Your Wishlist

ขอโทษที! ความโกงของฉันคือเวลาบัพไม่จำกัด (บทที่ 50)

Author: Turtle Shell and Hemp Rope (Akira แปล)

กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!

จำนวนตอน : 500+

บทที่ 50

  • 20/07/2565

หลังจากที่เวลาผ่านไป 3 ชั่วยาม เจียงหลีก็ใช้วิชาสัมผัสทั้ง 5 ได้เป็นครั้งแรก

 

แต่ผลของมันก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับตัวเขา นี่แสดงให้เห็นว่าค่าความตระหนักรู้ของเขาที่ 1.1 แต้มนั้นไม่ถือว่าดีสักเท่าไหร่

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มใช้วิชาสัมผัสทั้ง 5 ดังนั้นผลลัพธ์ที่เขาคาดหวังไว้จึงออกมาไม่ค่อยดีนัก นอกจากว่าเขาจะสามารถเปิดทวารได้เพียง 2 แห่งแล้ว เขายังใช้มันได้เพียง 3 วินาทีเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม แถบสถานะที่ปรากฏขึ้นทันควันและความชัดเจนของประสาทสัมผัสที่เชื่อมโยงกันทำให้เขารู้สึกแอบใจชื้นอยู่บ้าง

 

มันเป็นอย่างที่เขาคาดไว้ วิชาควบคุมผีดิบซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับเขาสามารถใช้เป็นตัวเชื่อมกับวิชาสัมผัสทั้ง 5 ได้

 

เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว..

 

เจียงหลีใช้เวลาคิดทบทวนอยู่สักครู่ ก่อนที่เขาจะใช้วิชาสัมผัสทั้ง 5 อีกครั้ง เมื่อบัฟ [เสริมประสาทสัมผัสทั้ง 5] ปรากฏขึ้น เขาก็กดปุ่มบวก 1 ครั้ง ทำให้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 63 วินาที

 

การกดปุ่มบวกเพียงครั้งเดียวจะเพิ่มระยะเวลาขึ้น 60 วินาที พอเขากดค้างไว้ 5 วินาที ระยะเวลาจะกลายเป็นไม่จำกัด

 

[เสริมประสาทสัมผัสทั้ง 5: ประสาทหูและตาเชื่อมโยงกัน ระยะเวลา: ไม่จำกัด] (-)

 

หลังจากบัฟของเด็กหนุ่มมีระยะเวลาไม่จำกัด การเชื่อมต่อที่เขารู้สึกเหมือนกับว่าจะถูกตัดขาดเมื่อใดก็ได้ ในที่สุดก็ราบรื่นขึ้นมาทันที

 

สรุปก็คือ…หากเขาเชื่อมประสาทตาและหูเข้าด้วยกัน ทวารทั้ง 2 ก็จะรวมเป็นหนึ่ง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วเพราะตามปกติปากกับจมูกไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับผีดิบอยู่ดี

 

ในทางกลับกัน 'ลิ้น' ที่เป็นทวารที่ 5 กลับแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ดังนั้นเจียงหลีจึงยังไม่สนใจมัน

 

เมื่อเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่รอช้าอีกต่อไป ถัดมาเด็กหนุ่มค่อย ๆ ตั้งสมาธิและเชื่อมโยงวิสัยทัศน์กับการได้ยินของเขาเข้ากับผีดิบสีดำผ่านตัวเชื่อมทวารทั้ง 2 

 

ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าเขามีตาและหูเพิ่มอีก 2 คู่ แม้ว่าประสาทสัมผัสที่ทับซ้อนกันจะทำให้เขารู้สึกสับสนอยู่บ้างก็ตาม

 

ปัจจุบันเขายังไม่สามารถใช้วิชานี้พร้อมกับทำอย่างอื่นได้ เพราะฉะนั้นในเวลานี้เขาจึงต้องมุ่งความสนใจไปที่การควบคุมผีดิบสีดำเท่านั้น

 

ภาพที่เขาเห็นตอนนี้คือ เบื้องหน้ามีของเหลวสีขุ่นและในโสตประสาทของเขาได้ยินเสียงอื้ออึงที่เกิดจากแรงดันน้ำสูงในแม่น้ำ

 

เมื่อเทียบกับประสบการณ์ตอนที่เจียงหลีดำน้ำครั้งก่อน การเคลื่อนตัวในครั้งนี้ให้ความรู้สึกช้ากว่าเดิมเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมาก

 

ในขณะนี้ ผีดิบสีดำยังคงนอนอยู่ในน้ำนิ่งขณะที่ปล่อยตัวไหลไปตามน้ำที่ไหลเอื่อยเฉื่อยโดยที่ไม่มีอุปสรรคใดมากีดขวาง

 

ทว่าเมื่อเจียงหลีควบคุมผีดิบสีดำให้ดำดิ่งลงไปในน้ำและพลิกตัวไปอีกฝั่ง ฉากตรงหน้าเขาก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก

 

ในน้ำที่ขุ่นมัวมีเปลวไฟสีเขียวน่ากลัวและแปลกตากำลังลอยเด่นอยู่

 

แล้วใต้เท้าของผีดิบสีดำก็มีกระดูกที่เน่าเปื่อย เช่นเดียวกับซากศพขึ้นอืดที่กำลังเปื่อยยุ่ย ประกอบกับซากแขนขานับไม่ถ้วนเกลื่อนพื้นเหมือนใบไม้โรยราในป่าที่ปกคลุมพื้นแม่น้ำเป็นชั้น ๆ

 

แม้ว่าเขาจะเปรียบเปรยได้เกินกว่าความเป็นจริง แต่ซากพวกนั้นก็มีจำนวนมากจนน่าขนลุกขนพอง! มันดูสยดสยองกว่าสุสานสำนักชั้นนอกของสำนักชั่งจิงกู่เป็น 10-100 เท่าเลยทีเดียว!

 

“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?”

 

ร่างจริงของเจียงหลีลืมตาขึ้นและวิ่งไปที่ริมแม่น้ำเพื่อมองลงไปในน้ำ ทว่าเขาก็ยังไม่เห็นอะไรเลย

 

ไม่เพียงเท่านั้น ไผ่หยินหยางที่ลอยอยู่บนผิวน้ำที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบกลับไม่เคลื่อนไหวเลย

 

‘เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น’

 

ในความรู้สึกของเขา ภาพที่เขาเห็นนั้นมันไม่ใช่แค่มโนภาพ

 

ยิ่งกว่านั้น… ยิ่งกว่านั้น ก่อนหน้านี้เขาได้ลงไปใต้น้ำในบริเวณนั้นจนสุดทางแล้วก็ยังไม่เห็นซากศพแม้แต่ชิ้นเดียว 

 

‘เรื่องนี้มันไม่น่าเป็นไปได้!’

 

ทำไมเขาไม่เห็นอะไรเลยตอนที่เขาอยู่ที่นั่น? แล้ว…ผีดิบสีดำเข้าไปที่นั่นได้อย่างไร?

 

เป็นไปได้ไหมว่ามันเป็นสถานที่ที่มีเพียงศพเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้?

 

ในระหว่างที่เจียงหลีคิด สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมาอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็ปลดผ้าคาดเอวทิ้งไว้ที่ริมแม่น้ำแล้วเอาตัวลงไปแช่ในน้ำ จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิลงด้วยท่าทางผ่อนคลาย

 

ยามนี้เขากลับมาเพ่งสมาธิไปที่ผีดิบสีดำอีกครั้ง แล้วควบคุมร่างกายที่แข็งทื่อให้ว่ายขึ้นไปด้านบน

 

สำหรับการควบคุมผีดิบให้ว่ายน้ำออกจากที่แห่งนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก

 

เจียงหลีใช้ความพยายามเพียงไม่กี่ครั้งก็ยอมแพ้และทำได้เพียงควบคุมผีดิบสีดำเพื่อสำรวจต่อไป

 

เขาก้าวไปข้างหน้าพลางเหยียบย่ำกองกระดูกสีขาวที่อยู่ใต้น้ำทีละก้าว

 

ส่วนการมองสำรวจในเวลากลางคืนไม่ใช่ปัญหาสำหรับผีดิบ มิหนำซ้ำยังมีไฟสีเขียวที่กระจายอยู่รอบ ๆ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าที่ช่วยให้เราไม่หลงทิศ ประกอบกับการมองเห็นของเขาที่มีบัฟเสริมทำให้เขาค่อนข้างมองเห็นได้ชัดเจนกว่าคนปกติ

 

ระหว่างที่เด็กหนุ่มควบคุมผีดิบให้เดินต่อ เขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจที่พบว่ามีปลาชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนใต้น้ำที่อันตรายและเต็มไปด้วยปราณหยิน

 

มันเป็นปลาตะเกียงน้ำลึกที่มีลักษณะน่าเกลียดน่ากลัว พวกมันกินซากศพที่เน่าเปื่อยที่ก้นทะเลเป็นอาหาร โดยที่มีโคมไฟดวงเล็ก ๆ ห้อยอยู่ตรงหน้าผากคอยส่องสว่างบริเวณข้างหน้า ตอนนี้มันกำลังลอยเด่นอยู่ใต้น้ำดั่งดวงวิญญาณ 

 

“นี่คือปลาตะเกียงผีใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่าในบันทึกกล่าวว่าปลาจิตวิญญาณชนิดนี้พบเจอแค่ในสมัยโบราณเท่านั้น ตอนนี้มันสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว ข้าไม่คิดว่าจะได้เห็นมันที่นี่”

 

เวลานี้ผีดิบสีดำยังคงเดินหน้าต่อไปในพื้นที่ใต้น้ำที่ลึกและเงียบสงัด มันเหมือนกับนักเดินทางที่หลงทางในทะเลทรายอันกว้างใหญ่จนไม่มีวันได้กลับออกไป

 

แล้วเวลาก็ผ่านไป 1 วัน 1 คืนโดยที่เจียงหลีไม่ทันได้รู้ตัว

 

ในตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสเวิ่งซานฉีได้รับการติดต่อกลับมาอีกครั้งผ่านหินวิญญาณสื่อสารและได้รับข่าวดี

 

เรือเหาะของสำนักได้มาถึงแคว้นอิงหนานแล้วพร้อมกับสามารถนำเด็กทั้ง 2,000 กว่าคนออกไปได้สำเร็จ

 

ผู้อาวุโสยังบอกว่าเมื่อเรือเหาะมาถึงที่นี่ ในเมืองหลวงก็เกิดความวุ่นวาย นักพรตไร้สำนักกลุ่มหนึ่งที่กำลังสร้างปัญหาได้วางแผนที่จะหลบหนีทันทีหลังจากฉกฉวยโอกาสไปเท่าที่จะทำได้ เป็นผลให้เรือเหาะต้องลงมือสังหารพวกโจรในที่เกิดเหตุ

 

แต่น่าเสียดายที่ศิษย์นอกสำนัก 2 ใน 7 คนที่มาทำภารกิจในเมืองต้องเสียชีวิตไปด้วย

 

แน่นอนว่าเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ผู้อาวุโสสำนักจะไม่พูดถึงเลย

 

เห็นได้จากการที่พวกเขาเรียกข่าวนี้ว่า ‘ข่าวดี’

 

หลังจากตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักหลายครั้ง พวกเขาก็ได้รับการยืนยันว่าเด็ก ๆ เหล่านั้นมีรากฐานทางจิตวิญญาณจริง ๆ!

 

ด้วยเหตุนี้ ผู้อาวุโสเวิ่งซานฉีจึงไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาได้ เขามาหาเจียงหลีและพูดให้กำลังใจลูกศิษย์อีกครั้ง โดยบอกว่าเขาต้องการเรียกร้องความดีความชอบให้เด็กหนุ่ม ซึ่งรางวัลที่พวกเขาตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่ปัญหา

 

ในช่วงเวลานี้ ศิษย์ในสำนักคนอื่น ๆ ที่ประจำการอยู่ที่นี่กับผู้อาวุโสเวิ่งก็พากันกลับมาแล้วเช่นกัน

 

พวกเขาแปลกใจไม่น้อยที่มีศิษย์นอกสำนักที่สามารถเข้าฌานได้ตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่มีใครสืบสาวเรื่องราวต่ออีก

 

แต่ละครั้งที่เหล่าศิษย์พักผ่อน พวกเขาจะเข้าฌานเพียงไม่กี่ชั่วยามก่อนจะลงเรือลำเล็กแล้วพายเรือไปตามแม่น้ำ พวกเขามักจะทำตัวยุ่งราวกับว่าตนเองมีเป้าหมายที่ชัดเจน

 

หลังจากเวลาผ่านไปนาน ผีดิบสีดำใต้น้ำก็ยังคงมุ่งตรงไปยังทิศทางเดียว

 

ในที่สุด ณ ช่วงเวลาหนึ่ง เจียงหลีก็ค้นพบว่าเปลวไฟของวิญญาณรอบตัวเขาดูเหมือนจะหนาแน่นขึ้น

 

‘ไม่เป็นไร มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี!’

 

เมื่อคิดอย่างนั้นเขาก็ควบคุมผีดิบสีดำเพื่อปรับทิศทางของมันหลายครั้ง ขณะที่เขาเดินไปด้วยร่างกายที่เป็นผีดิบ เขาสามารถสัมผัสได้ชัดเจนว่าปราณหยินกำลังก่อตัวมากขึ้น

 

ในโลกใต้น้ำ สิ่งที่เห็นได้ที่ชัดเจนที่สุดคือจำนวนกระดูกที่ก้นแม่น้ำลดลง แล้วแทนที่ด้วยซากศพมนุษย์ที่ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดีจำนวนนับไม่ถ้วน

 

น่าสนใจมากทีเดียว!

 

ตอนนี้เขามั่นใจว่าสุสานใต้น้ำแห่งนี้เป็นที่ที่ปีศาจผีดิบซ่อนตัวอยู่ แต่เขายังไม่รู้ว่าสถานที่นี้มีความลับอะไรซ่อนอยู่อีกหรือไม่

 

ขณะนี้เขายังคงควบคุมให้ผีดิบสีดำก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แล้วดูเหมือนว่าเขาจะเห็นโลงศพลอยอยู่ในสุสานใต้น้ำซึ่งห่างไกลจากซากศพจำนวนมากโดยมีเปลวไฟนับไม่ถ้วนล้อมรอบมัน

 

ในเวลานี้ร่างกายของเจียงหลีสั่นเบา ๆ

 

เขาจึงลืมตาขึ้นแล้วก็พบผู้อาวุโสเวิ่งกับศิษย์ในสำนักจำนวนหนึ่งกำลังยืนมองเขาอยู่

 

“เจียงหลี บริเวณนี้มันอันตราย หลังจากนี้เจ้าอย่าเข้าใกล้ริมฝั่งแม่น้ำอีกล่ะ”

 

“ท่านผู้อาวุโส พวกท่านกำลังจะทำอะไรกันหรือขอรับ”

 

ดวงตาของเจียงหลีหรี่ลงพลางพิจารณาสิ่งรอบตัว ตอนนี้ข้างหลังผู้อาวุโสเวิ่งมีศิษย์ในสำนัก 2-3 คนและหุ่นไม้หลาย 10 ตัวกำลังอุ้มศพไว้ในมือ

 

ศพเหล่านี้บางส่วนเป็นสัตว์ร้ายและบางส่วนเป็นมนุษย์ แต่พวกมันทั้งหมดมีลักษณะเหมือนกันก็คือ ตามตัวของศพเต็มไปด้วยแผ่นยันต์

 

แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่ฉลาด!

 

บทที่ 50: สุสานใต้น้ำ

 

-------------------------------------------

อากิระ talk: โลกใต้น้ำมันทั้งน่าหลงใหลและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ส่วนตัวเราค่อนข้างกลัวเวลาอยู่น้ำลึกนะ เพราะเราไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้บ้าง

 

1/6/2022
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า