เกิดใหม่ เป็นแม่ของตัวร้าย ในช่วงวัยเด็กในนิยาย แถมสามียังเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่พวกเขากลับอยากฆ่านาง นางจะอยู่สอนเด็กๆให้เป็นคนดีไม่กลายเป็นตัวร้ายในอนาคต หรือจะจากไปดี แต่เด็กพวกนี้ก็น่ารักจริงๆ...
เกิดใหม่ เป็นแม่ของตัวร้าย ในช่วงวัยเด็กในนิยาย แถมสามียังเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่พวกเขากลับอยากฆ่านาง นางจะอยู่สอนเด็กๆให้เป็นคนดีไม่กลายเป็นตัวร้ายในอนาคต หรือจะจากไปดี แต่เด็กพวกนี้ก็น่ารักจริงๆ...
ซันเป่าก็เข้ามายืนข้างๆหลู่เจียวและถามว่า“ท่านแม่ท่านช่วยล้างพิษงูได้จริงหรือ?”
หลู่เจียวพยักหน้า“ใช่พิษงูไม่ได้แรงขนาดนั้น”
เอ้อเป่ามองไปที่หลู่เจียวด้วยความชื่นชมและพูดว่า"แม่เมื่อข้าโตขึ้นข้าอยากจะเก่งเหมือนท่าน"
ซันเป่าและซือเป่าก็พยักหน้าอย่างจริงจังและบรรยากาศในห้องก็กลับมาร่าเริงอีกครั้ง
หลังจากที่หลู่เจียวกินบะหมี่เย็นเสร็จแล้วนางก็เก็บของเข้าไปในครัวเพื่อล้างเมื่อนางซักผ้านางคิดว่าที่บ้านไม่มีเก้าอี้เล็กๆสักสองสามตัวมันค่อนข้างลำบากเล็กน้อย
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อนางกลับมาจากบ้านหลู่นางก็ควรหาวิธีหาโต๊ะและเก้าอี้ดีๆมาไว้ซักชุด
แม้ว่านางจะจากไปในสองหรือสามเดือนหลังจากนี้แต่ก็คงจะดีหากยังมีที่นั่งในบ้านแห่งนี้
เด็กสี่คนยืนกินอยู่ในบ้านเพราะที่บ้านไม่มีเก้าอี้มันก็ดูจะลำบากเกินไปหน่อย
หลังจากหลู่เจียวล้างจานเสร็จแล้วนางช่วยเซี่ยหยุนจินอุ่นยาและนำไปที่ห้องนอนทางทิศตะวันออกเพื่อให้อาหารเขาขณะให้อาหารเซี่ยหยุนจินเหมือนเขาจะจำได้ว่าหลู่เจียวขึ้นไปบนภูเขาเพื่อล่าสัตว์ในบ่ายวันนี้ก็เลยถาม
“บ่ายนี้เจ้าไปล่าสัตว์บนภูเขาจับอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”
หลู่เจียวคิดถึงเลือดกวางและกวางในพื้นที่มิติทันที
แต่ตอนนี้นางใส่เลือดกวางและกวางลงในพื้นที่มิติและมันไม่ง่ายเลยที่จะเอามันออกนางจึงส่ายศีรษะ
“เปล่าข้าเห็นซูต้าจินโดนพิษก็เลยช่วยเขาล้างพิษแล้วลืมไปแต่ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เช้าข้าจะขึ้นไปบนภูเขาไปหาอะไรก่อนออกเดินทาง”
เซี่ยหยุนจินเตือน"ระวังตัวด้วย"
หลู่เจียวพยักหน้าและตอบว่า"ตกลง"
หลังจากที่เซี่ยหยุนจินดื่มยาเสร็จช้าๆเขาก็พูดว่า"เมื่อเจ้ากลับมาข้าจะสอนให้เจ้าอ่าน"
หลู่เจียวตกตะลึงและสอนให้นางอ่านซึ่งเยี่ยมมาก
แต่ผู้ชายคนนี้ดีขนาดนี้เลยเหรอ?
หลู่เจียวจ้องมาที่เขาอย่างสงสัยและคาดเดาว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
ก่อนที่หลู่เจียวจะพูดได้สมบัติสองสมบัติสามและสมบัติสี่ในห้องนอนด้านตะวันออกต่างก็วิ่งไปและพูดอย่างมีความสุข
“แม่ไม่ต้องให้พ่อสอน”
“เราจะสอนเองสอนให้เราอ่านสามตัวละครแล้ว”
สมบัติสี่น้อยกอดขาของหลู่เจียวมากขึ้นดวงตาสีพีชที่ตื่นเต้นของนางกระพริบ
“แม่ข้าจะทำข้าจะสอนเอง”
บนเตียงเซี่ยหยุนจินจ้องไปที่เด็กสามคนที่อยู่ข้างหน้าเตียงด้วยท่าทางที่มืดมิด
ทันทีที่ความคิดของเซี่ยหยุนจินลดลงต้าเป่าที่อยู่ข้างห้องก็เดินไปอย่างสงบมองไปที่เด็กสามคนและพูด
“เจ้าจะสอนให้คนอ่านคัมภีร์สามอักษรเจ้าละอายใจไหมข้าคิดว่าข้าควรปล่อยให้พ่อสอนหลังจากสอนคัมภีร์สามอักษรแล้วก็ต้องสอนคัมภีร์ร้อยแซ่และคัมภีร์พันอักษร”
เมื่อต้าเป่าพูดจบเซี่ยหยุนจินบนเตียงก็พูดว่า"เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าสามารถสอนพวกเขาทั้งหมดได้"
สมบัติสองสมบัติสามและสมบัติสี่ตัวเล็กๆต่างก็พากันมองหน้ากัน
"เอาล่ะถ้างั้นให้พ่อสอน"
พวกเขารู้จักแต่คัมภีร์สามอักษรเท่านั้น
หลู่เจียวมองไปที่การแสดงออกที่หดหู่ใจของเด็กๆทั้งสามและพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"ทำไมพวกเราไม่เรียนหนังสือกับพ่อของเจ้าด้วยกันล่ะ"
ตาเล็กทั้งสามเป็นประกายและคราวนี้ตาของต้าเป่าก็สว่างขึ้นเช่นกันทุกคนหันกลับมามองเซี่ยหยุนจินบนเตียง
เซี่ยหยุนจินคิดว่าไม่เป็นไรในอดีตเขาไปโรงเรียนในเทศมณฑลและไม่มีเวลาสอนลูกชายตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านเขาจะสอนการความรู้แก่พวกเขาแม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหวได้ไม่มากในตอนนี้แต่นอนอยู่บนเตียงแบบนี้เขายังคงขยับปากได้
เซี่ยหยุนจินตกลงทันที"ตกลงเอาตามนั้น"
หลู่เจียวมีความสุขมากหลังจากจำตัวอักษรจีนดั้งเดิมได้แล้วนางก็จะสามารถสั่งยาได้ในอนาคตก็ไม่เลว
“แล้วเมื่อนางกลับมาจากบ้านแม่และอยู่ว่างๆเมื่อไหร่นางจะเตรียมเรียนอ่าน”
"มันดีมาก"
ครอบครัวหกคนตัดสินใจในเรื่องนี้และหลู่เจียวก็พาเด็กน้อยทั้งสี่ออกไปอาบน้ำ
หลังจากปรับสภาพมาสองสามวันนี้แม้ว่าเด็กน้อยทั้งสี่จะยังผอมอยู่แต่ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดจางน้อยลงมากคิ้วและตาของพวกเขาก็ดูบอบบางและน่ารักมากขึ้นหลู่เจียวมีความสุขมากที่ได้เห็นมัน
แต่หลังจากอาบน้ำนางพบว่าเด็กน้อยทั้งสี่คนไม่มีกางเกงที่จะใส่อีกต่อไปเด็กทั้งสี่คนมีเสื้อผ้าเพียง2ชุดในฤดูร้อนไม่สิพวกเขาสวมเสื้อผ้าขนาดเล็กและเสื้อคลุมยาวขนาดเล็กทับไว้ยาวไปเหมือนกางเกง
ดังนั้นนางจึงต้องช่วยเด็กๆทั้งสี่ทำเสื้อผ้าฤดูร้อนสองชุดโดยเร็วที่สุด
ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้หลู่เจียวก็สวมเสื้อให้เด็กน้อยทั้งสี่คนจากนั้นจึงโบกมือให้พวกเขาไปนอนในห้องนอนทางทิศตะวันออก
นางซักเสื้อผ้าที่เด็กน้อยทั้งสี่เปลี่ยนมิฉะนั้นพรุ่งนี้จะไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่
ในขณะที่หลู่เจียวกำลังซักผ้าเซี่ยเอ้อจูเข้ามาดูแลการขับถ่ายของเซี่ยหยุนจิน
เมื่อถึงเวลาที่นางซักเสื้อผ้าเสร็จแล้วเซี่ยเอ้อจูก็ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว
หลู่เจียวหยิบหัวหมูชามหนึ่งหยิบขนมหนึ่งกำมือเข้าไปในห้องนอนทางทิศตะวันออกแล้วยื่นให้เซี่ยเอ้อจู
“พี่รองเอาไปให้พี่สะใภ้รองและหลานๆ”
เซี่ยเอ้อจูปฏิเสธที่จะรับและโบกมือของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
"ไม่ๆๆพวกเขากินไปแล้วครั้งก่อนและมีความสุขมาก"
เซี่ยหยุนจินบนเตียงก็พูดออกมาบ้าง"พี่รองพี่นำกลับไปด้วยเถอะ"
เซี่ยเอ้อจูอยากจะพูดมากกว่านี้แต่หลู่เจียวได้วางมันไว้ในมือของเขาแล้ว"เอาล่ะมันดึกแล้วพี่รองก็กลับไปพักผ่อนเถอะ"
เซี่ยเอ้อจูมองไปที่เซี่ยหยุนจินจากนั้นไปที่หลู่เจียวเมื่อเห็นว่าหลู่เจียวต้องการให้มันจริงๆในที่สุดเขาก็ยอมรับมัน
“งั้นข้าจะรับไว้”
น้องสะใภ้สามคนนี้ทำอาหารอร่อยดีโดยเฉพาะหมู่ตุ๋นครั้งก่อนแทบเรียกได้ว่าอร่อยมากหลังจากครั้งสุดท้ายที่ลูกสาวสองคนกินเสร็จพวกนางก็พูดถึงมันไม่หยุดว่าไม่เคยกินอะไรอร่อยขนาดนี้มาก่อน
หลู่เจียวโบกมือของนาง"แล้วทำไมต้าหยาและเอ้อหยาถึงไม่ออกมาเล่นบ้าง"
เซี่ยเอ้อจูถอนหายใจยาวและพูดว่า"เรามีหมูและไก่อยู่ที่บ้านและต้าหยากับเอ้อหยาต้องเก็บหญ้าหมูเพื่อเลี้ยงหมูและไก่พวกนั้นจึงไม่ว่างมาที่นี่"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เซี่ยเอ้อจูรู้สึกหนักใจมากและรู้สึกเสียใจมากต่อลูกสาวสองคน
น้องสาวคนเล็กของเขาเซี่ยหลานไม่ได้ทำอะไรเลยทั้งวันและแม้แต่เสื้อผ้าก็ถูกต้าหยาลูกสาวของเขาซักให้เหมือนลูกสาวของเขาจะเป็นสาวใช้ภายในบ้านไปแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เซี่ยเอ้อจูก็รู้สึกหดหู่ใจมากแต่เขาไม่รู้ว่าจะกบฏต่อพ่อแม่อย่างไร
ในห้องหลู่เจียวมองไปที่ใบหน้าแก่ๆของเซี่ยเอ้อจูที่ถูกกดขี่มาทั้งชีวิตและแทบทนไม่ได้นางเลิกคิ้วขึ้นและสงสัยว่านางต้องการหาวิธีที่จะช่วยเซี่ยเอ้อจูด้วยหรือไม่
เซี่ยเอ้อจูในห้องก็เห็นว่าดึกมากแล้วดังนั้นเขาจึงรีบเอาหัวหมูเนื้อและน้ำตาลและจากไปอย่างระมัดระวัง
ข้างหลังเขาหลู่เจียวเตือนเขาว่า“พี่รองระวังอย่าให้ใครรู้”
หากนางเหยียนค้นพบมันจะกลายเป็นพายุอีกลูกหนึ่ง
หลู่เจียวหันกลับมามองเซี่ยหยุนจินบนเตียง
คิ้วและตาของเซี่ยหยุนจินบูดบึ้งและทั้งตัวของเขาก็เย็นชามากขึ้นเมื่อหลู่เจียวเห็นเขาแบบนี้นางรู้ว่าเขากำลังคิดถึงพ่อแม่ที่ไร้ยางอายเหล่านั้น
แต่ถึงแม้พ่อแม่จะไร้ยางอายยังไงแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็ก
บนเตียงเซี่ยหยุนจินสงบความโกรธของเขาและพูดช้าๆว่า"ที่จริงข้าเคยแนะนำพี่รองให้เข้าไปในเมืองเพื่อทำการค้าเล็กๆและครั้งหนึ่งข้าเคยให้ทุนเขากับพี่สะใภ้รองและลูกสาวของเขาเข้าไปในเมืองเพื่อการค้าเล็กๆน้อยๆ"
“แต่พี่ชายคนที่สองแก่และไม่มีประสบการณ์และเขาไม่เหมาะกับการทำการค้าเลยพี่สะใภ้รองก็เป็นคนแบบนี้เช่นกันพวกเขาคงเหมาะสำหรับการเกษตรเท่านั้น”
หลู่เจียวฟังและแนะนำว่า"เนื่องจากเขาเหมาะสำหรับการทำการเกษตรในอนาคตเจ้าสามารถซื้อที่ดินทำกินและปล่อยให้พวกเขาดูแลได้อย่างแรกดูแลเขาประการที่สองเขามีบางอย่างที่ต้องทำและประการที่สามเจ้าจะได้ช่วยเขาแยกบ้านจากบ้านพ่อแม่เจ้าได้"
คำพูดของหลู่เจียวทำให้เซี่ยหยุนจินหยุดคิดนับว่าเป็นแผนที่ดีเขาเลิกคิ้วขึ้นและคิดอย่างลึกซึ้ง
หลู่เจียวไม่สนใจเขาหันหลังกลับไปและไปที่ห้องนอนทางทิศตะวันตกเพื่อเอาเสื่อมาเตรียมเข้านอน
ใครจะรู้ว่านางเพิ่งวางเสื่อลงและเสียงเบาๆก็ดังขึ้นบนเตียง
“แม่ครับผมขอลูกอมด้วย”