ข้ามภพมาเป็นแม่ของวายร้าย...เด็กทั้งห้าที่นางเลี้ยงต้องโตมาเป็นคนชั่วภารกิจของนางไม่ใช่แค่ต้องเลี้ยงให้ดีแต่ยังต้องหาอาหาร เสื้อผ้าให้อีกด้วย
ข้ามภพมาเป็นแม่ของวายร้าย...เด็กทั้งห้าที่นางเลี้ยงต้องโตมาเป็นคนชั่วภารกิจของนางไม่ใช่แค่ต้องเลี้ยงให้ดีแต่ยังต้องหาอาหาร เสื้อผ้าให้อีกด้วย
เฉียวเหลียนเหลียน เดินตามเสียงร้องขอความช่วยเหลือไป หญิงสาวเห็นหลุมขนาดใหญ่มีเสียงดังมาจากหลุมลึกนั้น นางค่อยๆยืดหัวออกไปดูอย่างระมัดระวัง เห็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงคู่หนึ่ง
กำลังร้องตะโกนเรียกให้คนช่วยดังมาจากในหลุม เด็กผู้ชายอายุห้าหกขวบคนหนึ่งขาไม่ค่อยดีเขาจึงปีนออกจากหลุมไม่ได้ ส่วนเด็กผู้หญิงอายุราวๆเจ็ดแปดขวบหน้าตาสวยงามหากรูปร่างกลับผอมบางมีดวงตาระแวดระวังภัยราวกับสัตว์ป่าตัวน้อยๆ เมื่อเด็กๆเห็นเฉียวเหลียนเหลียน เขาพากันหุบปากลงทันที สีหน้าเปลี่ยนเป็นตระหนกตกใจ
“ท่านแม่ พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะไม่กลับบ้าน เด็กผู้ชายโอดครวญ “ข้าขาไม่ดีเลยไถลลื่นตกมาในหลุม พี่รองลงมาช่วยข้าแต่หลุมลึกเกินไป เราปีนขึ้นไม่ไหว”
เขาพยายามจะปีนขึ้นออกจากหลุมหากขาที่พิการข้างนั้นกลับไม่มีแรงที่จะปีนป่ายขึ้นไปจนทำให้ลื่นตกลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เอาล่ะๆ “เฉียวเหลียนเหลียนขมวดคิ้ว นางรู้สึกปวดหัวตุบๆขึ้นมา เจ้าของร่างเดิมจากไปเป็นชาติแล้วแต่ทิ้งปัญหาไว้ให้คนที่มาทีหลังอย่างนางจัดการ เด็กๆพวกนี้ดูขี้อายกันแต่จริงๆแล้วกลับซ่อนความเกลียดชังไว้ในแววตายกเว้นกู้เกอที่อายุน้อยที่สุดแล้วเด็กที่เหลือล้วนแล้วแต่กระหายอยากฆาตกรรมนางกันทุกคน
“รอก่อน” นางหันรีหันขวางมองไปทั่ว หลังจากนั้นจึงเจอกิ่งไม้ค่อนข้างแข็งแรงดี หญิงสาวจึงยื่นปลายอีกด้านหนึ่งไปที่ข้างล่างของหลุมแล้วพูดเสียงดังว่า
"จับปลายไม้นี้ไว้ ข้าจะดึงเจ้าขึ้นมาเอง “
เด็กชายดูหวาดกลัวหากเขาก็ยื่นมือออกมาจับกิ่งไม้เอาไว้อย่างไม่เต็มใจ ในความทรงจำของเขาแม่เลี้ยงงมักทุบตีเขาเสมอบางคร้ังก็แสดงความเมตตาขึ้นมาบ้างเพื่อหยอกล้อเขาแต่พี่ชายและพี่สาวต่างพากันบอกให้เขาอดทนเข้าไว้ เพราะตอนนี้เรายังไม่สามารถจัดการอะไรกับนางได้ พวกเขาจึงได้แต่เสแสร้งเชื่อฟังนาง เด็กชายรู้ทั้งรู้ว่า นางอาจจะแกล้งเขาอีก หากเขาก็ยังคว้าจับไม้เอาไว้ พร้อมกับหลับตา ได้ยินเสียงนางพูดว่า “จับแน่นๆ” นาทีถัดมาเขารู้สึกว่าร่างกายถูกดึงขึ้นไป กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งก็มายืนที่ปากหลุมนั้นแล้ว เฉียวเหลียนเหลียนแม่เลี้ยงใจร้ายดึงกิ่งไม้ออกจากมือของเขา มองเขาด้วยความเป็นห่วง”เป็นอย่างไรบ้างหนาวไหม?” เด็กชายพูดไม่ออก นี่ไม่เหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้เลย
“ไม่เป็นไร” เฉียวเหลียนเหลียนหันไปดึงพี่สาวเขาขึ้นมาจากหลุมอีกคนแล้วถามเขาว่า “พี่ใหญ่เจ้าอยู่ไหน?”
พี่ใหญ่ กู้เฉิงเป็นคนโตสุดในบรรดาพี่น้องทั้งห้าคน ปีนี้อายุเก้าขวบ มีบุคลิกมืดมน เฉยเมย และเป็นจอมวายร้ายที่โหดเหี้ยมที่สุดในนิยายเรื่องนี้ เพราะความโฉดและโหดเหี้ยมของเขานี่เอง หญิงสาวจึงจำเขาได้อย่างแม่นยำ “พี่ใหญ่ไปก่อนแล้ว…”
หญิงสาวเม้มปาก ไม่คิดว่าจะโหดร้ายตั้งแต่เด็กทิ้งน้องสองคนที่ยังเล็กๆไว้ในหลุมทั้งๆที่อากาศหนาวขนาดนี้ อย่างที่นางคิดไว้จริงๆ เขาเป็นจอมวายร้ายตัวใหญ่ในนิยายนี่นะ “เอาล่ะ กลับกันก่อนเถอะ ไม่ต้องกังวลหรอก” นางถอนหายใจ ลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ เฉียวเหลียนเหลียนเดินกลับบ้านที่ทั้งเก่าและโทรมของนางพร้อมเด็กน้อยทั้งสองคน ระหว่างทางพบกับเพื่อนบ้านที่เดินสวนมาอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้
เมื่อนางเดินกำลังจะเข้าหมู่บ้าน หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งวิ่งมาหาพร้อมกับตะกร้าบนหลัง นางตะโกนด่าเฉียนเหลียวเหยียวอย่างหยาบคาย
“เจ้า! ช่างเป็นหญิงใจร้ายจริงๆ เด็กน้อยมีความผิดอะไรถึงได้รังแกกันขนาดนี้ สมควรแล้วที่บ้านแม่ผัวจะไล่เจ้าออกมาแบบนี้ “
เฉียวเหลียนเหลียนชะงักฝีเท้า ช่วงหกเดือนที่ผ่านมานางได้ยินคำพูดถากถางเสียดสีแบบนี้มาตลอด ส่วนใหญ่แล้วไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงได้ทารุณเด็กขนาดนี้ มีเพียงป้าจางเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ด่าว่านางเป็นเพราะลูกชายคนโตของนางไม่มีบุตรสืบสกุลดังนั้นจึงนางต้องการรับกู้เฉิงเป็นหลานชาย หากทว่าเฉียวเหลียนเหลียนไม่ยินยอม ทั้งสองจึงได้ด่าทอทะเลาะวิวาทกันมาตลอด
แต่เฉียวเหลียนเหลียนไม่ใช่คนเดิมแล้ว นางเพียงแต่ชายตามองป้าจางก่อนจะสาวเท้าเดินต่อไป
นางจางตกตะลึงหากแต่แล้วกลับตะโกนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ “ดูหญิงใจร้ายผู้นี้สิ! ดูสิว่านางทำอะไรลงไป เด็กไร้เดียงสาสองคน เจ้าคิดจะฝังเด็กทั้งเป็นๆอย่างนั้นหรือ?..ช่างเป็นแม่เลี้ยงใจเหี้ยมเหลือเกิน “
ในหมู่บ้านกู้เจี่ยแห่งนี้ หากใครทุบตีเด็กภายในครอบครัวคนนอกจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการเอาชีวิตคนแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้จึงมีผู้คนรวมถึงชายหลายคนถือจอบถือเสียมยืนดูอยู่อย่างดุดัน
เฉียวเหลียนเหลียนขมวดคิ้ว นางไม่ทนป้าจางอีกต่อไปหญิงสาวยืนขึ้นพูดว่า
“ป้าจาง ! ป้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าเห็นว่าเด็กทั้งสองคนออกไปข้างนอกนานแล้วข้าจึงไปตามเขา หากข้าคิดร้ายกับเด็กสองคนนี้ เขาจะยืนอยู่ตรงนี้ได้หรือ? "
"ป้าจางระวังคำพูดของท่านด้วย"พูดแล้วนางก็จับมือเด็กทั้งสองคนออกมา
ป้าจางไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ นางอยากได้กู้เฉิงมาให้ลูกชายเพื่อมีทายาทสืบสกุลแต่ดูเฉียวเหลียนเหลียนจะไม่ยินยอม
นางหันรีหันขวางแต่แล้วก็หยุดสายตาที่เด็กทั้งสองคน
"ให้กู้โหลวกับกู้เชวี่ยพูดเถอะว่าเจ้าทำอะไรกับพวกเขา"
ลางสังหรณ์ไม่ดีผลุดขึ้นมาในใจของเฉียวเหลียนเหลียนเหลียนทันที กู้เชวี่ยก้มศีรษะลงพูดเสียงเบาๆว่า
"ท่านแม่พาพวกข้าไปที่หลุมดักสัตว์…" นางจงใจพูดให้คลุมเครือ เมื่อทกคนได้ยินจึงพากันคิดว่านางเจตนาพาเด็กไปที่หลุมดักสัตว์เพื่อทำร้ายพวกเขา ตอนนี้ชาวบ้านต่างพากันจ้องนางเขม็งด้วยความโกรธ แม้แต่ป้าจางยังอดทำหน้าภาคภูมิใจไม่ได้ เฉียวเหลียนเหลียนปล่อยมือกู้เชวี่ยที่นางจับเอาไว้ นาวไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าลูกติดนางคนนี้อายุเพียงแค่แปดขวบจะมีแผนการที่ลึกซึ้งจนกระทั่งใส่ร้ายนางได้ หญิงสาวตัดสินใจจะสอนบทเรียนกับสาสน้อยคนนี้ เฉียนเหลียวเหลียวหันไปมองกู้เชวี่ยอย่างประหลาดใจ
"เชวี่ยเอ๋อ .. เจ้าพูดแบบนั้นได้อย่างไร" น้ำตาของนางค่อยๆเอ่อขึ้นน้ำตาของนางค่อยๆเอ่อขึ้นในดวงตา
เสียงนางดังขึ้นจนกลบเสียงผู้คนรอบๆตัว เฉียวเหลียนเหลียนเปิดฉากการแสดงของนาง
“เจ้าอย่าได้ตำหนิข้าเลย ถ้าหากข้าต้องการทำร้ายเจ้า เจ้าจะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้หรือ ข้าให้เจ้าช่วยทำงานเพราะเจ้าเป็นพี่สาวคนโตหากเจ้าไม่ช่วยข้าแล้ว ลำพังตัวข้าจะเลี้ยงเด็กๆถึงห้าคนได้อย่างไร บิดาเจ้าข้าก็ไม่เคยได้พบหน้า ข้าจะเลี้ยงพวกเจ้าต่อไปได้อย่างไร? ว่าแล้วหญิงม่ายอย่างนางก็ปิดหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง ทุกคนที่เห็นจึงตระหนักได้ว่าเฉียวเหลียนเหลียนนั้นอายุแค่สิบห้าปีเท่านั้นเองแก่กว่ากู้เฉิงเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่นางจะเลี้ยงเด็กน้อยถึงห้าคน คาวามโกรธของทุกคนพลันหายไปเกิดเป็นความอับอายขึ้นมาแทน
ตอนนี้เองที่เฉียวเหลียนเหลียนสะอึกสะอื้นครั้งแล้วครั้งเล่าเงยหน้าขึ้นพูดว่า
“เป็นเพราะข้าเลี้ยงเด็กพวกนี้ไม่ได้ ไม่รู้ว่ามีใครอยากจะรับเด็กพวกนี้ไปช่วยข้าเลี้ยงหรือไม่? พวกเขาเป็นพี่น้องกันไม่สามารถแยกจากกันได้ พวกท่านใจดีมีเมตตาก็ช่วยข้ารับเอาไปเลี้ยงทีเถอะ”