Your Wishlist

วัยเรียน วัยรุ่น (NC20+) (กักตัวพาเสียว 2)

Author: tarasikaw

นิยายเรื่องนี้สงวนลขสิทธิตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดนำไป ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฏหมาย

จำนวนตอน :

กักตัวพาเสียว 2

  • 27/03/2565

ฉันดีดตัวลุกจากที่นอนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวรอรถพยาบาลมารับ หลังจากนอนหลับด้วยพิษไข้ทั้งคืน ส่วนข้าวของเสื้อผ้าเครื่องใช้ฉันจัดเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วจึงไม่ได้มีปัญหาอะไร

 

07:45

 

กริ๊ง) )) ) กริ๊ง) )) ))

 

“คนไข้ลงมารอที่ด้านหน้าของหอพักเลยนะคะ รถกำลังจะไปถึงแล้วค่ะ”

 

“ค่ะ” ฉันตอบรับก่อนปลายสายจะกดวาง

 

มือเรียวบางลากกระเป๋าลงจากหอเพื่อมารอรถพยาบาลที่ด้านล่างตัวตึก เธอไม่ลืมใส่หน้ากากไว้สองชั้นเพื่อเซฟคนรอบข้าง เพราะเธอรู้ซึ้งดีว่าไม่มีใครอยากได้รับเชื้อไวรัสนี้แน่นอน

 

 

 

______________________________

 

“สวัสดีครับ” ชายหน้าตาดีที่นั่งติดกับเธอเอ่ยทักทาย

 

“สวัสดีค่ะ” เธอพยักหน้าตอบอย่างคนอัธยาศัยดี

 

“พวกผมขออนุญาตไม่ใส่เเมสนะครับ เพราะเราก็ติดโควิดกันทุกคน ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลว่าจะติดเชื้ออีก” เขาพูดแล้วก็ขบขันเล็กน้อยกับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย

 

การเดินทางมายังโรงเเรมที่เตรียมไว้เพื่อรักษาผู้ป่วยที่ติดโควิดใช้เวลาไม่นานมากนักก็ถึงยังที่หมาย จึงทำให้เธอไม่เพลียมากนัก จะมีก็แต่อาการหิวข้าว ก็ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยเพราะไม่กล้าจะออกไปที่ไหนกลัวจะไปแพร่เชื้อให้คนอื่นเขา

 

“เชิญคนไข้ต่อคิววัดความดันกับเจาะเลือดเลยนะคะ” พยาบาลสาวผายมือบอกจุดตรวจกับคนไข้ที่พึ่งจะมาถึง

 

ฉันและพวกพี่ๆ ที่นั่งมาด้วยกันจึงวางกระเป๋าสัมภาระกองรวมๆ กันไว้ ก่อนจะเดินเรียงคิวกันเข้ารับการตรวจวัดกับเจ้าหน้าที่ หลังจากเสร็จสรรพกิจทุกอย่างแล้วพยาบาลสาวก็แจกแจงรายละเอียดของการเข้าพักรักษาตัวของที่นี่ให้ทราบ

 

“ห้องพักรักษาตัวเราจะให้พักห้องละสองคนนะคะ ใครที่มาด้วยกันแล้วอยากจะพักห้องเดียวกันหรือว่าใครต้องการจะจับคู่พักด้วยกันก็บอกกับเจ้าหน้าที่ได้ตอนนี้เลยค่ะ” หลังพยาบาลพูดจบต่างคนต่างก็ยับคู่กับคนที่มาด้วยกัน บางคนก็เป็นพ่อลูก เพื่อนที่มาพร้อมกัน ….ส่วนฉันนั้นได้แต่นั่งมองเฉยๆ แล้วแต่พยาบาลจะจัดสรรค์

 

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขานชื่อของคนที่จับคู่แล้วเรียบร้อยทะยอยเดินไปส่งยังห้องพัก ฉันเองเป็นคนกลุ่มสุดท้ายที่ถูกเรียก มีผู้หญิงสองคนและฉันกับพี่ผู้ชายอีกหนึ่งคนที่เมื่อเช้านั้นก็ได้ทักทายกันไปแล้ว ฉันก้มหน้าเดินฉับๆ ตามเจ้าหน้าที่ไปอย่างเงียบๆ

 

ผู้หญิงสองคนนั้นเขาจับคู่อยู่ห้องเดียวกัน ก็เหลือแต่ฉันกับพี่เขาที่จะต้องได้พักคู่กัน ห้องพักหมายเลข724 ถูกเปิดออกให้คนไข้ได้เข้าพัก บรรยากาศมันก็คือห้องพักโรงแรมดีๆ นี่แหล่ะ มีโต๊ะอาหารกะทัดรัดหนึ่งชุด ทีวี ตู้เย็น กาน้ำร้อน ตู้เสื้อผ้าเฟอร์นิเจอร์ครบครันทุกสิ่งอย่าง มันก็โอเคอยู่น่า แต่มันติดตรงเตียงนอนนี่ล่ะ ก็มันดันเป็นเตียงเดี่ยว

 

“คนไข้คะ…ห้องพักรักษาจะเป็นเตียงเดี่ยวนะ”

 

“ค่ะ/ครับ”

 

‘ทำไงได้ยังไงก็ต้องพักรักษาตัวที่นี่อยู่ดี ทุกคนก็จับคู่กันหมดเหลือเเค่ฉันกับพี่เขาสองคนนี่นะ’ ฉันคิดไปเรื่อยเปื่อยอย่างปล่อยวาง

 

“คุณเป็นผู้ชายก็ช่วยดูแลน้องผู้หญิงด้วยนะคะ มีอะไรฉุกเฉินหรือมีอาการใดๆ ก็โทรมาเบอร์ฉุกเฉินที่ทางเรามอบให้ได้ตลอดค่ะ” พยาบาลสาวกำชับพี่ผู้ชายแล้วหันมาคุยรายละเอียดกับฉัน

 

“ถ้ามีปัญหาหรือมีอาการผิดปกติหนูก็โทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉินของทางเราได้ตลอดนะ” พยาบาลกล่าวอย่างเป็นห่วงเป็นใยพร้อมส่งรอยยิ้มจริงใจ

 

“ขอบคุณค่ะ/ครับ” เราสองคนยกมือไหว้ขอบคุณก่อนพี่พยาบาลจะกลับออกไป

 

ฉันและพี่ผู้ชายต่างก็จัดแจงสัมภาระของตัวเองออกจากกระเป๋าเพื่อจัดวางเก็บเข้าชั้น เนื่องด้วยตู้เสื้อผ้ามันมีแค่หลังเดียวจึงต้องแบ่งครึ่งกันแขวนเสื้อผ้าเก็บ ฉันพับชุดชั้นในเก็บเข้าลิ้นชักตู้เสื้อผ้าอย่างระเเวดระวังกลัวว่าเขาจะแอบมอง บนเตียงนอนมีผ้าห่มให้สองผืนกับหมอนสองใบ น้ำดื่มขวดใหญ่อีกสี่แพ็ค กระดาษทิชชู่อีกหกม้วนวางไว้ที่เคาเตอร์หน้าทีวี

 

“มีน้ำอยู่สี่แพ็คเราจะเเบ่งกันมั้ยหรือจะใช้ด้วยกันไปเลย” พี่ผู้ชายเอ่ยถาม

 

“ใช้ด้วยกันไปเลยก็ได้ค่ะ” หมดแล้วค่อยว่ากันใหม่ อยู่ด้วยกันก็คงต้องอะลุ่มอล่วยกันไป

 

เขาจัดแจงล้างกาน้ำร้อนแล้วเทน้ำใส่กาน้ำร้อนต้มไปหนึ่งขวด กระดาษทิชชู่ก็ถูกจัดวางไว้ในห้องน้ำอย่างเรียบร้อย อย่างกับได้พักอยู่กับพ่อบ้านตัวจริง เพราะพี่เขาจัดแจงทุกสิ่งในห้องให้เข้าที่พร้อมใช้งาน

 

“หนูขอนอนติดฝั่งห้องน้ำนะคะ”

 

“ครับ” เขาตอบแต่ไม่ได้สบสายตา

 

“หรือว่าพี่อยากจะนอนฝั่งนี้หนูก็ไม่ติดอะไรนะ พี่จะนอนฝั่งนี้ไหมคะ” ฉันเกรงใจจึงให้สิทธิ์เขาได้เลือก

 

“พี่นอนฝั่งไหนก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ เอาที่เรานอนสบายๆ เถอะ พี่ยังไงก็ได้” เขายกยิ้มอ่อนโยน

 

“ขอบคุณนะคะพี่…แล้ว….พี่ชื่ออะไรคะหนูชื่อน้ำหวานนะ”

 

“ชื่อต้นครับ…ไม่รังเกียจพี่ใช่ไหมที่จะนอนบนเตียงเดียวกัน”

 

“อะอ่อ…ไม่ค่ะ” เสียงตะกุกตะกักตอบอย่างลนๆ เพราะใบหน้าของพี่เขาตอนที่ถามฉันมันน่ารักเกินไป

 

 

 

 

 

11:20

 

ก๊อกๆๆ!!! ข้าวมาส่งค่ะ) )) )

 

รถเข็นกล่องอาหารสำหรับผู้ป่วยถูกเข็นมาจอดหน้าประตูห้องพัก พี่ต้นเลยเดินไปเปิดประตูแล้วถือกล่องอาหารเข้ามาสองกล่อง วางไว้บนโต๊ะทานอาหาร

 

“ผัดกะหล่ำ จัดของเสร็จยังอ่ะ มากินข้าวกัน” เขาเอ่ยแล้วตักข้าวเข้าปาก

 

“อื้มมมเสร็จแล้ว” ฉันถอดผ้าปิดจมูกวางไว้โต๊ะโคมไฟข้างหัวเตียงแล้วเดินไปนั่งกินข้าวข้างๆ กับพี่เขา

 

“อร่อยจัง” ฉันปิดฝากล่องแล้วเอ่ยชมกับข้าวของคนป่วยในมื้อแรก

 

“หิวอ่ะดิ เลยบอกว่ามันอร่อย” คนตัวสูงเอ่ยหน้านิ่ง

 

“พี่ต้นไม่อร่อยเหรอ?” ก็มันอร่อยจริงๆ แล้วก็หิวจริงๆ นั่นแหล่ะ

 

“ก็งั้นๆ อ่ะ พี่จะสั่งอาหารมากิน น้ำหวานจะเอาอะไรมั้ย”

 

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอิ่มแล้ว” ฉันตอบอย่างเกรงใจเขาอีกครั้ง

 

“ถอดแมสแล้วน่ารักดีหนิ่”

 

โอ้ยอยากจะบ้า จะมาชงมาชมอะไรกันเดี๋ยวลอย

 

“แฮ่ๆ” ฉันยิ้มแห้งอย่างอายๆ

 

“ไหนๆ ก็ติดโควิดไปแล้ว ไม่ต้องใส่มันหรอกหน้ากาก ในห้องก็มีแค่เรา แล้วเราก็มีเชื้อเหมือนกัน ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว” พี่ต้นพูดแล้วยิ้ม

 

อืมมมก็จริง ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวติดอีกแล้ว เพราะตอนนี้ก็เป็นโควิดอยู่แล้ว ฉันรู้สึกว่าได้กลับมาเป็นคนปกติอีกครั้งนึงเลย ที่ทำอะไรไม่ต้องกลัวติดเชื้ออีกต่อไป จะกินจะทำอะไรก็ไม่ต้องกลัวติด ฮ่าๆๆ แต่ฉันก็ไม่ได้ออกจากห้องไปแพร่เชื้อให้ใครนะ อย่างน้อยก็ยังมีความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่

 

 

 

 

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป