Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (ผักนี่อร่อยมาก)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

ผักนี่อร่อยมาก

  • 20/05/2565

เสิ่นเสี่ยวซานหน้าซีดเมื่อเขาได้ยิน แล้วตะโกนออกไป "ข้าไม่ทำ ข้าจะไม่เป่าลมใส่คนตาย"

 

ถ้าหลู่เจียวไม่ได้ทำ CPR กับเซี่ยเหลียน นางจะยกมือขึ้นตบกระโหลกเสิ่นเสี่ยวซานซักทีหนึ่ง นี่เป็นภรรยาของเขาเอง แต่ตอนนี้กลับรู้สึกขยะแขยง ทั้งๆที่นางยังมีหวังอยู่

 

แต่ถึงแม้ว่านางจะไม่สามารถจัดการเสิ่นเสี่ยวซานได้ชั่วคราว แต่นางก็มองแรง จ้องไปที่ เสิ่นเสี่ยวซานอย่างเข้มงวดแล้วเตือนว่า "ถ้าเจ้าไม่กล้าเข้ามา ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้"

 

เสิ่นเสี่ยวซานลังเล ผู้หญิงสองคนในหมู่บ้านข้างหลังเขา ก็รีบจับเขาเดินไปทางเซี่ยเหลียน

 

หลู่เจียวรีบกล่าวออกมาเร่งเร้า "รีบพ่นลมหายใจกับภรรยาของเจ้าเร็วเข้า นางยังไม่ตาย"

 

หลู่เจียวกล่าวเช่นนี้เพราะนางต้องการให้ เสิ่นเสี่ยวซานช่วยผายปอดให้กับเซี่ยเหลียน

 

อย่างไรก็ตามเสิ่นเสี่ยวซานไม่ตอบสนองต่อคำพูดของนาง แต่ชาวบ้านเริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น “ยังไม่ตายจริงๆเหรอ”

 

“เป็นไปได้ยังไง พวกเราสำรวจลมหายใจของเธอใต้จมูกของนางก่อนหน้านี้ นางไม่มีลมหายใจแล้วไม่ใช่หรือ”

 

“เมื่อภรรยาหยุนจินบอกว่า เซี่ยเหลียนยังไม่ตาย นางย่อมสามารถช่วยเซี่ยเหลียนได้อย่างแน่นอน หยุดเถียงกันได้แล้ว"

 

หลู่เจียวไม่สนใจผู้คนที่กำลังพูดคุยกัน นางเหยียดมือออกมา และคว้าเสิ่นเสี่ยวซาน แล้วสั่งออกไปอย่างแรง "เป่าลมใส่ปากทันที ไม่งั้น ข้าจะฆ่าเจ้า”

 

เสิ่นเสี่ยวซานถูกบังคับให้เป่าลมใส่ปากเซี่ยเหลียน ความจริงแล้วเขารู้สึกกลัวเล็กน้อย เขารู้สึกว่า เขากำลังเป่าอากาศให้กับคนตาย

 

แต่หลู่เจียวจ้องมาที่เขา ถ้าหากเขาไม่ทำ เธอก็ไม่ลังเลที่จะทุบตีเขาซักทีให้หายกลัว 

 

หลู่เจียวจ้องที่เซี่ยเหลียนแล้วช่วยนางต่อไป เสิ่นเสี่ยวซานก็ช่วยเป่าลมผายปอด เป็นเครื่องช่วยหายใจให้เซี่ยเหลียนชั่วขณะหนึ่ง ตามคำแนะนำของหลู่เจียว แต่เซี่ยเหลียนก็ยังคงไม่ขยับ

 

หลู่เจียวบอกให้เสิ่นเสี่ยวซานหยุด นางทำ CPR แล้วเสิ่นเสี่ยวซานช่วยผายปอด แต่เซี่ยเหลียนก็ยังไม่ฟื้น เมื่อหลู่เจียวเห็นว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล นางต้องทำการฉีดอะดรีนาลีนเข้าไปในกล้ามเนื้อของเซี่ยเหลียนทันที ไม่เช่นนั้นนางจะตาย

 

มีอะดรีนาลีนอยู่ในพื้นที่มิติของนาง แต่นางไม่ต้องการเปิดเผยต่อหน้าผู้คน แต่เวลานี้ก็ค่ำมืด เป็นเวลากลางคืน และพบว่าถึงแม้จะมีแสงจันทร์ และคนอื่นๆก็มองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของนางอย่างชัดเจน หากนางทำอย่างใดอย่างหนึ่งออกไปอย่างฉีดยาให้นาง ชาวบ้านอาจจะยังไม่ทันสังเกตเห็น หรือไม่สามารถมองเห็นได้ในรายละเอียด

 

หลู่เจียวเมื่อคิดได้ดังนี้ นางจึงนำอะดรีนาลีนออกจากพื้นที่มิติทันทีและฉีดเข้ากล้ามเนื้อให้กับเซี่ยเหลียน

 

ไม่นานหลังจากการฉีดอะดรีนาลีนเข้ากล้ามเนื้อ หลู่เจียวสังเกตเห็นว่าหน้าอกของเซี่ยเหลียนกระเพื่อมขึ้นลงทันที แล้วนางก็ไอออกมา

 

หลู่เจียวถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ในเวลานี้เอง นางถึงได้รู้ว่า ร่างกายของนางอ่อนแอ และร่างกายทั้งหมดของนางก็แทบพังทลาย เพราะวันนี้ นางทั้งทำการผ่าตัดให้เซี่ยหยุนจิน แล้วยังมาปั้มหัวใจ ช่วยชีวิตเบื้องต้นให้กับเซี่ยเหลียน ตอนนี้นางก็เหนื่อยเกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้แล้ว 

 

ฝูงชนพากันอุทานเมื่อเห็นดังนี้ "เซี่ยเหลียน นางยังมีชีวิตอยู่"

 

"โอ้… เป็นไปได้ยังไง ข้าเห็นชัดๆว่านางไม่หายใจแล้ว แต่ตอนนี้นางยังมีชีวิตอยู่"

 

"ภรรยาของหยุนจิน แข็งแกร่งเกินไปแล้ว"

 

"ใช่ นางมีพลังมากจนนางช่วยชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนได้"

 

หลู่เจียวไม่สนใจผู้คนรอบตัวนาง หันไปมอง เสิ่นเสี่ยวซานและพูดอย่างโกรธเคือง "นางไม่เป็นไรแล้ว รีบพานางกลับบ้าน แล้วดูแลให้ดี"

 

หลังจากที่หลู่เจียวพูดจบ นางก็ลุกขึ้นและเตรียมจะกลับบ้านไป ผู้คนในหมู่บ้านเซี่ยเจีย ที่อยู่โดยรอบ ก็พากันยกย่องนาง…

 

“ลูกสะใภ้หยุนจิน เจ้าน่าทึ่งจริงๆ”

 

“ใช่ คนตายไปแล้ว ยังสามารถช่วยชีวิตกลับมาได้”

 

“มันน่าทึ่งมาก”

 

หลู่เจียวไม่ต้องการให้ชาวบ้านเข้าใจผิด และพูดเกินจริง นางจึงอธิบาย "เซี่ยเหลียน ยังไม่ได้ตาย มันเป็นแค่ความตายหลอกๆ ก่อนหน้านี้ นางยังมีชีวิตอยู่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ความสามารถของข้าทั้งหมด"

 

นางกล่าวออกมา ให้ชาวบ้านฟัง แล้วเดินกลับบ้าน

 

แต่ถึงแม้หลู่เจียวจะอธิบายออกไปอย่างไร ผู้คนในหมู่บ้านเซี่ยเจีย ก็ยังคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของนางนั้นทรงพลังมาก หากเป็นหนึ่งหรือสองครั้งก็เท่านั้น แต่นางก็รักษาคนแล้วคนเล่า กระทั่งป่วยหนักโรงหมอไม่สามารถรักษาได้อย่างหลินเอ้อตั้นก็ยังรักษาได้ และแม้แต่คนตายไปแล้วอย่างเซี่ยเหลียนก็ยื้อชีวิตกลับมาได้ นี่มันไม่ใช่ธรรมดาแล้ว

 

เมื่อหลู่เจียวกลับบ้าน ซูต้าจินและคนอื่นๆ ก็พากันจากไปแล้ว ตอนนี้ในครอบครัวสมควรจะต้องทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครกิน ทุกคนกำลังรอนางอยู่

 

“ทำไมไม่กินข้าวกันก่อน ยังจะรออะไรอีก”

 

นางเถียนชี้ไปที่เด็กน้อยทั้งสี่แล้วพูดว่า “พวกเขาไม่ยอมกินข้าว พวกเขาบอกว่าจะกินด้วยกันกับเจ้า เมื่อเจ้ากลับมาแล้ว”

 

ดวงตาทั้งคู่ของหลู่เจียว ก็มีความสุขและทุกข์ใจเล็กน้อยสำหรับเด็กน้อยพวกนี้ที่ต้องรอกินข้าวพร้อมกับนาง นางนั่งลงและกอดพวกเขาทีละคน

 

“ถ้าคราวหน้าแม่มีอะไรต้องไปทำ พวกเจ้าก็กินข้าวกันก่อนได้”

 

เด็กน้อยทั้งสี่คนถูกหลู่เจียวกอด ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข พวกเขาชอบให้แม่กอด และแม่ก็กอดพวกเขาอย่างอบอุ่น และเมื่อแม่อุ้มพวกเขาไว้ พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความรักที่แม่มีต่อพวกเขา

 

ไม่ต้องพูดถึงเอ่อเป่า ซันเป่า และซือเป่า แม้แต่ดวงตาของต้าเป่า ก็สว่างขึ้นและมุมปากของเขาก็แย้มยิ้มออกมา

 

เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาเล็กๆ ของพวกเขา หลู่เจียวก็รู้สึกว่าพวกเขาน่ารักอย่างสุดจะพรรณนา และสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ก็เป็นสิ่งที่เขาควรจะเป็น แทนที่จะเลียนแบบใบหน้าของพ่อทั้งวัน

 

หลู่เจียวอดไม่ได้ที่จะเอนตัวไปหอมแก้มที่แก้มเล็กๆ ของพวกเขา

 

ใบหน้าเล็กๆ ของต้าเป่า เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใด เขาหันหลังกลับอย่างเชื่องช้าและจากไป หลู่เจียวหัวเราะเมื่อเห็นมัน เจ้าตัวเล็กคนนี้ขี้อายเหรอ? เมื่อเห็นว่าหลู่เจียวหอมแก้มต้าเป่า, เอ้อเป่า, ซันเป่า และ ซือเป่า ก็นำใบหน้าเล็กๆ ของพวกเขามารวมกันทันที

 

“ท่านแม่ หอมแก้มข้าด้วย”

 

หลู่เจียวก็หอมแก้มพวกเขาทีละคน และเด็กน้อยทั้งสามก็หัวเราะอย่างพอใจ

 

นางเถียนมองดูท่าทางร่าเริงของลูกสาวและลูกๆของนาง นางเองก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขไปกับพวกเขา ในที่สุด ลูกสาวของนางก็มีชีวิตที่ดี เมื่อเห็นดังนี้ นางก็โล่งใจ

 

"เอาล่ะๆ ไปกินข้าวกันเถอะ ค่ำแล้ว"

 

หลู่เจียวลุกขึ้นและดึงเด็กสามคนเข้าไปในห้อง

 

มื้อนี้เป็นอาหารเบาๆ โจ๊กผักใบเขียว ยังมีแตงกวา และผัดถั่วงอก

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะทานอาหารมื้อเบาๆ แต่ก็ยังได้รับผลตอบรับอย่างดีจากทุกคน และแม้แต่นางเถียน ก็ยังยกย่องมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าอร่อย

 

"เจียวเจียว กะหล่ำปลีของเจ้านุ่มกรอบและอร่อยจริงๆ ดีกว่ากะหล่ำปลีที่อื่นมากจริงๆ"

 

เด็กทั้งสี่คนพยักหน้าเห็นด้วย คิดว่าโจ๊ะกะหล่ำปลีนั้นอร่อยมาก

 

หลู่เจียวอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มมุมปากของนาง ผักสีเขียวพวกนี้ ถูกนางรดน้ำด้วยน้ำพุจิตวิญญาณ เป็นธรรมดาที่มันจะมีรสชาติดีกว่าผักอื่นๆ และกะหล่ำปลีสีเขียวพวกนี้ ก็ยังมีผลดีต่อสุขภาพ และง่ายต่อการย่อยอีกด้วย

 

หลู่เจียวมองไปที่นางเถียน อย่างครุ่นคิดและกล่าวว่า "หากแม่ชอบมัน แม่ก็นำกลับไปกินที่บ้านด้วยสิ"

 

นางเถียนไม่ได้บอกปัด เพราะนางเห็นว่า ลูกสาวของนางปลูกผักพวกนี้เอาไว้เป็นจำนวนมาก  “ตกลง”

 

หลู่เจียวไม่พูดอะไรอีก รีบกินข้าวต้มจนเสร็จ แล้วไปที่ครัวเพื่อป้อนอาหารเซี่ยหยุนจิน

 

“ขาของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

 

เซี่ยหยุนจินส่ายศีรษะ ก่อนหน้านี้ เขากินยาแก้ปวดเข้าไป เพียงไม่นาน เขาก็ไม่รู้สึกปวดมากเหมือนเดิมอีกต่อไป  แต่เขาก็กังวลเล็กน้อย ว่าการใช้ยานี้ จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของขาของเขาหรือเปล่า

 

“หมอฉี เป็นคนให้ยาที่เจ้าให้ข้าหรือเปล่า?”

 

หลู่เจียวพยักหน้า “ใช่ หมอฉีบอกว่า ถ้าเจ้าปวดมาก ก็ให้เจ้ากินได้ ไม่ต้องกังวล แล้วมันจะค่อยๆดีขึ้น"

 

"ไม่มีอะไรจริงๆเหรอ"

 

หลู่เจียวมองไปที่เซี่ยหยุนจิน อย่างจริงจัง เซี่ยหยุนจิน เองก็มองไปที่นาง นางก็พยักหน้าให้เขาอย่างจริงจัง และเมื่อเซี่ยหยุนจินกินข้าวต้มเข้าไป เขาก็ยังไม่ลืมที่จะพูดว่า "ไม่ต้องให้ยานี้กับข้าในวันพรุ่งนี้ ข้าสามารถทนได้"

 

เมื่อเห็นเขายืนกรานแบบนั้น หลู่เจียวก็ไม่ยืนกรานที่จะให้เขากินยาแก้ปวด เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกังวลว่ามันจะส่งผลต่อการรักษาขาของเขา และหลังจากคืนนี้ ความเจ็บปวดก็คงทะเลาลง พอพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมา เขาก็คงพอจะทนได้

 

“ตกลง”

 

เนื่องจากเซี่ยหยุนจิน เพิ่งได้รับการผ่าตัด หลู่เจียวจึงไม่ปล่อยให้เขากินอย่างอื่น และไม่ให้เขากินมากจนเกินไป ให้โจ๊กผักกับเขาเพียงครึ่งชามเท่านั้น

 

ก่อนที่เซี่ยหยุนจิน จะนอนหลับอยู่บนเตียง เขาได้ยินเสียงจากข้างนอก และรู้ว่าเด็กๆทุกคนบอกว่าผักของแม่ของเขาอร่อยมาก

 

หลังจากที่เขากินลงไป เขาก็ยังยืนยันด้วยว่า "ผักสีเขียวนี้ดูสดและอร่อยกว่าผักอื่นๆจริงๆ"

 

หลู่เจียว ก็แย้มยิ้มที่มุมปาก เมื่อนางได้ฟัง นางก็อารมณ์ดีมาก…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป