เล่ม 1 ศิษย์ข้า มาฝึกเซียนกัน 7
ตอนที่ 7
“เจ้า... เป็นคนของนิกายเฉียนคุน?” เสียงของเฟิงเจี่ยสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขามองไปที่ลวดลายปักบนเสื้อผ้าของหลิงชิงเซวียน
นิกายเฉียนคุนเป็นนิกายใหญ่ของการฝึกเซียน และเป็นสถานที่ที่คนธรรมดาใฝ่หามาโดยตลอด หลังจากมู่หลินใช้เขาเป็นตัวแทนและหนีไป มู่หลินก็ตรงไปยังนิกายเฉียนคุน เพื่อสมัคเป็นศิษย์และเข้าไปฝึกฝน เฟิงเจี่ยเป็นคนที่ไม่มีรากวิญญาณ เขาเกรงว่าเขาคงไม่มีโอกาสที่จะได้ไปที่นั่นเขาเกลียดตนเอง เกลียดความธรรมดาสามัญของตนเอง เขาเกลียดพ่อแม่บุณธรรมของเขาที่ทำกับเขาเช่นนั้น
เขาไม่สามารถหนีจากกรงเล็บของคนพวกนั้นได้ แต่ถ้าหากเขาได้เป็นผู้ฝึกเซียนล่ะ? หากเขามีพลังก็จะไม่มีใครสามารถรังแกเขาหรือทำให้เขาอับอายได้อีก?
หลิงชิงเซวียนมัดผ้าพันแผลแบบปกติให้เขาอย่างจริงจังอีกครั้ง “เจ้าต้องการเข้าร่วมนิกายเฉียนคุนของข้าหรือไม่”
น้ำเสียงของหญิงสาวนั้นมั่นคงมาก ดวงตาของเฟิงเจี่ยฉายแววตื่นเต้นเล็กน้อยและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมารู้สึกหดหู่อีกครั้ง “ข้ามีพรสวรรค์ที่ต่ำมาก”
เขาเคยทดสอบมาก่อนและมีคนบอกว่าเขาไม่สามารถฝึกเซียนได้
หลิงชิงเซวียนปัดมือ ดึงเขาขึ้นและพาเดินไปที่เตียงหิน
“สาวน้อยหลิง เจ้าเป็นใครกัน?”
“ไปนอนพักเถอะ”
เฟิงเจี่ยจับคอเสื้อของเขาแน่นโดยสัญชาตญาณ
ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง หลิงชิงเซวียนก็ถอดเสื้อผ้าบนร่างกายส่วนบนของเขาออกจนหมดแล้วผลักเขาลงไปบนเตียง นางเอนตัวเพื่อยกเท้าตามขึ้นมา
ZZ ปิดตา นายท่าน! ท่ายทำอะไรวายร้าย
หัวใจของเฟิงเจี่ยเต้นแรง เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ใกล้เข้ามา จนเขาเกือบลืมหายใจ เขากำหมัดของเขาแน่นและไม่รู้ว่าจะหันหน้ามองไปทางไหน
ไม่… เขาไม่สามารถเป็นแบบนี้ได้ พวกเขาเพิ่งพบกัน แม้ว่าตัวเขาจะมีความประทับใจที่ดีต่อหลิงชิงเซวียนก็ตาม แต่นี่จะพัฒนาความสัมพันธ์เร็วเกินไปไหม
ฝ่ามือเย็นเยียบเอื้อมมาปิดตาของเขา เฟิงเจี่ยก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที บนเตียงหินนั้นที่เย็ยนั้นทำไมบัดนี้เขาถึงรู้สึกร้อน เขารู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขาไหลไปรวมกันที่เดียว เขาเอื้อมมือไปจะเอามือของนางออกแต่กลับถูกรั้งไว้
“มีสมาธิ”
เขาค่อยๆปรับลมหายใจออก ภายใต้ความสับสน เขารับรู้ได้ถึงร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังงานความเจ็บปวดเมื่อยล้าที่เคยมีอยู่ก็หายไป
หลังจากที่กำลังจดจ่ออยู่กับสมาธิส่วนที่เปิดเผยของร่างกายส่วนบนของเขาถูกกดตามจุดต่างๆ และความเจ็บปวดก็ประทุขึ้นมาทั่วสรรพางค์กาย เขากัดฟันของเขาแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวด กลัวว่าเขาจะเผยให้เห็นความอับอายต่อหน้าหลิงชิงเซวียน
หลังจากนั้นไม่นาน ความอบอุ่นก็ลดลง เส้นชีพจรทั้งสี่ถูกเปิดออก ร่างกายของเฟิงเจี่ยผ่อนคลายลงอย่างมาก และสถานที่ที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ก็หายดีเล็กน้อย
พลังวิญญาณที่ถูกปิดกั้นของเขาถูกเปิดออก!
ขนตาของชายหนุ่มสั่นไหวเล็กน้อยภายใต้ฝ่ามือของหลิงชิงเซวียน เด็กคนนี้ฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว
【ค่าความชอบของวายร้ายเฟิงเจี่ย +5】
เปิดจุดรับพลังวิญญาณที่ลำบาก แต่กลับได้รับค่าความชอบแค่ห้าแล้วเมื่อไหร่จะไปถึงร้อย
ทันทีที่เฟิงเจี่ยลืมตา เขาก็รับรู้ได้ถึงดวงตาที่เย็นชาของหลิงชิงเซวียนเมื่อมองมาที่เขา
เธอช่วยเฟิงเจี่ยเปิดเส้นชีพจรเพื่อรับพลังวิญญาณได้ง่ายขึ้น หลิงชิงเซวียนโยนตำราฝึกเซียนสำหรับผู้เริ่มต้นให้เขา ก่อนที่จะนั่งลงข้างเตียงของเขา อย่าได้ถามเธอว่าทำไมเธอถึงไม่ไปที่อื่น ถ้ำนี้สามารถนั่งได้เพียงบนเตียงเท่านั้นและโชคของพวกเขาก็คือมาที่ถ้ำที่มีเตียงหิน หลิงชิงเซวียนคิดอยากจะขุดเตียงก่อนจะออกไปด้วยดีหรือไม่
อากาศด้านในค่อนข้างเย็นเล็กน้อย... หลิงชิงเซวียนจึงขยับร่างกายของเธอไปที่ด้านข้างของชายหนุ่ม แล้วก็ขยับไปทีละนิด เมื่อเธออยู่ใกล้ชายหนุ่มอย่างสมบูรณ์ เธอก็รู้สึกอบอุ่น เตียงนี้ใช้ได้วันละครั้งเท่านั้น และเธอก็ช่วยไม่ได้เธอต้องการความอบอุ่น
ช่างมัน ลืมมันไปเถอะ
เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นเล็กน้อยที่ด้านข้าง เฟิงเจี่ยหยุดชะงักไปชั่วครู่ขณะที่เขาพลิกอ่านหนังสือ และเขาแอบมองหลิงชิงเซวียนอย่างลับๆที่ด้านข้าง
นางช่วยเขาไว้ถึงสองครั้ง นางมาเพื่อช่วยตัวเขาและยังช่วยเขาเปิดจุดชีพจรวิญญาณ เหตุใดนางถึงปฏิบัติต่อตัวเขาดีขนาดนี้ตัวเขานั้นไม่มีค่าอะไรเลย หรืออาจเป็นเพราะใบหน้านี้? ในอดีตสตรีหลายคนเข้าหาเขาเพราะหน้าตาดี แต่สุดท้ายก็จากไปเพราะตัวตนของเขา
เขาเช็ดหน้าซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่น พบกันถึงสองครั้งไม่มีครั้งใหนเลยที่ใบหน้าของเขาดูดี
แล้วอะไรที่จูงใจให้นางช่วยเขา?