Your Wishlist

เมียคนธรรมดา (ปากหวานน้อย)

Author: หยูเสี่ยวถง

เกิดใหม่ เป็นแม่ของตัวร้าย ในช่วงวัยเด็กในนิยาย แถมสามียังเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่พวกเขากลับอยากฆ่านาง นางจะอยู่สอนเด็กๆให้เป็นคนดีไม่กลายเป็นตัวร้ายในอนาคต หรือจะจากไปดี แต่เด็กพวกนี้ก็น่ารักจริงๆ...

จำนวนตอน :

ปากหวานน้อย

  • 13/05/2565

เซี่ยหยุนจินยังคงหลับอยู่แต่ใบหน้าของเขาสกปรกมาก

 

หลู่เจียวเช็ดใบหน้าและมือของเขาด้วยผ้าเก่าจากนั้นวางผ้าเก่าลงโดยตั้งใจจะถอดเสื้อและเช็ดตัวอีกครั้ง

 

โดยไม่คาดคิดนางเพิ่งปลดผ้ารัดเอวของเซี่ยหยุนจินและเขาก็เอื้อมมือออกมาจับมือนางจากนั้นเสียงที่แผ่วเบาแต่เย็นชาก็ดังขึ้น

 

"เจ้ากำลังจะทำอะไร?"

 

หลู่เจียวเงยหน้าขึ้นและพบว่าเซี่ยหยุนจินตื่นแล้วเขาจ้องมองนางด้วยสายตาที่ไร้ความปราณีราวกับว่านางเป็นผู้ชายและเขาเป็นผู้หญิงและกำลังจะถูกนางข่มแหงรังแก

 

หลู่เจียวเลิกคิ้วอย่างไม่ค่อสบอารมณ์แล้วพูดว่า“ก่อนหน้านี้เจ้าออกไปข้างนอกพอกลับมาทั้งตัวของเจ้าสกปรกมากแถมเจ้าไม่ได้อาบน้ำเลยในช่วงสองวันที่ผ่านมาข้าอยากให้เช็ดตัวให้ซักหน่อยและเปลี่ยนเสื้อผ้าของเจ้าทั้งตัวทั้งเสื้อผ้าก็สกปรกเจ้าไม่รู้สึกอึดอัดกับเสื้อผ้าสกปรกของเจ้าบ้างเหรอ?”

 

นางเป็นหมอนางจึงเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และหมอทหารมักจะดูแลผู้ป่วยเหมือนเป็นพยาบาลไปในตัวดังนั้นนางจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้โอเค?

 

หลู่เจียวกลอกตามองอย่างดุเดือด

 

เซี่ยหยุนจินไม่ยอมปล่อยมือเพราะคำพูดของนางแต่เขายังคงจับผ้าคาดเอวเอาไว้แม้ว่าเขาจะอ่อนแอมากเขาก็ดิ้นรนและพูดว่า"ข้าจะทำเอง"

 

หลู่เจียวไม่ได้บังคับ“เอาล่ะตกลงเจ้าทำเองได้ปลดผ้าคาดเอวของเจ้าออกก่อน”

 

เมื่อคำพูดลดลงเซี่ยหยุนจินไม่ได้ขยับเพียงแค่จ้องมองไปที่นาง

 

หลู่เจียวคิดเกี่ยวกับมันและเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึงจึงหันหน้าหนีจากเขา

 

เซี่ยหยุนจินถอนหายใจด้วยความโล่งอกขมวดคิ้วและถอดเสื้อออกด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวดแต่เขาอาเจียนเป็นเลือดก่อนหน้านี้ร่างกายของเขาอ่อนแอมากและเขาไม่มีแรงกำลังในมือดังนั้นเขาจึงตัวสั่นบ้างเป็นบางครั้งและไม่สามารถทำได้เลยทันที

 

แฝดสี่ในห้องดูวิตกกังวลและเด็กสี่คนก็วิ่งเข้ามาแล้วพูดว่า

 

“พ่อครับผมจะช่วย”

 

"ข้าจะช่วยท่านเอง"

 

หลู่เจียวยกมือขึ้นอย่างเงียบๆและตบหน้าผากของนางโดยคิดว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

 

นอกประตูเสียงของเซี่ยเอ้อจูก็ดังเข้ามาพอดี"น้องสามเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"

 

เมื่อหลู่เจียวได้ยินเสียงของเซี่ยเอ้อจูนางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทันทีและตะโกนว่า"พี่รองเข้ามาก่อน"

 

เซี่ยเอ้อจูก็เดินเข้ามาหลู่เจียวเมื่อเห็นเขาจึงขอความช่วยเหลือจากเขาทันทีจากนั้นนางก็ไปที่ห้องนอนทางทิศตะวันตกเพื่อนำชุดใหม่ออกมาให้เขา

 

"ใส่นี่ให้หยุนจินมันจะสบายตัวกว่าเดิม"

 

เซี่ยเอ้อจูมองดูหลู่เจียวอย่างระมัดระวังเขาเคยกลัวปากของน้องสะใภ้สามและตอนนี้เขายิ่งกลัวการกระทำของนางมากยิ่งขึ้นไปอีกเขาได้ยินมาว่าวันนี้น้องสะใภ้สามคนนี้ได้จัดการกับแม่ม่ายหลี่เสียก่อนหมดสภาพและกระทั่งเรียกร้องค่าทำขวัญจากมือของแม่หม้ายหลี่มาหนึ่งตำลึง

 

สุดท้ายนางยังแบ่งเงินให้กับคนอื่นที่เข้ามาช่วยเหลือสำหรับเรื่องนี้ทำให้คนในหมู่บ้านมีชีวิตชีวามากหลายคนยังรู้สึกว่าพวกเขาพลาดไปที่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือเด็กๆทั้งสี่หลายคนยังเล่าอีกว่าสะใภ้สามแข็งแกร่งมาก

 

เซี่ยเอ้อจูคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตอบอย่างระมัดระวัง"เอาล่ะน้องสะใภ้วางใจเถอะ"

 

หลู่เจียวพยักหน้าแล้วหันหลังเดินออกไปข้างหลังนางเสี่ยวซือเป่าเหลือบมองพ่อของเขาบนเตียงแล้วหันหลังวิ่งตามหลู่เจียวออกไปและตะโกนร้องออกไปขณะที่เขาวิ่ง

 

“ท่านแม่ข้าจะไปกับท่าน”

 

แฝดสามที่ด้านหลังจ้องกลับอย่างโกรธจัดจากนั้นทั้งสามก็มองไปที่เซี่ยหยุนจินบนเตียงในเวลาเดียวกันและบ่น

 

“ท่านพ่อซือเป่าเรียกหญิงเลวว่าแม่”

 

“ฮึ่มเราจะไม่สนใจเขาเราจะไม่เล่นกับเขาเราจะไม่คุยกับเขาอีกต่อไป”

 

“ต่อจากนี้ข้าจะไม่ปกป้องเขาแล้ว”

 

เซี่ยหยุนจินเลิกคิ้วและมองไปที่แฝดสามอย่างเคร่งขรึมและตำหนิ"เจ้าพูดอะไรไม่ว่าเจ้าจะเรียกนางว่าแม่หรือไม่ก็ตามแต่ว่านางก็เป็นแม่ของเจ้าและพวกเจ้าไม่สามารถโกรธคนอื่นที่เรียกนางว่าแม่แม้ว่าพวกเจ้าจะไม่เรียกนางว่าแม่ก็ตาม"

 

เอ้อเป่าซันเป่าพูดอย่างขุ่นเคือง"นางไม่ยอมให้เราเรียกเอง"

 

เซี่ยหยุนจินฟังคำพูดของเอ้อเป่าและซันเป่าและความโกรธก็ฉายในดวงตาของเขาแต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักได้ว่าหลู่เจียวคนนี้ไม่ใช่หลู่เจียวคนนั้นผู้หญิงที่เขาเคยเบื่อหน่ายอีกต่อไปและหัวใจของเขาก็สบายใจขึ้นเล็กน้อยโดยไม่มีเหตุผล…

 

“ตอนนี้นางไม่น่ารักแล้วเหรอ?”

 

สมบัติสองและสมบัติสามหยุดพูดเซี่ยหยุนจินมองไปที่ทั้งสาม

 

เขาพูดอย่างจริงจัง"ถ้าเจ้าไม่อยากเรียกพ่อจะไม่ทำให้พวกเจ้าลำบากใจแต่เจ้าไม่ควรโกรธที่สมบัติสี่เรียกนางว่าแม่จำเอาไว้ว่าพวกเจ้าจะต้องเป็นพี่น้องที่ดี"

 

แฝดสามมองหน้ากันและพยักหน้า“พ่อครับเราเข้าใจแล้ว”

 

นอกบ้านลู่เจียวไม่รู้เรื่องนี้นางนำสมบัติสี่ไปที่ห้องครัว

 

หัวหมูเท้าหมูและตีนหมูที่เหลือจากตอนเช้ายังไม่ได้รับการจัดการแม้ว่าจะไม่ได้รับความเสียหายในพื้นที่มิติแต่ก็ไม่สามารถเก็บไว้ในพื้นที่มิติได้ตลอดเวลา

 

หลู่เจียวตัดสินใจทิ้งบางส่วนไว้ในพื้นที่มิติก่อนจากนั้นจึงคิดจัดการกับชิ้นใหญ่อย่างตีนหมูไส้เครื่องในหมูและหัวหมูแต่เนื่องจากบ้านมีหม้อเพียงหม้อเดียวนางจึงรอทำอาหารเย็นเสร็จก่อนนางยังคิดอยู่ว่าวันนี้ลืมซื้อหม้อใหม่มาเพิ่มอีกซักหม้อ

 

ในครัวเซี่ยเสี่ยวจวนได้ช่วยนางทำโจ๊กเสร็จแล้ว

 

“ป้าสามข้าวต้มพร้อมแล้วให้เจ้าตัวเล็กทั้งสี่กินเลยไหม?”

 

หลู่เจียวพยักหน้าเดินเข้าไปและเริ่มตักโจ๊กและพูดกับเซี่ยเสี่ยวจวนว่า"เจ้าอยู่และกินข้าวด้วยกันสิถ้าเจ้ายังไม่กินตอนนี้เจ้าก็ตักไปด้วยเจ้าสามารถกินในภายหลังได้ในตอนกลางคืน"

 

ทันทีที่นางพูดอย่างนั้นเซี่ยเสี่ยวจวนก็ส่ายศีรษะและหันหลังเดินออกไป"ป้าสามข้าจะกลับไปกินข้าวที่บ้านถ้ามีอะไรต้องทำก็เรียกหาข้าได้"

 

หลู่เจียวต้องการหยุดนางแต่เซี่ยเสี่ยวจวนเดินจากไปอย่างรวดเร็วและเดินออกจากเขตบ้านของนางไป

 

หลู่เจียวไม่มีทางเลือกคนบางคนก็ขี้เกรงใจจริงๆนางหันกลับไปและเดินเข้าไปในครัวเพื่อตักโจ๊กวางไว้บนโต๊ะเล็กๆเพื่อยกเข้าไปเพราะมันสายไปนิดหนึ่งนางไม่ได้เตรียมจานนางคิดที่จะเอาเค้กถั่วแดงที่ซื้อในเมืองออกมาด้วย

 

ซือเป่าน้อยมองเค้กถั่วแดงด้วยความประหลาดใจ“ท่านแม่นี่คืออะไรน่ะ?”

 

“เค้กถั่วแดงข้าซื้อมาให้พวกเจ้ากินแต่ละคนจะมีโจ๊กหนึ่งชามและเค้กถั่วแดงครึ่งชิ้น”

 

ดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกายเขามองขึ้นไปที่หลู่เจียวและชมว่า"แม่ท่านใจดีจริงๆ"

 

แม่คนนี้เก่งจริงๆดีกว่าแม่คนเดิมมาก

 

เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาที่น่ารักของเขาหลู่เจียวอดไม่ได้ที่จะเอนตัวไปล้อเลียนเขา

 

"พอเจ้าเห็นมันก็บอกว่าข้าใจดีหากเจ้าไม่เห็นมันแสดงว่าข้าใจไม่ดีใช่ไหม"

 

เสี่ยวซือเป่าส่ายศีรษะของเขาทันทียิ้มจนดวงตาดอกพีชกลายเป็นจันทร์เสี้ยว

 

“แม่ไม่มีขนมให้ก็เป็นใจดีเหมือนเดิม”

 

หัวใจของหลู่เจียวพองโตเพราะถูกสรรเสริญเยินยอนางอดไม่ได้ที่จะเอนตัวลงไปและหอมแก้มเด็กน้อย

 

เสี่ยวซือเป่าตกตะลึงจากนั้นปิดหน้าและยิ้มแย้มเขิลอายเพราะแม่หอมแก้มเขา…

 

หลู่เจียวรู้สึกตลกที่ลูกชายเหมือนลูกสาวแต่เมื่อเห็นว่ามันสายแล้วนางจึงหยิบโต๊ะแล้วเดินออกไปและบอกซือเป่าให้เดินช้าลง

 

“ช้าๆเดี่ยวล้ม”

 

“อืมเข้าใจแล้วแม่”

 

เสี่ยวซือเป่าลืมความโกรธของพี่น้องไปนานแล้วแม่ของเขาใจดีนางซื้อขนมและเค้กถั่วแดงให้พวกเขาอีกด้วยและอีกอย่างนางยังหอมแก้มเขาด้วยเขามีความสุขมาก…

 

ในห้องนอนทางทิศตะวันออกเซี่ยเอ้อจูได้ทำความสะอาดให้เซี่ยหยุนจินและสวมเสื้อผ้าที่สะอาดตัวใหม่ให้แล้ว

 

เซี่ยหยุนจินรู้สึกว่าคนทั้งตัวสบายขึ้นมากแม้ว่าเซี่ยเอ้อจูจะเคยเช็ดตัวให้เขามาก่อนแต่เขาก็ยังสวมเก่าซึ่งน่าอึดอัดมากแต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มซึ่งทำให้เขาสบายตัวกว่ามาก…

 

สีหน้าและท่าทางของเซี่ยหยุนจินจึงอ่อนลงอีกเล็กน้อย…

 

หลังจากที่หลู่เจียวเข้ามาพร้อมโต๊ะเล็กๆเขาก็ไม่ทำให้นางเสียหน้ากินข้าวกินน้ำพร้อมกับลูกๆอย่างว่าง่ายไม่ว่าจิตวิญญาณของผู้หญิงคนนี้จะเป็นยังไงทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำลงไปนั้นนับว่าดีอยู่แล้วดังนั้นเขาจึงไม่คิดเปิดโปงว่านางอาจจะเป็นวิญญาณสัมพเวสีที่เข้ามาสิงร่างหลู่เจียวคนเก่าในตอนนี้…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป