ข้ามภพมาเป็นแม่ของวายร้าย...เด็กทั้งห้าที่นางเลี้ยงต้องโตมาเป็นคนชั่วภารกิจของนางไม่ใช่แค่ต้องเลี้ยงให้ดีแต่ยังต้องหาอาหาร เสื้อผ้าให้อีกด้วย
ข้ามภพมาเป็นแม่ของวายร้าย...เด็กทั้งห้าที่นางเลี้ยงต้องโตมาเป็นคนชั่วภารกิจของนางไม่ใช่แค่ต้องเลี้ยงให้ดีแต่ยังต้องหาอาหาร เสื้อผ้าให้อีกด้วย
“พานางไปหาหมอไหม?”
“นางเป็นคนตระกูลกู้ อย่าไปสนใจนางเลย ปล่อยให้ตายไปเถอะ…”
เสียงคนที่ได้ยินมาแว่วๆค่อยๆแผ่วหายไป เฉียวเหลียนยี่รู้สึกปวดหัวราวกับหัวนางแทบจะระเบิดออกมา หญิงสาวแตะหน้าผาก และก่อนที่นางจะได้ลืมตาขึ้นมา ความทรงจำอันหลากหลายก็พุ่งไหลบ่าเข้ามาในจิตใจของนางอย่างห้ามไม่ได้
หญิงสาวเดิมชื่อเฉียวเหลียนเหลียนครอบครัวเดิมแย่มาก นางมีบิดาที่ติดเหล้าและชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัว มีพี่ชายที่ใจดีแต่มารดานางกลับเกียจคร้านและดื้อรั้น เฉียวเหลียนเหลียนนั้นเหมือนถั่วงอก แม้จะถูกรังแกหากกลับเติบโตขึ้นทุกวัน
พอนางอายุได้สิบห้าปี พ่อกับแม่ก็จับนางแต่งกับผู้ชายที่มีภาระด้วยเงินเพียงสองตำลึง
ทำไมถึงเป็นผู้ชายที่มีภาระ…นั่นเป็นเพราะบุตรชายคนที่สามของตระกูลกู้เคยแต่งงานแล้วและมีลูกถึงห้าคนด้วยกัน เมื่อนางแต่งกับเขานางจะกลายเป็นแม่เลี้ยงไปทันที ใครจะอยากเป็นแม่เลี้ยงของเด็กถึงห้าคนกันเล่า…
เฉียวเหลียนเหลียนไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อต้านแต่อย่างใด นางถูกมัดตัวแล้วส่งไปยังห้องเจ้าสาวในคืนนั้น โชคยังดีที่พระเจ้ายังไม่ได้ลืมนางเสียทีเดียว ในคืนนั้นก่อนที่นางจะได้เจอกับสามี จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่มาเรียกไปเป็นทหาร ก่อนหน้านั้นพี่คนโตของตระกูลกู้ได้รับการคัดเลือกให้ไปเป็นทหารแต่พอถึงเวลากลับกลายเป็นว่ามาจับเอาตัวบุตรคนที่สามจากตระกูลกู้ไปแทน
เจ้าสาวใหม่ไม่มีโอกาสที่จะเห็นหน้าสามีที่เพิ่งแต่งงานกันแต่กลับถูกบังคับให้กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อยถึงห้าคน ในตอนแรกตระกูลกู้ก้ยังให้นางได้ดื่มได้กินเลี้ยงดูนาง แต่หลังจากที่ได้รับข่าวการเสียชีวิตของบุตรคนที่สามของตระกูลกู้แล้ว เฉียวเหลียนเหลียนก็โดนไล่ออกจากบ้านพร้อมลูกของนางทั้งห้าคน
เดี๋ยวนะ !! ทำไมโครงเรื่องนี้มันช่างคุ้นๆเหลือเกิน นี่มันนิยายออนไลน์ที่นางอ่านฆ่าเวลายามว่างนี่ เด็กๆเหล่านี้โตขึ้นแล้วกลายเป็นวายร้าย ทุกคนล้วนมีนิสัยที่โหดเหี้ยม อำมหิตจนแทบจะต้องรอขอชีวิตกันเลยทีเดียว …
เด็กๆตัวร้ายพวกนี้ถูกเลี้ยงดูมาโดยแม่เลี้ยงคนเดียวกันนี่เอง ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนใจคอโหดร้ายและเห็นแก่ตัวมาก เป็นเพราะนางโดนไล่ออกจากครอบครัวของสามีนาง นางจึงระบายความโกรธ ความชิงชังใส่เด็กๆเหล่านี้ ให้พวกเขาทำงานหนักต่างนานา สุดท้ายก็พยายามขายเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆให้กับซ่องคณิกา เด็กเหล่านี้เมื่อโตขึ้น อาญชกรรมที่ทำเป็นครั้งแรกคือร่วมมือร่วมแรงกันฆ่านางให้ตาย…
แม้ว่านักเขียนจะเขียนถึงนางแค่ไม่กี่บทก็ตามที แต่เฉียวเหลียนยี่ก็จำได้อย่างชัดเจน
ให้ตายเถอะ!! นางหลุดเข้ามาในนิยายออนไลน์เรื่องนี้หรือ???
ไม่นะ!! ไม่นะ!!
หญิงสาวพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเด็กน้อยสองคนสวมเสื้อคลุมสกปรกเก่าคร่ำคร่า คนหนึ่งนั่งตาลอยอยู่ส่วนอีกคนติดจะขี้อายนั่งซุกตัวดูนางอยู่ที่มุมห้อง
“น้องสาว..แม่ตายแล้วหรือ?” เด็กชายตัวเล็กๆอายุประมาณแค่ห้าหกขวบเท่านั้น ดูท่าจะไม่ได้กินอาหารอย่างเพียงพอมานานแล้ว น้ำเสียงที่พูดจึงอ่อนแรงยิ่งนัก
“ท่านลุงบอกว่าแม่ตายแล้ว แม่ตายแล้วจริงๆ” เด็กหญิงขี้อายอายุราวสองหรือสามขวบเท่านั้น แต่กลับดูผอมแห้งแรงน้อยราวกับจะตายได้ทุกเมื่อ เฉียวเหลียนยี่ไม่ใช่คนที่เห็นอกเห็นใจใครเท่าใดนัก แต่เมื่อเห็นเด็กสองคนนี้ หัวใจของนางกลับอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว
“ตายแล้วหรือ? ดีจัง…” เด็กชายตัวน้อยยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมา
เฉียวเหลียนเหลียน “........”
“ข้ายังไม่ตาย” นางพูดด้วยความโมโห ลุกขึ้นมองไปรอบๆแล้ว เดินไปหาเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่มุมห้อง จู่ๆเด็กหญิงตัวเล็กๆก็ตกใจตัวสั่นขึ้นมารีบตะโกนร้องว่า “แม่..แม่.ข้าเป็นเด็กดี ข้าจะเชื่อฟัง.. แม่อย่าตีข้า ..อย่าตีข้าเลย”
นางถอนหายใจหลายครั้ง นี่คงจะเป็นน้องคนสุดท้องที่ชื่อกู้เกอ เด็กหญิงเป็นเด็กที่น่ารักและมีเหตุมีผลที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งห้าคน หากนางกลับโดนเจ้าของร่างเดิมทำร้ายและทรมานมากที่สุดเช่นกัน
“ไม่ต้องกลัวนะ” หญิงสาวลูบหัวเด็กน้อยเบาๆแล้วกอดนางไว้ในอ้อมแขน “แม่ไม่ตีเจ้าหรอก”
เฉียวเหลียนเหลียน เห็นว่าพื้นนั้นเย็นมาก อากาศก็หนาว นั่งบนพื้นนานๆจะทำให้เด็กน้อยไม่สบายไปได้
เด็กหญิงตัวเล็กๆยังคงตกใจมาก เมื่อเฉียวเหลียนเหลียนวางนางลงบนเตียง นางกระถดตัวเข้าไปที่มุมเตียงอย่างรวดเร็ว
เจ้าของร่างเดิมทำอะไรให้เด็กน้อยกลัวกันมากขนาดนี้
“เจ้าด้วย” นางกอดเด็กชายไว้แนบอก พี่น้องสองคนพพากันซุกตัวที่มุมเตียงอย่างหวาดกลัวร่างสั่นเทิ้มไปกันหมด
“ทำไมเหลือแค่เจ้าแค่สองคนเท่าเล่า?” ในความทรงจำของนางต้องมีเด็กถึงห้าคนไม่ใช่หรือ…
“พี่ใหญ่กับพี่รอง ออกไปหาของกินกัน” เด็กน้อยพูดอย่างขลาดกลัว “ข้า..ข้าก็ควรไปด้วย แต่พี่ชายว่า ข้าตาไม่ค่อยดีให้รออยู่ที่บ้าน ท่านแม่อย่าโกรธข้าเลย …ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” เขาลนลานรีบคลานออกมาจนเกือบจะตกเตียง เพราะตาไม่ดี
เฉียวเหลียนเหลียนรีบจับตัวเขาไว้
“ไม่ต้องๆ เจ้าอยู่บ้านเถอะ”
ใจร้ายเหลือเกินปล่อยเด็กๆออกไปหาอาหารกันในยามที่อากาศหนาวขนาดนี้ เฉียวเหลียนเหลียนห่มผ้าให้เด็กน้อยทั้งสองคนก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอก
คนตระกูลกู้จิตใจโหดเหี้ยมยิ่งนัก นับแต่สามีของนางตายก็ไล่นางออกมาจากบ้านพร้อมกับเด็กเล็กๆ ให้มาอยู่ที่บ้านเก่ารกร้างซอมซ่อ แล้วไม่สนใจไยดีพวกนางอีกเลย
บ้านหลังเก่าทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ผนังบ้านทำจากโคลน หลังคามุงจาก กำแพงบ้านก็พังทลายจนแทบไม่เหลือที่จะกั้นอะไรไว้ได้
ตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูหนาว อาาศหนาวเย็น ด้านนอกมีเกล็ดหิมะล่องลอยอยู่ในท้องฟ้า อากาศแบบนี้ทำให้ผู้คนหนาวตายได้ เฉียวเหลียนเหลียนกังวลกับเด็กๆ หญิงสาวคว้าหมวกไม้ไผ่ที่ผุพังแล้วรีบออกไปตามหาเด็กๆ
หมู่บ้านกู้เจี่ย อยู่ไม่ไกลจากภูเขามากนัก มีข้อดีคือสามารถหาอาหารในภูเขาได้ อีกทั้งคนในหมู่บ้านเองก็เชี่ยวชาญในการล่าสัตว์มาก ข้อเสียก็คือมีความอันตรายมากหากเจอกับสัตว์ร้ายที่หิวโหยหรือแม้แต่กับดักของนายพราน เฉียวเหลียนเหลียนค้นหาเด็กๆไปตลอดเส้นทางภาวนาให้เจอพวกเขาก่อนที่จะเจอกับอันตรายใดๆ หญิงสาวพิงต้นไม้ใหญ่หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างนี้ช่างผอมแห้งจนน่าเวทนา อีกทั้งอากาศก็หนาวเย็นมาก หากได้น้ำร้อนสักถ้วยก็น่าจะดีไม่น้อย
ทันที่ที่นางคิดน้ำร้อนถ้วยหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในฝ่ามือข้างขวาของนาง
เฉียวเหลียนเหลียนร้อนมากจนแทบจะโยนถ้วยน้ำทิ้ง หญิงสาวใช้มือซ้ายงอเข้าไปในแขนเสื้อแล้วใช้ชายผ้าตรงแขนเสื้อจับถ้วยน้ำร้อนอีกที
ไออุ่นจากนำ้ร้อนพุ่งมาปะทะหน้านาง จนรู้สึกอุ่นสบาย เมื่อน้ำไม่ร้อนมากแล้วนางจึงจ้องไปที่ถ้วยแก้วใบนั้น ถ้าจำไม่ผิดนี่น่าจะเป็นถ้วยน้ำร้อนที่นางเทไว้ในห้องทดลองก่อนที่จะออกไปซื้อถ้วยใหม่
พระเจ้า!!ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ? หญิงสาวตกตะลึงไปหมดแล้ว ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงแว่วมาจากไกลๆ เฉียวเหลียนเหลียนหาที่ซ่อนแก้ว แต่พบว่าไม่มีที่จะซ่อนตรงไหนได้ นางคิดในใจว่า ถ้าแก้วใบนี้หายไปได้ก็ดีนะสิ ทันทีที่คิด แก้วใบนั้นกลับอันตธานหายไป ดวหายใจงตาของนางเบิกกว้างขึ้นอย่างประหลาดใจ หลังจากหายตกใจจนตัวแข็งทื่อแล้ว นางจึงหันกลับเดินไปยังทิศที่มาของเสียงนั้น หญิงสาวเดินเร็วขึ้น ดูเหมือนเสียงร้องน่าจะมาจากเด็กๆ
“ช่วยด้วย !! “
“ช่วยด้วย!!”