Your Wishlist

เมียคนธรรมดา (โกรธจนกระอักเลือด)

Author: หยูเสี่ยวถง

เกิดใหม่ เป็นแม่ของตัวร้าย ในช่วงวัยเด็กในนิยาย แถมสามียังเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่พวกเขากลับอยากฆ่านาง นางจะอยู่สอนเด็กๆให้เป็นคนดีไม่กลายเป็นตัวร้ายในอนาคต หรือจะจากไปดี แต่เด็กพวกนี้ก็น่ารักจริงๆ...

จำนวนตอน :

โกรธจนกระอักเลือด

  • 13/05/2565

ขณะที่นางเดินหลู่เจียวถามผู้จัดการหลี่ข้างๆนางว่า"ท่านมีพริกไทยและโป๊ยกั๊กอยู่ในร้านของท่านหรือไม่"

 

ผู้จัดการหลี่มองด้วยความประหลาดใจ“ใช่ท่านต้องการจะซื้อไปเพื่ออะไร?”

 

หลู่เจียวยิ้มและตอบออกไปว่า"มันมีประโยชน์"

 

ในเวลานี้พริกไทยและโป๊ยกั๊กถูกใช้ทำยานางไม่สามารถพูดได้ว่านางจะนำมันกลับไปทำอาหารและผู้คนควรคิดว่านางบ้าไปแล้วหากนางบอกออกไปอย่างนั้นเพราะราคาของพวกมันก็ไม่ใช่ถูกๆ

 

หลู่เจียวเดินไปสองสามก้าวแล้วถามว่า"มียิปซั่มด้วยหรือไม่"

 

ยิปซั่มยังใช้เป็นยาในสมัยโบราณไม่ทราบว่าเป่าเหอถังมีหรือเปล่า

 

นางต้องการใช้ยิปซั่มทำเต้าหู้ก่อนหน้านี้นางมักจะต้องการหาทางทำมาหากินให้ครอบครัวหลู่แล้วนางก็อยากจะสอนพวกเขาทำเต้าหู้แต่การทำเต้าหู้นั้นต้องใช้น้ำเกลือหรือยิปซั่มมาทำเต้าหู้เกลือนั้นแพงเกินไปเลยต้องใช้ยิปซั่มทำเต้าหู้ได้เท่านั้นไม่รู้ว่าที่ร้านจะมีหรือเปล่า…

 

เจ้าของร้านหันกลับมามองหลู่เจียวเพียงคิดว่าผู้หญิงบ้านนอกคนนี้แปลกมากทำไมนางถึงถามถึงสมุนไพรแปลกๆที่ไม่ค่อยมีใครใช้บ่อยๆ

 

"มีครับแม่นาง"

 

หลู่เจียวยิ้มทันทีและหยิบรายการยาที่หมอโจวเขียนใบสั่งยาไว้ให้ก่อนหน้านี้ด้วยอารมณ์ดี

 

“จัดยาตามใบสั่งยานี้สิบห่อและเปลี่ยนเป็นสมุนไพรอย่างดีนอกจากนี้ช่วยชั่งพริกไทยโป๊ยกั๊กและใบยี่หร่าอย่างละครึ่งจินให้ข้าด้วยท่านสามารถชั่งยิปซั่มได้มากสุดเท่าที่ทางร้านจะขายได้ให้ข้าด้วย…"

 

เจ้าของร้านมองดูใบสั่งยาแล้วไม่รู้จะพูดอะไร"แม่นางต้องการจะทำอะไร"

 

"จ่ายยา…"

 

ผู้จัดการหลี่มีท่าทางไม่เชื่อมันคือสูตรยาอะไรที่ต้องผสมสิ่งของเหล่านี้เข้าไปโดยเฉพาะยิปซั่มกินเข้าไปจะไม่ตายหรือแต่เมื่อเขาเห็นว่าหลู่เจียวไม่ต้องการจะพูดมันจึงไม่ง่ายเลยที่เขาจะถาม

 

หลู่เจียวใช้โอกาสนี้ถามเขาอีกครั้งว่า"เป่าเหอถังของท่านรับวัสดุทางการแพทย์ทุกชนิดด้วยหรือไม่"

 

ผู้จัดการหลี่พยักหน้า“ข้ายอมรับวัสดุทางการแพทย์ทุกชนิดแต่ราคาของยาที่เตรียมสำเร็จนั้นแพงกว่าเล็กน้อยและมันถูกกว่ามากหากเป็นวัสดุที่ยังไม่ได้แปรรูปแม่นางต้องการขายวัสดุยาด้วยหรือไม่?"

 

วัสดุยานั้นไม่จำเป็นต้องเป็นสมุนไพรเสมอไปอาจจะเป็นแร่หรือชิ้นส่วนของสัตว์บางตัวอย่างเขากวางเลือดกวางเป็นต้น

 

หลู่เจียวพยักหน้า"ผู้จัดการหลี่ได้โปรดดูแลข้าด้วยในอนาคต"

 

ผู้จัดการหลี่พอคิดถึงเห็ดหลินจืออายุ50ปีที่หลู่เจียวนำมาขายคิดว่านางคงรู้จักวัสดุยาไม่น้อยอาจบางทีนางอาจจะมีเห็ดหลินจืออีกจำนวนหนึ่งเก็บไว้อยู่ก็เป็นไปได้และใบหน้าของเขาก็ดูดีขึ้นมาก

 

"ตกลง"

 

ทั้งสองคนไปที่ด้านหน้าและเจ้าของร้านก็จ่ายยาให้หลู่เจียวเป็นการส่วนตัวและหลู่เจียวก็บอกให้เปลี่ยนยาบางตัวเป็นสมุนไพรอย่างดีอีกครั้งผู้จัดการหลี่ก็จัดยาให้นาง

 

ผู้จัดการหลี่ก็ประทับใจผู้หญิงคนนี้มากถึงแม้นางจะดูอ้วนและขี้เหร่ไปบ้างแต่นางก็ฉลาด

 

“รวมเจ็ดสิบสองตำลึงกับอีกหกเหรียญทองแดงถ้าปัดเศษส่วนไปให้นับเป็นเจ็ดสิบสองตำลึงถ้วน”

 

หลู่เจียวมองไปที่เจ็ดสิบตำลึงที่หายไปในชั่วพริบตาและถอนหายใจอีกครั้งกับความล้ำค่าของยาโบราณ

 

"ขอบคุณผู้จัดการหลี่"

 

หลู่เจียวใส่ยาที่เตรียมไว้ลงในตะกร้าด้านหลังด้วยรอยยิ้มและเก็บเงิน128ตำลึงที่เหลือโดยเจ้าของร้านจ่ายให้เป็นค่าเห็ดหลินจือเดิมทีเจ้าของร้านต้องการจ่ายให้นางเป็นตั๋วแลกเงินหรือเงินกระดาษ100ตำลึงหนึ่งใบแต่หลู่เจียวปฏิเสธนางมีพื้นที่มิติดังนั้นนางจึงไม่กลัวที่จะถือเงินก้อนก่อนหน้านี้นางก็เก็บเงินค่าเนื้อหมูป่าเอาไว้ในพื้นที่มิติกองใหญ่และเงินพวกนี้ที่ได้มาใหม่นางก็แค่ใส่เงินตำลึงพวกนี้เข้าไปในพื้นที่มิติของนางก็ใช้ได้แล้ว

 

ผู้จัดการหลี่มองดูนางอย่างกังวลแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากเพราะเข้าใจดีว่าคนบ้านนอกชอบที่จะใช้จ่ายเงินก้อนกันมากกว่าเงินกระดาษเพราะอย่างน้อยมันก็ไม่ได้เสียหายง่ายๆเหมือนเงินกระดาษเกิดตกน้ำหรือบ้านไฟไหม้เงินก้อนก็ยังเป็นก้อนอยู่แต่เงินกระดาษพอเจอฝนตกหนักๆเงินกระดาษก็ชำรุดหรือเจอไฟไหม้โดยบังเอิญแค่เสี้ยวหนึ่งทางร้านรับแลกเงินก็ไม่รับแลกเงินแล้ว

 

หลู่เจียวนำเงินเข้าไปเก็บในพื้นที่มิติบางส่วนโดยทำทีเป็นเอาใส่ตระกร้าเมื่อคนไม่สังเกตนางก็ส่งเข้าพื้นที่มิติของนางที่เหลือในตระกร้าก็เป็นวัสดุยา

 

นางเก็บของเข้าตะกร้าแล้วจากไปยังมีของให้ซื้ออีกมาก

 

เพราะนางมีเงินในกระเป๋าหลู่เจียวจึงเดินไปซื้อของใช้ในครัวเรือนเพิ่มเติมซื้อข้าวขาว30จินบะหมี่ขาว30จินน้ำมันเกลือซอสและน้ำส้มสายชูและอื่นๆที่เป็นของใช้จำเป็นที่ต้องมีในครัวเรือน!อย่างเสื้อผ้าก็ต้องซื้อใหม่!

 

อย่างไรก็ตามในร้านขายเสื้อผ้าไม่มีเสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับเด็กดังนั้นนางจึงสามารถซื้อผ้าผู้ใหญ่ไปตัดเอาหรือซื้อผ้าเป็นผืนไปตัดเอาได้เท่านั้นและนางยังซื้อเสื้อผ้าสองชิ้นสำหรับเซี่ยหยุนจิน

 

ส่วนเสื้อผ้าตัวเองนั้นนางยังไม่ซื้อเพราะต้องรอให้ลดน้ำหนักก่อนค่อยซื้อตอนนี้อ้วนมากใส่อะไรก็ดูไม่ดีอีกอย่างเพื่อเป็นหลักชัยว่าหากลดน้ำหนักไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่หากอยากใส่เสื้อผ้าใหม่ต้องรีบลดน้ำหนัก…

 

ในท้ายที่สุดนางซื้อขนมของกินเล่นของเด็กในยุคนี้และไปที่ร้านช่างตีเหล็กเพื่อซื้อขวานและจอบนางไม่ได้คาดคิดว่าสองสิ่งนี้จะมีราคาแพงมากแต่ถึงแม้จะมีราคาแพงมากก็ตามหลู่เจียวก็ต้องกัดฟันซื้อพวกมันมาเพราะหากจะยืมคนอื่นตลอดเลยมันก็ไม่ได้

 

หลังจากซื้อของพวกนี้นางสูญเสียเงินไปมากกว่าสิบตำลึงในกระเป๋าของนางแต่หลู่เจียวก็พอใจกับการซื้อของมากเพราะยังไงซะการซื้อของก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของผู้หญิง!

 

เมื่อเห็นว่าใกล้ค่ำแล้วนางจึงเก็บข้าวของและเดินตรงไปยังที่ซึ่งเกวียนจอดอยู่ก่อนหน้านี้…

 

….

 

ณเวลานี้ทุกคนก็มาถึงแล้วเฝ้ารอแต่นางเท่านั้น…

 

เมื่อเซี่ยหลานเห็นนางมานางก็โกรธทันที"ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะซื้ออะไรมากมายไม่ใช่ว่าเจ้าใช้เงินซื้อยาของพี่สามไปซื้อของใช้หมดแล้วใช่ไหม"

 

หลู่เจียวเยาะเย้ยทันที"หากข้าหวังพึ่งเงินห้าตำลึงของพวกเจ้าพี่ชายสามของเจ้าคงเสียชีวิตไปนานแล้วทุกวันเจ้าก็พูดแต่เงินห้าตำลึงทั้งที่เงินห้าตำลึงนั้นหมดไปตั้งแต่วันแรกแล้วไม่ละอายใจเลยหรือไงครั้งนี้ข้าซื้อยาสิบห่อเจ้ารู้ไหมข้าต้องจ่ายเงินมาแค่ไหนเจ้าจะช่วยข้าจ่ายไหม?"

 

นอกจากนั้นในตระกร้าของหลู่เจียวยังมีข้าวเส้นก๋วยเตี๋ยวขนมและอื่นๆอยู่ในตะกร้ามีสมุนไพรของเซี่ยหยุนจินเพียง10ห่อส่วนที่เหลือมีน้ำมันเกลือซอสน้ำส้มสายชูฯลฯและคนในรถก็เห็นมันด้วยเหมือนกันความจริงนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นอีกส่วนหนึ่งนางเอาไปเก็บไว้ในพื้นที่มิติเพราะหากใส่ทั้งหมดลงในตระกร้ามันก็คงจะเยอะมากเกินไปอีกอย่างก็อาจทำให้มันเสียหายได้อย่างผ้าฝ้ายผ้าแพรต่างๆอาจจะเลอะน้ำมันได้

 

เมื่อนึกถึงสิ่งที่เซี่ยเอ้อจูพูดก่อนหน้านี้เงินห้าตำลึงสามารถซื้อยาได้แค่สามห่อส่วนยาสิบห่อนี้น่าจะมีราคามากกว่าเงินสิบตำลึง

 

อันที่จริงพวกเขาไม่รู้ว่าสิบห่อนี้ใช้เงินมากกว่าห้าสิบตำลึงเพราะเป็นวัสดุยาอย่างดี

 

ผู้คนบนเกวียนวัวอดถอนหายใจไม่ได้คนในชนบทป่วยไม่ได้เลยเพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อยารักษาตัวเซี่ยหลานไม่พูดอะไรแค่สะบัดหน้าหนีและมองด้วยหางตา

 

หลู่เจียวไม่คิดจะสนใจนางเช่นกันคนอะไรหาเรื่องทะเลาะแม้แต่เรื่องไร้สาระเซี่ยเซียวจวนที่อยู่ด้านข้างเอื้อมมือออกไปและบีบมือของหลู่เจียวบอกให้นางไม่ควรสนใจเซี่ยหลานคนงี่เง่าที่ยังไม่มีสามีเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าคนเป็นภรรยาต้องลำบากมากแค่ไหนหากสามีต้องนอนป่วยอยู่ที่บ้านและต้องใช้เงินซื้อยาจำนวนมากเหมือนกับหลู่เจียวหากเป็นคนอื่นหรือหากเป็นนางก็คงต้องร้องห่มร้องไห้ทุกคืนไปแล้วเพราะไม่รู้จะทำยังไง

 

รถลากเกวียนวัวขับออกไปเพราะมันอยู่ไม่ไกลมันจึงรีบวิ่งกลับไปที่หมู่บ้านแต่เมื่อเกวียนวัวมาถึงทางเข้าหมู่บ้านร่างเล็กๆก็วิ่งเข้ามาตะโกน

 

“ท่านป้าสามท่านย่าบอกว่าให้ท่านกลับบ้านทันทีมีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านของท่าน”

 

หลู่เจียวมองไปด้านข้างอย่างรวดเร็วและก็พบว่าเป็นต้าโถวที่วิ่งมานางจึงถามอย่างเป็นกังวลทันทีว่า

 

"ต้าโถวเกิดอะไรขึ้น"

 

ต้าโถวหายใจแทบไม่ทันและพูดไม่ได้อยู่ครู่หนึ่งพูดออกมาว่า

 

"สาวใหญ่...ปล้น...ต้าเปาและคนอื่นๆ...ถูกทุบตี..."

 

เซี่ยเถี่ยหนิวมองดูหลู่เจียวอย่างกังวลและพูดว่า"ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน"

 

หลู่เจียวพยักหน้าอย่างรวดเร็วไม่มีการคัดค้านจากคนอื่นๆบนเกวียนวัวมีเพียงใบหน้าของเสิ่นซิ่วที่ดูไม่น่าดูเล็กน้อยนางได้ยินต้าโถวพูดว่าสาวใหญ่และสาวใหญ่ที่ว่านี่คงไม่ใช่คนที่นางรู้จักใช่ไหมนางคงจะไม่ใช่พี่ใหญ่ของครอบครัวของพี่ชายนางกระมัง

 

เสิ่นซิ่วไม่สามารถบอกได้ว่านางกังวลแค่ไหนนิ้วของนางก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว

 

รถม้ามาถึงทางฝั่งตะวันตกของหมู่บ้านอย่างรวดเร็วก่อนที่รถม้าจะหยุดหลู่เจียวก็กระโดดลงจากรถม้าเซี่ยเถี่ยหนิวก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ

 

"ช้าลงหน่อย"

 

หลู่เจียวไม่สามารถใจเย็นอยู่ได้เมื่อลงจากเกวียนวัวก็รีบเดินดุ่มๆตรงไปที่ประตูบ้านพร้อมกับตะกร้าบนหลังของนางนางเห็นผู้คนมากมายยืนอยู่ทั้งภายในและภายนอกรั้วบ้านของนางและมีเสียงร้องไห้เบาๆของเด็กๆ

 

หลู่เจียวรีบไปที่หน้าบ้านก่อนที่นางจะไปถึงที่นั่นนางได้ยินเสียงร้องโกรธของเด็กๆก่อน

 

"เซินต้าหนิวเจ้าเป็นหัวขโมยเจ้าวิ่งไปขโมยของที่บ้านข้าปล่อยให้คนอื่นทุบตีเราเจ้าหมาไร้ยางอายเจ้าหมาน้อยที่เกิดมาพ่อแม่ไม่สั่งสอนเกิดมามีแม่่ไม่มีการศึกษาพอข้าโตขึ้นข้าจะฉีกผิวหนังและเส้นเอ็นฆ่าพวกเจ้าให้ตายไปเลย"

 

“สวรรค์วันนี้พวกเราไม่มีวันจบง่ายๆทุกคนมารังแกเราเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง”

 

ทันทีที่ทั้งสองร้องไห้ดังขึ้นและเสียงดุด่าก็ตะโกนตอบออกมาอย่างเยือกเย็นและชัดเจน

 

"แม่ม่ายหลี่เจ้ากำลังกลั่นแกล้งครอบครัวของข้าหรือไม่…"

 

หลู่เจียวเพิ่งเดินไปที่ประตูก็ตะโกนออกไปเมื่อคนที่อยู่หน้าลานเห็นนางพวกเขาก็รีบถอยห่างบางคนตะโกนว่า

 

"ภรรยาของหยุนจินกลับมาแล้ว…"

 

“ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งมากสามารถจัดการหมูป่าหนักเป็นร้อยจินได้ข้าไม่รู้ว่านางจะจัดการยังไงกับครอบครัวของแม่ม่ายหลี่”

 

หลู่เจียวเพิกเฉยต่อชาวบ้านที่กำลังซุบซิบนินทาและมองขึ้นไปที่ผู้คนที่หน้าบ้าน

 

เซี่ยหยุนจินกำลังนอนอยู่บนธรณีประตูประคองร่างกายของเขาด้วยมือทั้งสองข้างจ้องมองที่แม่ม่ายหลี่ด้วยสายตาที่จ้องเขม็งราวกับว่าเขาต้องการฆ่าแม่ม่ายหลี่ให้ตายด้วยสายตา

 

เพียงแต่ว่าบนใบหน้าของเขาไม่มีสีเลือดไม่เพียงไม่มีสีเลือดบนใบหน้าของเขาเท่านั้นแต่ริมฝีปากของเขาก็มีเลือดไหลออกมาจากปากของเขาไม่รู้ว่าซ้ำในหรือว่าโกรธจนกระอักเลือดออกมา…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป