หยุนมู่หลานคิดว่ากู้ซีหวงพูดเพียงเพื่อปลอบนางและเงียบไป ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปในห้องหยุนโม่เหิงพร้อมกัน
“อาเหิง…” ยังไม่ทันได้เอ่ยคำว่าดีขึ้นหรือยัง? หยุนโม่เหิงก็รีบเอ่ยขึ้นก่อน “ท่านแม่ เซียงซือเป็นคนดี! ท่านแม่อย่าโกรธไปเลยขอรับ”
หยุนมู่หลานถึงกับพูดไม่ออก ก่อนจะมองไปยังกู้ซีหวงด้วยสายตาแปลกๆ ไม่รู้ว่ากู้ซีหวงเอาน้ำแกงยาเสน่ห์อะไรให้ลูกชายของตนดื่ม ถึงทำให้เขาหลงนางถึงเพียงนี้
กู้ซีหวงถึงกับถอนหายใจ เมื่อได้รับสายตารังเกียจจากหยุนมู่หลานและคิดว่าจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างไรดี “เอ่อ…ฮูหยินเฝ้ามาทั้งวันแล้วคงเหนื่อยแย่ ให้ซีหวงพาฮูหยินกลับไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ?”
ไม่พูดยังจะดีกว่า พอพูดออกไปแล้วกลับทำให้แววตาของฮูหยินหยุนโกรธเคืองมากยิ่งขึ้น “ไม่ลำบากคุณหนูกู้หรอก ข้าไม่เหนื่อย!” อย่าคิดว่านางไม่รู้ว่ากู้ซีหวงอยากจะเขี่ยนางออกไปเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับโม่เหิงตั้งแต่แรก
ถ้ากู้ซีหวงล่วงรู้ความคิดของนางก็คงไม่พูดอะไรผิดๆ ออกไป การที่นางให้หยุนมู่หลานไปพักผ่อนก็เพื่ออยากจะเอาใจแม่สามีในอนาคต ไม่ได้อยากจะใกล้ชิดหยุนโม่เหิงอย่างที่นางว่าแต่อย่างใด
อีกอย่าง การที่นางจะใกล้ชิดหยุนโม่เหิงได้ ต้องเล่นแง่เพียงนี้ด้วยหรือ?
แน่นอนว่านางพูดคำนี้ในใจเท่านั้น ถ้าพูดออกมาคงนึกไม่ออกว่าหยุนมู่หลานจะกำจัดนางทิ้งอย่างไร
ขณะที่หยุนมู่หลานและกู้ซีหวงเงียบไปนั้น หยุนโม่เหิงก็มองนางอย่างเงียบๆ พลางยกมุมปากขึ้นยิ้มกรุ้มกริ่ม
เป็นครั้งแรกที่กู้ซีหวงเห็นเขายิ้มแบบนี้ ทันใดนั้นในใจของนางก็ถูกรอยยิ้มของเขาสะกดจนใจเต้นแรงเป็นครั้งแรก
ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าอีกครึ่งเดือนก็จะถึงวันเกิดครบสิบห้าปีของโม่เหิงแล้ว นางยังไม่ได้เตรียมของขวัญให้เขาเลย ถึงแม้ว่านางจะมีหินอัญมณีอยู่ในมือแต่นางยังไม่ได้คิดว่าจะนำไปทำอะไรดี และเกรงว่าถ้าถึงเวลาแล้วจะหาของขวัญให้เขาไม่ทัน
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งก็มีความคิดสายหนึ่งเกิดขึ้น จากนั้นจึงกล่าวลาหยุนมู่หลาน "ซีหวงจําได้ว่ายังมีธุระต้องทำอยู่ที่บ้าน ซีหวงขอตัวลากลับก่อนนะเจ้าคะ"
ยังไม่ทันได้รอให้หยุนโม่เหิงตอบโต้อะไรก็เดินมาตรงหน้าเขา ก่อนจะโน้มตัวลงมาใช้ริมฝีปากเฉียดไปที่แก้มของเขาก่อนจะกระซิบข้างหู “เหิงเอ๋อ ข้ากลับก่อนนะ อย่าลืมคิดถึงข้าล่ะ!”
หยุนโม่เหิงยังคงรู้สึกแปลกๆ กับความร้อนวูบวาบตรงข้างหู กู้ซีหวงกลับฉวยโอกาสหอมไปที่แก้มของเขาอย่างรวดเร็วราวกับแมลงปอจิบน้ำอย่างไรอย่างนั้น
จากนั้นกู้ซีหวงก็เดินออกจากจวนแม่ทัพไปภายใต้สายตาอาฆาตของหยุนมู่หลาน
เดิมทีกู้ซีหวงอย่างจะกลับบ้านตระกูลกู้ทันที แต่บังเอิญเจอคนที่เกลียดเข้ากระดูกดำระหว่างทางเสียก่อน และคนนั้นๆ ก็คือองค์หญิงสามในชาตินี้หรือจักรพรรดินีในชาติก่อน
ทางฝั่งขององค์หญิงมีทั้งหมดห้าคน กู้ซีหวงรู้จักเพียงแค่หลิวชงเหยาที่ถูกองค์หญิงสามควงแขนอยู่กับสตรีแคระหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง ส่วนอีกสองคนนั้นนางไม่รู้จัก
เหตุผลที่นางจำสตรีแคระผู้นี้ได้ก็เพราะหลังจากที่องค์หญิงสามขึ้นเป็นจักรพรรดินีเมื่อชาติที่แล้วก็แต่งตั้งให้นางเป็นราชครูทันที
สตรีแคระนางนี้รูปร่างเหมือนเด็กอายุสิบขวบ แต่จริงๆ แล้วไม่รู้ว่านางอายุเท่าไหร่กันแน่ ตั้งแต่องค์หญิงสามประสูติก็เป็นนางที่เฝ้าเลี้ยงดูมาตลอดและถือว่าเป็นแม่นมขององค์หญิงสาม
ชาติที่แล้วที่ตระกูลกู้ล่มสลายก็เกี่ยวข้องกับสตรีแคระผู้นี้ด้วย!
แววตาของกู้ซีหวงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่ไม่ได้แสดงออกบนใบหน้า กลับยิ้มแย้มให้องค์หญิงสามและคำนับอย่างไม่เต็มใจแทน “กู้ซีหวงคำนับองค์หญิงสามเพคะ”
องค์หญิงสามยิ้มมุมปาก “ไม่ต้องมารยาทงามถึงเพียงนั้นหรอก! ชิงเหยาเห็นเจ้ามาแต่ไกลๆ ก็รู้สึกคุ้นตา ที่แท้ก็คือคุณหนูกู้นี่เอง”
กู้ซีหวงจงใจพูดด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “ตั้งแต่ซีหวงจมน้ำก็ไม่เจอกับคุณชายหลิวอีกเลย ไม่คิดว่าคุณชายหลิวจะจำข้าได้” ท่าทางแบบนี้ ทำให้คนดูแล้วรู้สึกรำคาญยิ่งนัก
หลิวชิงเหยาตอบกลับอย่างไม่เต็มใจ “คุณหนูกู้งดงามถึงเพียงนี้ ข้าต้องจำคุณหนูกู้ได้อยู่แล้ว”