ภาคต่อของเมียคนธรรมดา
ภาคต่อของเมียคนธรรมดา
หลู่เจียวกำลังจะออกไป แต่เซี่ยหยุนจินหยุดนางจากด้านหลัง "หลู่เจียว"
หลู่เจียวหยุดและมองย้อนกลับไปที่เซี่ยหยุนจินที่กำลังขมวดคิ้วและถามว่า "ข้าจะได้นั่งรถเข็นได้เมื่อไหร่ ?" หากเขาเคลื่อนไหวได้ คนพวกนี้จะมารังแกพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างไร
หลังจากฟังคำพูดของเซี่ยหยุนจินแล้ว หลู่เจียวก็มองไปที่ขาของเขา อันที่จริง ขาของเซี่ยหยุนจินก็ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่นางคิด นั่นอาจจะเป็นเพราะนางช่วยเติมน้ำพุจิตวิญญาณลงในยาของเขา น้ำพุจิตวิญญาณนี้มีคุณสมบัติในการรักษาและซ่อมแซมกล้ามสร้างกระดูก ดังนั้น ขาของเขาจึงดีกว่าคนทั่วไป
ตอนนี้ ตราบใดที่เขาไม่เคลื่อนไหวขามากไป เขาก็สามารถนั่งรถเข็นได้ แต่ก็ไม่ควรเคลื่อนไหวมากเกินไป
"ตอนนี้เจ้าสามารถนั่งในรถเข็นได้แล้ว แต่เจ้าไม่สามารถนั่งได้นานเกินไปและต้องระวังอย่าให้คนโดนขาของเจ้า" อันที่จริงนางกลัวว่ารถเข็นจะตกหลุมตกบ่อชนกับอะไรเข้า หรือหกล้มมากกว่า เพระลานดินยุคนี้ มันไม่ได้เรียบเนียนมากนัก
เมื่อเซี่ยหยุนจินได้ฟังคำพูดของหลู่เจียว ดวงตาของนางก็เป็นประกาย "เจ้าหมายความว่า ตอนนี้ข้าสามารถนั่งรถเข็นได้แล้วจริงๆหรือ?"
หลู่เจียวพยักหน้า "เจ้าสามารถนั่งได้ แต่ต้องระวังไม่ให้ชนกับผู้คน "
เซี่ยหยุนจินกล่าวอย่างมีความสุข "ข้าจะระวังไม่ต้องกังวล"
ในที่สุดขาเขาก็จะหาย จากการผ่าตัด เขาจะยอมปล่อยเกิดอุบัติเหตุอีกครั้งได้อย่างไร
“ถ้าเจ้ามีเวลาก็ไปบ้านลุงโหย่วไฉเพื่อดูว่ารถเข็นเสร็จหรือยัง เอากลับเมื่อพร้อม บางทีข้าอาจจะใช้มัน”
“ตกลง”
อาจบางทีเมื่อเขาเคลื่อนไหวได้แล้ว พ่อแม่ของเขาจะได้หวั่นเกรงขึ้นมาเล็กน้อย จะได้ไม่มีเวลามาสร้างปัญหากับพวกเขา
หลู่เจียวไปที่ห้องครัวเพื่อปรุงโจ๊กผัก จากนั้นจึงอุ่นขนมปังนึ่งสองสามชิ้น ยังมีข้าวต้มผักและซาลาเปาสำหรับมื้อเย็น เช่นเดียวกับปลาที่เหลือในตอนเที่ยง
ก่อนหน้านี้ เด็กตัวเล็กทั้งสี่ยังหวาดกลัวเซี่ยหยวนเซินและนางเหยียน แต่หลังจากพวกเขาจากไป ก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เด็กน้อยทั้งสี่ก็บอกเล่าเซี่ยหยุนจินเกี่ยวกับการปีนต้นไม้และยิงธนูอย่างมีความสุขในวันนี้
เสี่ยวซือเป่าพูดออกมาอย่างตื่นเต้นและชมเชยหลู่เจียว "พ่อรู้ไหม แม่ทำได้ทุกอย่างเลย ไม่เพียงแต่ปีนต้นไม้ได้ แต่นางยังสามารถยิงธนูได้อีกด้วย ตอนแรกเรายิงไม่ได้ แต่แม่สอนเราจนสามารถยิงได้ในที่สุด"
เซี่ยหยุนจินหันกลับมามองหลู่เจียวดวงตาของนางลึกล้ำราวกับหมึก มีคลื่นแสงที่พุ่งพล่าน และดูเหมือนว่าจะมีแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่สามารถดึงดูดผู้คนได้
“ก็จริง แม่ของเจ้าน่าทึ่งมาก”
หลังจากที่เขาพูดจบ มุมปากของเขาก็ยกยิ้มเล็กน้อย และคนทั้งตัวก็อบอุ่นอย่างสุดจะพรรณนาราวกับไผ่กลางสายฝน
หลู่เจียวเหลือบมองเซี่ยหยุนจินจากนั้นหันไปดู เด็กๆทั้งสี่ "เจ้ารู้จักวิธีสรรเสริญเยินยอแม่ของเจ้าจริงๆ"
เด็กน้อยคนนี้ปากหวานปานน้ำผึ้ง นับวันก็รู้จักเอาอกเอาใจออดอ้อนเอาใจ ในอนาคตจะกลายเป็นชายเจ้าสำราญหรือเปล่า?
เสี่ยวซือเป่ายืดอกของเขาพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ "มันคือความจริง แม่ของข้าทั้งสวยและเก่งมาก"
หลู่เจียวหัวเราะ "เอาล่ะๆ กินข้าวกันก่อน วันนี้ไปปีนเขามา เหงื่อออกมาก รีบกินรีบไปอาบน้ำ"
เด็กน้อยทั้งสี่ก็พยักหน้าทันที หลู่เจียวก็นึกถึงเซี่ยหยุนจินแล้วพึมพำกับตัวเองว่าคืนนี้เซี่ยเอ้อจูจะมาหรือเปล่า? คงไม่ใช่ว่านางต้องเช็ดตัวผู้ชายคนนี้อีกวันเหรอ?
เป็นเรื่องปกติที่จะเช็ดร่างกายของผู้ป่วยบางคน แต่เมื่อนางคิดถึงอาการของเซี่ยหยุนจินที่เหมือนกล้ำกลืนฝืนทน หนังศีรษะของนางก็รู้สึกขนลุก เขาทำยังกะนางเป็นนางมารร้าย
ขณะที่หลู่เจียวกำลังคิดอยู่ เสียงของหลินชุนหยานก็ดังขึ้นจากด้านนอก “ป้าสามไม่ดีแล้ว บ้านเก่าเซี่ยวุ่นวายใหญ่แล้ว”
หลินชุนหยานเดินเข้ามาจากด้านนอกทันทีที่นางกล่าว เมื่อเซี่ยหยุนจินได้ยิน เขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่นัก
หลู่เจียวรู้ว่าบ้านเก่าเซี่ยที่นางพูดถึงก็คือบ้านพ่อแม่สามีของนางถือว่าเป็นบ้านเก่าของสามีนาง
“เกิดอะไรขึ้นที่นั่น?”
“วันนี้ หูจื่อเข้าไปในตลาดเพื่อขายสมุนไพร และเมื่อเขากลับมา เขาผ่านบ้านเก่าเซี่ย เขาเห็นว่าลุงรองเซี่ย เป็นบ้าไปแล้ว ทุบทำลายสิ่งของในบ้าน จนเป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โต และเมื่อหูจื่อมาบอกแม่ แม่สามีของข้า ให้ข้ามาบอกเจ้า เจ้าจะไปดูหรือเปล่า”
หลังจากที่หลิน ชุนหยานพูดจบ นางก็เหลือบมองที่เซี่ยหยุนจินอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่หล่อเหลาของเซี่ยหยุนจินเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว และริมฝีปากบาง ของเขาถูกปิดไว้แน่น
หลู่เจียวรู้ว่าเขากังวลเกี่ยวกับเซี่ยเอ้อจู ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเซี่ย
เมื่อหลู่เจียวคิดได้แล้วก็มองไปที่เซี่ยหยุนจินแล้วพูดว่า "ข้าจะไปดูซักหน่อย"
เซี่ยหยุนจินพยักหน้า "อย่าให้พี่รองของข้าต้องทนทุกข์ทรมาน"
หลู่เจียวพยักหน้าลุกขึ้นและต้องการจากไป และลูกทั้งสี่ร้องด้วยความเป็นห่วงว่า
"แม่"
พวกเขากลัวว่าแม่จะทนทุกข์ทรมาน
หลู่เจียวหันกลับมาปลอบใจพวกเขาทันที "ไม่ต้องกังวล ลืมไปแล้วเหรอ แม่ของเจ้ามีความสามารถมาก"
หลังจากพูด นางกำหมัดแน่น แสดงให้เห็นว่านางแข็งแกร่งมาก
เด็กๆทั้งสี่ยังคงกังวลอยู่ เพราะถึงแม้ว่าแม่จะแข็งแกร่ง แต่ว่าคนเลวที่นั่นก็มีเยอะ
ต้าเป่าเลื่อนลงจากเก้าอี้แล้วพูดว่า "แม่ ข้าจะไปกับท่าน" เอ้อเป่าก็เลื่อนลงและเดินไปหยิบธนูออกมา "แม่ ข้าจะเอาธนูไปด้วยถ้าพวกเขากล้าที่จะรังแกท่าน ข้าจะยิงพวกเขาให้ตายเลย"
หลู่เจียวตำหนิเขาอย่างโกรธเคือง "พวกเจ้าอยู่กับพ่อของเจ้าที่บ้าน หรือไม่กังวลว่าพ่อของเจ้าจะอยู่บ้านคนเดียว" หลู่เจียวเอ่ย เพราะอยากให้เจ้าตัวเล็กทั้งสี่อยู่บ้านเพราะไม่อยากให้ไปเห็นภาพผู้ใหญ่ทะเลาะกัน
เซี่ยหยุนจินรู้ดีว่านางหมายถึงอะไร เขาก็พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า "พวกเจ้าอยู่บ้านกับพ่อ" เด็กทั้งสี่หันมามองเซี่ยหยุนจินและพูดอย่างกังวลว่า "แต่แม่อาจจะถูกพวกเขารังแกหรือเปล่า?"
เสี่ยวซือเป่าเลื่อนตัวลงจากเก้าอี้และกอดขาของลู่เจียวแล้วร้องว่า "แม่ อย่าไปนะ เดี่ยวพวกเขาจะทุบตีท่าน"
หลู่เจียวทรุดตัวลงและกอดเขา เพื่อเกลี้ยกล่อม "พวกเขาทุบตีแม่ไม่ได้หรอก" แม่จะจากไปเดี๋ยวเดียวก็กลับมา ถ้าแม่ไม่กลับมาเจ้าก็เอาธนูและดาบไปปกป้องแม่ด้วยซะเลย”
พูดจบเด็กน้อยทั้งสี่ก็เห็นด้วย “ตกลง ถ้าแม่ไม่กลับมา พวกเราจะตามไปปกป้องแม่ด้วยธนูและดาบของพวกเรา”
หลู่เจียวลูบศีรษะของเด็กน้อยทั้งสี่ หันหลังกลับและออกไปกับหลินชุนหยาน จากนั้นเซี่ยหยุนจินกล่าวว่า "ระวังตัวด้วย"
ดวงตาของเซี่ยหยุนจินเต็มไปด้วยความเย็นชาและใบหน้าของเขาดูเบื่อหน่ายอย่างสุดจะพรรณนาเขาเกลียดครอบครัวเช่นนี้จริงๆ เหมือนจะมีเรื่องไม่เว้นแต่ละวันนี่ขนาดเขาแยกบ้านออกมา หากยังอยู่บ้านนั้น ไม่รู้จะหนักกว่านี้หรือเปล่า…
ผู้คนมากมายในหมู่บ้านเซี่ยเจีย วิ่งออกไปนอกบ้านของเหล่าเซี่ย เพื่อติดตามชมความครึกครื้น
….
เมื่อทุกคนเห็นหลู่เจียวเดินเข้ามา พวกเขาก็กล่าวทักทายทันที
"ภรรยาหยุนจินมาแล้วหรือ เข้าไปข้างในดูสิ ลุงคนที่สองของเจ้ากำลังเอะอะโวยวายอยู่"
"ดูเหมือนว่าลุงหยวนเซินจะบอกว่าจะให้เอ้อจู้อนุญาตให้ลุงต้าเฉียงเลี้ยงปลิงลุงเอ้อจู เริ่มสร้างปัญหา"
เมื่อได้ยินดังนั้นหลู่เจียวยิ้มเยาะเย้ย นางเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างโกรธเคือง
"เฮ้อ ข้าเคยเห็นคนที่มีอคติ แต่ข้าไม่เคยเห็นคนๆหนึ่งที่ลำเอียงมากขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าในครอบครัวนี้ ลูกคนที่สองดีที่สุด ทำงานหนักและไม่เคยบ่นอะไร แต่สุดท้ายเขาก็ถูกรังแกแบบนี้"
"กระต่ายเมื่อจนตรอกยังรู้จักกัดคน พวกเขาผลักลูกชายคนที่สองไปปลายเหวแบบนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะไม่ยอมทนอีกต่อไป"
ตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านเคารพหลู่เจียวมาก พอหลู่เจียวเอ่ยออกมาแบบนี้ ทุกคนก็คิดตาม ก่อนอื่นเลยทุกคนรู้แค่ว่าครอบครัวของเซี่ยหยวนเซินทะเลาะกัน แต่ไม่มีใครบอกว่าพวกเขาทะเลาะกันเพราะเรื่องอะไรยังไง
พอเห็นการแสดงออกของชาวบ้าน หลู่เจียวก็หันหลังกลับและเข้าไปในบ้านเซี่ย
….
ลานบ้านเซี่ย เซี่ยเอ้อจู จ้องไปที่พ่อแม่ของเขาด้วยดวงตาสีแดงเลือดและตะโกน
“พวกเจ้าต้องการบังคับให้ข้าตายถึงจะพอใจหรือ ข้าทำงานหนักเหมือนวัวควายพอตอนกินเล็กน้อยเหมือนเศษอาหาร แม้แต่ภรรยาและลูกๆก็เป็นเหมือนคนใช้ในบ้านนี้ ทำงานทั้งวันทุกวันไม่มีวันหยุด ไม่ว่าใครในบ้านอารมณ์ไม่ดีก็เอามาลงที่พวกเรา พวกท่านคิดว่าพวกเรายังเป็นครอบครัวเดียวกันอีกหรือ…”