เมื่อมองไปที่ดวงตารูปดอกท้อคู่สวย ที่ดูคล้ายกับดวงตาของแม่ โฮวอู่เสิ่นก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
เขาสามารถปฏิเสธผู้หญิงทุกคนด้วยสีหน้าเฉยเมย แต่เขาไม่สามารถเย็นชาใส่น้องสาวคนเดียวที่มีดวงตาเหมือนกับแม่ได้
โฮวอูเสิ่นพยักหน้าเบาๆ
เขาวางแก้วไวน์ที่ถืออยู่ในมือ จากนั้นยกมือขวาขึ้นเพื่อยืดข้อมือซ้ายให้ตรง
เขาเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติและดูงดงาม
เขาเป็นผู้ชายที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงแม้จะอายุเพียงยี่สิบห้า แต่กลับมีรัศมีแห่งอำนาจเปล่งประกายจากตัวเขา
ไม่ว่าสาวเล็กสาวใหญ่ แต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งงาน สายตาของพวกเธอจับจ้องอยู่ที่เขาเพียงคนเดียว
โฮวอูเสิ่นไม่ได้ตระหนักเลยว่ามีผู้หญิงมากมายมองมาที่เขา อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ให้ค่าหรือให้ความสนใจใครเลย
หลังจากยื่นมือออกไปให้โฮวอู่จับอย่างสุภาพบุรุษ เขาพูดกับเธอว่า “มาเถอะ”
มือของโฮวอู่ถูกเขากุมเอาไว้
ขณะนั้นเพลงแรกได้จบไปแล้วและเพลงที่สองกำลังเริ่ม
เพลงวอลทซ์ที่ไพเราะเริ่มบรรเลงอย่างช้าๆ โฮวอู่จับมือของโฮวอู่เสิ่น ขณะที่พวกเขาเคลื่อนตัวไปบนฟลอร์เต้นรำอย่างสง่างาม
แขกคนอื่นที่กำลังจะก้าวเท้าไปบนฟลอร์หยุดชะงัก พวกเขาถอยกลับ เพราะเห็นว่าตัวเอกของงานยืนอยู่บนฟลอร์ ไม่มีใครอยากแย่งซีน
ทั้งฟลอร์จึงมีแต่โฮวอู่และโฮวอูเสิ่น
โฮวอู่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่เคยเป็นนักแสดง
มีละครเรื่องหนึ่งที่เธอต้องเต้นรำ เธอลงทุนจ้างครูสอนเต้นรำมาสอนเธอโดยเฉพาะ เธอตั้งใจฝึกและจำเทคนิคจากครูสอนเต้นให้ได้มากที่สุด
โฮวอู่จึงมั่นใจว่าจะไม่ทำให้ตัวเองขายหน้าต่อหน้าเขาและแขกในงาน
ถ้าเป็นโฮวอู่ตัวจริง เธอก็คงไม่ประหม่าเช่นกัน เพราะทักษะพื้นฐานเหล่านี้เป็นสิ่งที่เธอต้องเรียนตอนเป็นเด็กอยู่แล้ว
เพลงเริ่มบรรเลง โฮวอูเสิ่นวางมือบนเอวของโฮวอู่
การเต้นรำการสัมผัสกันจึงเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การวางมือทาบที่เอวจึงเป็นอะไรที่ธรรมดาที่สุด
ชุดที่โฮวอู่เลือกใส่คืนนี้ค่อนข้างบาง เธอรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นร้อนของเขาได้ที่เอวของเธอ
เธอกลั้นลมหายใจเพื่อระงับความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเต้นรำกับพี่ชาย เธอต้องทำให้ดีที่สุด เธอต้องทำให้เขาประทับใจในตัวเธอให้ได้
ดนตรีมาถึงจุดสำคัญ โฮวอู่เคลื่อนไหวไปตามการเคลื่อนไหวของโฮวอูเสิ่น หมุนตัวและกระโดด
เธอเสียใจที่คืนนี้เธอสวมกระโปรงสั้นแค่เข่า
ถ้าเป็นกระโปรงยาว เวลาหมุนตัวจะพลิ้วไสว และสวยงามกว่ากระโปรงสั้น
มันจะดูเหมือนดอกไม้ที่กำลังผลิบานหรือดอกไม้ไฟกำลังเบ่งบาน ฉากหมุนตัวของเธอจะน่าทึ่งกว่าตอนนี้อย่างแน่นอน
โฮวอู่ค่อยๆดื่มด่ำไปกับการเต้นรำนี้
เธอมีคู่เต้นรำที่มีทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยมดังนั้นเธอจึงสามารถเต้นได้ตามที่เธอพอใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทะลุเข้ามาอยู่ในนิยายและรู้สึกว่าการเต้นเป็นเรื่องง่ายมาก
เธอลืมทุกปัญหา
เธอลืมเรื่องโฮวอี้ฉิง
เธอลืมอดีตและการเดินทางของเธอ
เธอดื่มด่ำไปกับการเต้นรำช่วงสั้นๆนี้
สมองของเธอว่างเปล่า เธอรู้สึกตัวเบาและมีความสุข
แต่ช่วงเวลาดีๆมักผ่านไปเร็วเสมอ เสียงเพลงค่อยๆช้าลงและหยุดลงในที่สุด
หลังจากการเต้นรำจบลงมีความเงียบอยู่สองสามวินาทีก่อนที่ผู้ชมจะปรบมือดังๆ
คนหนุ่มสาวไม่กี่คนที่ผิวปากให้พวกเขา
บรรยากาศในงานเลี้ยงอาหารค่ำร้อนขึ้นจากตอนแรก
โฮวอู่ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้โฮวอูเสิ่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ริมฝีปากบางและเสียงอันอ่อนหวานนุ่มนวลเอื้อนเอ่ยวาจาที่ตราตรึงเข้าไปในใจของเขา แม้ว่าเสียงรอบข้างจะอึกทึก โฮวอูเสิ่นกลับได้ยินคำพูดของเธอชัดเจน
เธอพูดว่า “พี่ชาย...ในอนาคต ได้โปรดคุ้มครองน้องคนนี้ด้วย”