้วตอนนี้แกหลบซ่อนที่ไหนเนี่ย” โจ้เป็นห่วงน้องจึงถามเป็นชุดเลย

“ตอนนี้พี่ยังไม่ต้องถามอะไรหนูมาก หนูมาขอความช่วยเหลือ แล้วจะรีบไปให้เร็วที่สุด ขอฝากแม่พิมพ์ธนบัตรด้านหน้าทั้งสามแบบนี้ไว้กับพี่ก่อน เพราะหนูคิดว่า อยู่กับหนู มันคงไม่ปลอดภัย อยู่กับพี่น่าจะดีที่สุด พวกนั้นคงนึกไม่ถึง นี่ค่ะ เก็บไว้ หนูต้องไปแล้วหละ อยู่นานไม่ได้” แจงรีบหยิบแม่พิมพ์นั้นใส่มือให้กับโจ้ทันที

“หนูฝากด้วยนะพี่ ไปหละ แล้วจะติดต่อหาอีกที”

“ไอ้แจง ดูแลตัวเองด้วยนะน้อง” แจงหันมาพยักหน้า ก่อนที่จะหลบและหายตัวไปอีกครั้ง มาครั้งนี้แจงได้เอาแม่พิมพ์ส่วนที่เป็นด้านหน้าของทุกชนิดฝากไว้ที่โจ้แล้วรีบหลบหนีไป เพราะเธอคิดว่า หากเธอเป็นอะไรไป จะไม่มีใครได้แม่พิมพ์นี้ไปครอบครองอย่างแน่นอน เนื่องจากเธอไม่อยากที่จะหนีแบบนี้อีกตลอดไป จึงตัดสินใจหลบและหายหน้าไปจากทุกคน เพราะเธอไว้ใจใครไม่ได้เลย

     แต่มีคนเดียวที่เธอคิดว่าเชื่อใจและไว้ใจได้ นั่นก็คือเผด็จนั่นเอง สืบเนื่องมาจาก เมื่อไม่นานมานี้ ประมาณ 3 วันที่แล้ว ก่อนที่จะมาหาโจ้ เธอได้ไปหลบพักอยู่กับเพื่อนรุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่งแถบๆชานเมือง เพราะเธอไว้ใจเพื่อนคนนี้มาก แต่ก็ถูกหักหลัง เนื่องจากมาดามใช้เงินล่อซื้อความไว้วางใจไปแล้ว เธอจึงหลบหนีออกมาได้ทัน และรีบเดินทางกลับไปที่กบดานใหม่อีกครั้ง อย่างระมัดระวัง หลังจากเจอพี่ชาย

----- ^^^^^ -----

     ดลหลังจากที่ดีขึ้นกลับมาทำงานได้แล้ว เนเน่ซึ่งกำลังฉุนและโกรธแจงอยู่เป็นทุน ประกอบกับไม่พอใจแม่นางยี่หวาอีกด้วยแถมนิ่มก็ดันหายตัวกลับอัมพวาไปอีก จึงเดินหน้ามุ่ยมาหาเรื่องดลแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยยังที่ทำงานทันที หลังจากที่โผล่หน้าไปดูที่ข้างบ้านมาแล้ว ถามจิตๆบอกว่าดลมาทำงานอยู่ที่สตูฯ เนเน่จึงมุ่งหน้ามาหาดลทันที อยู่ดีๆก็บ้าขึ้นมา เพราะความแค้นและอัดดั้นอย่างหนัก ทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด จึงมาหาที่ระบาย

“ออกมา นายดล ออกมาเดี๋ยวนี้ ไอ้คนหน้าไม่อาย ไอ้คนโกหก ไอ้คนหลอกลวง ไม่แน่จริงนี่หว่า ออกมา”

     เนเน่หาที่ระบาย เดินตะโกนลั่นทั่วสตูฯ ทุกคนวิ่งออกมาดูกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ดลเจอเนเน่สบประหมาดว่าไม่แน่จริง พอเธอประกาศตัวตนไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน ทำให้ดลเงียบหายไปพักใหญ่ จนต้องทำให้คุณหนูเนเน่ตามมาต่อว่าต่อหน้าถึงที่ทำงาน จนทำให้ดลเกิดการเสียหน้า เพราะเนเน่เป็นคนที่ไม่ยอมใครอยู่แล้ว จึงทำให้ยี่หวาไม่พอใจเนเน่เป็นอย่างมากในเวลาต่อมา หลังจากที่กลับมาจากการสืบข่าวหาที่กบดานใหม่ของมังกรดำ ดลเดินออกมาจากห้องตัดต่อ เพื่อประจันหน้ากับสาวน้อยขาวีนสุดที่รัก นามเนเน่

“ตกลงจะเอายังไง ฉันเสียนะ ใครๆก็รู้ว่านายชอบฉัน ตามจีบฉัน แอบส่งดอกไม้ให้ และชอบมาวอแวกับฉันบ่อยๆ ฉันไม่ชอบนะที่นายไม่ชัดเจน แล้วจะเอายังไง นึกจะมาก็มา นึกจะหายไปก็หาย ฉันไม่ชอบคนทำลับๆล่อๆนะ บางวันก็ทำมาเป็นหมาหวงก้างบ้างหละ บางวันก็ทำเหมือนไม่สนใจบ้างหละ จะเอายังไงกะฉันวะ ไม่แน่จริงนี่หว่า ถ้าเป็นแบบนี้ จากนี้ไปก็อย่ามาให้เห็นหน้าและเจอกันอีกเลยจะดีกว่าไหม ทุเรศ ฉันจะได้ไปหาคนอื่นที่เขาจริงใจ และมั่นคงกับฉันได้บ้าง นี่จะไปไหนก็ไม่ได้ พอไป นายก็ไปป่วน จนคนพวกนั้น ไม่กล้าที่จะมาจีบมาสนใจฉันอีกแล้ว เครียดนะโว๊ยจะบอกให้ เอากระโปรงแม่ยิงไปใส่เถอะ ดีไหม ตุ๋ย”

     เนเน่ถ่มน้ำลายลงพื้นต่อหน้า จึงทำให้ดลเสียหน้ามาก เพราะไม่เคยมีใครลบหลู่เกียรติ์ของเขาได้ถึงขนาดนี้ < ซ่าส์...(สั่นๆ) - D2B > ระหว่างที่ดลร้องเพลงและเต้นเข้าไปหานั้น เนเน่ก็ใช่ย่อย ไม่ยอมแพ้และน้อยหน้า เข้าไปเต้นสู้โต้ตอบเหมือนกัน เนเน่แพ้ไม่เป็น ดลไม่ชอบให้ใครมาท้า ว่าไม่กล้าจีบเธอ พอดลร้องเพลงจบ เนเน่กระโดดขี่เอว แล้วเอามือคล้องคอดลอย่างรวดเร็ว ต่อหน้าทุกคนแบบไม่อายใครทั้งสิ้นทันที ทุกคนปรบมือให้กับความกล้าของสาวน้อยเนเน่ เธอเอาหน้าผากเธอแตะกับหน้าผากเขาและหอมให้รางวัลที่แก้มซ้ายและขวาทันที

“ดี แล้วฉันจะคอยดูความประพฤติของนาย ว่าจะเป็นแฟนที่ดีได้หรือไม่” เนเน่เอานิ้วชี้ขวาแตะไปที่จมูกของดล

“มันต้องแบบนี้ซิ ถึงจะเรียกว่าผู้กล้า” แล้วก็กระโดดลงมา

“จำคำพูดนี้เอาไว้นะหนุ่มน้อย แล้วฉันจะรอดูความจริงใจของนาย”

     ดลและทุกคนงง คือมันเร็วมาก เนเน่ทำอะไร เล่นอะไร มาเร็วเคลมเร็วเกิ้น พอรู้สึกตัวอีกที เนเน่ก็เดินหันหลังเอาเสื้อแจ็คเก็ตพาดบ่าเดินออกไปถึงรถมอเตอร์ไซด์และขับออกไปแล้ว ยี่หวาเห็นทุกอย่างเต็มสองตา ขณะที่กำลังเดินเข้ามา เพื่อจะบอกข่าวดีกับดล

“หนอยแน่ อีเด็กเวร เป็นแกจริงๆด้วยๆที่มาเจ๊าะแจ๊ะกับดลของฉัน ไม่จริง ดลต้องไม่ชอบมัน ดลรักฉัน ฉันไม่ยอมเสียดลให้แกหรอก อีเด็กนรก แล้วแกกับฉัน จะได้เห็นดีกัน เร็วๆนี้แน่ คอยดู”

     พูดจบ ก็รีบเดินเข้าไปหาดลทันที และบอกข่าวดีที่ได้มาให้กับดล

***** +++++ *****

     วันนี้ปิ๋มเพื่อนรุ่นน้อง ตามรอยแจงมาติดๆ จนมาเจออีกครั้งจนได้ ตรงบ้านเช่าหลังเล็กๆหลังหนึ่งในสลัมช่วงค่ำๆ <เปรี้ยงๆๆ> ปิ๋มยิงใส่แจงทันทีเมื่อเห็นตัวไป 3 นัดแบบไม่ให้ตั้งตัว แต่ถูกเพียง 2 นัดจนแจงบาดเจ็บที่แขนขวา แจงไม่ทันระวังเพราะความไว้ใจนั่นเอง

“อีปิ๋ม นี่แกอีกแล้วเหรอ หักหลังฉันยังไม่พอ นี่ยังจะตามมาจองล้างจองผลาญฉันให้ได้อีกเหรอ ฉันอุตส่าห์ไว้ใจแกมาตลอด อีเพื่อนทรยศ อีชั่ว อีเลว อีนรกแตก แกต้องไม่ตายดีแน่”

     แจงตะโกนออกไป เพราะเจ็บแผลมาก แผลเก่ายังไม่หายดีเลย มาโดนใหม่อีกแล้ว

“ช่วยไม่ได้พี่แจง ก็เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร มาดามเสนองานดีๆมาให้ เงินดีขนาดนี้” ปิ๋มชอบเงิน

“ถ้าไม่รับ ก็โง่แล้ว ฉันต้องขอโทษด้วยนะ ที่ทำแบบนี้ เอาแม่พิมพ์มา ลายแทงด้วย” แจงยิ้มและหัวเราะใส่

“ไปตายห่าซะเถอะ อีชั่ว” แจงใช้มือซ้ายที่ไม่ถนัดยิงสวนไป 2-3 นัด

“เจ๊ อย่าดื้อน่า” ปิ๋มย่องมาข้างหลังหมายจะเจาะกะโหลก แต่พลาด

“ตายเสียเถอะ” ปิ๋มวืด

“หายไปไหนวะ” แจงรีบยิงใส่อีกเป็นชุด แต่ด้วยความไม่ถนัด จึงพลาดเป้า ปิ๋มวิ่งหลบทัน และยิงสวนกลับไป แจงดูกระสุนในแม็กซ์

“5 นัด เอาไงดีวะ” จึงใช้วิธีเดิมวัดใจ อาจได้ผล แจงมองหาเศษไม้และเศษหินแถวนั้น แต่ก็ไม่มี

     นี่มันในครัวนี่ จึงหยิบจานแล้วเหวี่ยงออกไปล่อเป้า 2-3 ใบ ได้ผล ปิ๋มยิงจานพวกนั้น พอแสงปืนสว่างมาจากตรงไหน แจงก็หยิบมีดปากลับไปที่นั่น

“โอ๊ย” มีดโดนแขนซ้ายของปิ๋มเข้าอย่างจัง แจงแม่นมาก

     แจงรีบตัดสินใจหยิบจานแล้ววิ่งออกจากที่หลบ แล้วเหวี่ยงจานล่อเป้าไปอีก ปิ๋มโผล่หน้าออกมายิงอีกไม่นับ แจงวัดดวงกระโดดยิงสวนเข้าไป 3 นัด โชคดี

“อ๊าก” กระสุนเข้าแสกหน้าปิ๋ม ตายสนิททันที ปิ๋มล้มคว่ำข้างๆเธอ

“ตายห่าซะอีเวร ถุย หักหลังกู อีเวร” แจงถูกลอบทำร้ายเกือบตาย โดนยิงบาดเจ็บสาหัสที่ไหล่ขวา 2 แผล เลือดไหลไม่หยุด อ่อนเพลียมาก ก่อนที่จะมาพบเผด็จโดยบังเอิญ แจงซมซานหลบออกมาจากสลัม เขาจึงช่วยแจงไว้ได้ทันอีกครั้ง หลังจากที่เผด็จย้อนกลับไปหาเธอที่เมืองกาญจน์แล้วไม่เจอ

<<<<< ----- >>>>>

     เนเน่ลงทุนไปรับนิ่มที่อัมพวา และขอโทษนิ่มต่อหน้ายายชื่น เนเน่ก้มกราบที่เท้าของยายชื่น

“ยาย หนูขอโทษที่เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย จนทำให้นิ่มต้องลำบากใจ” เนเน่ขอยอมรับผิด

“และเกิดปากเสียงทะเลาะกับแม่เพ็ญ จนลุกลามใหญ่โตเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา” เนเน่สำนึกผิดจริงๆ

“อย่าคิดมากเลยคุณหนู นิ่มมันก็แค่น้อยใจเท่านั้น มันไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรคุณหนูเลย” ชื่นพยายามที่จะอธิบาย

“ยายเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เอาอย่างนี้ ต่อจากนี้ไป ก่อนจะทำอะไร ก็ให้คิดสักนิด คิดดีๆ คิดลึกๆ และนึกถึงวันนี้นะ วันที่รอยร้าวเกิดขึ้น โดยไม่ได้ตั้งใจ” ชื่นสั่งสอนเนเน่อีกครั้ง

“ไปซิ เจ้านิ่มมันอยู่ในห้องนั่นแหละ ไปรับมันกลับไป ไปอยู่ยังที่ของมัน” ชื่นแนะนำได้เท่านี้

“แล้วช่วยกันทำสิ่งดีๆ อย่าทำอะไรคนเดียว มือมีสองข้าง ขาก็มีสองข้าง บางอย่างเราไม่สามารถที่จะทำคนเดียวได้ สองหัว ดีกว่าหัวเดียวนะ คงเข้าใจที่ยายพูดนะคุณหนู”

     เนเน่พยักหน้าและก้มลงกราบอีกครั้ง เนเน่เดินตรงเข้าไปหานิ่มในห้อง

“นิ่ม” นิ่มหันมาแล้วมองหน้า เนเน่เดินเข้าไปกอด

“พี่ขอโทษ กลับบ้านเรานะ น้องสาว” นิ่มพยักหน้า ก็เท่านี้แหละ ทำผิดแล้วมาขอโทษสักหน่อย

     ความน้อยใจ ก็จะหายไปเอง ไม่นานทั้งสองคนก็ขับรถคู่กันกลับบ้านไปทันที

<<<<< ***** >>>>>

     เผด็จพาแจงมาหลบรักษาตัวที่คอนโดเขาเงียบๆ และสั่งกำชับสองคนสนิท ภณกับนพให้ปิดปากเงียบ อย่าให้เรื่องนี้หลุดไปเข้าหูใครแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเพ็ญ ปูน เทียนหอม โดยเฉพาะลูกสาวตัวดี เนเน่ ไม่งั้นหัวหลุดออกจากบ่าอย่างแน่นอน ทั้งสองคนเข้าใจดีและเก็บความลับอย่างดีเลยทีเดียว ผ่านไปหลายวัน เผด็จรักษาแจงอย่างสุดกำลัง จนเริ่มหายดี ร่างกายแข็งแรงเกือบเป็นปกติแล้ว ลึกๆแล้วเผด็จไม่อยากที่จะสูญเสียจุ๊บแจงไป ไม่ใช่เพราะหน้าเธอเหมือนเนตรอัปสร แต่เพราะเผด็จรักเธอเข้าจริงๆเสียแล้ว ไม่ใช่เงาของคนรักเก่า หลังจากที่แจงหายดี ไม่นานทั้งสองได้ตัดสินใจคบหากันอย่างจริงจัง

“ไว้ใจพี่ไหม” แจงพยักหน้า เอียงอายเล็กน้อย

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 30 .. “ ผูกพัน ”

5 กรกฎาคม 2565
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า