Your Wishlist

เนเน่ ธิดาพญายม (ภาคพิเศษ ของ พยัคฆ์ร้าย..สายลับ) (ตอนที่ 3 .. “ เสียความรู้สึก 2 ”)

Author: พัชฌา

เมื่อความถูกต้องถูกมองข้ามไป ระหว่างความจริงกับความเท็จ เมื่อมันอยู่คาบเกี่ยวกัน ก็ช่างยากเสียเหลือเกินกับการที่จะเลือกรับรู้ได้ ทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้สิ่งนั้นหายไป มันก็คือ..การสืบหาความจริงไงหละ

จำนวนตอน : 32

ตอนที่ 3 .. “ เสียความรู้สึก 2 ”

  • 26/07/2565

รางวัลแด่คนช่างฝัน - จรัญ มโนเพชร

นิยาย แนว สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

ตอนที่ 3 .. “ เสียความรู้สึก 2 ”

“พี่รวบมันได้ 2 คน เพราะมีคนลึกลับมาขวางรถมันเอาไว้ ไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย จึงช่วยเด็กสองคนนั้นไว้ได้”

“จริงซิ อย่างน้อยเขาก็มาช่วยนะพี่ ต้องมองว่าเป็นคนดีไว้ก่อน” เนเน่มองโลกในแง่ดี เพราะพ่อกับแม่สอนมาดี

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ามาดี ทำไมต้องปิดบังหน้าตาขนาดนั้น”

“เค้าคงไม่อยากที่จะดังมั้งพี่ 5555+” เนเน่พยายามพูดตลก เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเครียด

“ยังมาทำทะเล้นอีกแก..แล้วแถมยังหนีอีกด้วย ถ้าดีจริงอย่างที่แกบอก ก็น่าจะอยู่ให้ความร่วมมือซิ”

“เอาน่า เขาอาจจะไม่อยากดังก็ได้มั้งพี่ก็อย่างที่บอกไปแล้ว”

“ให้มันจริงเถอะ แล้วด้านแกหละ เป็นไงบ้าง เห็นข่าวทีวีออกแล้ว น่ากลัวเหมือนกันหวะยัยคนนี้”

“ก็งั้นๆหละพี่ ไม่เห็นจะสักเท่าไหร่เลย” เนเน่คุยโวเชียว

“เออ ไอ้ขี้โม้ ไงหละโดนช๊อตหนะ แหม ไม่เท่าไหร่”

“เออ..เมื่อคืนหนูก็เจอเรื่องแปลกๆที่บ้านเหมือนกัน มีจดหมายลึกลับ ส่งมาเหมือนจะเตือนว่าไม่ให้หนูเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของพวกมัน ไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้ายเหมือนกัน” วิทย์ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่สบายใจ

“เน่พี่ว่าตอนนี้แกอย่าพึ่งทำอะไรนะเชื่อพี่ ถ้ามันลงบุกไปส่งจดหมายถึงบ้านแกได้ แสดงว่า มันคอยจับตาแกอยู่นะตอนนี้ มันอยู่ในที่มืด แกอยู่ที่สว่าง พี่ว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่คนเดียวจะดีกว่านะ แกตัวคนเดียวขืนเป็นอะไรขึ้นมา ลุงเด็จพ่อแก มาเอาฉันตายแน่” วิทย์กลัวเรื่องนี้มากจริงๆ เพราะตอนนี้เผด็จไม่เหลือใครแล้ว

“อย่าห่วงหนูเลยพี่หนูเอาตัวรอดได้ พ่อนะเหรอ ปาดนี้เมาหัวราน้ำ อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ อย่าพูด ได้ยินแล้วตะเตือนไต หนูว่าพี่นั่นแหละคอยดูพี่ขิงไว้ให้ดีๆจะดีกว่า ตอนนี้ยิ่งกำลังท้องอ่อนๆมีน้องอยู่ด้วย เพราะถ้ามันรู้ว่าพี่ทำคดีนี้ ครอบครัวพี่อาจจะเดือดร้อน หนูตัวคนเดียว สบายมาก .. เอ้อ พี่ หนูฝากอะไรอย่างซิ”

       เนเน่นึกถึง สำนักข่าวสตาร์นิวส์  “อะไรเหรอ” วิทย์หันไปมองพวกนั้น ทับทิมแกล้งหันไปทางอื่น

“พี่ลองไปสืบหาเบาะแสจากสำนักข่าวสตาร์นิวส์ดู ถามหาคนชื่อเบิ้มนะ เขาเป็นคนทำข่าวนี้อยู่ ไม่แน่ พี่อาจจะได้อะไรมากกว่าหนู เพราะพี่เป็นตำรวจ อาจจะเข้าหาพวกนั้นได้ง่ายกว่าหนูซึ่งเป็นคนธรรมดา วันนี้หนูลองแอบเข้าไป ก็คว้าน้ำเหลว ไม่ได้อะไรเลย” เนเน่แนะแนวทางให้วิทย์ แต่เขาจะทำตามหรือไม่นั้น ตอบไม่ได้

“ได้ๆ แค่นี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย เพราะพี่ออกมานานแล้ว จำไว้นะ อย่าทำอะไรเสี่ยงๆอีก เพราะลุงเด็จฝากแกไว้กับพี่ในเรื่องทำงานแบบนี้” วิทย์เป็นห่วงน้องสาวจอมแก่นคนนี้  

“จร้า พี่ชาย หนูให้สัญญา” เนเน่โกหก เพราะปากพูด แต่มือทำนิ้วกากบาทไว้

“บายค่ะพี่ชาย” หลังจากวางสาย มีเหรอที่เนเน่จะยอมหยุด เธอรีบไปหาแหล่งข่าววงในของเธอทันที หลังจากที่เงียบหายกันไปนานเลยทีเดียว ส่วนวิทย์ก็รีบเดินกลับไปยังกลุ่มของครอบครัว

“ไงที่รักหายไปไหนมา หน้าเครียดเชียว มามา มาทานอะไรก่อน”

       ทับทิมแอบมองวิทย์จนวิทย์ต้องหลบสายตาทับทิม เพราะทับทิมสงสัยว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่นอน กับเรื่องคดีของหงส์ฟ้าและอาจจะเกี่ยวถึงเนเน่ด้วย

<<<<< $$$$$ >>>>>

     เช้าวันจันทร์ที่ 6 พ.ค. เมื่อเนเน่ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้สักที อารมณ์เสียกลับออกมาตลอด นี่ก็ 3 วันเข้าไปแล้ว และช่วงบ่ายขากลับได้มาเจอปูนกับทับทิมโดยบังเอิญที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งแถวๆบางบัวทอง

“ไอ้เน่” ปูนตะโกนเรียกเนเน่แต่ไกล เนเน่หันมาตามเสียงที่เรียก

“พี่ปูน พี่ทิม” เนเน่เดินเข้ามากอดทั้งสองคนพร้อมกันโดยตัวเองอยู่ตรงกลาง

“วันนี้พี่ทั้งสองคนว่างเหรอคะ ถึงออกมาเดินห้างได้เนี่ย นี่เราไม่ได้เจอกันนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย เกือบ 2 ปีแล้วมั้ง ตั้งแต่งานวันเกิดน้องชายหนู น้าเบ็นซ์ น้าแป๋ว ก็เงียบหายไปหมดเลย”

       เนเน่ดีใจ จนพูดไม่หยุด ไม่เว้นให้สองสาวแม่ลูกอ่อนได้พูดบ้างเลย

“มานี่เลยแกไอ้เน่ มานั่งเลย เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ทับทิมดึงตัวเนเน่มานั่งที่เก้าอี้

“มีอะไรเหรอพี่ทิม ดูทำหน้าเข้า เหมือนโกรธใครมาสักสิบชาติ”

       เนเน่งงที่ทับทิมมีสีหน้าไม่ค่อยจะดีเลย ทั้งๆที่พึ่งเจอกัน

“ก็เรื่องพี่เนตร แม่แกไง ข่าวดังออกขนาดนั้น และวันก่อนฉันก็เห็นแกอยู่ในข่าวด้วย กำลังต่อสู้กับหงส์ฟ้าตัวปลอมอยู่”

       เนเน่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง “พี่รู้ได้ยังไงว่าเป็นหนู อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้” ปูนรีบต่อว่าเนเน่ทันที

“อย่ามาแหลกับพวกฉันไอ้เน่ คนอื่นเขาอาจจะไม่รู้ แต่พวกฉันดูออกว่ายังไงก็แก เพราะลีลาการต่อสู้แบบนั้น สายตาแบบนั้น และแววตาแบบนั้น ถ้าไม่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ก็ไม่มีใครมองออกหรอก”

       เนเน่ปิดไม่มิดเสียแล้วจึงต้องพยักหน้ารับความจริงไป เพราะทุกคนเคยต่อสู้ร่วมกันมา ยังไงก็ปิดไม่ได้อย่างแน่นอน

“ทำไมวะ ถึงต้องเอาตัวไปเสี่ยงแบบนั้น ถ้าอาเด็จพ่อแกรู้เข้า แกไม่คิดบ้างเหรอว่าพ่อแกจะเสียใจแค่ไหน ถ้าแกเกิดเป็นอะไรขึ้นมา แกควรจะตั้งใจเรียนให้จบและทำงานอย่างเดียวจะดีกว่า เรื่องพี่เนตร เดี๋ยวพวกฉันจะจัดการให้เอง ฉันกับไอ้เตี๊ยและพี่โมปรึกษากันแล้ว กำลังหาทางสืบอยู่อย่างเงียบๆ ไม่นานต้องรู้และจัดการได้แน่ ถือว่าฉันขอนะไอ้น้อง เพราะฉันรับปากกับอาเด็จเอาไว้ว่าจะดูแลแกให้ดี”

       เนเน่มองหน้าทับทิมและปูน แล้วถอนหายใจ ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปเกาะราวบริเวณทางเดินของห้าง โดยไม่หันกลับมา

“ค่ะพี่ หนูรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงหนู แต่พี่อย่าลืมนะว่า นั่นแม่หนู หนูคงไม่ยอมอยู่เฉยๆให้ใครเอาชื่อเสียงและความดีของแม่หนูมาทำให้วายป่วงแบบนี้แน่” ทับทิมเดินมาแตะที่ไหล่ขวาทางข้างหลัง

“พี่เข้าใจนะเน่ แต่นี่มันเรื่องใหญ่” ปูนเดินแตะไหล่ทางซ้ายอีกคน

“ใช่ เน่ พี่ว่าใจเย็นๆนะ ยังไงแม่แกเขาก็ถือว่าเป็นพี่สาวพี่คนหนึ่งของฉันเหมือนกัน พี่ไม่อยู่เฉยแน่”

“ทุกฝ่ายและทุกคนที่เกี่ยวข้อง เขากำลังช่วยแกอยู่ แกตัวคนเดียวและก็ตัวแค่นี้จะไปทำอะไรพวกนั้นได้ แค่เมื่อวันก่อน แกก็เกือบตายแล้ว จำไม่ได้เหรอ โชคของแกคงจะไม่ดีไปตลอดหรอกนะ เชื่อพี่ เมื่อวานคุณวิทย์ก็เข้าไปที่บ้าน เราก็ยังนั่งคุยกันถึงเรื่องนี้เลย เห็นไหมว่า ไม่มีใครเขามองข้าม เพราะพวกเราคือครอบครัวเดียวกัน วางมือซะ อาเด็จจะได้ไม่กังวล” ทับทิมกล่าวเสริม

       เนเน่หันมา “ขอบคุณพวกพี่ๆมากนะคะที่เป็นห่วงหนู หนูรับปากค่ะว่าจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้” ทับทิมสังเกตุเห็นเอกสารการสมัครงานที่อยู่ในแฟ้มใสๆในมือของเนเน่ จึงถามออกไปตรงๆ

“นี่แกกำลังวิ่งสมัครงานอยู่เหรอไอ้เน่ คงจะจบแล้วซิ”

“ใช่พี่ ช่วงนี้หนูกำลังวิ่งสมัครงานอยู่ แต่ก็ยังไม่มีที่ถูกใจเลย ไอ้ที่ที่พ่อหาไว้ให้ หนูก็ไม่ต้องการ เพราะหนูไม่อยากที่จะขึ้นชื่อว่าได้งานเพราะพ่อ เป็นเด็กเส้น พอได้ที่ที่ต้องการ ก็เจอพวกขี้หลีบ้าง ถามซอกแซกบ้าง หนูเลย ต้องกลับมาตั้งหลักใหม่ แล้วค่อยว่ากัน” เนเน่พูดไปก็ทำหน้าเศร้าไป

“ดีเลยไอ้เน่ งั้นแกไม่ต้องไปหาสมัครงานที่ไหนแล้ว มาทำกับพี่ที่ฟิตเนตเลย ตอนนี้พี่กับไอ้ปูน กำลังหาครูมาสอนวิชาการป้องกันตัวเพิ่มอยู่พอดี เพราะพี่กับมันไม่ทำแล้ว ไม่มีเวลา ต้องเลี้ยงลูก ครูที่มีอยู่ ก็เหลือไม่กี่คน อีกอย่างแกกับพวกพี่ฝีมือมันพอๆกัน พี่เชื่อใจแก” ทับทิมชวนเนเน่มาทำงานด้วย

“จริงดิ” เนเน่หลุดปากออกมา สักพักพอนึกขึ้นได้ว่าพ่อห้าม ก็ต้องขอปฏิเสธ แต่อันที่จริงแล้วใจหนะอยากทำ

“เอาน่า แกก็อย่าไปสนใจพ่อแกนักเลย เรามาสอนคน ไม่ได้ออกไปสู้รบตบมือกับใคร จริงไหม” ปูนให้เหตุผล

“ใช่ ไอ้ปูนพูดถูก นะมาช่วยพี่สองคนนะ พี่เสียดายฝีมือแกหวะ ฝีมือขนาดนี้หายาก เรื่องพ่อเดี๋ยวพี่จัดการให้”

       ทับทิมเลยชวนเนเน่มาเป็นครูสอนวิชาป้องกันตัวให้กับสำนักงานของเธอ เพราะกำลังหาครูอยู่ เนื่องจาก เธอกับปูนจะวางมือแล้ว ขอเลี้ยงลูกอย่างเดียว

“ตกลงพี่ ดีเหมือนกัน” เนเน่วัดดวงกับพ่อไปเลย

“หนูก็เบื่อแล้ว กับที่จะต้องปั้นหน้าและต้องแต่งตัว ใส่กระโปรงไปมา มันไม่ใช่หนูเลย”

“ขอบใจมาก” ทับทิมแต่ไหล่เนเน่ “แล้วแกพร้อมจะไปทำงานให้พี่เมื่อไหร่หละ”

       ปูนยิงคำถามแบบตรงๆเลย ไม่อยากให้เนเน่ฟุ้งซ่าน “ขอเวลาอีก 3 วันนะพี่” เนเน่บอกอย่างนั้น

“แล้ววันศุกร์หนูจะเข้าไป หนูขอไป Clear ปัญหาคาใจอะไรบางอย่างให้มันหายข้องใจก่อน” ทั้งสองคนยิ้มออกเลย ที่ได้คนที่ไว้ใจได้แล้วสักที สามารถมาทำงานตรงนี้ให้ได้อย่างดี ปูนและทับทิมจับมือกับเนเน่อีกครั้ง สบายใจแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน

       เนเน่ตกลงรับปากเป็นครูให้กับปูนและทับทิม เนื่องจากครูเก่ามี 2 คน ไม่นับรวม เธอทั้งสอง เมื่อก่อน มี 5 คน พอเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป คนเรียนน้อยลง จึงลดอัตราลง โดยเกษียณตัวเอง เปาเปา ก็ไม่อยู่ลาออกตามพลอยใสไป ทับทิมจึงต้องมารับหน้าที่ทำเองทุกอย่างไม่ว่าเอกสารและค่าใช้จ่าย ทุกอย่างต้องทำเองสลับกับปูน เนื่องจากปูนต้องขึ้นไปช่วยแตงโมทำสำนักงานทนายชั้นบน เพราะปริ๊นก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว อ้อมขอให้ไปอยู่กับเธอที่เมืองนอกมาได้เกือบปีแล้ว ปูนกับทับทิม จึงต้องหาคนที่ไว้ใจได้ มาดูแลตรงนี้

<<<<< ***** >>>>>

       เนเน่เมื่อไม่สามารถหาความจริงตามลำพังเพียงคนเดียวได้ จึงต้องบากหน้ากลับไปหาพ่อตัวเอง ไปที่บ้านของเพ็ญแต่ก็ไม่เจอ เจอแต่พ่อแก่ๆของเพ็ญ อดีต ผบ.ตร.ที่ปลดเกษียณนานแล้ว

“สวัสดีค่ะคุณลุง” เชี่ยว ยกมือรับไหว้

“มาหาพ่อเหรอหนู” เนเน่พยักหน้า

“ค่ะ คุณพ่ออยู่ไหมคะ” เชี่ยวสายหัว

“ไม่อยู่ เห็นว่าไปที่เมาอยู่ที่รีสอร์ทของมัน” เชี่ยวบอกไปตรงๆ

“เพ็ญมันเลยหอบลูกตามไปดู ได้เกือบเดือนแล้วมั้ง”

“ขอบคุณค่ะ” เนเน่ไม่พูดมาก เมื่อไม่เจอก็เลยกลับ รู้แล้วนี่ว่าพ่ออยู่ไหน

       เนเน่จึงดั้นด้นกลับไปตามพ่อที่เกาะ และได้เจอน้องชายของเธอในวัยเพียง 3 ขวบอีกด้วย

“แม่” เพ็ญหันมาขณะที่กำลังอุ้มลูกอยู่

“ไอ้เน่ มาได้ยังไงลูก มามานี่มา มาให้แม่กอดที” เพ็ญรักเนเน่มากๆพอๆกับลูกตัวเอง

“เป็นไงมาไงเนี่ย อย่าบอกนะว่ามาตามพ่อหนะ” เนเน่พยักหน้า เพ็ญไม่รู้จะพูดยังไง

“แล้วมาทำไม อย่าบอกนะว่า เรื่องของพี่เนตรหนะ” เนเน่พยักหน้าอีกครั้ง

       เพ็ญไม่พูดมาก จึงรีบจูงมือเนเน่ไปดูสภาพของเผด็จ

“เอาดูเอาเอง สภาพของพ่อแก ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว นี่นะเหรอ ที่แกจะให้ไปช่วยสืบหาความจริงเรื่องของแม่แก แม่ว่าแกกลับไปเถอะ เสียเวลาเปล่าๆ”

       เมื่อมาถึงบังกะโล เนเน่ก็เจอ แต่สิ่งที่เนเน่เห็นกับตาในตอนนี้ คือเผด็จเป็นเพียงตาแก่ขี้เมาคนหนึ่งในวัย 59 ปี ไม่เหลือคราบของนักสู้อีกแล้ว ขนาดลูกมายืนอยู่ใกล้ๆ ยังไม่รู้เลย เนเน่ค่อยๆเดินเข้าไปหาพ่ออย่างช้าๆ

“พ่อ พ่อ” เธอเสียความรู้สึกมาก เนเน่น้ำตาไหลออกมาทันที ตัดใจเรียกอีกครั้ง

“พ่อ” คราวนี้เผด็จหันมาและจ้องมองหน้าเนเน่เหมือนคนที่ไม่รู้จักเสียแล้ว “ใคร”

“พ่อ หนูเนเน่ลูกสาวพ่อไง ทำไมพ่อถึงเป็นแบบนี้ไปได้”

       เผด็จแกล้งทำเป็นบ้าๆบอๆเมาๆ เพื่อไม่ให้เนเน่สงสัยกับการทำงานของเขา

“ลูก ลูกพ่อ โบว์ ลูกของเรา ลูกของเรา ใช่ ลูกของเรา ลูก โบว์ ไหนหละลูกของเรา”

       เนเน่พูดคุยเท่าไหร่ พ่อก็ไม่ยอมสนใจฟัง “พ่อ เลิกเมาได้แล้ว” เนเน่พยายามจะดึงเผด็จกลับมาให้ได้

“มาช่วยหนูตามหาความจริง เรื่องแม่เนตรก่อนจะได้ไหม อะไรๆก็โบว์” เนเน่พยายามพูดคุยกับพ่อ แต่เสียเวลา

“หนูอุตส่าห์เสียเวลา บากหน้ามาหาพ่อถึงที่นี่แล้วนะเพื่อให้พ่อไปช่วยกัน พ่อหันมาฟังหนูก่อน” เนเน่สุดจะเซ็ง

“พ่อเคยรับรู้อะไรบ้างไหม ว่าตอนนี้มีคนมาใส่ร้ายแม่เนตรว่าเป็นผู้ร้ายออกปล้น ทำเรื่องไม่ดี พ่อ พ่อ ตื่น”

       เผด็จล้มตัวนอนลงที่บันได เพ็ญส่ายหน้ากลุ้มใจ จนเนเน่น้อยใจ

“พ่อไม่รักแม่เลย พ่อไม่เคยมีแม่อยู่ในหัวใจเลยใช่ไหม หนูเกลียดพ่อ” เนเน่เสียใจมาก ที่เผด็จทำแบบนั้น ไม่สนใจอะไรเลยสักนิด

       เนเน่คิดว่าพ่อไม่รักแม่ตัวเองเลย รักแต่โบว์ จึงทำให้เนเน่โกรธพ่อตัวเองมาก เลยน้อยใจ ต้องกลับมาสืบหาด้วยตัวเอง

“แม่ หนูกลับหละนะ เบื่อ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ หนูไม่เสียค่าเครื่องบินมาที่นี่หรอก เบื่อโว๊ย” เนเน่เดินบ่นก่อนที่จะลงเรือ

“ไม่ค้างสักคืนก่อนเหรอลูก มาเหนื่อยๆ” เพ็ญพยายามรั้งเนเน่ให้อยู่ แต่เนเน่ไม่อยู่ เพราะไม่พอใจเผด็จที่ไม่รักแม่เนตรเลย

“ไม่หละแม่ ไม่อยากอยู่ เหม็นขี้หน้าคนแถวนี้” เนเน่พูดประชด

“ในเมื่อหนูพึ่งพาใครไม่ได้ หนูก็จะสืบและทำตามวิธีของหนูเอง หนูลาหละคะ” เพ็ญห้าม

“ไอ้เน่ อย่านะลูก” เนเน่ไม่สนใจกระโดดลงเรือที่เหมามา แล้วรีบกลับออกไปทันที เพื่อจะได้กลับทันเครื่องบินเที่ยวเย็น

----- ***** -----

     หลังจากที่กลับมาจากเกาะ พึ่งพาบุพการีของตัวเองไม่ได้ เนเน่จึงต้องตัดสินใจทำตามวิธีของตัวเอง โดยกลับมาใส่หน้ากากและชุดเนเน่อีกครั้งทันที เพื่อเริ่มสืบหาความจริง โดยไม่รอช้า เพื่อจะได้คลี่คลายข้อข้องใจอย่างไวที่สุด ในค่ำคืนวันนี้

“ถึงเวลาออกลุยแล้วซินะเนเน่”

       เนเน่เดินเข้ามาที่ห้องเก็บของ ยืนจ้องมองตู้ลังไม้เก่าๆที่ฝุ่นเขลอะหนาตึ๊บ

“3 ปีแล้วซินะ ที่ไม่ได้มาแตะต้องมัน” เนเน่ยืนบ่นอยู่พักใหญ่

       จากนั้นจึงวางกระเป๋าเป้และนั่งลงไขกุญแจ แล้วเปิดฝาลังไม้นั้นขึ้นมา ฝุ่นฟุ้งกระจายเต็มห้อง เข้าหูเข้าตาจนเนเน่ต้องหลบหน้าพักนึงเพราะฝุ่นเข้าปากเข้าจมูกเลย สักพักพอทุกอย่างจางลง เนเน่ก็ก้มมองลงไป ดูว่าอุปกรณ์ทุกอย่างยังอยู่ไหม เมื่อทุกอย่างอยู่ครบ เนเน่จึงเอื้อมมือไปหยิบชุดของเธอขึ้นมา พร้อมอุปกรณ์ประจำตัวทุกอย่างที่คิดว่าต้องใช้ออกมาทั้งหมด แล้วไม่นานและไม่กี่นาที เนเน่นักสู้สาว คนเดิมก็กลับมาทันที กับชุดนักสู้และอุปกรณ์ของเธอ

“พร้อมลุย” เนเน่ตะโกนออกไปอย่างเสียงดัง กับชุดที่จัดเต็มพิกัด เนเน่ดูนาฬิกาที่ข้อมือ

“3 ทุ่ม นี่แหละเวลาทำงานของฉันโดยแท้”

       จากนั้นไม่นาน เนเน่ก็ขับมอเตอร์ไซด์คู่ชีพ ตามรอย Gps ที่ได้แอบติดไว้กับรถมอเตอร์ไซด์ของหงส์ฟ้าปลอม ตอนที่สู้กันครั้งล่าสุด

“ให้มันรู้ไปอีหงส์ปลอม ว่ามึงจะหนีกูได้ตลอดรอดฝั่ง” เนเน่บ่นในใจขณะที่ขับรถ

“แล้วมึงจะได้รู้ว่าคนอย่างกูเป็นยังไง เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับเนเน่”

***** \\\\\ *****

       (9 พ.ค.) 3 ทุ่มครึ่งเศษของวันเดียวกันนั้นเอง ดลแยกกับเบิ้มหลังจากที่ตัดต่อข่าวเสร็จจากที่ทำงาน เบิ้มเดินทางกลับบ้านดลเลยขอติดรถมาด้วยและขอตัวลงรถกลางทางเพื่อจะกลับที่พักเอง

       หลังจากที่แวะทานมื้อค่ำเสร็จขนอิ่ม ก็เดินมาเรื่อยเปื่อย เข้า 7 แถวนั้นและพอเดินออกมา ก็ต้องพบว่า นักสู้หน้ากากสองคน กำลังต่อสู้กันอยู่ ระหว่างเนเน่กับหงส์ฟ้า

“อย่าหนีนะ” เนเน่ตะโกน ออกไป ขณะที่หงส์ฟ้ากำลังวิ่งหนี ผู้คนแถวนั้นต้องหลบกันจ้าละหวั่น เพราะกลัวโดนลูกหลง เนเน่วิ่งไล่ตามหงส์ฟ้ามาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เนเน่เหวี่ยงแส้อาวุธสำคัญของนางสิงห์ดำที่ได้ให้ไว้เป็นที่ระลึกก่อนที่จะจากกัน โดนรัดเข้าที่คอเต็มๆ

       เนเน่กระชากจนหงส์ปลอมหงายหลังลงมา หงส์ปลอม เอามือจับแส้เข้าไว้เพราะถ้ารัดแน่นมากจะหายใจไม่ออก หงส์ปลอมปล่อยมือข้างนึงแล้วชักปืนยิงสวนออกไป เนเน่ จึงต้องปล่อยมือจากแส้ หงส์ปลอมพลิกตัวกลับ แกะแส้ออกจากคอตัวเองแล้วเหวี่ยงทิ้งไป เนเน่ก็มาหยิบแส้ขึ้นมาแล้วม้วนเก็บ

“แน่จริงแกอย่าเล่นสกปรกซินังหนู” หงส์ปลอมชี้หน้าเนเน่

“ก็แกใช้ก่อนทำไมหละ วันนั้นหนะ” เนเน่ชี้หน้ากลับ

       หงส์ปลอมไม่เข้าใจ ว่าเคยเจอเนเน่มาก่อนเมื่อไหร่

“แกพูดอะไร เราเคยเจอกันด้วยเหรอ ก็เราพึ่งเจอกันคืนนี้ครั้งแรกนี่”

“แล้วเมื่อหลายวันก่อนใครหละวะที่ใช้ถุงมือไฟฟ้ามาบีบคอฉันหนะ” หงส์ปลอมยืนนึกอยู่พักนึง

“อ๋อ ฉันนึกออกแล้ว เป็นแกนี่เอง มิน่า ทำไมถึงคุ้นๆลีลาการต่อสู้นัก” หงส์ปลอมนึกออกทันที

“วันนั้นก็ปิดหน้าปิดตา วันนี้ถึงกับแต่งชุดใหญ่ออกมาเลยรึ”

“ไม่ต้องพูดมาก บอกมา ใครอยู่เบื้องหลังแก” เนเน่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“และมอบตัวซะโทษหนักจะได้เป็นเบา บังอาจมากที่เอาชื่อของแม่ฉันมาแอบอ้าง”

“อ๋อ นี่นะเหรอ เนเน่ ลูกสาวหงส์ฟ้า ที่เขาร่ำลือกัน ว่าเป็นเด็กมหัศจรรย์ บู๊เก่งไม่แพ้ผู้ใหญ่ 1 ใน 10 มนุษย์หน้ากากในตำนาน เมื่อ 3 ปีที่แล้ว พึ่งได้เห็นตัวจริงก็วันนี้นี่เอง ฝีมือไม่เบา เหมือนกันนี่ ถือว่าสมคำร่ำลือ”

       หงส์ปลอม ยืนพูดถ่วงเวลา เพี่อรอคนมาช่วย ดลวิ่งตามมาดูแอบอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง

“อย่าพูดมาก ว่าไง จะหยุดหรือจะทำชั่วต่อ บอกมาว่าใครเป็นคนบงการแก”

       เนเน่พยายามคาดคั้นเอากับนางโจรคนนี้ให้ได้ แต่คงจะยาก เพราะนางโจรคงจะไม่บอกอะไรง่ายๆ

“ว่าไง จะบอกไม่บอก” ทางตำรวจท้องที่ได้รับแจ้งว่า เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น จึงรีบมาทันที

“เอาเป็นอันว่า ฉันคงบอกอะไรหนูไม่ได้หรอกนะ” หงส์ปลอมกวนอารมณ์เนเน่น่าดู

“ได้ ถ้าแกยังคงดื้อด้านอยู่อย่างนี้ วันนี้ฉันจะจับแกไปส่งตำรวจเองอีชั่ว” เนเน่ชี้หน้าหงส์ปลอมอีกครั้ง

       ครั้งนี้เนเน่หลงกลหงส์ปลอมเข้าให้แล้ว ลูกน้องของหงส์ปลอมมาล้อมเนเน่ไว้เพียบเกือบ 10 คน เพราะการถ่วงเวลาเป็นผล ปืนหลายสิบกระบอกจ่ออยู่รอบตัวเธอ

“เอาซิ จะจับฉันเหรอ ถ้าคิดว่าฝีตีนแกไวกว่าลูกปืนทั้งหมดนี่ ก็เอา”

       เนเน่เจ็บใจตัวเองมาก ไม่คิดว่า หงส์ปลอมจะเล่นวิธีสกปรกแบบนี้ จึงใจดีสู้เสือ ตะโกนออกไป

“ไหนบอกว่าแน่ไง ทำไมต้องใช้วิธีนี้หละ แบบนี้เขาเรียกหมาหมู่นี่หว่า” เนเน่โมโหมากที่หลงกล

“เก่งจริงมาฟัดกันตัวต่อตัวดิ ถึงจะเรียกว่าแน่จริง”

“ช่วยไม่ได้ ฉันไม่อยากรังแกเด็ก อีกอย่าง ฉันไม่มีเวลาที่จะมาเล่นไล่จับกับแก พอดีฉันมีงานที่จะต้องไปทำ ไม่มีเวลามาเล่นด้วย”

       หงส์ปลอมยกปืนขึ้นมาเล็ง ขึ้นนกและเตรียมตัวยิง เนเน่ใจกล้าไม่หลบด้วย

“แต่น่าเสียดายนะที่แกคงจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปทำตามความฝันของแกอีกแล้วหละ”

       ทันใดนั้นเอง ก็มีอาวุธลับมาจากทางไหนไม่รู้ พุ่งมาโดนข้อมือขวาของหงส์ปลอมจนปืนหล่น

“โอ๊ย” หงส์ปลอมเอามือซ้ายจับมือขวาไว้แล้วตะโกนสั่งลูกน้อง

“จะยืนอยู่ทำหอกอะไรเล่า ก็ยิงแม่งไปซิ กระบือทั้งนั้น ยิง”  

       ในวินาทีนั้น ดลไม่รู้นึกยังไง รีบเอาผ้าปิดจมูกและวิ่งไปกระโดดผลักเนเน่ ก่อนที่ห่ากระสุนปืนจะโดนตัวเธอ จนล้มไปทั้งคู่ เสียงปืนดังลั่นกลางสวนสาธารณะไปหมด <เปรี้ยงๆๆๆๆ> ตำรวจท้องที่ที่ได้รับแจ้งได้ยินเสียงปืนจึงรีบวิ่งมาดูที่เกิดเหตุ เห็นหงส์ฟ้ายืนอยู่จึงตะโกนออกไป

“หยุดนะหงส์ฟ้า ยอมให้จับซะดีๆ” พวกลูกสมุนหันปืนไปทางตำรวจ ยิงใส่ไม่นับ ก่อนที่จะหลบฉากหนีไป

“ยิงมัน ฉันจะไปไปเอาทองกับเพชรที่ร้านก่อน อย่าให้ใครตามฉันมาได้” พอสั่งงานเสร็จ หงส์ฟ้าก็รีบหลบฉากออกไปทันที

       หงส์ปลอมเบนความสนใจได้สำเร็จ และสามารถหลบออกไปทำชั่วได้ ดลกอดเนเน่ไว้

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” จนเนเน่ต้องออกปากไล่

“นายเป็นใคร ทำไมถึงได้มาวุ่นวายกับฉันเสียจริงเนี่ย จุ้นไม่เข้าเรื่อง” เนเน่บ่น พร้อมกับแกะมือของดลออกจากตัวเอง 

       ดลมองหน้าเนเน่ด้วยสายตาที่ตกตะลึงผ่านหน้ากากเหมือนกับโดนมนต์สะกด ศรรักปักอกหนุ่มน้อยผู้นี้เข้าให้แล้ว เมื่อได้เห็นสายตาใกล้ๆของเนเน่อีกครั้ง ซึ่งมันต่างจากครั้งที่แล้ว ดลสามารถรู้ได้ทันทีเลยว่า เนเน่คิดอะไรอยู่ แต่เขาไม่พูดออกไปก็เท่านั้นเอง

>>>>> ##### <<<<<

   ปวรรัชดล (ปะ-วอน-รัด-ชะ-ดน) มีความสามารถพิเศษ ที่สามารถอ่านใจคนออก เพียงแค่แตะแขนหรือแตะมือ ก็สามารถรู้ว่าคนนั้นคิดอะไรอยู่ โดยไม่ต้องมองตาหรือสะกดจิตใดๆทั้งสิ้น สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ดลก็เป็นนักมวยของคณะ ถึงแม้ว่าดูภายนอกร่างกายอาจจะดูบอบบางชอบใส่แว่นตาหนาๆคล้ายๆกับเด็กเอ๋อก็เถอะ แต่จริงๆแล้ว ร่างกายแข็งแรงกว่าใครบางคนเสียอีก ซึ่งตอนนี้เกิดชอบและตกหลุมรักเนเน่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่ยังไม่สวมหน้ากากอีก เพราะความน่ารักและความซ่าส์ของเธอนั่นเอง

(((( ----- )))))

“ยังมาทำเป็นพูดดีอีก ปืนตั้งกี่ประบอกจ่ออยู่แบบนั้น ทำไมไม่หลบ” ดลอยากรู้

“ยืนจังกล้าเป็นรูปปั้นอยู่ได้ อยากเป็น Hero รึไงแม่คุณ” เนเน่ไม่พอใจมากที่บังอาจมาว่าเธอ

“ฉันไม่ได้อยากจะเป็น Hero อย่างที่นายพูดนะ แล้วนายเป็นใครเนี่ย ถึงได้มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉัน” เนเน่ว่าเลย

“ถอยไป แล้วมีสิทธิ์อะไรมากอดฉัน ยี้ ไอ้คนฉวยโอกาส”

       เนเน่หน้าแดงทะลุหน้ากากเลย เมื่อโดนดลกอดเข้าเต็มๆ หัวใจเต้นแรงยังไงก็ไม่รู้ ดลยิ้มให้ เนเน่เบือนหน้าหนี

“เก่งจริงนะแม่คุณ” ดลปล่อยมือจากเนเน่

“ที่จริงฉันก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ” บอกความในใจ

“แต่ไม่อยากที่จะเห็นคนตายไปต่อหน้า มันไม่ใช่วิสัยฉัน ก็เลยกระโดดเข้ามาช่วยเนี่ยแหละ” ดลอธิบาย

“จะขอบคุณสักคำก็ไม่มี คนอะไร ไม่มีมารยาท”

       เนเน่ทำหน้าถะหมึงทึง ยกมือขวาขึ้นจะทุบดล ดลชี้หน้าและว่าเนเน่กลับ

“รู้น่าว่าอยากจะแก้แค้นแทนแม่ แต่มันต้องไม่ใช่วิธีนี้” เนเน่งงที่ดลพูดออกมาอย่างนั้น

“รู้ได้ยังงว่าฉันคิดอะไรอยู่” ดลพูดโดยไม่มองหน้าเนเน่

“เอาน่าอย่าพึ่งรู้เลยว่าฉันรู้ได้ยังไง” ดลไม่รู้จะอธิบายหรือบอกเนเน่เช่นไรเพื่อให้เข้าใจ

“เอาเป็นว่า ตอนนี้ จะออกจากนี้ไปได้ยังไงจะดีกว่า ดูซิหนะ ตำรวจเต็มไปหมดเลย” ดลบอกให้เนเน่ดู

“ไอ้พวกนั้น ก็หนีไปกันเกือบหมดแล้ว ถ้าเธอออกไปตอนนี้ เธอโดนจับแน่ เพราะเธอแต่งตัวใส่หน้ากากเหมือนกับหงส์ฟ้า ยังไงตำรวจ เขาก็นึกว่าเธอเป็นพวกเดียวกัน ไปไม่รอดหรอก ว่าไง อยากจะมีชีวิตรอด เพื่อกลับไปแก้แค้นหรืออยากจะโดนจับเข้าคุก” เนเน่ไม่รู้จะตอบยังไง จึงต้องรับปากดลไปก่อน

“เออๆ แล้วนายมีวิธีที่จะช่วยฉันเหรอ” คราวนี้ดลหันไปมองหน้าเนเน่อีกที

“ก็พอมี แต่เธอจะกล้าหรือเปล่า” เนเน่จ้องหน้ากลับ

“ก็บอกแผนมาก่อนซิ ถ้าดีฉันถึงจะทำตาม แต่ถ้าไม่ ก็ตัวใครตัวมัน”

“ได้ เอาหูมา” เนเน่งง ทำไมต้องกระซิบ ก็มีกันอยู่แค่เพียงสองคน

“ทำไมต้องกระซิบ อยู่กันแค่นี้ 2 คน พูดมาเลย” ดลอดได้ดมกลิ่นหอมๆของเนเน่เลย      

“เออๆ ก็ได้” ดลทำหน้าผิดหวังนิดๆ

“ว่าไง” เนเน่รอฟังจนเมื่อยแล้ว

“อย่างนี้นะ เดี๋ยวเราจะแกล้งเป็นแฟนกัน จูงมือแล้วเดินออกไป และฉันจะบอกกับตำรวจว่า เราสองคนไปงานกินเลี้ยงมา และที่งานเขาให้แต่งแฟนตาซีกันเป็นงานสวมหน้ากาก” เนเน่ไม่เอาทันที

“No No No ปัญญาอ่อนแล้วแผนนี้” เนเน่ไม่เห็นด้วยทันที เพราะมันดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แผนแล้ว

“ปัญญาอ่อนยังไง เอ้า แล้วเธอมีแผนอะไรที่ดีกว่านี้” ดลอยากฟังความคิดเนเน่

“ฉันก็จะยิงฝ่าออกไปเลยนะซิ มืดๆแบบนี้ สบายมาก โชคดี ทางใครทางมัน บาย”

       พูดจบ เนเน่ ก็ไปจากดลทันที ดลดึงมือเนเน่ไว้ไม่ทัน ได้เพียงแต่ กำไรข้อมือ ด้านขวา (ปลอกที่หุ้มข้อมือรูปดาว 5 แฉก) 1 อันที่หลุดติดมือมา ตำรวจกลุ่มนึงเห็นเนเน่จึงยิงปืนออกไป เนเน่ปาระเบิดควันแล้ว วิ่งหลบหนีไปทันที ดลเมื่อได้โอกาส จึงหลบไปอีกทางเช่นกัน ส่วนพวกลูกน้องของหงส์ปลอม เสียชีวิตไป 2-3 คนเท่านั้น พอควันจางหายไป ก็ไม่พบใครอีกแล้ว หายไปหมด      

{{{{{ ===== }}}}}

       ประมาณ 5 ทุ่ม หงส์ปลอม แอบหลบยามเข้ามาที่ห้างแห่งหนึ่งแถวชานเมืองรอบนอก ตรงมาที่ร้านทองที่ตัวเองเล็งไว้ กำลังจะเอาคืมตัดกุญแจ ขณะที่ก้มลงก็สังเกตุเห็นว่ามีเท้าของใครคู่หนึ่งมายืนอยู่ข้างหน้าเธอ เธอจึงเงยหน้าขึ้นไปดู ก็เจอหน้าของชายลึกลับคนหนึ่งยืนยิ้มให้

“ทำอะไรครับ” หงส์ปลอมไม่สนใจรีบหยิบปืนเก็บเสียงขึ้นมาเพื่อจะยิง

       ชายลึกลับไวกว่า ใช้เท้าซ้ายเตะปืนที่มือขวา หลุดกระเด็นออกไปทันที หงส์ปลอมลุกขึ้น แล้วดึงมีดสั้นที่ขาขวาออกมา กวาดไปที่ตัวชายลึกลับผู้นั้น สู้กันได้อยู่พักใหญ่ มีดก็หลุดออกจากมือเธออีก

“แกเป็นใคร ทำไมถึงมายุ่งวุ่นวายกับฉันเสียจริง”

“แล้วเธอหละ กำลังทำอะไร คนดีๆเขาไม่มาทำแบบนี้กันหรอกนะ” ชายลึกลับสาธยายให้ฟัง

“และเท่าที่ฉันรู้ หงส์ฟ้าตัวจริงหนะ เขาตายไปนานแล้ว ฉันควรจะถามเธอต่างหากว่าเป็นใคร” ชายลึกลับถาม

“ทำไมถึงมาสวมชุดของเขา แล้วมาทำชั่วแบบนี้ ชื่อเสียงดีๆของเขาที่สร้างสมมา พังทลาย หายวับไปกับตาหมดแล้ว จุ๊ๆ ไม่ดี ไม่น่ารักเลย รู้เปล่า”

       ชายลึกลับทำตลก เพื่อกลบเกลื่อนความกลัวของหงส์ปลอม

“ยุ่ง ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน แกไม่เกี่ยว ถอยไป ถ้ายังไม่อยากตาย” ตัวเองสู้เค้าไม่ได้ ยังจะมาขู่อีก

“อุ๊ย กลัวจัง ปืนก็ไม่มี มีดก็หลุดมือไปแล้ว แล้วจะเอาอะไรมาฆ่าพี่จ๊ะน้องสาว”

       ชายลึกลับแกล้งป่วนประสาทหงส์ปลอม เธอใช้ช่วงเวลาที่ชายลึกลับเผลอ ค่อยๆล้วงเอาที่ช๊อตไฟฟ้าที่อยู่ในกระเป๋าเล็กข้างขาซ้ายขึ้นมา แล้ววิ่งเข้าประชิดร่างชายลึกลับ ลงทุนกอดรัดที่เอวและเอาที่ช๊อตจี้ที่กลางหลังทันที

“โอ๊ย” ชายลึกลับทรุดตัวลงทันที หงส์ปลอมถอยหลังออกมา แล้วใช้เท้าขวาเตะสวนไปที่หน้าของชายลึกลับผู้นั้นที่แก้มซ้ายจนกระเด็นไปทางขวา ชนเอากับประตูเหล็กม้วนของร้านค้าเสียงดังมาก จนทำให้ยามที่เฝ้าอยู่ 2-3 คนวิ่งเข้ามายังที่เกิดเหตุ หงส์ปลอมเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเผ่นก่อนทันที

“อยู่ไม่ได้แล้วฉัน ไปดีกว่า” วันนี้หงส์ปลอมคงไม่ได้ของที่ต้องการแล้ว

       หงส์ปลอมไม่ได้สังเกตุว่า ชายลึกลับได้หายไปแล้ว เพราะรีบหาทางออก เนื่องจากยามทั้ง 3 คนวิ่งไล่เธอมา กว่าเธอจะหนีและจัดการกับยามทั้ง 3 ได้ ก็แทบตาย ใช้เวลาไปเยอะพอประมาณ จึงรีบออกมาที่มอเตอร์ไซด์ตัวเอง แต่ก็ไปไม่ได้อีกต้องตกใจอีกครั้งที่เห็นชายแปลกหน้าคนนั้นมานั่งรออยู่ที่รถของเธอ

“มาได้ยังไงเนี่ย ตายยากจริงนะแก” หงส์ปลอมเริ่มอารมณ์เสียกับคนที่มาขัดขวาง

“แหม ใจร้ายจังนะน้อง เล่นเอาที่ช๊อตมาช๊อตพี่เนี่ยนะ ไม่น่ารักเลยหงะ”

       ชายแปลกหน้าทำมือทำไม้จนหงส์ปลอมรำคาญ

“น่ารำคาญ จะเอายังไงว่ามา ฉันจะกลับแล้วหลีกไป” ชายลึกลับยื่นข้อเสนอแบบรอมชอม

“ก็ไม่เอาอะไรมาก อยากให้เธอไปทัวส์ห้องกรงไง จะไปดีๆหรือจะให้พี่พาไปดีหละครับ พี่ต้องการแค่นี้แหละ”

“ไม่ ฉันไม่ไปที่ไหนกับใครทั้งนั้น รถคันเดียวฉันไม่เอาก็ได้ คิดเหรอว่าแค่นี้ฉันจะกลับออกไปจากนี่ไม่ได้ เก่งจริงก็ตามมาซิ”

       เมื่อพูดจบหงส์ปลอมก็รีบวิ่งหายไปในความมืด สักพักก็เห็นชายแปลกหน้ามาดักอยู่ข้างหน้าอีก

“มาได้ยังไง” เธองงมาก

“อ๊ะอ๊ะ เจอกันอีกแล้ว” หงส์ปลอมวิ่งหนีไปอีก

       ไปทางไหนก็เจอชายลึกลับตลอด หลายครั้งหลายหน จนเหนื่อยแล้ว จึงนั่งพัก

“นี่แกเป็นผีหรือคนเนี่ย รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ตรงไหน”

       ชายลึกลับยิ้มให้ แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลว่าทำไม

“คน ว่าไงจะหนีต่อหรือยอมไปทัวส์ห้องกรง”

       ชายลึกลับตะโกนออกไป ระยะทางไม่ห่างกันมากนัก

“ฉันยอมแล้ว เอ้าอยากจะจับก็จับ ฉันไม่ไหวแล้วเหนื่อย”

       หงส์ปลอมนั่งชันเข่าขึ้นมาแล้วยื่นมือทั้งสองไปข้างหน้าวางไว้บนเข่า ชายลึกลับเดินเข้ามาเอากุญแจมือมาใส่แล้วดึงเธอขึ้นมา เขางงมากว่าทำไมเธอถึงยอมง่ายนัก แต่ก็ยังไม่เอ๊ะใจอะไร พาเธอเดินไปที่รถมอเตอร์ไซด์ ขณะที่ชายลึกลับกำลังหันหลังเพื่อที่จะสตาร์ทรถ เธอจึงหยิบท่อนไม้ที่วางอยู่กับพื้นมาตีที่หลังอย่างแรงจนไม้หักสองท่อน ชายลึกลับล้มลงเงียบสนิททันที หงส์ปลอมรีบค้นเอากุญแจจากตัวชายผู้นั้นไขกุญแจมือออกแล้วขับมอเตอร์ไซด์ออกไปจากตรงนั้นทันที ปล่อยให้ชายลึกลับผู้นั้น นอนนิ่งอยู่ตรงนั้นเพียงคนเดียว

         หลังจากที่หงส์ไปได้ไม่นาน ชายลึกลับก็ลุกขึ้นมา เขาถอดหน้ากากยางหนังคนออก ที่แท้ไม่ใช่ใคร เผด็จนั่นเอง

“พิษสงเยอะนักนะแม่คุณ แต่คิดเหรอว่าฉันจะตามเธอไม่ได้ อย่างน้อยฉันก็มีพิกัดเธอ”

       เผด็จหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา แล้วเปิดระบบติดตามพิเศษ แบบเดียวกันกับที่เนเน่ใช้ ก็เพราะมันคือตัวเดียวกัน เมื่อจับสัญญานได้ เผด็จจึงกลับไปพักผ่อนก่อนทันที เพราะโดนตีอย่างแรง เจ็บเหมือนกัน ไหนจะโดนช๊อตนี่ยังมาโดนตีอีก งานนี้คุ้มไหมเนี่ย พ่อคนเก่ง พ่อคนใจดีมีเมตตา

>>>>> ***** <<<<<

       เนเน่เมื่อกลับมาถึงบ้าน คืนนี้นอนแทบไม่หลับ เพราะได้แต่นึกถึงภาพที่ดลจ้องมองหน้าและยิ้มให้ แถมกอดซะแนบแน่นขนาดนั้น เลือดสาวของเธอจึงสูบฉีดขึ้นมาทันที ขนาดตอนอาบน้ำยังคิดถึงแต่เรื่องนี้ พอล้มตัวนอน ก็ยังคิดอีก นึกทีไรหน้าแดงขึ้นมาทุกที

“บ้า คนอะไร ยังตามมาหลอกหลอนเค้าอยู่ได้” เนเน่พยายามไม่คิด

“ไม่นะ ฉันไม่ได้หวั่นไหวอะไร” ยิ่งคิดก็ยิ่งนึกถึงสายตาที่แสนจะเว้าวอนคู่นั้น

“ไม่ไม่ไม่ ฉันไม่ได้คิดถึงเค้า No No No ไอ้เน่นอนได้แล้ว หลับตา นอน”

       เนเน่ปิดไฟและข่มตานอนทันที ไม่นานจึงหลับลงได้

===== <> =====

       เช้า-เย็น เนเน่จะเป็นครูสอนเทควันโด้ตามปกติ แต่พอตกกลางคืนเมื่อไหร่ เธอก็จะเริ่มออกหาข่าวตามแบบฉบับของทีมพญายมดั้งเดิม เนเน่กลับเข้าไปยังห้องเก็บของอีกครั้ง เพื่อค้นหาอาวุธและอุปกรณ์เดิมๆที่พอจะหาได้ เพื่อทำงานในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นของเดิมๆเพราะ 3 ปีแล้วที่ไม่ได้ใช้งานมันเลย เจ็บใจที่อุปกรณ์ไม่พร้อมเหมือนของหงส์ปลอม จึงต้องเอามาดัดแปลงใหม่ เพราะมันเก่าเก็บมากแล้ว เนเน่ไม่รอช้า อะไรที่คิดว่าจะเอามาดัดแปลงได้เธอก็จะนำออกมาทันที และก็ไม่ลืมที่จะเปิดสัญญานติดตามทิ้งเอาไว้

>>>>> ----- <<<<<

       (10 พ.ค.) คืนนี้ หงส์ปลอมออกทำงานอีกแล้ว เนเน่ดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนที่จะขึ้นไปเปลี่ยนชุดเป็นประจำตัวในเวลาต่อมา 

“4 ทุ่มแล้ว ออกทำงานไม่มีวันหยุดเลยนะมึง อีนี่” เนเน่พูดออกมาเบาๆ

“ขยันทำชั่วเสียจริง นี่มึงจะให้กูนอนพักสักวันจะได้ไหมเนี่ย ต้องออกตามล่ามึงอีกแล้ว”

        บ่นจบก็รีบลุกขึ้นทันที ขณะที่เธอกำลังดัดแปลงอุปกรณ์บางอย่างอยู่ นั่นก็คือกระบองสั้นอาวุธประจำกายของนางเสือดาว เนเน่ดัดแปลงโดยเพิ่มกระแสไฟฟ้าเข้าไป

“ในเมื่อถุงมือแกมีไฟฟ้า กระบองฉันก็มีไฟฟ้าได้เหมือนกัน ขอบใจนะน้าเบ็นซ์ ที่ให้หนูไว้เป็นที่ระลึกก่อนจากกัน เมื่อวานใช้แส้ของน้าแป๋ว วันนี้ขอใช้ของน้าเบ็นซ์บ้างก็แล้วกัน” พูดจบเนเน่ก็บิดมอเตอร์ออกไปทันทีตามสัญญานที่ปรากฏขึ้น

       ไม่นานเนเน่ก็มาถึงโรงงานแห่งหนึ่ง ซี่งเป็นที่ผลิตธนบัตรปลอม เนื่องจากมาดามต้องการที่จะทดลองเอาธนบัตรพวกนี้ออกมาใช้เพื่อให้เศรษฐกิจไทยปั่นป่วนโดยเร็วที่สุด จึงให้หงส์ปลอมมาเอาแบงค์ปลอมรุ่นแรกลองไปทำการปั่นป่วนทันทีในเช้าของวันพรุ่งนี้

“เอาออกไปได้แล้ว ฉันนัดลูกค้าของนายเอาไว้ที่นอกเมือง เช็คดูให้ดีนะว่าครบไหมทั้ง 3 ชนิด”

       ลูกน้องใช้เวลาเช็คอยู่ไม่นาน “เรียบร้อยครับหัวหน้า” ลูกน้องคนหนึ่งรายงาน

“ดี ไปขนขึ้นรถได้เลย แล้วขับตามฉันมา” โจ้มารออยู่แล้วยังที่นัด จึงให้หงส์ฟ้าไปขนสินค้ามา

“นั่นมันขนอะไรออกไปเนี่ย เป็นลังๆ แต่คิดว่าของในลังไม้นั้นต้องไม่ใช่ของดีแน่” เนเน่จึงรีบแอบเข้าไปดูข้างใน เพราะอยากรู้ เพื่อที่จะได้ถ่ายภาพเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานที่จะส่งให้ตำรวจอย่างอัธวิทย์ได้

       ขณะที่เนเน่กำลังลอบเข้าไปขางในนั้น ดลก็ตามเช่นกันเพราะเขารู้ว่าเนเน่จะทำอะไร เนื่องจากเขาอ่านความคิดของเนเน่ได้ในวันนั้น และติดเครื่องติดตามไว้ที่รถมอเตอร์ไซด์ของเนเน่ ดลย่องตามเนเน่ไปติดๆโดยที่ไม่ให้เธอรู้ เนเน่ส่องไฟฉายดูที่แท่นพิมพ์

“นี่มันอะไรเนี่ย” ยังไม่ทันที่เนเน่จะรู้รายละเอียด ก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก

“เอ้า พวกเราปิดและล๊อกโรงงานให้ดีนะ ไป เดินทางได้แล้ว เดี๋ยวจะเกินเวลานัด”

       หัวหน้าที่คุมโกดัง ตะโกนออกมา สั่งลูกทีมที่เกี่ยวข้อง เนเน่จึงต้องรีบวิ่งออกไปก่อนทันทีไม่งั้นโดนขังลืมแน่ ในขณะที่หงส์ฟ้าและลูกน้องบางส่วนขับรถออกไปแล้ว และได้ทิ้งคนคุมโรงงานโกดังไว้บางส่วนเพียง 5-6 คนเท่านั้น เนเน่ยังออกมาไม่ถึงทางออก ประตูกำลังเลื่อนลงมาอีกนิดเดียวกำลังจะปิดสนิท

“ทำไมยังไม่ออกมาอีกนะยัยตัวแสบ” ดลบ่นออกมาเพราะความเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัว ไม่ทันแล้ว ประตูเหล็กปิดสนิท

“เอาไงวะเนี่ย” เนเน่ยืนคิดอยู่พักใหญ่ ไม่นานประตูก็เปิดขึ้นมาเอง

       ดลเองก็ยังงงว่าทำไมประตูเปิดขึ้นมาเอง พอเนเน่วิ่งออกมา ก็รีบไปยังสมุนลูกน้องที่เฝ้าประตูนอนหมดสติอยู่ทั่วบริเวณนั้น 2 คน เธอนั่งลงแล้วดูเพราะอยากรู้

“เข็มบินของพี่โบว์นี่” เนเน่จำได้ติดตาไม่เคยลืม

“พ่อ เป็นไปไม่ได้ เข็มนี้พ่อทำให้พี่โบว์ใช้เพียงคนเดียวเท่านั้น ในเมื่อพี่โบว์ตายไปแล้ว แล้วมันมาอยู่นี่ได้ไง..”

       ขณะที่เนเน่กำลังดูพวกที่สลบอยู่นั้น ดลก็ย่องมาข้างหลังและปิดปากเธอไว้แล้วลากเข้าไปยังที่กำบัง เนเน่หันไป ดลทำมือ

“จุ๊ๆ” และชี้ให้ดูว่ากำลังมีคนเดินมาทางนี้ 2 คน เนเน่จ้องมองหน้าของดลขณะที่ดลกำลังมองคนทั้งสองภายนอกอยู่และนึกในใจ

“คุณเป็นใครกัน มาดีหรือมาร้ายเนี่ย ทำไมต้องมาช่วยฉันตลอด ทำเพื่ออะไร ไม่ ไม่นะ ฉันไม่ได้..”

       เนเน่ยังคิดไม่จบ ดลก็รีบพูดออกมาทันที “ไปครับ ออกไปจากตรงนี้ก่อน ก่อนที่พวกนั้นจะวกกลับมาอีก”

“ตกลงนายเป็นใครเนี่ย แล้วมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องแบบนี้ได้ยังไง” ดลยังไม่อยากตอบอะไรในตอนนี้

“ขอไม่ตอบนะสาวน้อย ไปได้แล้ว ปาดนี้มันคงเจอพวกที่นอนสลบแอ้งแม็งตรงนั้นแล้ว”

       ไม่ทันที่เนเน่จะตอบอะไร ดลก็รีบดึงมือเนเน่ออกไปทันที เนเน่ก็วิ่งตามออกไปโดยดี สมุนอีก 2 คนเห็นหลังของเนเน่ไวๆจึงยิงตามออกไป

“เอ้ยนั่น มันอยู่ตรงนั้น เก็บมันให้ได้ ฆ่าให้หมด อย่าให้รอดกลับออกไปได้”

     ดลรีบจูงมือเนเน่วิ่งหลบกระสุนพร้อมกับกอดเนเน่เอาตัวบังเอาไว้  

“ใครวะ เก่งจริงอย่าหนีซิ” หัวหน้าโกดังหลุดปากออกมาอีกครั้ง พร้อมกับสาดกระสุนที่ถืออยู่ในมือไม่นับ

“เห้ย ทางนี้” ดลทำให้หัวหน้าคนนั้นสับสน พอเจ้านั่นเห็นอีกครั้ง ดลก็มีคนยืนขวางอยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว

       ดลจึงผลักเนเน่ออกไปเพื่อจะได้ปลอดภัย เนเน่กระเด็นไปใส่กล่องลังกระดาษที่ตั้งอยู่กระจายทันที จากนั้นดลก็ชกเข้าไปเต็มๆที่ใบหน้าของหัวหน้าคนนั้น แล้วตีลังกาหลบออกไปก่อน พอตั้งตัวได้ก็กระโจนใส่หัวหน้าคนนั้นทันที ดลสู้กับพวกนั้นด้วยมือเปล่า โดยไม่ได้มองเนเน่ว่าเป็นยังไงเพราะไม่มีโอกาส

      ชายอีกคนวิ่งมาดึงตัวเนเน่ขึ้นมา แล้วตบหน้าไม่นับไม่ให้เนเน่ตั้งตัว เนเน่ล้มคว่ำลงอีกครั้ง เนื่องจากผู้ชายร่างใหญ่กว่าเนเน่มาก เนเน่จึงทำอะไรไม่ได้ ชายคนนั้นเดินเข้าไปกระทืบหลังเนเน่อีกครั้ง จนเนเน่หมดสิทธิ์ลุกขึ้นมา ดลหันไปเห็นเนเน่กำลังเสียเปรียบ จะออกไปช่วยก็ทำไม่ได้ เพราะคนที่กำลังต่อสู้อยู่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ไปเลย

     เนเน่กำลังแย่ โดนทั้งเตะและต่อย เหวี่ยงกระเด็นลงไปติดกับลังใบใหญ่จุกซิงานนี้ เนเน่ทรุดตัวนั่งลงเอามือจับท้องตัวเองไว้เพราะกำลังมึน ไม่มีแรงที่จะทำอะไรเลย ชายร่างใหญ่กำลังวิ่งตรงมาจะเอาท่อนเหล็กตี ทันใดนั้นเองก็มีอาวุธลับมาจากทางไหนไม่รู้ ดาวกระจาย 5 แฉกอาวุธลับประจำตัวของเผด็จ มาโดนมือขวาของชายคนนั้น

“อ๊าก” ชายคนนั้นร้องโหยหวนออกมาทันที

“ดาวกระจาย 5 แฉก พ่อ พ่อจริงๆด้วย” ท่อนเหล็กหลุดลงจากมือทันทีต่อหน้าเธอ

       แล้วร่างของชายลึกลับก็ปรากฏออกมาจากความมืด เขาเดินออกมาอย่างช้าๆ และทำมือส่ายไปมา

“ไม่ไหวเลย เอาเปรียบคู่ต่อสู้นี่หว่า รูปร่างคนละขนาดกันเลย แกมันต้องกับฉัน”

       เสียงปลอมที่ดังออกมาถึงจะดูใหญ่และกังวานยังไงเนเน่ก็จำได้

“พ่อ” เนเน่พูดได้พักนึงก็เงียบ สลบไปเพราะจุกและเจ็บ ส่วนชายลึกลับคนนั้นก็ต่อสู้กับชายร่างใหญ่อยู่พักใหญ่ ไม่นานชายลึกลับก็เป็นฝ่ายชนะ และรีบอุ้มเนเน่ขึ้นรถจิ๊บของเขาออกจากที่นั่นทันที

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 4 .. “ ออกศึก”

5 กรกฎาคม 2565
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป