ภาคต่อของเมียคนธรรมดา
ภาคต่อของเมียคนธรรมดา
เสิ่นซิ่วดูเหมือนจะพูดกับซู่ชิงหยิน แต่นางมักจะสรรเสริญเยินยอ จนซู่ชิงหยินคิดว่าเป็นจริง เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นซิ่ว
ใช่ นางเป็นลูกสาวของผู้พิพากษาในเทศมณฑล ที่ไม่มีใครเทียบได้ ถ้านางสนใจใคร นับได้ว่าเป็นวาสนาของคนผู้นั้น หากคุณชายคนนั้นรู้ว่านางสนใจเขา ขี้คร้านจะรีบหย่ากับภรรยา แล้วมาเอาอกเอาใจนาง แล้วนางก็ค่อยคิดดูอีกทีว่าจะยังเอาเขาอยู่หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม ซู่ชิงหยิน รู้สึกมีปัญหาเล็กน้อย บุคคลผู้นั้น ไม่เพียงแต่แต่งภรรยาแล้ว แต่ยังมีลูกอีกด้วย ทันทีที่นางเข้าไป นางจะไม่กลายเป็นแม่เลี้ยงดอกหรือ? นางรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้
นางจึงนิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่นาน
เสิ่นซิ่วไม่รีบ คงต้องใช้เวลาในการเสี้ยมอีกซักพัก กล่าวโดยย่อ ถ้า หลู่เจียวกล้าที่จะแย่งชิงคนไปจากนาง นางก็จะหาผู้หญิงคนอื่นเพื่อแย่งชิงเซี่ยหยุนจินออกไปจากนาง แล้วนางจะรู้ว่า หลู่เจียวจะร้องไห้ยังไง
“คุณหนู นี่มันก็สายมากแล้ว พวกเรายังคงต้องแวะซื้อขนม แล้วต้องรีบกลับแล้ว”
เช้านี้ ซู่ชิงหยินกำลังจะออกมาข้างนอก แต่เสิ่นซิ่วเกลี้ยกล่อมนาง และจงใจบอกซู่ชิงหยิน ขอให้นางซื้อติ่มซำที่บิดาชอบกิน เพื่อเอาใจบิดาของนาง เพื่อที่บิดาของนางจะได้รักนางมากขึ้น
ซู่ชิงหยินเชื่อและออกมาซื้อขนมกับนาง พอออกมาแล้ว เสิ่นซิ่วก็บอกว่า บ้านของจ้าวเหอหัว อยู่ใกล้ๆร้านขนม และถามซู่ชิงหยิน ว่านางจะเชิญจ้าวเหอหัว ไปที่ที่จวนซู ในวันพรุ่งนี้เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงดอกไม้หรือไม่
ซู่ชิงหยินไม่ได้คัดค้าน ก็เลยพากันมาหาจ้าวเหอหัว และก็เลยมาเจอเซี่ยหยุนจินโดยบังเอิญ และทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบโดยเสิ่นซิ่วเพื่อให้ซู่ชิงหยินได้พบกับเซี่ยหยุนจิน และใครจะคิดว่ามันจะราบรื่นขนาดนี้
ในรถม้า ทั้งซู่ชิงหยินและจ้าวเหอหัว ไม่ได้ยินความคิดอันดำมืดของเสิ่นซิ่ว และจ้าวเหอหัว ก็ยังช่วยชักชวนซู่ชิงหยินด้วย
“ใช่ ชิงหยิน บัณฑิตเซี่ยแต่งงานแล้วและให้กำเนิดเด็กแฝดสี่”
ซู่ชิงหยินอดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองจ้าวเหอหัว "เช่นนั้น นามสกุลของเขาคือเซี่ย และชื่อของเขา คือเซี่ย อะไรนะ"
จ้าวเหอหัวดูเหลือเชื่อ พูดถึงขนาดนี้ นางยังสนใจเขาอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ?
แต่เมื่อเห็นซู่ชิงหยิน จ้องมองที่นาง จ้าวเหอหัว ก็ต้องพูดว่า "นามสกุลของเขาคือเซี่ย ชื่อของเขาคือ หยุนจิน และเขาเป็นนักเรียนจากสถานศึกษาในเขต ถือว่าเป็นวิทยาลัยในมณฑล ข้าได้ยินจากพ่อแม่ของข้าว่าเขาดูเหมือนจะชนะอันดับหนึ่งในการสอบระดับเมืองเป็นซิ่วไฉ”
จ้าวเหอหัวไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ซู่ชิงหยิน ครุ่นคิด เหมือนว่านางจะเคยได้ยินพ่อของนางพูดถึงบัณฑิตแซ่เซี่ยอะไรซักอย่าง บอกว่าเขาเรียนเก่งสอบได้อันดับดี หากใครได้แต่งงานกับเขา ย่อมเป็นฮูหยินขุนนางในอนาคต
จู่ๆ นางก็จำได้ เหมือนว่าบิดาจะเคยบอกว่า คนๆนี้ ไม่เพียงแต่จะผ่านการทดสอบในอนาคตเท่านั้น ยังจะได้เป็นขุนนางใหญ่ ขนาดพ่อของนางเรียนไม่เก่งยังได้เป็นนายอำเภอ แถมก็เพราะว่าเขาใช้เงินเป็นจำนวนมากและใช้เส้นสาย
ถึงขนาดนั้นก็ยังเป็นได้แค่ขุนนางอันดับเจ็ดเท่านั้น
ผู้ที่สอบได้อันดับต้นๆในระดับประเทศ สามารถเป็นขุนนางอันดับ 2 และอันดับ 3 ได้ บุคคลที่มีความสามารถเช่นเซี่ยหยุนจิน อาจสามารถไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งขุนนางระดับสูงได้ในอนาคต
หากนางได้เป็นภรรยาของขุนนางระดับสองหรือระดับสามก็คงจะดีไม่น้อย บวกกับคนนั้นก็ยังดูดีและหล่อมากอีกด้วย
ยิ่งซู่ชิงหยินคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ หัวใจของนางก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นเท่านั้น เสิ่นซิ่วฝ่ายหนึ่งรู้ว่านางกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก นางจึงอดไม่ได้ที่จะเสริมว่า
“ข้าได้ยินจากนายท่านว่า บัณฑิตเซี่ยผู้นี้ เรียนเก่งและยังเป็นผู้มีพรสวรรค์ และเขายังขยันมากอีกด้วย แม้ว่าเขาจะเกิดในครอบครัวธรรมดา แต่เขาก็สามารถเรียนและสอบได้อันดับหนึ่งได้เพราะความสามารถของเขาเอง”
คำพูดนั้นทำให้ใจของผู้หญิงสองคนในรถม้าเป็นประกาย
เสิ่นซิ่วยิ้มอย่างมืดมน คิดในใจ ‘หลู่เจียว คอยดูเถอะ ผู้หญิงสองคนนี้กำลังคิดถึงเซี่ยหยุนจิน ดูสิว่า ต่อไปเจ้ายังมีชีวิตที่ดีหรือไม่?’
….
หลู่เจียวไม่รู้เรื่องนี้ นางกำลังสั่งคนในบ้านให้ย้ายดอกไม้และต้นไม้จากในสวนไปใส่ไว้ในกระถาง และจัดวางไว้ใต้ชายคาของเฉลียง ด้วยวิธีนี้ ทั้งลานก็เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้
หลู่เจียวไม่ได้กังวลว่าดอกไม้และต้นไม้พวกนี้จะตาย นางมีน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ดอกไม้จะตาย
เด็กทั้งสี่คนต่างก็ยุ่งกับการเข้าๆและออกๆอย่างมีความสุข และบ้านเซี่ย ทั้งหมดก็ยุ่งมาก
ตอนเที่ยง เซี่ยหยุนจินไม่ได้กลับมาทานอาหารและหลู่เจียวก็เพิกเฉย
โชคดีที่เขากลับมาทานอาหารเย็นตอนกลางคืน หน้าตาเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ หลู่เจียวก็ผ่อนคลายและเลิกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
เซี่ยหยุนจินเหลือบมองหลู่เจียวอย่างเงียบๆ แล้วแอบคิดในใจว่าเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบเกินไป และเขาต้องดำเนินการอย่างช้าๆ เขาไม่เชื่อว่า เขาจะไม่สามารถจัดการผู้หญิงคนนี้ได้
อย่างที่หานตงกล่าววันนั้น และวันนี้เขาก็ได้คิดอย่างชัดเจนแล้ว เขาจะปล่อยให้หลู่เจียวไปไม่ได้
ถ้ารั้งนางไว้ไม่ได้ก็ต้องขืนใจนาง ทำให้นางชอบเขา เมื่อนางชอบเขา นางยังจะจากเขาไปไหม?
เมื่อเซี่ยหยุนจินคิดเช่นนี้ จิตใจของเขาก็สว่างขึ้นในทันใด ราวกับคนหลงทางที่เดินอยู่ในหมอกซึ่งถูกนำโดยสัญญาณไฟ และเขาก็รู้สึกตัว
แต่เขาไม่สามารถรีบร้อนเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดความรังเกียจของหลู่เจียว
ที่โต๊ะอาหารค่ำ ครอบครัวกลับคืนสู่ความสงบและความสามัคคี
ลูกเล็กสี่คนก็รีบพูดถึงสิ่งที่พวกเขาและแม่ทำในวันนี้
เซี่ยหยุนจินมองดูเด็กชายตัวน้อยที่มีความสุขทั้งสี่ด้วยรอยยิ้ม พวกเขาจะทิ้งหลู่เจียวได้อย่างไร ถ้าหลู่เจียวจากไป เด็กน้อยทั้งสี่จะไม่มีความสุขและเขาก็จะไม่มีความสุข จะมีชิ้นส่วนที่หายไปในชีวิตของพวกเขาใน อนาคต ดังนั้น เขาจะปล่อยหลู่เจียวไปไม่ได้
ที่โต๊ะอาหารค่ำ เซี่ยหยุนจินคีบเค้กมันเทศด้วยตะเกียบและมอบให้ หลู่เจียว "เจ้าทำงานหนักในวันนี้ กินมากขึ้น"
หลู่เจียวเลิกคิ้วและมองไปที่เซี่ยหยุนจินโดยไม่ได้ตั้งใจ นางกำลังจะใส่เค้กมันเทศกลับ นางไม่ต้องการ แต่พอเงยหน้าขึ้น และเห็นเด็กน้อยทั้งสี่คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจ้องมองที่นางด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า หลู่เจียวจึงวางตะเกียบกลับและกินเค้กมันเทศอย่างเงียบๆ
อีกฝ่ายหัวเราะทันที
หลู่กุ้ยมองไปที่พี่สาวของเขาแล้วมองไปที่พี่เขยของเขา เขารู้สึกว่าวิธีที่พี่เขยของเขามองไปที่พี่สาวของเขาน่าสนใจมาก
ตอนนี้เขามีความรู้สึกราวกับว่า พี่เขยของเขาสนิทสนมกับพี่สาวของเขามาก
คราวนี้ เขาคิดผิดอีกแล้วเหรอ?
หลู่กุ้ยคิดอย่างสงสัย เด็กสี่คนก็กำลังรับประทานอาหารด้วยรอยยิ้ม
ต่อมา เซี่ยหยุนจินก็ดูปกติ หลู่เจียวสงสัยว่าเขาจะไม่ยอมแพ้และต้องการทำอะไรบางอย่างเพื่อรักษานางเอาไว้
จิตใจของหลู่เจียวสงบลง และครอบครัวก็ทานอาหารเย็นกันอย่างมีความสุข หลังอาหาร เซี่ยหยุนจินก็ช่วยหลู่เจียวอาบน้ำให้เด็กน้อยทั้งสี่คนด้วยกัน
ทั้งสองพูดคุยกัน ส่วนใหญ่หลู่เจียวถามเซี่ยหยุนจินว่ามีปัญหาใดหรือเปล่า ในการติวนักเรียนที่นั่นหรือไม่ เซี่ยหยุนจินส่ายศีรษะ เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขากังวลว่าจะจัดการกับเหลียงซือเหวินอย่างไร
ถ้าคนนี้ไม่ถูกจัดการ มันก็จะเป็นหนามที่จะแทงหัวเขาไม่ช้าก็เร็ว
ดวงตาของเซี่ยหยุนจินมืดลงในขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดคุยกับหลู่เจียวอย่างใจเย็นเกี่ยวกับการติวนักเรียน
"ไม่เป็นไร ข้าจะเน้นที่ประเด็นสำคัญและแนะนำพวกเขา"
"ก่อนหน้านี้ ข้าได้เปิดร้านหนังสือกับหานตง ภายในร้านหนังสือ ขายหนังสือเรียนทุกประเภท หนึ่งในนั้น มีข้อสอบที่ใช้สอบระดับอำเภอหลายข้อ ในการสอบปีที่แล้ว ข้าขอให้พวกเขาทำแบบทดสอบและแนะนำคำตอบที่ถูกต้องให้พวกเขา และให้พวกเขาฝึกฝนมากขึ้น คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร"
หลู่เจียวมองเซี่ยหยุนจินด้วยความประหลาดใจ คนผู้นี้ สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ดีจริงๆ