กู้ซีหวงครุ่นคิดเรื่องการค้าขายเมื่อชาติที่แล้วนางไม่เคยสนใจมาก่อน และจำไม่ได้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรือไม่ อีกอย่างเมื่อชาติที่แล้วก็ไม่ได้มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเพราะผ้าไหมด้วย นางจึงไม่กลัวว่าท่านป้าจะจัดการไม่ได้
“ถ้าเป็นเช่นนั้น เซียงซือรบกวนท่านลุงช่วยบอกท่านป้าให้เซียงซือด้วยว่าเซียงซือมีธุระต้องออกไปทำ อีกครึ่งเดือนถึงจะกลับมา” กู้ซีหวงคิดว่าถ้านางรอท่านป้ากลับมาแล้วท่านป้าจะเป็นห่วงจนไม่ยอมให้นางออกไป จึงคิดให้ท่านลุงบอกก่อนแล้วค่อยกลับมาไถ่โทษทีหลังคงจะดีกว่า
“เซียงซือ เจ้าจะ…”
ไม่รอให้ลุงตัวเองพูดจบ กู้ซีหวงก็ได้วิ่งออกไปก่อนที่ท่านลุงจะเอ่ยถาม และส่งเสียงทิ้งท้ายเพียงแค่ว่า “หลานรู้ว่าท่านลุงรักหลาน ต้องช่วยหลานได้แน่นอนเจ้าค่ะ!” จากนั้นจึงวิ่งหายวับไป
หลินซื่อถึงกับถอนหายใจด้วยความท้อแท้ “เจ้าเด็กคนนี้” เขาแค่อยากจะถามว่านางเตรียมของใช้ไปเพียงพอหรือไม่ เหตุใดต้องวิ่งไปเร็วขนาดนั้นด้วย
อีกฝั่งหนึ่ง กู้อี้ที่กำลังกลับมาเอาสมุดบัญชีก็บังเอิญเจอกับกู้ซีหวงที่วิ่งมาด้วยความเร็ว
กู้อี้อ้าปากถาม “คุณหนูใหญ่ ทำไมถึงวิ่งเร็วขนาดนั้นเล่า?”
กู้ซีหวงคำนับขอโทษคนที่ตนวิ่งชน แต่เมื่อเห็นว่าเป็นกู้อี้ก็พลันดีใจ ใช้ตำแหน่งคุณหนูของตนเอ่ยปากขอร้องพลางทำท่าทางออดอ้อน
“ท่านน้ากู้อี้ เซียงซือผิดเองที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ท่านน้าอย่าถือโทษเด็กอย่างเซียงซือเลยนะ” กู้ซีหวงที่กำลังทำเสียงออดอ้อนเห็นกู้อี้ยกยิ้มมุมปากจึงรีบเปลี่ยนเข้าประเด็นทันที “แฮะๆ เซียงซือมีเรื่องอยากให้ท่านน้ากู้อี้ช่วยเล็กน้อย!”
กู้อี้แสดงท่าทางเหมือนให้นางพูดสิ่งที่ต้องการ เพราะเขารู้ว่ากู้ซีหวงกำลังจะขอร้องอะไรสักอย่าง
“เซียงซือมีธุระต้องไปทำ และต้องออกจากบ้านครึ่งเดือนเลยอยากให้น้าอี้ช่วยบอกท่านป้าให้ข้าหน่อย” ถึงนางจะบอกกับท่านลุงไว้แล้ว แต่ถ้ามีหลายๆ คนช่วยยืนยันก็จะสามารถดับอารมณ์โมโหของท่านป้าได้ดีขึ้น
“ส่วนทางชิงเฉิง ข้าทำโทษนางให้ฝึกเย็บปักถักร้อย วานน้าอี้ช่วยเตรียมเครื่องมือเย็บชุดแต่งงานไปให้นางด้วย”
กู้ซีหวงไม่แน่ใจว่าการเย็บชุดแต่งงานต้องใช้อะไรบ้าง นางจึงบอกคร่าวๆ เพราะนางรู้ว่ากู้อี้เข้าใจความหมายของนาง
กู้อี้ถึงกับหัวเราะ ชุดแต่งงานกลายเป็นสิ่งที่ใช้ทำโทษเสียแล้ว แต่เห็นว่าเป็นสิ่งที่กู้ซีหวงอยากทำ จึงรับปากนาง
เมื่อกู้อี้รับปากอย่างง่ายดายทั้งสองเรื่องแล้ว กู้ซีหวงจึงออกจากบ้านตระกูลกู้ไปอย่างไร้กังวล
ณ เขาอัคนี เมืองเฉิงเป่ย
เขาอัคนีขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อน แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือเมื่อสองสามปีที่ผ่านมานี้อากาศร้อนกว่าปกติ แม้แต่นายพรานที่มักจะไปล่าสัตว์บนเขาก็ยังไม่อยากจะมาที่เขาแห่งนี้
กู้ซีหวงแหงนหน้ารับแสงแดดที่แผดเผาจนแสบผิว พลาดเดินขึ้นภูเขาไป ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อยิ่งเข้าใกล้ ร่างกายก็ยิ่งกระสับกระส่ายมากขึ้น
“ฮูก~” ทันใดนั้นก็มีสัตว์ตัวสีแดงเหมือนไฟกระโดดออกมาและมองนางด้วยแววตาเศร้าสร้อยพลางร้องโอดครวญไม่หยุด
กู้ซีหวงมองมันด้วยความไม่เข้าใจ จนเมื่อนางได้กลิ่นคาวเลือด จึงเข้าใจความหมายของมันที่กำลังจะบอกว่ามันบาดเจ็บและอยากจะให้นางช่วย
นางคิดว่าจะช่วยเท่าที่สามารถช่วยได้ พลางเอื้อมมือไปจับขาข้างที่บาดเจ็บของมัน แต่ใครจะคิดว่ามันจะส่ายหน้าให้กับกู้ซีหวงแล้วใช้นิ้วชี้บอกตำแหน่ง
จิ้งจอกแดงเดินไปด้วยและทำท่าทางบอกให้นางเดินตามมา กู้ซีหวงอุ้มมันขึ้นมาและให้มันบอกทาง
จิ้งจอกแดงมองนางด้วยความซาบซึ้ง
การที่กู้ซีหวงทำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่านางนั้นใจดี แต่นางทนเห็นมันทรมานไม่ได้ ถึงแม้ว่านางกับมันเพิ่งเคยเจอกัน แต่ถ้าปล่อยให้มันเดินลากขาที่บาดเจ็บแล้วเลือดไหลตามทางแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็เกรงว่ายังไม่ถึงที่หมายก็คงจะตายเพราะเสียเลือดมากเสียก่อน
นางไม่ใช่คนใจอ่อน แต่นางมีความรู้สึกคุ้นเคยกับจิ้งจอกตัวนี้ ความรู้สึกนี้นั้นเหมือนกับตอนที่นางมาถึงเขาอัคนีแห่งนี้
ด้วยเหตุผลนี้ นางจึงวางเรื่องฝึกวิทยายุทธไว้และช่วยเหลือมันก่อน