Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (ข้าจะไปทำอะไรบางอย่าง)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

ข้าจะไปทำอะไรบางอย่าง

  • 25/09/2565

นางเหยียนกลิ้งไปรอบๆในลานบ้านเล็กๆ และมีคนจำนวนมากที่อยู่นอกลานรั้วเข้ามาชโงกมุงดู ทุกคนชี้ไปที่นางและซุบซิบพูดคุยกัน แน่นอนว่าทุกคนไม่ได้บอกว่าเซี่ยหยุนจินและหลู่เจียวเป็นคนไม่ดีหรือทำไม่ถูก พวกเขาทั้งหมดชี้ไปที่นางเหยียนแล้วบอกว่านางเสียงดังหนวกหูเกินไป 

แม้แต่เซี่ยหยุนจินตอนนี้ก็รู้สึกเบื่อ และตอนนี้เขาไม่อยากเห็นนางเหยียนอีกต่อไป

เซี่ยหยุนจินมองขึ้นไปที่เซี่ยต้าเฉียงและตะโกนว่า "พี่ใหญ่มานี่ข้ามีอะไรจะพูดกับท่าน"

เซี่ยต้าเฉียงเกลียดน้องชายคนที่สามคนนี้มากดังนั้นเขาก็ไม่อยากมา

เซี่ยหยุนจินมองเขาอย่างเย็นชา และเซี่ยต้าเฉียงก็คิดทันทีว่าน้องสามคนนี้เป็นบัณฑิต และเขาจะเข้าสอบในอนาคต ดังนั้นเขาอาจจะสามารถเป็นขุนนางได้ ดังนั้นอย่าทำให้เขาขุ่นเคืองดีกว่า

เซี่ยต้าเฉียงเดินไปและยืนต่อหน้าเซี่ยหยุนจินและถามอย่างไม่พอใจว่า 

"เกิดอะไรขึ้น?"

เซี่ยหยุนจินกล่าวเบาๆ  "พี่ชายข้าเหมือนจะเคยเห็นท่านเข้าไปในบ้านของแม่ม่ายหวังมาก่อน ท่านคิดว่าถ้าพ่อรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเป็นยังไง"

กล่าวจบเซี่ยต้าเฉียงมองไปที่เซี่ยหยุนจินด้วยความตกใจจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ อย่างประหม่า

ถูกต้องเซี่ยต้าเฉียงเคยเข้าหาแม่ม่ายหวัง และเขาก็เกือบจะประสบความสำเร็จ แต่แม่ม่ายหวังไม่เต็มใจที่จะยอมรับกลอุบายของเขา คิดดูแล้วตอนนั้นเขาก็มีความคิดแบบพ่อ เพียงแต่ไม่สำเร็จ แต่เรื่องนี้จะปล่อยให้พ่อรู้ไม่ได้ หากรู้เข้า เขาจะยังมีอนาคตอยู่ไหม?

เซี่ยต้าเฉียงมองเซี่ยหยุนจินอย่างโกรธจัดและพูดว่า "น้องสาม เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร"

เซี่ยหยุนจินมองเขาด้วยการเยาะเย้ยและพูดอย่างโกรธเคือง "ข้าไม่ต้องการให้แม่กลับมาที่บ้านของข้าเพื่อสร้างปัญหาอีกต่อไป พี่ใหญ่คงรู้ว่าต้องทำยังไงหากแม่ยังมาอีก ข้าจะไปคุยเรื่องนี้กับพ่อ"

เซี่ยต้าเฉียงหน้าเปลี่ยนไปหากเซี่ยหยุนจินบอกว่าจะไปคุยกับเซี่ยหยวนเซิน เขาก็จะพูดเรื่องเขากับแม่ม่ายหวังอย่างแน่นอน

เซี่ยต้าเฉียงตอบอย่างรวดเร็ว “ตกลง ข้าจะพาแม่กลับบ้าน และข้าจะไม่ปล่อยให้นางมาที่บ้านของเจ้าเพื่อสร้างปัญหาอีกในอนาคต”

หลังจากเซี่ยต้าเฉียงพูดจบเขาก็เดินออกไปแล้วเซี่ยหยุนจินกล่าวเสริมว่า "ข้าไม่ต้องการให้พี่สะใภ้วิ่งมาที่บ้านของข้าในอนาคตด้วย"

เซี่ยต้าเฉียงได้ยินแต่ไม่ตอบคำ เขาหันหลังกลับวิ่งมาข้างหน้าของนางเหยียนยื่นมือออกไปและยกนางเหยียนออกจากลานบ้านไป

นางเหยียนยังคงดิ้นรน "เซี่ยต้าเฉียงเจ้ามันเป็นคนขี้ขลาด แม้แต่แม่ชราก็ไม่สามารถปกป้องได้ เร็วเข้าปล่อยข้าไป ข้าไม่มีลูกชายอย่างเจ้า"

เซี่ยต้าเฉียงปิดปากนางเหยียนเมื่อนางเริ่มด่าอีกครั้ง "ท่านแม่ ท่านควรกลับได้แล้ว ถ้าท่านยังสร้างปัญหาแบบนี้อีก พ่ออาจจะไล่ท่านออกไป" 

จวบจนบัดนี้ นางเหยียนก็ยังไม่เชื่อเรื่องนั้น จึงตะโกนว่า "ถ้าเขากล้า ถ้าเขากล้าหย่ากับข้า ข้าจะสู้ตายกับเขา" เซี่ยต้าเฉียงกลอกตา เห็นได้ชัดว่าเขากลัวความตายมากกว่านางเสียอีก หากพ่อรู้เรื่องของเขา บ้านแตกแน่

เซี่ยต้าเฉียงลากนางเหยียนแล้วเดินออกไป เมื่อเห็นว่าเฉินหลิวไม่ตามเขามาด้วย เซี่ยต้าเฉียงหันหลังกลับอย่างโกรธเคืองและมองไปที่เฉินหลิว และตะโกนว่า "กลับบ้าน"

เฉินหลิวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตาม และทั้งสองก็พานางเหยียน ออกจากบ้านของเซี่ยหยุนจิน

ชาวบ้านที่อยู่นอกรั้วกล่าวกับเซี่ยต้าเฉียงว่า "ต้าเฉียง ดูแลแม่ของเจ้าให้ดี ผู้หญิงอีกคนหนึ่งลงนามสัญญาเป็นเมียน้อยไปแล้วจะเอาอะไรอีก มันไม่ต่างอะไรกับการทำสัญญาขายตัว และนางยังต้องทำงานบ้านเหมือนเป็นคนใช้ในครอบครัว นางจะยังต้องการอะไรอีก"

"ยิ่งไปกว่านั้น แม่ม่ายหวังยังได้นำสินเดิมเข้ามาในบ้านของเจ้า ลานบ้านของนางก็ไม่เลว เท่ากับเจ้ามีบ้านมีห้องเพิ่มอีกสามห้องฟรีๆ แล้วเจ้ายังไม่ชอบอีกหรือ" 

เมื่อเซี่ยต้าเฉียงได้ยินสิ่งนี้ จิตใจของเขาก็ฟื้นตื่นขึ้นมา มันดีจริงๆเมื่อครอบครัวของเขามีบ้านเพิ่ม บ้านของแม่ม่ายหวังก็ไม่เลว

….

ในลานบ้าน หลู่เจียวผลักเซี่ยหยุนจินเข้าไปในห้องหลัก และต้าเป่ารีบเดินไปที่ด้านข้างของหลู่เจียว แล้วพูดว่า "แม่ พ่อ ไม่ได้กินข้าวเที่ยง"

หลู่เจียวมองไปที่ต้าเป่า และพูดอย่างทุกข์ใจ "ลูกเอ๋ย เจ้าอายุเพียง 4 ขวบ การกังวลเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ทั้งวันจะส่งผลต่อการเติบโตของเจ้า"

ต้าเป่าตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง และเซี่ยหยุนจินมองหลู่เจียว อย่างว่างเปล่า "อย่าทำให้เขากลัว" หลังจากที่เซี่ยหยุนจินพูดจบ เขายกมือขึ้นและแตะหัวของต้าเป่า "แม่ของเจ้าล้อเล่น เจ้าจะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของตัวเองในอนาคต เมื่อขาของพ่อของเจ้าหายดีแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล อีกต่อไป"

ต้าเป่ามองไปที่เซี่ยหยุนจินจากนั้นดูที่ขาของเขาและยิ้ม "พ่อ ข้ารู้"

หลู่เจียวมองเขาด้วยท่าทางโล่งใจและอดหัวเราะไม่ได้

ในบรรดาเด็กชายตัวเล็กๆ สี่คน คนที่นางกังวลมากที่สุดคือต้าเป่า ซึ่งอันที่จริงเห็นได้ชัดว่าอายุเท่ากันกับน้องชายของเขา แต่เขามักจะถือว่าตัวเองเป็นพี่ชายคนโตและดูแลเด็กน้อยอีกสามคนตลอด แม้แต่พ่อ ก็ยังเป็นห่วงเขาเสมอเลยกลายเป็นว่าเขาเป็นห่วงคนอื่นตลอด

ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หลู่เจียว ถามเซี่ยหยุนจินว่า "เจ้าอยากกินอะไร"

เซี่ยหยุนจินไม่มีข้อกำหนดเรื่องอาหารตราบเท่าที่เขาสามารถกินได้เขาก็ชอบกินหมด

“อะไรก็ได้”

หลู่เจียวตอบด้วยรอยยิ้ม “ตกลง ข้าจะไปทำอะไรบางอย่าง”

หลังจากที่นางหันหลังกลับไปและเดินไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหาร เซี่ยหยุนจินก็มองดูนางแล้วนึกขำ บางครั้งผู้หญิงคนนี้ก็จริงจัง แต่บางครั้งก็เป็นคนง่ายๆ

ตอนนี้ขาของเซี่ยหยุนจินค่อยๆฟื้นตัว ชีวิตก็ค่อยๆเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

นอกจากดูแลเซี่ยหยุนจินและเด็กน้อยสี่คนทุกวันแล้วหลู่เจียว ยังอ่าน จดจำ และฝึกการคัดลายมืออีกด้วย

นอกเหนือจากการสอนเด็กๆในหมู่บ้าน และเด็กตัวเล็กๆอีกสี่คน เซี่ยหยุนจินยังต้องการหนังสือเพราะเขาจะเข้าร่วมการสอบในเขตเทศบาลในปีหน้าดังนั้นหนังสือจึงไม่สามารถละทิ้งได้

เนื่องจากก่อนหน้านี้ หลู่เจียวบอกป้ากุ้ยฮัว ว่านางจะไม่รับรักษาใครอีก ป้ากุ้ยฮัว จึงไปปล่าวประกาศไปทั่ว และเมื่อเซี่ยฟู่กุ้ย หัวหน้าหมู่บ้านรู้ เขาก็ออกคำสั่งกับชาวบ้านทันที

เมื่อผู้คนจากหมู่บ้านอื่นมาที่หมู่บ้านเพื่อให้หลู่เจียวรักษา พวกเขาต้องได้รับความยินยอมจากเขาก่อน มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามาในหมู่บ้านเพื่อให้หลู่เจียวรักษา

วิธีนี้ช่วยลดปัญหาให้กับหลู่เจียว และช่วยให้นางมีเวลาในการอ่าน จดจำ และฝึกฝนการประดิษฐ์ตัวอักษรมากขึ้น

หลู่เจียวได้เรียนรู้ ตำราสามอักษร ตำราร้อยแซ่ อย่างรวดเร็ว และจำมันได้หมดแล้ว

นางไม่ได้ขอให้เซี่ยหยุนจินสอนอะไรอีก นางสามารถหาหนังสือมาอ่านเองและสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง เซี่ยหยุนจินก็ไม่วุ่นวายกับนาง

ด้วยวิธีนี้ นางรู้จักตัวอักษรมากขึ้นเรื่อยๆ มีความเชี่ยวชาญมากขึ้นเรื่อยๆ และตัวอักษรของนางก็เขียนได้ดี

เซี่ยหยุนจินมองดูสิ่งเหล่านี้และเริ่มคาดเดา ตัวอักษรที่หลู่เจียวเคยเรียนรู้ในสถานที่นั้นอาจแตกต่างจากตัวอักษรที่พวกเขารู้จักในตอนนี้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่นางไม่รู้จักตัวอักษรพวกนี้ในตอนแรก แต่คำศัพท์เหมือนกันหมด ดังนั้นนางจึงสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและเขียนได้ดี

เด็กน้อยทั้งสี่ออกกำลังกายตามแผนของหลู่เจียว และร่างกายของพวกเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาก็ค่อยๆ พัฒนานิสัยที่ดี และพวกเขาได้รับการศึกษาในทุกคำพูดและการกระทำ

ครอบครัวเซี่ย ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่บ้านของเซี่ยหยวนเซิน เริ่มวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ นางเหยียน ไม่ยอมรับชะตากรรมของนาง โวยวายไม่เว้นแต่ละวัน และเซี่ยหยวนเซินก็ยิ่งเมินเฉยต่อนาง นางเหยียนก็ยิ่งโดดเดี่ยว

กลับกันเพราะความวุ่นวายของนางเหยียน จึงยิ่งผลักเขาไปอยู่เคียงข้างแม่ม่ายหวัง ทั้งสองคนเป็นเหมือนคนหนุ่มสาวที่เพิ่งแต่งงานใหม่

สิ่งนี้ทำให้นางเหยียนหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น นางตะโกนใส่แม่ม่ายหวังทุกวัน จนครอบครัวเซี่ยทั้งหมดรู้สึกลำบากใจกับนางมากจนไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขได้…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป