นิยายเรื่องนี้สงวนลขสิทธิตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดนำไป ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฏหมาย
นิยายเรื่องนี้สงวนลขสิทธิตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดนำไป ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฏหมาย
น้ำหวานเด็กต่างจังหวัดที่ต้องเดินทางมาทำงานในจังหวัดชลบุรีเพียงลำพัง หลังจากที่เรียนจบม.6 เธอก็กระตือรือร้นหางานทำจนได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรม ปีนี้เธออายุ19ปี น้ำหวานเป็นที่รักของคนในที่ทำงานเนื่องด้วยหน้าตาที่จิ้มลิ้มกับรอยยิ้มที่สดใส หนุ่มๆทั้งในและนอกแผนกต่างก็แวะเวียนมาขายขนมจีบให้เธอ แต่หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ
คืนวันศุกร์เธอตื่นขึ้นมากลางดึกก็มีอาการตัวร้อนไข้ขึ้นสูง เธอจึงห่มผ้าไปถึงสามผืนแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายเธออุ่นขึ้นเลย แต่กลับหนาวสั่นสะท้านเข้าไปยังกระดูก มันปวดร้าวเหมือนกระดูกจะแตกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ อาการมันเหมือนตอนที่เธอได้รับวัคซีนโควิดไม่ผิดเพี้ยนเธอจึงลุกขึ้นจากที่นอนด้วยสภาพร่างกายที่กำลังย่ำแย่เพื่อไปหยิบกระปุกยาพาราออกมากินระงับอาการเป็นไข้ปวดกระดูก หลังจากนั้นก็คล้อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าจากพิษไข้
06:00น.
น้ำหวานรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนในตัวจังหวัดชลบุรีเพราะไม่สบายใจกับอาการที่ตัวเองนั้นเป็นอยู่ เเต่หลังจากพบพยาบาลเพื่อเช็คอาการเบื้องต้นแล้วเขากลับให้เธอไปรอที่จุดตรวจคัดกรองโควิดของโรงพยาบาล วันนี้คนมาตรวจหาเชื้อกันเยอะมาก "หวังว่าฉันจะปลอดภัยนะ" ฉันขยับแมสเพื่อให้มันแนบสนิทกับจมูกเพราะฉันก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันหากฉันเป็นแค่ไข้หวัดธรมมดา ฉันจะต้องไม่ได้รับความเสี่ยงจากจุดตรวจนี้เด็ดขาด
หลังจากที่ฉันได้รับการตรวจคัดกรองจากพยาบาลเพียงไม่นานก็มีสายเรียกเข้าในมือถือของฉัน
"ฮัลโหลค่ะ"ฉันตอบปลายสายไป
"คุณน้ำหวานใช่ไหมคะ? นี่หมอเองนะคะ จะโทรมาแจ้งให้คนไข้ทราบว่าคุณมีผลตรวจเข้าข่ายติดเชื้อโควิดนะคะ"
หลังจากที่คุณหมอพูดจบ โทรศัพท์ของฉันมันแทบจะร่วงหลุดไปจากมือ มันช็อคอย่างบอกไม่ถูก เพราะฉันก็ป้องกันตัวเองอย่างดีเวลาไปไหนมาไหน
"หมอจะให้คนไข้รอตรวจซ้ำอีกทีนะคะ หลังจากนั้นจะให้คุณกลับบ้าน รอเจ้าหน้าที่โทรไปแจ้งผลให้ทราบอีกทีนะคะ"
"ค่ะๆ ขอบคุณค่ะ"
ฉันขับรถกลับบ้านด้วยอาการสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหลังจากที่ตรวจคัดกรองรอบที่สองเสร็จ หรือว่าผลตรวจมันอาจจะเพี้ยนก็ได้ พวงมาลัยรถหักเลี้ยวประชิดขอบทางหน้าร้านขายยา
เอาวะลองแหย่จมูกดูเองสักหน่อย ฉันนับถอยหลังรอให้ขีดสีน้ำเงินค่อยๆปรากฏ หัวใจฉันต้องหล่นวูบอีกครั้งเพราะผลตรวจมันขึ้นสองขีด น้ำตาเอ่อล้นพรั่งพรูออกมาอย่างกลัดกลั้นไว้ไม่ได้ ฉันเสียใจที่ต้องติดเชื้อโควิดทั้งที่ป้องกันตัวเองดีแค่ไหนแล้วก็ตาม น้ำตาถูกปาดออกจากแก้มของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะกดเบอร์โทรเข้าเครื่องของหัวหน้างาน
ตื๊ดๆ... ตื๊ดๆ...
"พี่อ้น ฮึ่กๆๆ! หนูติดโควิดอ่ะพี่" ฉันกลั้นความอ่อนแอเอาไว้ไม่ไหวทั้งพูดทั้งร้องไห้
"ไม่ต้องร้องไห้นะ...เดี๋ยวก็หาย แล้วนี่หนูรู้ได้ไงว่าติด" ปลายสายถามอย่างเป็นห่วง
"หนูไปตรวจที่โรงพยาบาลมา หมอบอกว่าหนูสุ่มเสี่ยงเพราะตรวจเชื้อขึ้นสองขีด นี่ต้องกลับบ้านรอผลตรวจซ้ำจากทางโรงบาลอีกรอบ ตอนนี้เเวะซื้อที่ตรวจลองตรวจซ้ำดู ไม่รอดอ่ะพี่ .... มันขึ้นสองขีด"
"ไม่ต้องร้องๆ แล้วเขาจะให้หนูไปรักษาตัวที่ไหน?"
"หนูก็ยังไม่รู้ ต้องรอให้เขาโทรมาเเจ้งอีกที"
"โอเครๆ เดี๋ยวพี่ทำเรื่องลาางานให้หนูสองอาทิตย์นะ"
"ฮึ่กๆๆ ขอบคุณค่ะพี่อ้น"
23:15 น.
"สวัสดีค่ะ คุณน้ำหวานหรือเปล่าคะ?"
"ใช่ค่ะ"
"การตรวจรอบสองของคุณผลเป็นบวกนะคะ ทางโรงบาลจะส่งคุณไปรักษาตัวที่โรงแรมในจังหวัดสมุทรปราการนะคะ คุณสะดวกให้ญาติมาส่งหรือจะให้รถพยาบาลไปรับที่บ้านคะ "
"ให้รถพยาบาลมารับก็ได้ค่ะ"
"สิ่งที่คนไข้จะต้องเตรียมไปด้วยคือเสื้อผ้าที่จะต้องใส่ระหว่างกักตัว14วันนะคะ ของใช้ส่วนตัวและบัตรประชาชนค่ะ" พยาบาลแนะราบรายเอียดให้ฉันฟัง
"ขอบคุณมากค่ะ"
"พรุ่งนี้จะมีคนไข้ที่ไปพร้อมกันหกคนนะคะ ถ้าใกล้จะถึงเเล้วทางเราจะโทรเเจ้งอีกทีค่ะ"
"ค่ะๆ ขอบคุณมากนะคะ" อย่างน้อยๆฉันก็ไม่ใช่ผู้โชคร้ายเพียงคนเดียว ยังมีผู้ร่วมชะตากรรมอีกตั้งหกคนแน่ะ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้น แต่ก็ไม่ลืมกินพาราที่หมอจ่ายให้เพื่อลดไข้