ภายในห้องโถง หยุนโม่เหิงกำลังไหว้บรรพบุรุษอยู่ จากนั้นจึงเริ่มพิธีสวมกวาน
พิธีสวมกวานของบุรุษไม่เหมือนพิธีปักปิ่นของสตรี ตอนที่สวมกวานต้องให้ญาติผู้สูงอายุที่เป็นผู้ชายเท่านั้น ถ้ามีคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้องจะถูกมองว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์
ดังนั้นกู้ซีหวงจึงไม่สามารถอยู่ในห้องโถงได้ รอให้พิธีเริ่มแล้วนางก็เดินออกไปรออยู่ด้านนอก
ทันใดนั้นก็มีเด็กหญิงตัวจิ๋ววิ่งเข้ามาหานางก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “พี่สาว พี่ออกมาทำอะไรหรือเจ้าคะ?”
กู้ซีหวงตอบคำถางของนางว่า “พี่ชายกำลังทำพิธีอยู่ พี่สาวอยู่ในนั้นไม่ได้ ไม่อย่างงั้นจะถือว่าผิดธรรมเนียม” ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเด็กหญิงที่อายุไม่เกินห้าขวบคนนี้จะเข้าใจหรือไม่
“แบบนี้นี่เอง” เด็กน้อยพยักหน้าราวกับว่าฟังเข้าใจ ผ่านไปสักพักก็พูดขึ้นอีก “พี่สาวและพี่ชายจะแต่งงานกันแล้วใช่หรือไม่?”
กู้ซีหวงยิ้ม “เรื่องแต่งงานนั้นคงต้องรอก่อน” พูดจบก็เห็นท่าทางผิดหวังของเด็กน้อย นางจึงพูดด้วยเอ็นดูว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน เจ้าบอกพี่สาวมาว่าเจ้าชื่ออะไรแล้วบ้านเจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าถึงเวลาที่พี่แต่งงานแล้วพี่จะเชิญเจ้ามางานแต่ง ดีหรือไม่?”
เด็กหญิงตัวน้อยครุ่นคิด ก่อนจะอ้าปากตอบว่า “ข้าชื่อจินเม่ยฮวน บ้านของข้าอยู่ถนนเฉียนเฟิงใต้ เมืองจิ่งตู ปกติแล้วข้าจะอยู่ที่หอสมุดลู่เหอกับท่านย่าของข้า”
“ตระกูลจิน…ย่าของเจ้าคือจินหลิวฟางใช่หรือไม่?”
เด็กน้อยพยักหน้า
นางจำตระกูลจินที่อยู่ทางทิศใต้ได้ จินหลิวฟางเป็นอาจารย์ด้านกาพย์ กลอน ซึ่งสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน เป็นเรื่องยากที่จะตามหาลูกศิษย์ของท่าน เพราะลูกศิษย์ของท่านนั้นกระจายตัวไปอยู่ตามที่ต่างๆ ถึงขั้นว่าแม้แต่จักรพรรดินีก็ยังร่ำเรียนวิชาจากนางเป็นเวลาหลายปี
ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอกับลูกหลานของจินหลิวฟาง กู้ซีหวงมองจินเม่ยฮวนและรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง นางจะใช้เด็กคนนี้เป็นสื่อกลางในการเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลจิน
“อีกนานกว่าพี่สาวจะแต่งงาน พวกเราค่อยพูดถึงเรื่องนี้แล้วกัน เราไปดูพี่ชายกันว่าเขาทำพิธีสวมกวานเสร็จแล้วหรือยัง”
“ได้เลยๆ” จินเม่ยฮวนเดินตามนางไปดูหยุนโม่เหิง
อีกฝั่ง หยุนโม่เหิงใกล้ทำพิธีเสร็จแล้ว กู้ซีหวงจึงรีบกลับมาให้ตรงเวลา และยังมีเด็กหญิงตัวน้อยเดินตามหลังมาด้วยหนึ่งคน
เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยเห็นหยุนโม่เหิงก็อ้าปากถามอย่างสนิทสนม “พี่ชาย พี่ทำพิธีเสร็จแล้วมาเล่นกับพวกเราได้หรือไม่?” แน่นอนว่าพวกเรานั้นหมายถึงนางกับกู้ซีหวง
หยุนโม่เหิงยิ้ม “พี่ชายทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว” พูดแล้วก็หันไปมองกู้ซีหวงด้วยแววตาสงสัย เหมือนกำลังถามว่าเด็กหญิงคนนี้คือใคร?
“ข้าเพิ่งรู้จักน่ะ เด็กคนนี้ชื่อจินเม่ยฮวนเป็นลูกหลานตระกูลจิน” กู้ซีหวงแนะนำประวัติเด็กน้อยอย่างคร่าวๆ
“คุณหนูจิน” หยุนโม่เหิงคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเรียกแบบนี้
จินเม่ยฮวนไม่พอใจ “เรียกข้าว่าฮวนฮวนก็พอแล้ว”
หยุนโม่เหิงเห็นนางไม่พอใจจึงรีบเปลี่ยนชื่อเรียกทันที “ฮวนฮวน”
จากนั้นเด็กน้อยก็ตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม “เจ้าค่ะ!”
จากนั้นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ หยุนมู่หลานยกแก้วสุราดื่มตลอดเวลาตามที่พูดเอาไว้จนถึงกับเดินโซซัดโซเซ ส่วนหยุนโม่เจิงก็ดื่มจนเมามายเช่นกัน
ในเมื่องานวันเกิดของบุตรชายและน้องชายอันเป็นที่รักยิ่งของพวกนางมีเพียงครั้งเดียวต่อปี แน่นอนว่าพวกนางต้องดื่มฉลองให้มีความสุขที่สุด