Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (เจ้าเข้าใจใช่ไหม)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

เจ้าเข้าใจใช่ไหม

  • 27/06/2565

เซี่ยหยุนจินพอคิดได้แล้ว ก็ร้องเรียกออกไปด้านนอก "หลู่เจียว"

 

หลู่เจียว ก็บอกให้เด็กๆสี่คนทานอาหารเช้า นำโจ๊กไปที่ห้องนอนทางทิศตะวันออก

 

“เจ้าอยากดื่มนมแพะหรือเปล่า?”

 

เซี่ยหยุนจินปฏิเสธทันที เขาเคยไปที่ฟู่เฉิงเพื่อกินเนื้อแพะ แต่เขาแทบคายออกมาทันที หลังจากกัดเพียงครั้งเดียว นมแพะก็คงไม่ต่างกันมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะดื่มมัน

 

เมื่อเห็นการต่อต้านบนใบหน้าของเขา หลู่เจียว ไม่ได้บังคับเขา

 

เซี่ยหยุนจินเป็นผู้ใหญ่แล้ว ด้วยการปรับสภาพน้ำจากน้ำพุแห่งจิตวิญญาณของนาง บวกกับสารอาหารที่เพียงพอ เขาก็ไม่จำเป็นต้องดื่มนมแพะ

 

สำหรับเด็กทั้ง 4 นั้นพวกเขาตัวเล็กและผอมเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะถูกปรับสภาพด้วยน้ำพุแห่งจิตวิญญาณของนาง แต่หลู่เจียว ไม่แน่ใจว่าน้ำพุแห่งจิตวิญญาณจะสามารถทำให้ผู้คนสูงขึ้นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงควรได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

 

"ทานอาหารเช้ากันเถอะ"

 

ตอนนี้ เซี่ยหยุนจินสามารถกินเองได้ นางไม่จำเป็นต้องป้อนอาหารให้เขา ซึ่งช่วยนางได้มาก

 

หลู่เจียว นำอาหารมาให้เซี่ยหยุนจินหันหลังกลับและต้องการออกไปทานอาหารเช้า แต่เซี่ยหยุนจินก็เรียกนางเอาไว้ "หลู่เจียว"

 

หลู่เจียว คิดว่าเขามีบางอย่างที่จะคุยกับนาง ดังนั้นนางจึงหันหลังกลับและเดินไปที่เตียงเพื่อดูเขา "มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า"

 

เซี่ยหยุนจินขยับเล็กน้อย หลู่เจียวก็นั่งลง หลู่เจียวมองเขา รู้สึกเหมือนว่าเขามีอะไรจะบอกนาง ดังนั้นนางจึงนั่งข้างเตียงและมองที่เขา

 

ดวงตาของเซี่ยหยุนจินลุ้มลึกและเขาก็พูดช้าๆ "เจ้าสอนเด็กสี่คนเป็นอย่างดีและพวกเขายังเป็นเด็กดีมีคุณธรรม เมื่อเจ้าสอนพวกเขาได้ดีพวกเขาก็จะกตัญญูต่อเจ้าเมื่อพวกเขาโตขึ้น"

 

เซี่ยหยุนจินไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการหย่าหรือการปรองดองเพราะว่าเด็กน้อยทั้งสี่นั่งกินอาหารเช้าอยู่ข้างนอก ถ้าเขาพูดถึง เขาจะทำให้พวกเขาตกใจและทำให้เขากลัวอย่างแน่นอน

 

ดังนั้น เซี่ยหยุนจินจึงกล่าวแบบอ้อมๆ และเขาคิดว่า หลู่เจียวคงเข้าใจสิ่งที่เขาพูด

 

น่าเสียดายที่หลู่เจียวไม่เข้าใจ นางจ้องที่เซี่ยหยุนจินด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง ราวกับว่านางเข้าใจว่าเซี่ยหยุนจินกำลังจะบอกอะไร แต่นางงงเล็กน้อย คล้ายเข้าใจคล้ายไม่เข้าใจ

 

เซี่ยหยุนจินขมวดคิ้วและถามว่า "เจ้าไม่เข้าใจหรือ"

 

หลู่เจียวส่ายศีรษะอย่างตรงไปตรงมา "ข้าไม่เข้าใจ" พูดตรงๆเลยได้ไหมถ้าจะบอกอะไร จะอ้อมค้อมไปทำไม?

 

ดวงตาของเซี่ยหยุนจินมืดลง เขาพูดต่อไปว่า “วันนี้ข้าคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบแล้ว เด็กๆ อยู่ไม่ได้หากไม่มีแม่ และคนเป็นแม่ก็ไม่มีใครมาแทนที่ได้ในหัวใจของลูก?”

 

หัวใจของนางเต้นแรง ใบหน้าของนางเปล่งประกายเจิดจ้า และนางก็พูดเสียงดัง “ข้าเข้าใจแล้ว” เขาคงให้นางนำลูกไปด้วยเมื่อหย่ากัน แม้ว่าจะประหลาดใจอยู่บ้าง แต่พระเจ้าก็ใจดีกับนางเช่นกัน ในที่สุดเซี่ยหยุนจินก็เข้าใจว่า นางดูแลลูกได้ดีกว่าเขา

 

เซี่ยหยุนจินเห็นใบหน้าและดวงตาของหลู่เจียวยิ้มแย้มด้วยความปิติยินดี และหัวใจของนางก็เปล่งประกาย ผู้หญิงคนนี้ดูมีความสุขมาก นอกจากนางจะชอบเด็กน้อยทั้งสี่ นางคงจะชอบเขามากด้วย หากจะว่าไปแล้วเขาทั้งหล่อและเป็นบัณฑิต ทั้งยังเป็นพ่อของเด็กๆที่น่ารัก นางคงพรากจากเขาไม่ได้ง่ายๆ

 

เซี่ยหยุนจินครุ่นคิดในใจ หากนางเต็มใจที่จะพยายามดูแลลูกๆทั้งสี่ให้ดี เขาก็คงทำดีกับนางมากขึ้น อาจบางทีเขาอาจจะชอบนางในอนาคต แต่นางจะมีความสุขมากเกินไปหรือเปล่า? หรือว่านางจะชอบเขามากจริงๆ?

 

ในห้อง หลู่เจียว เหยียดมือออกอย่างตื่นเต้นเพื่อจับมือเซี่ยหยุนจินและมั่นใจว่า "ไม่ต้องกังวลข้าจะสอนให้พวกเขารักพ่อของพวกเขาอย่างแน่นอน"

 

นางรู้ว่า แม้ว่าเซี่ยหยุนจินจะยอมให้เขาเลี้ยงเด็กๆ เขาก็จะไม่มีวันปล่อยนางไปไหนไกล ถึงเด็กๆจะถูกย้ายออกไป ลูกก็ยังต้องเป็นลูกเขา เขาแค่ต้องการให้นางช่วยเขาเลี้ยงดูเด็กๆ

 

แต่นางไม่สนใจ ตราบใดที่นางได้สิทธิ์เลี้ยงดูลูก แม้ว่าเลี้ยงจนโตมากพอเข้าเรียน ในอนาคตพวกเขาจะกลับไปหาพ่อ พวกเขาก็จะไม่กลายเป็นวายร้ายในนิยายอีกต่อไป และนางก็อาจจะทำภารกิจได้เสร็จสมบูรณ์แล้วกลับโลกเดิมก็เป็นไปได้…

 

บนเตียง เซี่ยหยุนจินมองลงไปที่หลู่เจียว ที่จับมือเขาเอาไว้โดยที่ใบหน้ายังคงนิ่ง ดูเหมือนว่าเขาเดาถูก ผู้หญิงคนนี้ชอบเขาจริงๆ ตราบใดที่นางดูแลเด็กน้อยสี่คนได้ดี เขาจะไม่ทำให้นางผิดหวังอย่างแน่นอน

 

เซี่ยหยุนจินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดอย่างอบอุ่น "ออกไปทานอาหารเช้าเถอะ" 

 

หลู่เจียวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "เอาล่ะ เรียกข้าหากเจ้าต้องการอะไร"

 

เซี่ยหยุนจินเห็นความสุขและความตื่นเต้นบนใบหน้าของหลู่เจียว แล้วใบหน้าและดวงตาของเขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย และหัวใจของเขาก็พองโต คนสองคนมีความคิดต่างกัน แต่มีความสุขเหมือนกันอย่างคาดไม่ถึง

 

นอกบ้าน เด็กๆทั้งสี่ก็พบว่าแม่ของพวกเขาอารมณ์ดีมาก และเมื่อชำเลืองมองนางก็พบว่าแม่ของพวกเขาดูมีความสุขมากในวันนี้

 

ต้าเป่าเลิกคิ้วขึ้นและถามไปว่า "แม่ วันนี้ท่านดูมีความสุขมาก"

 

หลู่เจียว รู้สึกดีมากเมื่อคิดว่านางจะได้ดูแลเห็นเด็กน้อยทั้ง 4 คน เมื่อหย่ากันนางไม่จำเป็นต้องแยกจากเด็กน้อยทั้งสี่คน ซึ่งเป็นเรื่องดีมาก นางเดินไปและจูบเด็กน้อยทั้งสี่คน

 

“ใช่ วันนี้แม่มีความสุขมาก ดังนั้นแม่จะทำอาหารอร่อยๆ ให้กินเป็นพิเศษวันนี้”

 

เด็กๆทั้งสี่ก็ส่งเสียงโห่ร้องดีใจ “เย้ ท่านแม่ ท่านน่ารักมาก”

 

ตอนนี้ต้าเป่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาก และบุคลิกของซันเป่าก็ร่าเริงเพิ่มมากขึ้น...

 

เด็กน้อยทั้งสี่เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นทุกวัน และเด็กน้อยก็ไม่มีปมด้อยที่พวกเขาเคยเป็นอีกต่อไป ใบหน้าเล็กๆ ของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส และดวงตาที่กลมโตของพวกเขาก็สดใสมาก

 

หลังจากที่ครอบครัวรับประทานอาหารเช้าแล้ว เด็กๆทั้งสี่ก็วิ่งออกไปนอกบ้านเพื่อเล่นกับของเล่นของพวกเขา หลู่เจียวนำยาไปที่ห้องนอนด้านทิศตะวันออกและบอกให้เซี่ยหยุนจินกินยา

 

เซี่ยหยุนจินกล่าวถึงการสอนให้ หลู่เจียว อ่านเขียนหนังสือ

 

หลู่เจียวยุ่งอยู่พักหนึ่ง และหลู่เจียว ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีอะไรมากเหมือนแต่ก่อน นางจึงได้จดไว้ก่อน นางต้องจำตัวอักษรทั้งหมดก่อนในอนาคต หลังจากหย่ากัน แล้วทำมาหากินด้วยการเป็นหมอ นางต้องสั่งยาเองได้ และอย่าให้ฉีเหล่ยรู้ว่านางไม่รู้หนังสือ มันจะลดความน่าเชื่อถือของนางลง

 

หลู่เจียวมองไปที่เซี่ยหยุนจินด้วยรอยยิ้มที่ครุ่นคิดแล้วพูดว่า "จากนี้ไปข้าจะอ่านเขียนหนังสือกับเจ้าครึ่งชั่วโมงหลังอาหารเช้าทุกวัน ในช่วงเวลานี้ก็ให้เด็กๆเล่นข้างนอกไปก่อน ข้าจะใช้ช่วงเวลานี้ศึกษาเล่าเรียน"

 

เซี่ยหยุนจินก็เห็นด้วย "ตกลง เริ่มกันเลย"

 

หลู่เจียว หยิบเอาคัมภีร์สามอักษรจากเด็กๆทั้งสี่ออกมาทันที และบอกให้เซี่ยหยุนจินสอนอย่างระมัดระวัง อันที่จริง นางสามารถจดจำตัวอักษรในคัมภีร์สามอักษรได้แล้ว แต่มันก็น่ารำคาญเกินไปที่จะจำตัวอักษรตัวเต็มนี้ทีละตัว ดังนั้น จะเร็วกว่าในการเรียนรู้กับเซี่ยหยุนจิน

 

หลู่เจียว หยิบคัมภีร์สามอักษร และนั่งตัวตรงที่โต๊ะรอให้เซี่ยหยุนจินสอน

 

เซี่ยหยุนจินเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่ผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะ ในขณะนี้ เขาพบว่าผู้หญิงคนนั้นลดน้ำหนักลงอีกแล้ว ใบหน้าที่เคยอ้วนของนางได้สูญเสียความอวบอ้วนไปอีกแล้ว คิ้วและตาอัลมอนด์ จมูกของนางโด่งเป็นสัน และริมฝีปากสีเชอร์รี่ ผิวของนางเรียบเนียนและละเอียดอ่อนกว่าแพรไหม ถึงแม้ว่าแก้มของนางยังมีเนื้ออยู่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกรังเกียจเลย ในทางกลับกัน มีความงดงามเล็กน้อย

 

สายตาของเซี่ยหยุนจินหรี่ลง เสื้อผ้าบนร่างกายของนางดูเก่าและหลวมๆ เพราะนางลดน้ำหนักลงรูปร่างก็เลยผอมลงด้วย

 

เซี่ยหยุนจินเมื่อมองดูเสื้อผ้าบนร่างกายของนาง คิดถึงเสื้อผ้าใหม่ของเขาและเสื้อผ้าใหม่ของเด็กน้อยทั้งสี่ เขาอดไม่ได้ที่จะพูด

 

“เสื้อผ้าของเจ้าตัวใหญ่เกินไปและมันดูไม่พอดีเลย ทำไมเจ้าไม่ลองหาเสื้อผ้าใหม่ให้ตัวเองดูล่ะ”

 

ผู้หญิงทุกคนไม่ใช่ว่ารักความงามดอกหรือ? เหตุใดเมื่อผู้หญิงคนนี้ผอมลงจึงไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆสวยๆมาใส่ล่ะ

 

หลู่เจียว นั่งหลังตรง รอให้ เซี่ยหยุนจินสอนวิธีอ่านให้นาง แต่นางไม่รู้ว่าจะอ่านอย่างไร แต่กลับดึงประเด็นเสื้อผ้าของนางออกมาพูด

 

นางตกตะลึงครู่หนึ่ง มองขึ้นไปที่เซี่ยหยุนจินบนเตียง และเห็นเขาขมวดคิ้วที่เสื้อผ้าของนาง

 

สัญชาตญาณแรกของหลู่เจียว หงุดหงิดอยู่บ้าง นางอยากจะพูดออกไปว่า ‘เสื้อผ้าของข้าไม่ใช่ธุระกงการของเจ้า แล้วความรักความชอบของข้าก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า ’ อย่างไรก็ตาม นางคิดอย่างรวดเร็วว่าเซี่ยหยุนจินยอมให้นางนำเด็กๆทั้งสี่ไปเลี้ยงดู และหัวใจของนางก็เบาลงโล่งใจทันที อันที่จริง คนผู้นี้ก็ไม่ได้แย่ นางคงต้องดีกับเขาซักหน่อย…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป