Your Wishlist

ขอโทษที! ความโกงของฉันคือเวลาบัพไม่จำกัด (บทที่ 7: ก้อนหินก้อนนั้น)

Author: Turtle Shell and Hemp Rope (Akira แปล)

กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!

จำนวนตอน : 500+

บทที่ 7: ก้อนหินก้อนนั้น

  • 12/06/2565

“โอ๊ย! ท่านจอมยุทธ์ ท่านเบามือหน่อยไม่ได้หรือ”

 

เจียงหลีร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บ แต่จอมยุทธ์คนนี้พบว่าท่าทางของอีกฝ่ายดูน่าขบขัน

 

“อดทนไว้ เจ้าหนุ่มน้อย แผลจากการถูกกัดในป่าอย่างนี้เป็นเรื่องที่ลำบากที่สุด หากเจ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เจ้าจะติดเชื้อจากพิษที่ฟันของพวกมัน แล้วเจ้าอาจจะต้องตัดแขนทิ้งเลยนะ”

 

เด็กหนุ่มรู้ว่าพิษที่ฟันของปีศาจร้ายคือสิ่งที่เรียกว่าแผลติดเชื้อ แม้ว่าเขาจะสังเกตเห็นสถานะผิดปกติได้จากอินเทอร์เฟซของระบบ แต่เขาก็ไม่อยากให้น้ำลายที่สกปรกและเหม็นเน่าของปีศาจมัสยายังปนเปื้อนอยู่ในบาดแผล เขาจึงทำได้เพียงทนต่อความเจ็บปวดและพูดคุยกับจอมยุทธ์ต่อ

 

“โอ้… ว่าแต่ท่านจอมยุทธ์ ไอ้ตัวที่โจมตีเราในวันนี้คือตัวอะไร? ทำไมพวกมันดูคล้ายกับมนุษย์มาก?” เจียงหลีถามอย่างตรงไปตรงมา

 

“พวกนั้นคือปีศาจมัสยาที่อาศัยอยู่ในท้องทะเล รูปร่างภายนอกของพวกมันดูเหมือนมนุษย์และสวยมาก”

 

“แต่แท้จริงแล้วทั้งตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกันหมด และพวกมันยังกินมนุษย์เป็นอาหารอีกด้วย”

 

สิ่งที่เขาอยากจะบอกเป็นนัย ๆ ค่อนข้างชัดเจนมาก รูปลักษณ์ที่สวยงามของพวกมันเป็นเพียงอุบายเอาไว้ล่อเหยื่อเท่านั้น

 

คนที่ได้ฟังรู้สึกเย็บวาบไปถึงกระดูกสันหลัง ก่อนหน้านี้เขาก็เคยสงสัยว่าทำไมปีศาจมัสยาถึงดูเหมือนเป็นผู้หญิงทั้งหมด 

 

เหตุผลเป็นแบบนี้เองสินะ…

 

ในทุกวันนี้ แม้แต่ปีศาจเผ่าพันธุ์อื่นก็เริ่มที่จะปลอมตัวเพื่อตบตาฝ่ายตรงข้ามจนกลายเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป

 

“ถ้าอย่างนั้นท่านจอมยุทธ์ ทำไมท่านไม่ฆ่าปีศาจพวกนี้ล่ะ? ทำไมท่านต้องจับพวกมันมาแบบเป็น ๆ”

 

เขาเอ่ยถามพลางชี้ไปที่จอมยุทธ์คนอื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลซึ่งกำลังช่วยกันขนย้ายปีศาจมัสยาที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นแล้วโยนมันกลับเข้าไปในกรงเหล็ก

 

การลอบโจมตีก่อนหน้านี้ทำให้กลุ่มปีศาจมัสยามากกว่าครึ่งหลบหนี ออกจากกรงไป ทว่าตอนนี้พวกมันถูกจับยัดใส่กรงที่ว่างเปล่าอีกครั้ง

 

การถูกปีศาจโจมตีในคืนนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับขบวนรถม้าไม่น้อย แต่การตายของปีศาจมัสยายิ่งทำให้พวกเขาสูญเสียมากยิ่งขึ้นไปอีก แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าปีศาจพวกนี้กำลังตามหาอะไรอยู่

 

“แน่นอนว่าเรากำลังจะเอาพวกมันไปขาย เอาล่ะ ถ้าเจ้ายังพอขยับตัวได้อยู่บ้าง ก็ไปช่วยคนอื่นเถอะ ยังมีคนอีกมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือ” จอมยุทธ์กล่าวจบแล้วก็ถือกล่องยาก่อนจะเดินจากไป

 

เจียงหลีสัมผัสผ้าพันแผลและรู้สึกว่าเคลื่อนไหวได้คล่องตัวกว่าผ้าพันแผลที่เหยียนหงพันให้

 

ต่อมา เขาเหลือบมองที่แผงอินเทอร์เฟซในระบบ แผลที่ถูกกัดนั้นรุนแรงมากจริง ๆ มันทำให้เขาสูญเสียค่าพลังชีวิตไปถึง 77 แต้ม 

 

แม้ว่านี่จะเป็นเพียงค่าคุณสมบัติในแผงอินเทอร์เฟซของตัวละครและไม่สามารถใช้เพื่อกำหนดสภาพจริงของร่างกายได้ แต่มันก็ยังมีประโยชน์ในการนำมาใช้อ้างอิงในเรื่องอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีสถานะ [ติดพิษ] เราจะสามารถใช้ข้อมูลในอินเทอร์เฟซของระบบมาคำนวณหาระยะเวลาเพื่อที่เราจะได้หายาแก้พิษมาใช้แก้สถานะ [ติดพิษ] ให้ทันท่วงที

 

ยาที่จอมยุทธ์ใช้กับเขานั้นมีประสิทธิภาพที่ด้อยกว่ายาดอกหลีฮวาอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงไม่มีบัฟใด ๆ เกิดขึ้นอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจียงหลีมีบัฟฟื้นฟูสองอย่างก็คือ [การรักษาระดับต่ำ] และ [เพิ่มระดับการรักษา] เพียงแค่เขามีบัฟทั้งสองอย่างนี้ ในทุก ๆ ครึ่งชั่วยาม เขาจะสามารถฟื้นพลังชีวิตได้ 6 แต้ม หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 6 ชั่วยาม อาการบาดเจ็บของเขาก็จะหายสนิท

 

สำหรับมนุษย์ทั่วไปแล้ว ความเร็วในการฟื้นฟูร่างกายแบบนี้ค่อนข้างเกินจริงไปสักหน่อย

 

ในฐานะที่เขาเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ เขาไม่จำเป็นต้องเข้าไปช่วยทำความสะอาดที่เกิดเหตุ ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปที่กรงเหล็กเพื่อสังเกตพวกปีศาจมัสยา

 

ขณะนั้นมีจอมยุทธ์คนหนึ่งลากศพของปีศาจมัสยาสองตัวออกมาจากป่าใกล้ ๆ ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกเซียนฆ่าตายระหว่างที่หลบหนี

 

ดูจากสถานการณ์แล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะ ‘จับ’ ปีศาจพวกนี้ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากแม้แต่ยันต์ที่ค่อนข้างอ่อนแอก็สามารถฆ่าพวกมันได้อย่างง่ายดาย

 

สำหรับปีศาจมัสยา เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกับมนุษย์ที่ถูกฝังอย่างถูกต้อง พวกมันแค่ถูกลากมากองรวมกันแล้วสุดท้ายก็ถูกเผาให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

 

จ๋อมแจ๋ม ๆ!

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้นข้าง ๆ เจียงหลี

 

จากนั้นก็มีหัวใครบางคนค่อย ๆ โผล่ออกมาจากอ่างไม้ที่อยู่ในกรงเหล็ก!

 

ไม่นานเด็กหนุ่มก็นึกขึ้นมาได้ว่านี่คือปีศาจมัสยาที่เหยียนหงได้พาเขามาดูหลังมื้อเย็นวันนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทันได้เห็นมัน เนื่องจากพวกเขาถูกจอมยุทธ์ชุดดำขับไล่ออกมาเสียก่อน 

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เจียงหลีรู้สึกสนใจมากยิ่งขึ้น เขาจ้องมองปีศาจตัวนั้นไม่วางตาแล้วสังเกตเห็นว่ามันแตกต่างจากปีศาจตัวอื่น เพราะผมของมันเป็นสีขาวล้วน แต่ดวงตาทั้งสองข้างอยู่ชิดกันมากกว่าดวงตาของมนุษย์ และรูม่านตาไม่ขยายออก

 

ปีศาจตัวนี้พิเศษมาก! ด้วยความที่ว่าเจียงหลีเพิ่งเกิดใหม่บนโลกนี้ เดิมทีเขาก็เป็นคนที่ชอบค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่แล้ว

 

หลังจากเปรียบเทียบมันกับปีศาจตัวอื่นอย่างละเอียด เขาก็ตระหนักว่ากรงของปีศาจมัสยาที่พิเศษนี้มีความแตกต่างจากกรงอื่น ๆ

 

กรงของมันมีแท่งเหล็กที่หนากว่า ประตูเหล็กไม่มีกุญแจล็อกแต่ถูกเชื่อมด้วยเหล็กหลอม อีกทั้งยังมีกระดาษยันต์สี่แผ่นแปะอยู่ที่มุมทั้งสี่ด้านของกรงเหล็ก

 

การที่ได้เห็นแบบนี้ทำให้เจียงหลีเชื่อว่าปีศาจตัวนี้ต้องมีความสำคัญมาก 

 

“เอ๊ะ มันกำลังมองอะไรอยู่?”

 

เด็กหนุ่มสังเกตเห็นว่าปีศาจมัสยาที่มีผมสีขาวกำลังจ้องมองไปทางหนึ่งตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงไม่สังเกตเห็นว่าเขากำลังมองมันอยู่ 

 

เวลาผ่านไปไม่นาน ปีศาจมัสยาอีกตัวก็ถูกจอมยุทธ์ลากออกมาจากป่า

 

สายตาของปีศาจมัสยาผมขาวจ้องมองตามร่างของปีศาจตนนั้นในขณะที่มันค่อย ๆ ถูกลากไปตามทาง

 

ในตอนนั้นเองเจียงหลีก็สังเกตเห็นวัตถุสีดำบางอย่างตกลงมาจากร่างไร้วิญญาณของปีศาจร้าย

 

ทางด้านของปีศาจมัสยาผมขาวก็มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน สายตาของมันเปลี่ยนไปจับจ้องที่วัตถุนั้น

 

“อะแฮ่ม!”

 

เจียงหลีจงใจส่งเสียงขึ้นมาทำลายความเงียบ ทำให้ปีศาจมัสยาผมขาวตกใจจนรีบหลบกลับเข้าไปในอ่างไม้

 

พอเห็นว่ามันไม่โผล่ออกมาอีก เด็กหนุ่มก็เดินไปด้วยท่าทางสบาย ๆ ก่อนจะแสร้งทำผ้าเช็ดหน้าในแขนเสื้อตกลงบนพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วเขาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาพร้อมกับวัตถุสีดำ จากนั้นเขาเดินเตร่ไปรอบ ๆ อย่างไร้จุดหมายสักพักแล้วค่อยกลับไปที่รถม้าของตัวเอง

 

หลังจากยัดกระดาษลงไปในรูเล็ก ๆ ที่เขาทำไว้ก่อนหน้านี้ เจียงหลีก็หยิบผ้าเช็ดหน้าที่หญิงสาวมอบให้เขาขึ้นมาเปิดดูและเห็นหินสีดำขนาดเท่าฝ่ามืออยู่ข้างใน

 

เขาใช้เวลาสำรวจมันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็ได้ข้อสรุปในใจว่ามันดูคล้ายกับหินที่เด็กซนจากขบวนรถม้าคันอื่นโยนเข้าใส่ปีศาจมัสยาเมื่อเย็นวันนี้

 

“ข้าอุตส่าห์ตื่นเต้นมาตั้งนาน แต่กลับได้ก้อนหินธรรมดามาเนี่ยนะ?”

 

แต่เจียงหลียังไม่ปักใจเชื่อ ดังนั้นเขาจึงใช้ทักษะการประเมินกับหินก้อนนี้อย่างรวดเร็ว 

 

[ชื่อ: ก้อนหินที่มีบางอย่างซ่อนอยู่]

 

[ประเภท: ขยะ]

 

[รายละเอียด: ไม่ทราบ]

 

ใช่จริง ๆ ด้วย! มันมีบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใน!

 

นอกจากนี้ เขายังได้กลิ่นเหม็นจาง ๆ มาจากหินซึ่งคล้ายกับหมอกทึบที่เขาได้กลิ่นตอนที่ยังอยู่ในรถม้าก่อนที่ปีศาจมัสยาจะโจมตี

 

เด็กหนุ่มจุดตะเกียงและตรวจสอบก้อนหินในมืออย่างระมัดระวัง ก่อนจะพบว่าบนผิวของมันมีรอยแตกเล็ก ๆ อยู่

 

ตอนแรกเขาคิดว่าจะทุบหินก้อนนี้ทิ้งด้วยความหงุดหงิดไปแล้ว โชคดีที่เจียงหลีเลือกใช้ทักษะการประเมินก่อน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้ว่าข้างในก้อนหินมีของดีซ่อนไว้

 

ในวันต่อมา เขาทำตัวเหมือนเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วพักฟื้นอย่างเงียบ ๆ อยู่ในรถม้าตลอดเวลา

 

ระหว่างช่วงนั้นมีคนพูดถึงกันว่า ในคืนนั้นเหล่าเซียนกลับมามือเปล่า เนื่องจากพวกเขาไม่ได้จับปีศาจร้ายกลับมาด้วย แล้วพวกเขาก็ถูกซุ่มโจมตีจนทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บมากมาย

 

และในคืนดังกล่าว ปีศาจมัสยาผมขาวก็ดูเหมือนจะเสียสติไปแล้ว มันพุ่งชนกรงเหล็กอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้คนในค่ายพักแรมไม่สามารถข่มตานอนหลับได้สักคน หลังจากนั้นมันก็ถูกเซียนกำราบถึงจะยอมสงบลง

 

พอเหตุการณ์นั้นผ่านไป การเดินทางที่เหลือก็ราบรื่นดี อีกทั้งพวกเขาเริ่มเจอหมู่บ้านและเมืองเพิ่มมากขึ้น จนในที่สุดพวกเขาก็เดินทางออกจากป่าอันกว้างใหญ่และเข้าสู่ดินแดนของมนุษย์

 

ความจริงแล้วอาการบาดเจ็บของเจียงหลีหายดีตั้งแต่วันที่ 2 แล้ว แต่เขาไม่เคยถอดผ้าพันแผลออกเลย และเขาเฝ้าคอยเปลี่ยนผ้าพันแผลเองตลอด เมื่อเห็นว่าอาการบาดเจ็บของเพื่อน ๆ หายดีแล้ว เขาจึงถอดผ้าพันแผลออก

 

หลังจากเร่งเดินทางไปตามถนนเรียบอีก 2-3 วัน ศาลาสีแดงเข้มก็ปรากฏขึ้นให้เห็นอยู่ไกล ๆ

 

“พวกเรามาถึงที่หมายแล้ว!”

 

-------------------------------------------

อากิระ talk: เอาจริง ๆ เราอยากมีระบบติดตัวกับเขาบ้างนะ (แต่ถ้าเจอระบบผี ๆ ก็ไม่เอาเด้อ)

 

1/6/2022
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป