เมื่อเงาร่างสีเขียวเห็นพวกนางก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
ทันทีที่ร่างสีเขียวเห็นหยุนมู่หลานก็แสดงความเคารพตามความเคยชิน ยังไม่ทันได้รอให้หยุนมู่หลานตอบรับ ก็ถามอย่างตื่นตระหนกว่า "ท่านแม่ทัพ แล้วคุณชายล่ะขอรับ ทำไมคุณชายถึงไม่กลับมาด้วย? "
หยุนมู่หลานพอรู้นิสัยของโต้วหยา จึงไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญกับคำถามจุกจิกของเขา “ลูกเหิงสลบไปน่ะ เจ้ารีบพาลูกเหิงเข้าไปพักข้างในก่อนเถอะ”
ตอนนี้โต้วหยาจึงสังเกตเห็นคนที่อยู่ในอ้อมกอดของกู้ซีหวง กำลังจะกล่าวขอบคุณนางที่มาส่งคุณชาย แต่พอมองเห็นหน้านางชัดๆ แล้วก็ตะโกนโหวกเหวกขึ้นมาทันที “เจ้ามาทำอะไรอีก? ยังทำร้ายคุณชายไม่พออีกหรือ?”
ใครจะคิดว่ากู้ซีหวงจะตอบอย่างเฉยชา “ข้าไม่ได้คิดจะทำร้ายเขา” พลางมองไปยังร่างที่อยู่ในอ้อมอกของตัวเอง
“ฮึๆ” หยุนมู่หลานไม่รู้จะพูดอะไร “รีบอุ้มลูกเหิงเข้าไปก่อนเถอะ”
โต้วหยารีบทำตามคำสั่งและกำลังจะรับคุณชายมาจากอ้อมอกของกู้ซีหวง แต่ไม่ทันได้เข้าใกล้ก็ถูกนางจ้องมองด้วยสายตาเยือกเย็นเสียก่อน จากนั้นก็มองนางที่กอดคุณชายเอาไว้แล้วเดินเข้าไปในห้องของคุณชายอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
ในตอนนั้น โต้วหยารู้สึกแตกสลาย เขาเชื่อฟังคุณชายและเฝ้าเรือนซีย่วนเอาไว้อย่างดี เพียงเวลาสั้นๆ กลับเกิดเรื่องบัดสีบัดเถลิงกับคุณชายได้
โต้วหยาทั้งรู้สึกสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไมหยุนมู่หลานยอมให้กู้ซีหวงเข้ามาในห้องนอนของหยุนโม่เหิง
กู้ซีหวงวางหยุนโม่เหิงลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน และไม่รู้ว่าไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าผากของหยุนโม่เหิงจากที่ไหน จากนั้นก็จับข้อมือของเขาเอาไว้อย่างกังวล
ดูจากท่าทางของนางแล้วก็สามารถมองออกว่ากำลังวัดชีพจรของหยุนโม่เหิงอยู่ หยุนมู่หลานคิดสงสัยในใจว่ากู้ซีหวงนั้นไม่ธรรมดา จากฝีเท้าการเดินที่ไม่ด้อยไปกว่านาง รวมถึงท่าทางการจับชีพจรของนางแล้วก็ทำให้ดูออกได้ไม่ยาก
“ท่านหมอสุ่ย ท่านรีบเดินเร็วเข้า!” ตรงนอกประตูเรือนซีย่วน หยุนโม่เจิงเร่งหมอหญิงที่ฝีมือดีที่สุดในจิ่งเฉิงให้รีบเดิน ท่าทางเอื่อยเฉื่อยของท่านหมอทำให้ในใจของนางร้อนรนจนแทบจะเป็นแผลอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่าท่านหมอสุ่ยนั้นอายุมาก กระดูกกระเดี้ยวไม่ค่อยดี รู้แบบนี้ใช้กำลังภายในพามาเสียยังดีกว่า
หมอสุ่ยน้ำตาคลอเบ้า แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครเข้าใจนาง
หยุนโม่เจิงรอคอยให้หมอสุ่ยมาตรวจอาการน้องชายสุดที่รักของตัวเองว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่พอเข้ามากลับเห็นกู้ซีหวงคนจิตใจอำมหิตจับข้อมือน้องชายของตัวเองจนแดง
หยุนโม่เจิงทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว มีความโกรธอยู่ในแววตาที่ดูดุอยู่แล้ว แต่นางเป็นคนที่มีเหตุผลอยู่บ้างจึงไม่ได้ด่ากู้ซีหวง เพียงแต่เอ่ยปากถามด้วยความไม่พอใจ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” นางให้ยามเฝ้าประตูไล่ออกไปแล้วไม่ใช่รึ?
กู้ซีหวงเงียบไป และรู้สึกว่าตัวเองนั่งหัวโด่อยู่ตั้งนาน เจ้าเพิ่งจะมาเห็นข้ารึ
หยุนโม่เจิงเห็นว่ากู้ซีหวงไม่สนใจตน อยากจะพูดอะไรต่อแต่กลับถูกหยุนมู่หลานห้ามเอาไว้
ตอนนี้กู้ซีหวงปล่อยมือของหยุนโม่เหิงลงด้วยใบหน้ากังวล ไม่คิดว่าหยุนโม่เหิงจะมีพลังภายในปั่นป่วนที่กำลังกัดเซาะพลังชีวิตของเขาอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้นางกังวลมาก
ชาติที่แล้วหยุนโม่เหิงไม่เคยแสดงอาการความเจ็บปวดออกมาเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าเขาเก็บงำเอาไว้ได้ดีจนนางไม่รู้หรือเพราะนางได้เกิดใหม่จึงมีความคิดที่เปลี่ยนไป
“อาเหิงเป็นอย่างไรบ้าง?” หยุนมู่หลานเอ่ยถาม
“เขา…” กู้ซีหวงกำลังอยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา พอนึกๆ แล้วก็รู้สึกว่าไม่ทำให้นางเป็นกังวลดีกว่า “คุณชายรองร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว แล้วยังตากลมทั้งคืนจึงเป็นไข้หวัดเจ้าค่ะ”
หยุนมู่หลานรู้สึกได้ว่ากู้ซีหวงปิดบังอะไรที่สำคัญสักอย่าง แต่ในเมื่อกู้ซีหวงไม่บอก นางก็ไม่อยากจะถาม จากนั้นหมอสุ่ยก็สรุปอาการอย่างที่นางบอกมาทั้งหมด และคิดว่าจะหาหมอผีมาดูให้นางอีกที