เล่ม 1 ศิษย์ข้า มาฝึกเซียนกัน 13
ตอนที่ 13
สาวน้อยหลิง กลับกลายเป็นว่านางเป็นถึงหนึ่งในผู้อาวุโส แต่เขาก็ยังไม่รู้จัก และเขาก็ยังพูดคุยกับนางราวกับเป็นคนระดับเดียวกันกับเขา มันช่างเป็นเรื่อวตลกร้ายจริงๆ
เมื่อตอนที่ผู้อาวุโสหวงโจมตีเขานางได้ลงมือสลายการโจมตีของผู้อาวุโสหวง นางทำเพื่อช่วยใบหน้าของนิกายเฉียนคุน หรือ... เพื่อปกป้องไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บกัน? หัวใจของเฟิงเจี่ยรู้สึกสงบลง ไม่ว่าในกรณีใด การได้พบนางก่อนที่เขาจะจากไปก็เพียงพอแล้ว
ผู้นำนิกายเลือกฉีหยวนเป็นศิษย์สายตรง และเขาจะไม่รับศิษย์คนอื่นเข้ามาอีก และผู้อาวุโสทั้งสี่ของเทียน,เต๋อ,เซวี่ยนและหวงต้องการจะรับมู่หลินเข้ามาเป็นศิษย์ของตนให้ได้
ก่อนอื่นทุกคนต่างก็พากันเลือกศิษย์เก่าที่โดดเด่นกว่า แต่หลิงชิงเซวียนไม่ได้พูดอะไร ราวกับว่านางไม่ต้องการรับลูกศิษย์
ในครั้งนี้ ผู้อาวุโสเทียนชี้ไปที่มู่หลิน “เจ้าชื่ออะไร” เนื่องจากผู้อาวุโสหวงไม่ได้ขานรายชื่อ ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่รู้ชื่อของมู่หลิน
แต่เมื่อเห็นท่าทางของผู้อาวุโสเทียน เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าผู้อาวุโสอยากจะเลือกเขาเป็นศิษย์ “ข้ามีนามว่ามู่หลิน” มู่หลินตอบคำถามด้วยความเคารพ
ด้วยลักษณะนิสัยที่ดีและยังมีพรสวรรค์ที่ดี ผู้อาวุโสเทียนสัมผัสเครายาวของเขาอย่างถูกใจ “เจ้าอยากจะกราบข้าเป็นอาจารย์ไหม”
ขณะที่ผู้อาวุโสเทียนกำลังพูด ผู้อาวุโสหวงก็รีบพูดขัดขึ้นมา “ทุกครั้งที่เราเลือกสาวก เราก็เริ่มต้นด้วยผู้อาวุโสเทียนก่อนทุกครั้ง ทำไมครั้งนี้เราไม่ลองเปลี่ยนลำดับในการเลือกดูบ้าง มู่หลินเจ้าต้องการกรายข้าเป็นอาจารย์หรือไม่”
สองผู้อาวุโสแย่งคนอย่างโจ่งแจ้ง และถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหว แต่พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงควันดินปืนของทั้งสองคนในอากาศ
【นายท่าน คุณเห็นแล้วว่าวายร้ายน่าสงสารแค่ไหน ทำไมคุณไม่ให้เก้าอี้เขานั่งล่ะ】
ทำไมฉันไม่เห็นคุณสงสารเจ้านายของคุณบ้าง?
หลิงชิงเซวียนจ้องมองไปบนเมฆที่กระจัดกระจายด้วยความเบื่อหน่าย การชุมนุมศิษย์ครั้งนี้น่าเบื่อมาก กลับไปตอนนี้เลยได้ไหม
【นายท่าย นี่คุณจะทิ้งวายร้ายไว้แบบนี้เหรอ? วายร้ายอาจจะกลายเป็นปีศาจนะ!】
เขาจะกลายเป็นปีศาจหรือไม่? แล้วทำไมค่าความชอบของเขาทำไมถึงเพิ่มขึ้นมาล่ะ
ZZ สำลักจนพูดไม่ออก
ฝ่ายของฉีหยวนที่ได้รับข่าวของมู่หลินมาแล้ว ปรากฏว่านางจำคนผิดจริงๆ มาก่อน โชคดีที่คนผู้นั้นยังพอมีความคิดอยู่บ้างที่ไม่ได้พาดพิงนาง ไม่เช่นนั้นนางคงจะเป็นคนที่อับอายเสียเอง
ความสามารถของมู่หลินนั้นสูง หากนางได้รับการสนับสนุนจากลุงของนาง นางก็จะมีโอกาสกระชับความสัมพันธ์กับมู่หลินให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีกได้ ฉีหยวนจึงกระซิบบอกกับฉีฉินจื่อเพื่อให้เขารับมู่หลินเป็นศิษย์อีกคน แต่กฎย่อมเป็นกฎพวกเขาจะทำลายไม่ได้ ฉีฉินจื่อจึงไม่เห็นด้วย
ฉีหยวนทำได้เพียงหวังว่ามู่หลินจะได้มาเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสเทียนที่รักและเอ็นดูนาง
ในตอนแรก มีเพียงผู้อาวุโสสองคนเท่านั้นที่กำลังต่อสู้กัน แต่ต่อมาก็กลายเป็นผู้อาวุโสทั้งสี่คน พวกเขาต่างก็พูดถึงข้อดีของตัวเอง
หลิงชิงเซวียนขัดจังหวะพวกเขา “ทำไมพวกเจ้าไม่ปล่อยให้เขาเป็นผู้เลือกเอง?”
การทะเลาะวิวาทสิ้นสุดลงทันที พวกเขาอายุรวมกันก็เกือบพันปี หัดรู้จักสงบนิ่งกว่านี้ไม่ได้หรือ?
ทั้งสี่คนจ้องไปที่หลิงชิงเซวียนและมองไปที่มู่หลินสลับกัน ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะปล่อยให้มู่หลินเป็นผู้เลือกเอง
มู่หลินกล่าวขอบคุณผู้อาวุโสสำหรับความรักของพวกเขาก่อนอย่างสุภาพ จากนั้นจึงมองไปที่หลิงชิงเซวียนด้วยรอยยิ้ม
ZZ เขายิ้มให้ฉันทำไม หรือว่าจะมีเศษผลไม้แห้งที่ฉันกินวันนี้ ติดที่หน้าฉันอยู่?
ZZ “…”
“มู่หลินต้องการกราบเป็นศิษย์ในนามของผู้อาวุโสหลิง ผู้อาวุโสหลิงยินดีรับมู่หลินเป็นศิษย์หรือไม่?”
พลิกล็อคเกินไปแล้ว
ทั่วทั้งบริเวณนั้นตกอยู่ในความเงียบ แม้แต่เสียงของเส้นผมที่ร่วงหล่นลงบนพื้นก็ยังสามารถได้ยินอย่างชัดเจน ผู้อาวุโสทั้งสี่ตัวสั่นพวกเขาต่างก็ต่อสู้แย่งชิงกันเป็นเวลานาน แต่เขากลับไปเลือกหลิงชิงเซวียนที่ไม่มีความกระตือรือร้น!
เฟิงเจี่ยกัดริมฝีปากล่างของเขาแน่น และหันหน้าหนีเขาไม่สามารถทนมองได้
เมื่อถูกจ้องมองด้วยดวงตาหลายร้อยคู่ หลิงชิงเซวียนก็ส่ายหัวอย่างสงบ “ศิษย์ที่ได้รับการเลือกจากที่ข้าผู้นี้ไม่ใช่เจ้า”
มู่หลินถูกปฏิเสธ แม้ว่าเขาจะทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ แต่เขาก็ยังถามออกไปอย่างสุภาพว่า “คือผู้ใดกัน...”
ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคน นิ้วที่เรียวยาวที่สวยงามชี้ไปยังตำแหน่งที่บุคคลผูนั้นยืนอยู่
“เฟิงเจี่ย เขาจะเป็นศิษย์ในนามของข้าผู้นี้”